Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
26 มกราคม 2553
 
All Blogs
 

โลกของชา


เจนจิรา โลชา

*ใครต่อใครก็ต่างพากันคิดว่า น้ำชา ที่เราดื่มกันอยู่ทุกวันนี้ เป็นเรื่องพื้นๆ หาดื่มได้ง่ายๆ เพราะมีชาเย็นบรรจุขวดไว้ขายมากมายหลายยี่ห้อ หรือมีไว้บริการตามร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านข้าวมันไก่ทั่วๆไป หากแต่เราลองหันมาศึกษา สัมผัสกับรสและกลิ่นชาอย่างแท้จริงแล้ว เราจะพบว่า การดื่มชา เป็นศิลปะที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่แฝงความรุ่มรวยทางวัฒนธรรมเอาไว้ เรื่องราวที่เราคิดว่าธรรมดานี้ กลับไม่ธรรมดาเสียแล้ว มาลองทำความรู้จัก “ชา” ให้มากขึ้นกันดีกว่า

อาจารย์จงรักษ์ กิตติวรการ เคยเป็นอาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ท่านได้สนใจศึกษาเรื่องชา ทดลองชงชาด้วยน้ำชนิดต่างๆ ด้วยน้ำที่อุณหภูมิต่างกัน เรียนรู้ลักษณะเฉพาะชองชาแต่ละชนิด เสมสิกขาลัยจึงได้เชื้อเชิญท่านให้มาแบ่งปันประสบการณ์ ถ่ายทอดเรื่องราว เปิดโลกของชาให้เราได้สัมผัส อาจารย์ยังเล่าให้ฟังถึงประวัติการดื่มชาที่มีมาตั้งแต่ดังเดิมและแพร่หลายไปทั่วโลก ซึ่งลักษณะของการผลิตใบชา ภาชนะที่ใช้ดื่มและวิถีของการดื่มชาของแต่ละถิ่นฐานก็ต่างกันไปตามแต่ละวัฒนธรรม ซึ่งรากของการดื่มชามาจากประเทศจีนนั่นเองที่เป็นต้นกำเนิดวัฒนธรรมการดื่มน้ำชา

จากคำว่า “น้ำชา” มีเหตุปัจจัยมากมายที่หลอมรวมกันเข้ามา ที่ทำให้ น้ำ+ชา กลายเป็นศิลปะแห่งชา ที่จะนำพาให้เราได้กลับมาสัมผัสความรุ่มรวยทางวัฒนธรรม และอ่อนโยนกับทุกการกระทำด้วยวิถีแห่งชา

*ชา ๕ ประเภท

     ใบชา (ในที่นี้ขอกล่าวถึงเฉพาะ ชาจีน เท่านั้น) มีหลากหลายชนิดมาก และคิดว่าอาจจะยังไม่มีผู้ใดเก็บข้อมูลศึกษาเรื่องชนิดของใบชาอย่างจริงจังว่า ใบชาจีนมีกี่ชนิดกันแน่ แต่สามารถแบ่งใบชา เป็น ๕ ประเภท ได้แก่ ชาเขียว คือ ใบชาที่ไม่ได้มีการหมักใดๆ เลย ส่วนใบชาอีก ๔ ประเภทที่เหลือ มีการหมัก ซึ่งเรียงลำดับจากการหมักในเวลาน้อยไปจนถึงมีระยะเวลาการหมักที่นานมากขึ้นตามลำดับ คือ ชาขาว ชาฟ้า ชาแดง และชาดำ เช่น ชาอู่หลง จัดเป็นชาประเภท ชาฟ้า

ใบชาแต่ละประเภท แต่ละชนิดต่างก็มีลักษณะเฉพาะตัวที่ต่างกันไป ชาเขียวและชาขาว มีสีและรสชาติที่อ่อน การชงชาเขียวหรือชาขาวจึงใช้น้ำที่ไม่ร้อนจัดจนเกินไปและต้องแช่ใบชานานกว่าชาประเภทอื่นๆ เพื่อที่สามารถดึงกลิ่นและรสชาติของใบชาออกมาได้ ดังนั้นการชงชาแต่ละประเภท แต่ละชนิดจึงแตกต่างกัน เป็นเรื่องที่เราต้องทดลอง ลองผิดลองถูกดูว่าชาชนิดไหน เหมาะกับน้ำอุณหภูมิใด ที่สำคัญคือ การชงชาไม่มีถูกไม่มีผิด ขึ้นอยู่กับว่ารสชาติและกลิ่นชนิดใดที่เรารู้สึกชอบและพึ่งพอใจ นั่นถือว่าเป็นรสชาติชาที่ดีสำหรับเรา

น้ำ

     ใบชาที่มีความแตกต่างกัน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผู้ชงชาทำหน้าที่เพียงแค่ต้มน้ำที่มีอุณหภูมิที่เหมาะกับชาในชนิดนั้น เราทำแค่เพียงสร้างปัจจัยที่ถึงพร้อมเพื่อให้ใบชาเปิด แสดงรส สี และกลิ่นธรรมชาติที่เฉพาะตนของเขาเท่านั้น สิ่งที่เราจะทำได้คือ การอยู่กับธรรมชาติของใบชา ธรรมชาติของน้ำ ธรรมชาติของภาชนะที่ใช้ชงและดื่ม เราไม่อาจควบคุม บังคับให้ชามีรสชาติ สีและกลิ่น ตามที่ใจปรารถนาได้ นั่นคือ เราต้องเปิดใจเราก่อนจึงจะสามารถทำให้ชาเปิดความเป็นตัวของตัวเองเช่นกัน

น้ำ เป็นตัวแปรที่สำคัญในการชงชา ทั้งชนิดของน้ำที่เราใช้ชงชา และอุณหภูมิของน้ำ น้ำประปา น้ำแร่ น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ น้ำผ่านเครื่องกรองโอโซน น้ำเดือนจัด น้ำร้อนมาก ร้อนน้อย สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นตัวแปรสำคัญในการที่จะดึงรสของชา ดังนั้นในการชงชา น้ำจึงเป็นหัวใจสำคัญเทียบเท่ากับคำว่า ใบชา เพราะคำว่า น้ำชา มาจากคำว่า น้ำ+ชา นั้นเอง

รสของชาเมื่อใช้น้ำประปาแตกต่างกับชาที่ใช้น้ำแร่ชง มีเมื่อลองดื่มชาที่ใช้น้ำแร่จะพบว่า มีความเบาละเอียด หอมหวนติดอยู่ที่ลิ้นและในลำคอ หากดื่มชาชนิดเดียวกันที่ชงโดยน้ำประปา รสชาติและกลิ่นของชาจะชัดเจน มีน้ำหนักไม่เบาหวิวๆ เหมืนชาที่ชงจากน้ำแร่ ไม่มีสิ่งใดสามารถบ่งบอกได้ว่าใช้น้ำชนิดใดแล้วจะทำให้รสชาติชาดีกว่ากัน ส่วนอุณหภูมิของน้ำและการแช่ใบชา ขึ้นอยู่กับชนิดของชา ซึ่งเราไม่สามารถจำกัดตายตัวได้เลยว่า ชาชนิดนี้ควรใช้น้ำกี่องศา แช่น้ำนานกี่นาที แต่อย่างคร่าวๆ คือ ชาเขียวและชาขาว ไม่ควรช้ำเดือดหรือร้อนจัด และควรแช่ใบชานานชากชนิดอื่น ส่วนชาฟ้า ชาแดง และชาดำ ควรใช้น้ำที่ร้อนจัด และใช้เวลาแช่ใบชาน้อยลงตามลำดับ เพราะชามีรสชาติที่เข้มอยู่แล้ว หากแช่นานเกินไปจะทำให้รสชาติชาเฟือน เช่นเดิมคงขึ้นอยู่กับความชอบของผู้ที่ดื่มเท่านั้นที่จะบอกว่าจะใช้น้ำชนิดใดในการชงชาที่ทำให้รสของชาดีในความรู้สึกของเรา และเราจะใช้น้ำอุณหภูมิใดที่เหมาะสมกับชนิดแต่ละชนิดคงต้องคอยทดลอง ศึกษาธรรมชาติของชาแต่ละชนิด คงต้องให้เวลากับชา ลงรายละเอียดใส่ใจกับสิ่งเล็กๆน้อย แต่เป็นหัวใจสำคัญในการชงชา คือ น้ำ นั่นเอง

*ภาชนะที่ใช้ในการชงชา

ภาชนะที่ใช้ในการชงชา ไม่ว่าจะเป็นปั้นชา หรือถ้วยชา ที่เรามักจะพบเจอกันบ่อยๆ มักจะเป็นเครื่องเคลือบเซรามิก และเครื่องดินเผา ภาชนะทั้งสองชนิดนี้มีคุณลักษณะที่ต่างกัน คือ เครื่องดินเผาจะสามารถเก็บความร้อนได้ดีกว่า ส่วนภาชนะที่เป็นเครื่องเคลือบเซรามิกจะเก็บความร้อนได้น้อยกว่า อีกทั้งปั้นชาก็มีขนาดที่แตกต่างหลากหลาย ตั้งแต่เล็ก ที่สามารถชงได้ ๒ ถ้วยชาขึ้นไป นั่นขึ้นอยู่กับว่า เราต้องการน้ำชาจำนวนกี่ถ้วยการการชงชาในแต่ละครั้ง

     ในการเลือกปั้นชา ควรจะทำการลองปั้นชาก่อนซื้อ เลือกที่มีน้ำพวยพุ่งออกมาแรงและเป็นสาย ไม่แตกกระเซ็น หูจับปั้นชาและปากพวยน้ำอยู่ในระดับเดียวกัน ที่สำคัญเนื้อดินที่ใช้ทำปั้นชาต้องเป็นเนื้อดินเดียวกัน มีความบาง ว่ากันว่าปั้นชาที่ใช้ชงชาบ่อยๆ ยิ่งทำให้มีรสชาติชาที่ดี เพราะกลิ่นชาได้ซึมเข้าไปในเนื้อดินของปั้นชานั้นแล้ว การเลือกปั้นชาและถ้วยชา ควรเลือกที่เราชอบ จับถนัดมือ ใช้ความรู้สึกของเราเป็นตัวเลือกและเราจะมีความสุขเป็นได้ชงชาในสิ่งที่เราชอบและเลือกมันด้วยความพึงพอใจ

การชงชาและดื่มชา บางคนอาจจะสงสัยว่าควรจะดื่มชาชนิดใด หรือเวลาใดจึงจะเหมาะสมกับตัวเรา ซึ่งอาจจะมีผลการวิจัยออกมามากมายว่า ชาชนิดนี้สามารถช่วยรักษาสุขภาพได้อย่างไร แต่นั่นส่วนใหญ่ก็มาจากการวิจัยและเผยแพร่เพื่อการตลาดทั้งสิ้น ดังนั้นการดื่มชาแต่ละครั้ง ตัวเราเท่านั้นที่จะเป็นคนตัดสินว่า ดื่มชาชนิดใดและดื่มเวลาใดที่เหมาะกับตัวเรา หากเราลองเฝ้าสังเกตร่างกายและจิตใจของเราขณะที่ดื่มชาแต่ละครั้ง ฟังเสียงที่ร่างกายบอก ตัวเราจะรู้เองว่า ชนิดใดที่ดีต่อตัวเรา ไม่อาจมีใครมาตัดสินหรือรู้จักร่างกายของเราดีมากกว่าตัวเรา ลองเชื่อในประสาทการรับรู้กลิ่น สี และรสของตัวเรา เราต้องทดลอง ผ่านประสบการณ์และเรียนรู้โลกของชาผ่านตัวเอง

คงจะเป็นเพราะสิ่งเหล่านี้เอง ที่ทำให้บางคนเชื่อว่า การชงชาและการดื่มชาจะนำพาตัวเราไปสู่วิถีแห่งการภาวนาได้เช่นกัน หากทุกครั้งที่เราชงชาและดื่มชา เราจะกลับมาเฝ้าสังเกตดูสภาวะที่เกิดขึ้นภายในร่างกายและจิตใจของเรา เรียนรู้ที่จะสัมผัสกับธรรมชาติที่แท้จริงของใบชา น้ำ และภาชนะที่ในการชงและดื่มกิน อยู่กับทุกการกระทำ การเคลื่อนในขณะที่ชงชาและดื่มชา เรื่อง “ชา” ที่แสนจะธรรมดาก็กลายเป็นวิถีอันรุ่มรวยทางจิตวิญญาณไปด้วยเช่นกัน

     การเปิดประตูสู่โลกของชาในครั้งนี้ เราได้ลองดื่มจิบ ดมดอมกลิ่นชานานาชนิด ที่สำคัญคือการได้ทดลองชงชาด้วยตัวเองที่มีอาจารย์คือแนะนำอย่างใกล้ชิด มีเพื่อนๆ คอยชวนชิมชาในบรรยากาศที่เป็นกันเอง เชื่อมร้อยวัฒนธรรม เชื่องโยงศิลปะแห่งชาสู่วิถีการภาวนา โลกของเราและโลกของชา จึงกลายเป็นโลกภายในใบเดียวกัน

รายงานจากการอบรม “ศิลปะแห่งชา”
วันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒
ณ พิพิธภัณฑ์บอกกอก สี่พระยา กรุงเทพฯ


ขอขอบคุณ
ที่มา :
www.semsikkha.org

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์


H O M E




 

Create Date : 26 มกราคม 2553
0 comments
Last Update : 26 มกราคม 2553 13:22:47 น.
Counter : 906 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.