เพศศึกษา...ความรู้สองมาตรฐาน

การสำรวจสื่อในห้องสมุดมหาวิทยาลัยของรัฐขนาดใหญ่ตั้งแต่ปี 2501-2550 โดยรวบรวมบทความ หนังสือ เอกสาร งานวิจัย วิทยานิพนธ์ ข่าว และสื่อออนไลน์ พบว่ามีเรื่องเพศจำนวนมากที่ถูกกล่าวถึง สื่อประเภทสิ่งพิมพ์เสนอเนื้อหาความรู้อนามัยเจริญพันธุ์ร้อยละ 63 สื่อออนไลน์เสนอเนื้อหาความรู้ร้อยละ 17 ข่าวเสนอประเด็นความรุนแรงและการละเมิดทางเพศมากที่สุดร้อยละ 64 เสนอความรู้เรื่องเพศที่ถูกต้องเพียงร้อยละ 8 การเก็บข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีข่าวและบทความเกี่ยวกับเพศทั้งหมด 17,529 เรื่อง มากกว่าครึ่ง คือ 6,638 เป็นข่าวการข่มขืน รองลงมาคือความรุนแรงทางเพศ 4,612 เรื่อง อนามัยเจริญพันธุ์ 2,022 เรื่อง การเรียนรู้เรื่องเพศ 1,662 เรื่อง ความหลากหลายทางเพศ 1,310 เรื่อง และปัญหาเรื่องการทำแท้ง 797 เรื่อง

ข้อมูลจากงานวิจัย เรื่อง เพศแบบไหนในห้องสมุดและข่าว : หนังสือ เอกสารวิชาการ ข่าว และบทความในฐานข้อมูลสุขภาวะทางเพศ ของ น.ส.กุลภา วจนสาระ นักวิจัยสถาบันประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ที่นำเสนอในการสัมมนาวิชาการเรื่อง วิถีเพศ วิถีสุขภาวะ

ที่น่าสนใจก็คือ ข้อสังเกตของคุณกุลภาที่ว่าสื่อนำเสนอภาพความรุนแรง การละเมิดทางเพศมากกว่าการให้ความรู้ ซึ่งจะต้องคิดและพัฒนา

จริงๆ แล้ว สื่อไม่ได้ละเลยในเรื่องการให้ความรู้ในเรื่องเพศ แต่ในสังคมที่ดัดจริตในเรื่องเพศอย่างสังคมไทย อยู่ภายใต้ความเชื่อที่ว่า แม้จะเป็นความรู้ แต่ก็เป็นความรู้ที่ให้โทษมากกว่าให้คุณ การให้ความรู้ในเรื่องนี้จึงจะต้องระมัดระวังอย่างยิ่งยวด ไม่อย่างนั้นจะเจอข้อหา...ชี้โพรงให้กระรอก

เพื่อความปลอดภัย สื่อก็เลยนำเสนอเรื่องเพศออกมาในรูปแบบเดียวกับการสอนเรื่องเพศศึกษาในโรงเรียน เน้นไปที่เรื่องของกายวิภาค สุขอนามัยในวัยเจริญพันธุ์ เพื่อป้องกันภัยจากโรคติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์

     หากเรามองกันให้ลึกลงไปอีกนิด ความรู้ในเรื่องภายวิภาค สุขอนามัยในวัยเจริญพันธุ์นี้ ชี้ให้เห็นความแตกต่างทางกายภาพระหว่างชายและหญิง และความแตกต่างที่สำคัญก็คือ ผู้ชายมีความต้องการทางเพศที่ยากจะควบคุม แต่แทนที่จะให้ความรู้เพื่อสอนให้ผู้ชายควบคุมความต้องการทางเพศของตัวเอง ระบบการเรียนการสอนเพศศึกษากลับสอนให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายควบคุมความต้องการทางเพศของผู้ชาย โดยไม่กระตุ้นเร้าให้ผู้ชายเกิดความต้องการทางเพศ

ความรู้ในเรื่องเพศทั้งที่สอนกันในโรงเรียนและนำเสนอผ่านสื่อ มุ่งเน้นไปที่การกำกับ ควบคุม พฤติกรรมทางเพศของผู้หญิง เพื่อมิให้กระตุ้นเร้าให้ผู้ชายเกิดความต้องการทางเพศ

กลยุทธ์ในการควบคุมพฤติกรรมทางเพศของผู้หญิง มิให้กระตุ้นเร้าความต้องการทางเพศ ก็คือการนำเอาความเป็นหญิง ไปผูกโยงกับเรื่องเพศที่ชอบธรรม ซึ่งจำกัดอยู่ภายใต้การแต่งงานแบบระบบผัวเดียวเมียเดียว แต่เพราะความไม่เท่าเทียมกันทางเพศ ที่สืบทอดต่อกันมา ในทางปฏิบัติระบบนี้มี 2 มาตรฐาน ผ่อนปรนให้กับเพศชาย เข้มงวดสำหรับเพศหญิง

และความเข้มงวดในกรณีที่เป็นหญิง อิงกับกับภาพลักษณ์ความเป็นหญิงดีหญิงเลว

ความเป็นหญิงดีหญิงเลว แฝงมากับการอบรมสั่งสอนให้ผู้หญิงรักนวลสงวนตัว

และสำหรับสื่อ ประเด็นในเรื่องการรักนวลสงวนตัว ถูกนำเสนอมากที่สุด ไม่เพียงนำเสนอในรูปของการรายงานข่าว บทความ ที่เชิดชูว่าพฤติกรรมรักนวลสงวนตัวเป็นมาตรฐานอันเป็นเอกลักษณ์ของหญิงไทย แต่ยังนำเสนอไว้ในหนังในละคร และภาพเสนอในหนังในละคร ความเป็นหญิงดี รักนวลสงวนตัว นำเสนอผ่านภาพลักษณ์ของนางเอก ส่วนหญิงเลวถูกนำเสนอผ่านภาพลักษณ์ของนางร้าย สำส่อน มั่วเซ็กซ์

ภาพลักษณ์ทั้งสองแบบ ทำให้ขลังมากยิ่งขึ้นด้วยการนำไปผูกไว้กับบทบาทในเรื่องการเป็นเมียและแม่ ระบบการให้รางวัลและการลงโทษ

รางวัลสำหรับหญิงดี ก็คือการแต่งงาน อันเป็น อย. ประกาศเกียรติคุณของลูกผู้หญิง

บทลงโทษสำหรับหญิงเลว คือ ผลพวงจากพฤติกรรมสำส่อน...(ถูก) ทิ้งท้อง(ทำ) แท้ง

แต่ค่านิยมทางเพศที่รับมาจากตะวันตก ทำให้การควบคุมพฤติกรรมทางเพศ ภายใต้แนวคิดรักนวลสงวนตัว ที่มุ่งเน้นให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายที่จะต้องระมัดระวังตัวเองเริ่มไม่ขลัง

การให้ความรู้ในเรื่องเพศ ก็เลยยิ่งเน้นไปที่เรื่องของสุขอนามัยในวัยเจริญพันธุ์ เพื่อป้องกันภัยจากการมีเพศสัมพันธ์ การติดโรค การตั้งครรภ์เมื่อยังไม่พร้อม

แต่การให้ความรู้ในเรื่องสุขอนามัยในวัยเจริญพันธุ์ ก็ยังคงอยู่ในกรอบความคิดเดิม เน้นไปที่การควบคุมพฤติกรรมทางเพศของฝ่ายหญิง

การควบคุมพฤติกรรมทางเพศของฝ่ายหญิง ไม่เพียงสะท้อนค่านิยมที่ไม่เท่าเทียมกันทางเพศเท่านั้น แต่ยังตอกย้ำให้เราเห็นว่า ความรุนแรงทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นการข่มขืน การล่วงละเมิด คุกคามทางเพศ ผู้หญิงที่เป็นเหยื่อมีส่วนรับผิดชอบกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับตัวเอง

Credit : รายงานโดย :เรื่อง..รัชชพร เหล่างานิช
Pic : www.dreamstime.com

Create Date : 23 พฤษภาคม 2553		0 comments
Last Update : 23 พฤษภาคม 2553 21:41:14 น.
Counter : 863 Pageviews.
Share Tweet