Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
25 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
ความจริงที่ต้องพิสูจน์

๓ เมษายน ๒๕๕๒

แฉทักษิณ ปลุกม็อบแดง ขู่รัฐบาล คืนเงิน 7 หมื่นล้าน ประกาศลั่น “ ไม่ทำตาม... ประเทศไทยฉิบหายแน่ ! ”

ข้อสงสัยในความร่ำรวยของทักษิณ ชินวัตร มิได้อยู่ในวงจำกัดแค่คนไทย และในประเทศไทย คนทั้งโลกก็สงสัยว่าจริงๆ แล้ว อดีตนายกรัฐมนตรีประเทศไทยที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร มีเงินทองมากมายมหาศาลขนาดไหนกันแน่ ?

เพราะขนาดถูกอายัดทรัพย์ทั้งของตนเองและครอบครัวรวมกันกว่า 76,000 ล้านบาท แต่ทักษิณก็ยังใช้ชีวิตแบบมหาเศรษฐีติดอันดับโลก ทั้งๆที่ทรัพย์สินเงินทองทั้งหมด ที่ทักษิณแจ้งต่อคณะกรรมการป.ป.ช. นั้น ถูกอายัดไว้ ไม่สามารถนำไปใช้ได้แม้แต่บาทเดียวเป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว

แต่ 3 ปีที่ผ่านมา ทักษิณสามารถเดินทางไปได้ทุกประเทศทั่วโลกที่อยากจะไป ด้วยเครื่องบินส่วนตัว พักโรงแรมชั้นหนึ่งคืนละหลายแสนบาท ไม่เพียงแต่ใช้ชีวิตอย่างหรูหราแบบมหาเศรษฐีระดับโลก ทักษิณยังทุ่มเงินกว่า 10,000 ล้านบาท ซื้อสโมสรฟุตบอลอาชีพในประเทศอังกฤษ และใช้เงินอีกเกือบ 500 ล้านบาท ซื้อคฤหาสน์หลังงามในอังกฤษให้ลูกสาวอยู่อย่างสุขสบาย ทั้งๆ ที่เงินทั้งหมดถูกอายัดไว้.!

เท่านั้นยังไม่พอ ที่ทักษิณเพิ่งอวดความร่ำรวยของตัวเอง ก็คือ จ่ายเงินซื้อเครื่องบินส่วนตัวอีก 1 ลำ ราคา 1,500 ล้านบาท จ้างฝรั่งเป็นกัปตัน และ แอร์โฮสเตสส่วนตัวด้วยค่าจ้างเดือนละเกือบ 1 ล้านบาท ยังไม่นับรวมค่าจ้างเลขาสาว 3 คน และ รปภ.อีก 3 คน

ไม่มีใครอิจฉาความร่ำรวยของทักษิณ แต่เป็นความสงสัยมากกว่าว่าทักษิณไปทำอะไรมา จึงร่ำรวยมีเงินทองมากมาย ทั้งๆ ที่ถูกอายัดทรัพย์ทั้งหมด และไปเอาเงินจากที่ไหนมาใช้ เพราะตลอดเวลา 5 ปีที่เป็นนายกรัฐมนตรี ทักษิณบอกว่า ไม่ได้ทำธุรกิจประกอบอาชีพใดๆ เลย

นอกจากทรัพย์สิน 76,000 ล้านบาทที่ถูกอายัดในประเทศไทย ทักษิณยังถูกรัฐบาลอังกฤษอายัดทรัพย์ ไว้อีก 140,000 ล้านบาท !! ทักษิณไม่สามารถชี้แจงได้ว่าเอาเงิน 140,000 ล้าบาท มาจากไหน ได้มาด้วยวิธีการอย่างไร และได้มาตั้งแต่เมื่อไร

ทักษิณจึงถูกถอนวีซ่า ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศอังกฤษอีกพูดง่ายๆ ก็คือ ทักษิณ เป็นบุคคลที่ประเทศอังกฤษไม่ต้อนรับ ทั้ง ๆที่ก่อนหน้านั้น ทักษิณได้รับอนุญาตให้ลี้ภัยอยู่ในอังกฤษนานกว่า 1 ปี.

ทำไมท่าทีของรัฐบาลอังกฤษต่อทักษิณจึงเปลี่ยนไป ?

เพราะทักษิณ มีพฤติกรรมไม่ต่างจากอาชญากรเศรษฐกิจรายใหญ่ของโลก ที่ตอบไม่ได้ว่าได้เงินมาอย่างไร เพราะประเทศไทยกลับคืนสู่สภาพปกติ มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแล้ว

เพราะทักษิณ มีสถานะเป็น นักโทษหนีคุก หนีศาล ไม่ใช่ผู้ลี้ภัยทางการเมือง.!!

นอกจากจะไม่เป็นที่ปรารถนาของอังกฤษ ทักษิณยังถูกบังคับให้ขายหุ้นสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ออกจนหมด และถูกสโมสรลบชื่อออกจากทำเนียบประธานสโมสรซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในวงการฟุตบอลอังกฤษ

ทักษิณโจมตีรัฐบาลอังกฤษ ว่าถูกรัฐบาลไทยแทรกแซง จนไม่กล้าให้วีซ่า และปฏิเสธคำขอเข้าประเทศอังกฤษของเขา

ในเวลาไล่เลี่ยกัน บริวารของทักษิณ ก็กล่าวหาว่าราชวงศ์ของไทย ร้องขอให้ราชวงศ์อังกฤษ สั่งห้ามรัฐบาลอังกฤษออกวีซ่าให้ทักษิณ

การกล่าวหานี้ มีเป้าหมายให้เกิดผลกระทบต่อราชวงศ์และสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยและ ราชวงศ์ของอังกฤษอย่างร้ายแรง ในสายตาของชาวไทยและชาวโลก

วันนี้ ปัญหาของทักษิณไม่ได้อยู่เงิน 76,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลไทยอายัด เพราะมีหลักฐานพอเชื่อได้ว่า มีที่มาจากการขายหุ้น ซึ่งหากทักษิณไปพิสูจน์ในศาล ก็เชื่อว่าน่าจะได้คืน

แต่เงินก้อน 140,000 ล้านบาทที่อังกฤษอายัดไว้ต่างหากที่เป็นปัญหา ซึ่งทักษิณชี้แจงไม่ได้ว่ามีที่มาอย่างไร

ใช่เงินของคนไทย ที่ถูกยักย้ายถ่ายเทออกไปจากประเทศไทยหรือไม่ ?

เป็นเรื่องผิดปกติอย่างมาก ที่คนต่างชาติคนหนึ่งมาอาศัยอยู่ในอังกฤษปีเศษ จะทำธุรกิจได้กำไร มีเงินทองกองอยู่ในอังกฤษ มากกว่า 140,000 ล้านบาท

หากไม่โกง หรือ กอบโกยมาจากประเทศอื่น เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร ?

ทักษิณถูกต้อนจนมุมคาจอโทรทัศน์ ขณะเป็นนายกรัฐมนตรี จนต้องสารภาพว่า เขาทำธุรกิจอยู่บนเกาะบริติชเวอร์จิ้น ซึ่งเป็นแหล่งฟอกเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก*

เป็นไปได้ไหม ที่เงินจำนวน 140,000 ล้านบาทนี้ ถูกส่งออกจากประเทศไทย ไปฟอกที่เกาะบริติชเวอร์จิ้น ? แล้วถูกนำไปซุกซ่อนไว้ในอังกฤษในชื่ออื่น ที่ไม่ใช่ทักษิณ ชินวัตร ในขณะที่ทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ก่อนจะเกิดการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549

วันนี้สิ่งที่ทักษิณต้องทำก่อนที่จะคิดกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีมีอำนาจเหนือประเทศไทยอย่างที่พูดอยู่ทุกวัน ฝันอยู่ทุกคืน ก็คือ ชี้แจงให้ประชาชน ทราบ 4 เรื่อง ดังนี้

1. เงินที่งอกขึ้นมาเกือบ 50,000 ล้านบาท ก่อนที่จะเข้ามาทำงานการเมือง ซึ่งแจ้งไว้กับป.ป.ช. ว่ามีอยู่ 25,000 ล้านบาท มาจากที่ไหน ?

2. เงินจำนวน 140,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลอังกฤษ อายัดไว้มีที่มาอย่างไร ?

3. เงินมากกว่า 10,000 ล้านบาท ที่ใช้ลงทุนและซื้อทรัพย์สินในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานั้น เอามาจากที่ไหน ?

4. เงิน 20,000 ล้านบาท หรือราว 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ทักษิณ บอกกับนักข่าวว่ามีเหลือติดตัวอยู่เท่านี้ เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้มาอย่างไร ?

หากตอบคำถาม 4 ข้อนี้ไม่ได้ ก็ป่วยการที่จะคิดฝัน ถึงวันจะกลับมาเป็นผู้มีอำนาจเหนือประเทศไทยอีกครั้ง เพราะวันนี้คนไทยส่วนใหญ่ ตาสว่างแล้ว

ตาสว่างพอที่จะมองเห็นว่า ทักษิณ วางแผนปลุกระดมคนเสื้อแดงก่อความไม่สงบในประเทศไทย แล้วใช้เป็นเงื่อนไขบีบบังคับให้รัฐบาลต้องคืนเงิน 76,000 ล้านบาทที่อายัดไว้ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการพิสูจน์ที่มาของเงินในศาล.!

เปรียบกันง่ายๆ วันนี้ทักษิณจับประเทศไทยและประชาชนเป็นตัวประกัน ข่มขู่ให้คืนเงิน 76,000 ล้านบาทคืน หากไม่ทำตามที่เขาต้องการ...

ประเทศไทยต้องฉิบหาย …. คนไทยต้องล่มจม.!!

“เมื่อข้าอยู่ไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าใครหน้าไหนจะอยู่อย่างสงบ ”

นี่คือ ประกาศิตของทักษิณ ก่อนเคลื่อนพลใหญ่ 8 เมษายน นี้

คำถามก็คือ คนไทยส่วนใหญ่จะยอมให้ทักษิณและ สมุน กระทำทารุณกรรมต่อประเทศไทยหรือไม่ ?



๑ เมษายน ๒๕๕๒

แฉแผนทักษิณใช้คนเสื้อแดงบังคับในหลวงนิรโทษกรรม *

มีคำถามมากมายบนหน้าหนังสือพิมพ์ว่า ทักษิณ ชินวัตร สู้กับใคร ? และ สู้เพื่อใคร ? ใครได้ประโยชน์บนการต่อสู้ของทักษิณ ? ประชาชนได้อะไร และ ประเทศชาติได้อะไร ?

การด่ากราด กล่าวหาองคมนตรี เป็นคณะเผด็จการ ทำลายประเทศ ทำร้ายประชาชน โค่นล้มประชาธิปไตย เป็นการตีวัวกระทบคราด ใช่หรือไม่ ?

หากองคมนตรี คือ วัว แล้ว ใครคือ คราด ?

พระเจ้าอยู่หัว คือ คราด ที่ทักษิ ต้องการให้ได้รับผลกระทบใช่หรือไม่ ?

ทักษิณยังจงรักภักดีต่อในหลวงของเราจริงหรือ ?


เรื่องราวที่ทักษิณเปิดเผยกับประชาชน บนเวทีคนเสื้อแดง เป็นเรื่องเก่าที่เกิดขึ้นมานาน 3 ปี แล้ว และ ทักษิ รู้เหตุการณ์เหล่านี้ทั้งหมดมาแต่ต้น แต่ไม่เคยนำมาพูด ไม่เคยบอกให้ประชาชนฟัง

เพราะอะไรทำไมทักษิณ จึงเก็บเงียบมานานถึง 3 ปี ทำไมจึงเพิ่งจะมาแฉ ความเลวร้ายขององคมนตรีในสายตาทักษิณ และคนเสื้อแดง ในวันนี้ ? เพราะ การเจรจาต่อรองกับป๋าเปรมไม่สำเร็จ นั่นเอง.!

ทักษิณส่ง พจมาน ชินวัตร มาขอโทษป๋าเปรม และ ขอให้ป๋าเปรม ช่วยเจรจาคมช.. ให้ได้กลับเมืองไทย

ทักษิณยกมือไหว้ขอโทษป๋าเปรมในงานศพแม่ อนุพงษ์ เผ่าจินดา

ทักษิณไปพบ ปีย์ มาลากุล 1 ครั้ง และส่งพจมาน ไปพบอีก 2 ครั้ง ที่บ้านสุขุมวิท ซึ่งเป็นบ้านหลังเดียวกันกับที่ทักษิณ อ้างว่าเป็นสถานที่วางแผนก่อรัฐประหาร 19 กันยายน 2549

ทักษิณโทรศัพท์เคลียร์กับ สนธิ บุญยรัตกลิน ปรับความเข้าใจเป็นพี่น้องกัน หลังยึดอำนาจ

คนทั้งหมดที่ ทักษิณไปพบและเจรจา เพื่อยุติปัญหา และความผิด เป็นคนกลุ่มเดียวกับที่ทักษิณ อ้างว่าเป็นผู้ก่อการยึดอำนาจ ทำลายประชาธิปไตย.!

นี่หรือคือพฤติกรรมของนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ? การแอบเจรจา คบหาสมาคมกับผู้ก่อการรัฐประหาร ย่อมไม่ใช่วิสัยของผู้รักประชาธิปไตยอย่างแน่นอน จริงหรือไม่ ?

ที่ผ่านมาทักษิณไม่พูดเรื่องเหล่านี้ เพราะเจรจากันอยู่ แต่ไม่มีใครกล้าฝ่าฝืนกฎหมาย ช่วยแก้ไขความผิดให้ถูกต้องได้

ทักษิณจึงโกรธแค้น และ ออกมาฉะ แฉ ฉาว ทุกคน ที่ไม่ทำตามในสิ่งที่เขาร้องขอ และ ข่มขู่ เหมือนกับจะรู้ชะตากรรมล่วงหน้า แต่แท้จริงแล้วเป็นเพราะทักษิณ รู้ดีว่าบทลงโทษของการกระทำในอดีตที่ผ่านมา คืออะไร ?

ทักษิณจึงอาศัยจังหวะที่ศาลอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศ ไปร่วมชมพิธีเปิดโอลิมปิกส์ ที่ประเทศจีน แล้วก็ไม่เดินทางกลับมาประเทศไทยอีกเลย จึงกลายเป็นผู้ต้องหาหนีหมายศาล

เมื่อศาลตัดสินว่ามีความผิด ทักษิณจึงมีสภาพเป็นนักโทษหนีคุกทันที หลังจากถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี ทักษิณกลับบอกว่าศาลไม่เป็นธรรม ไม่ให้โอกาสสู้คดี ทั้งๆ ที่หนีไปเอง

เมื่อตกอยู่ในสถานะนักโทศหนีคุก ทักษิณ บอกว่าเขาจะกลับประเทศไทย เพื่อมาต่อสู้ และเรียกร้องความเป็นธรรม ร่วมกับประชาชน

การโฟนอินเมื่อครั้งคนเสื้อแดงชุมนุมที่สนามกีฬารัชมังคลาภิเษก ทักษิณบอกว่าเขาจะกลับประเทศไทยได้ ด้วย 2 วิธี คือ 1. ได้รับพระราชทานอภัยโทษ และ 2. คนเสื้อแดงพากลับ

ทักษิณบอกว่าต้องการได้รับพระราชทานอภัยโทษ แต่เขาไม่เคยขออภัยโทษ และประกาศว่าไม่มีวันที่จะขออภัยโทษด้วย.!

ชัดไหมว่าทักษิณไม่ได้เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่ในสายตา ไม่ได้เคารพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ทักษิณเชื่อว่าเขาจะปลุกระดมมวลชน ให้มีจำนวนมากพอที่จะมายืนล้อมตัว และเป็นโล่ห์มนุษย์ ป้องกันเขาจากการถูกจับกุมของเจ้าหน้าที่รัฐได้ ทักษิณแสดงให้เห็นว่าสุดท้ายแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็จะต้องพระราชทานอภัยโทษให้เขา ตามแรงกดดันของมวลชนคนเสื้อแดงที่เขาปลุกระดมขึ้นมา

ทักษิณ กำลังใช้กฎหมู่มาทำลายกฎหมาย ทักษิณ กำลังเอามวลชนมาบีบพระเจ้าอยู่หัว ให้อภัยโทษโดยที่เขาไม่ต้องร้องขอ เหมือนผู้ต้องคำพิพากษาของศาลรายอื่นๆ และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

หากทำสำเร็จก็เท่ากับว่าทักษิณมีอำนาจเหนือพระมหากษัตริย์ หากทักษิณสามารถบังคับให้พระมหากษัตริย์ทำตามที่ตนต้องการได้ทุกอย่าง แล้วประชาชนจะอยู่ได้อย่างไร ?

คนไทยจะยอมได้หรือ หากว่าพระมหากษัตริย์ที่เราเคารพรักและเทิดทูนอยู่เหนือสิ่งอื่นใด จะต้องทำตามคำสั่งของทักษิณ ?

เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว ท่านจะตกเป็นเหยื่อ เป็นเครื่องมือของทักษิณเพื่อลบล้างความผิดของตนเอง ล้มล้าง และทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ อีกหรือไม่ ?

ถอยออกมาให้ห่างจากคนเสื้อแดง.!

หลีกเลี่ยงการตกเป็นเครื่องมือของทักษิณ

เพื่อปกป้องรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ของคนไทยทุกคน


Credit เมลฟอร์เวิร์ด

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์

H O M E



Create Date : 25 มีนาคม 2553
Last Update : 25 มีนาคม 2553 12:23:14 น. 0 comments
Counter : 709 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.