Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
25 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 
อลังการเพลง"จิตร" ซิมโฟนีออร์เคสตร้า

นุเทพ สารภิรมย์


*เพลงของ "จิตร ภูมิศักดิ์" กลับมาอีกครั้ง หลังจากสร้างความประทับใจตราตรึงเมื่อปลายปีพ.ศ.2551 ที่ผ่านมา คราวนี้เป็น 80 ปี ซิมโฟนีซิ จิตร ภูมิศักดิ์ "คนยังคงยืนเด่นโดยท้าทาย" พร้อมด้วยกองทุนจิตร ภูมิศักดิ์ ร่วมกับวงดุริยางค์ซิมโฟนีแห่งมหาวิทยาลัยมหิดล จัดคอนเสิร์ต ซิมโฟนี 80 ปี จิตร ภูมิศักดิ์ จัดขึ้นที่หอประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ครั้งนี้มีศิลปินรับเชิญที่มาร่วมขับร้องบทเพลงของจิตร ทั้ง มงคล อุทก, สุเทพ ถวัลย์วิวัฒนกุล และวงโฮปแฟมิลี่ และ สุรชัย จันทิมาธร หงา คาราวานโดยนำบทเพลงมาแสดงคอนเสิร์ตทั้งสิ้น 27 เพลง แบ่งออกเป็น 5 ช่วง แยกตามความหมาย และความเหมาะสมของเนื้อหาเพลง

     คอนเสิร์ตเปิดด้วยการมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองกุง อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร สถานที่ที่จิตรถูกยิงเสียชีวิต จากนั้นเข้าสู่บรรยากาศเริ่มต้น ด้วยการเปิดอินโทรเสียงดนตรีเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา ประกอบการบรรยายบอกเล่าประวัติความเป็นมาของจิตร ภูมิศักดิ์

เข้าสู่ช่วงที่ 1 เยาวชน นักศึกษา การศึกษา เบิกเพลงแรกด้วยเพลง ฟ้าใหม่ เน้นเพลงที่จิตรเขียนขึ้นระหว่างถูกจองจำในมหาวิทยาลัยลาดยาว หรือเรือนจำลาดยาว บทเพลงนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความใฝ่ฝันถึงวันใหม่ฟ้าใหม่ ที่ประ เทศไทยจะมีเสรีภาพภราดรภาพ

ต่อด้วย มาร์ชเยาวชนไทย จิตรประพันธ์เมื่อพ.ศ.2498 ใช้ร้องในงานชุมนุมของนักศึกษา 5 มหาวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ และมหาวิทยาลัยศิลปากร

มาร์ชธรรมศาสตร์-จุฬา สามัคคี จิตรประพันธ์เพลงมาร์ชธรรม ศาสตร์-จุฬาสามัคคี ระหว่างปีพ.ศ.2489-2499 เพื่อให้นิสิตนักศึกษา 2 สถาบันใช้ร้องในงานฟุตบอลประเพณี เพื่อความสามัคคีพลังนักศึกษาและเพื่อรับใช้ประชาชนในอนาคตกาลร่วมกัน


*มาร์ชครูไทย ประพันธ์พ.ศ.2503 เพราะไม่เห็นด้วยกับความคิดที่เปรียบเปรยครูเป็นเหมือน เรือจ้าง แต่ยังยืนยันความคิดว่าบทบาทครูไทยต้องเป็นโคมไฟนำทางแห่งสังคม

ช่วงที่ 2 ชาวนา ชนบท เริ่มจาก เสียงเพรียกจากมาตุภูมิ ประพันธ์ช่วงพ.ศ.2503 ขณะต้องโทษติดคุกการเมืองด้วยข้อหามีการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์จากรัฐบาลจอมพลลสฤษดิ์ ธนะรัชต์

มาร์ชชาวนาไทย จิตรประพันธ์ทั้งเนื้อร้องและทำนองเสร็จเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2502 ระหว่างถูกคุมขังอยู่ที่ห้องเลขที่ 78 จิตรแต่งเพลงนี้เพื่ออุทิศให้ชาวนาไทย

มนต์รักจากเสียงกระดึง เป็นบทเพลงชื่อเดียวกันกับละครเพลงที่จิตร ได้ประพันธ์ขึ้นเพื่อใช้ในการแสดงในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2505 แสดงให้เห็นถึงชีวิตของหนุ่มสาวในชนบท

กลิ่นรวงทอง จิตรประพันธ์เพลงนี้เพื่อพรรณนาถึงการยืนหยัดต่อสู้ของชาวนาว่า ชาว นาต้องเหนื่อยแสนเหนื่อยกว่าจะได้ข้าวออกมาแต่ละเมล็ด

เปิบข้าว ถือเป็นบทเพลงที่แพร่หลายมากที่สุด ทั้งที่จิตรไม่เคยประพันธ์เพลงเปิบข้าว แต่เป็นบทกวี ต่อมาวงคาราวานได้นำบทกวีมาใส่ทำนองกลายเป็นเพลงเปิบข้าวที่คุ้นเคยในปัจจุบัน

ช่วงที่ 3 กรรมกร เริ่มจากเพลง ความหวังยังไม่สิ้น จิตรแต่งขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2505 ขณะที่ถูกคุมขังอยู่ในคุกลาดยาว เพื่อให้ตระหนักถึงพลังของชนชั้นตัวเองที่สามารถพลิกฟื้นความกลัว การถูกบีบคั้นและสามารถหาความเป็นธรรมให้ตัวเอง

มาร์ชกรรมกร จิตรระบุว่าประพันธ์เพลงนี้ขึ้นระหว่างปีพ.ศ.2498-2499 เพื่อใช้สำหรับร้องในงานฉลองพระราชบัญญัติแรงงาน


*รำวงวันเมย์เดย์ แต่งเนื่องในโอกาสฉลองวันกรรมกรสากล 1 พ.ค. เพลงนี้มีเพื่อให้กรรม กรได้ตระหนักถึงพลังของตัวเองว่าสามารถสร้างทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นได้สองมือ เพลงสุดท้าย ศักดิ์ศรีของแรงงาน ประพันธ์เมื่อพ.ศ. 2504

การแสดงหยุดพัก 20 นาที และก่อนเริ่มการแสดงช่วงต่อไป นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นมามอบเงินสมทบทุนการก่อตั้งมูลนิธิจิตร ภูมิศักดิ์ ให้แก่ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ

     จากนั้น นายสุรชัย จันทิมาธร หงา คาราวาน ขึ้นเวทีโชว์กีตาร์เดี่ยวเพลง "จิตร ภูมิศักดิ์" โดยน้าหงาบรรยายความในใจว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่มีส่วนร่วมในงานของจิตร บุคคลที่มีเรื่องราวการต่อสู้ภาคประชาชน จึงเป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ รู้สึกดีใจเด็กรุ่นใหม่สนใจและช่วยกับสืบสานผลงานของจิตร จุดนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่พวกเรารอมานาน

เข้าสู่ ช่วงที่ 4 เผด็จการ จักรวรรดินิยม (ภัยเขียว ภัยขาว) เริ่มจากเพลงหยดน้ำบนผืนทราย ประพันธ์ขึ้นประมาณปี พ.ศ.2504 เนื้อเพลงได้นำลักษณะความขัดแย้งและแตกต่างทางสังคมให้มาเกี่ยวโยงกับความขัดแย้งและแตกต่างทางธรรมชาติ และจิตรยังหาญกล้าบรรยายให้เห็นว่า ทางออกมีเพียงต้องล้มล้างพวกทรราช

มาร์ชแอนตี้จักรวรรดินิยม จิตรประพันธ์เพลงนี้ขึ้นระหว่างปีพ.ศ.2498-2499 เพื่อปลุกเร้าให้ชาวไทยตื่นขึ้นมารับรู้และช่วยกันต่อต้านสหรัฐอเมริกา

เทิดสิทธิมนุษยชน บทเพลง "เทิดสิทธิมนุษยชน" เป็นเพลงที่เร่งเร้าวิญญาณของนักสู้ให้ลุกขึ้นกู้ศักดิ์ศรี ทำลายล้างทุกข์เข็ญและอธรรมให้สูญสิ้นไป เพื่อสร้างชีวิตใหม่

ช่วงที่ 5 เพลงปฏิวัติ ทะเลชีวิต จิตรประพันธ์เมื่อปีพ.ศ.2504 ต้องแต่งถึง 4 ครั้งจึงจะพอใจ เพื่อให้กำลังใจผู้ที่ต่อสู้กับรัฐบาลเผด็จ การ

เลือดต้องล้างด้วยเลือด คาดว่าจิตรคงประพันธ์ขึ้นในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2505-2509 เพื่อมาร่วมฉลองวันที่ 1 ธ.ค.2508 งานประจำปีของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย

วีรชนปฏิวัติ คาดว่าน่าจะประพันธ์ขึ้นพ.ศ. 2505 เป็นการต่อสู้ของประชาชนเพื่อความเป็นธรรมทางสังคม วรรคทองของเพลงนี้อยู่ตรงช่วง สู้ พ่ายแพ้ สู้ใหม่ พ่ายแพ้ สู้ใหม่จนได้ชัยมา

จอมใจดวงแก้ว จิตรได้ประพันธ์เพลงนี้ให้กับสหาย

"กลาโหม" เพื่อร้องให้แก่คนรักของเขาในวันที่ต้องอำลาจากกัน

ต่อด้วยเพลง อาณาจักรความรัก จิตรเป็นคนที่มีความรักเยี่ยงหนุ่มสาวทั่วไป จึงเชื่อว่าความรักที่แท้จริงนั้นไม่ใช่เป็นความรักส่วนตัวของคนเพียง 2 คน แต่ควรเป็นความรักในมวลชนที่แผ่ไปถึงผู้ทุกข์ยากทั้งปวงด้วย

ภูพานแห่งการปฏิวัติ จิตรหรือสหายปรีชาแต่งขึ้นช่วงปีพ.ศ.2508-2509 ภายหลังเข้าป่าร่วมต่อสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย

มาร์ชปลดแอกประชา ชนไทย ภายหลังจากจิตรได้เมื่อเข้าร่วมกับพรรคคอมมิว นิสต์แห่งประเทศไทยเต็มตัว ได้แต่งเพลงนี้ขึ้นโดยเริ่มต้นชื่อว่า "มาร์ชพลพรรคต่อต้านอเมริกา" ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น "มาร์ชกองทัพปลดแอกประชาชนไทย"

     เพลงสุดท้าย "แสงดาวแห่งศรัทธา" ทันทีที่เสียงดนตรีเพลงดังขึ้นก็สะกดจิตใจของผู้ฟังทั้งหอประชุม และเมื่ออิสรพงศ์ ดอกยอ ขับร้อง ทุกคนต่างขยับปากร้องคลอตามอย่างแผ่วเบาจนจบ กระทั่งสิ้นสุดเสียงเพลง ทั้งหมดต่างลุกขึ้นปรบมือให้กำลังใจกับบรรดานักร้องนักดนตรี เป็นฉากจบของการแสดงคอนเสิร์ตที่สมบูรณ์


ขอขอบคุณ
ที่มา :
ข่าวสดออนไลน์ 21 มิถุนายน 2552 หน้า 5


H O M E




Create Date : 25 มิถุนายน 2552
Last Update : 25 มิถุนายน 2552 14:17:14 น. 0 comments
Counter : 1126 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.