|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
1 มิถุนายน 2551
|
|
|
|
ตอนที่ 12 ขวัญใจนักเรียน
โรงเรียน ฮ นกฮูก เรื่องราวของหม่าม้า ที่ร้างราตำราเรียนร่วม 30 ปี แล้วตัดสินใจกลับสู่ห้องเรียนใหม่ในวัย ฮ นกฮูก
ตอนที่ 12 ขวัญใจนักเรียน
มาถึงตอนนี้แล้ว ฉันก็เริ่มเป็นดาวเด่นประจำชั้นเรียนได้ไม่น้อยหน้าใคร เมื่อมีใครถามเพื่อนๆว่าเรียนชั้นไหน แทนที่จะตอบว่า สาขา......ภาคเรียนที่......กลับตอบสั้นๆว่า ชั้นเรียนที่มีหม่าม้า หรือไม่ก้อ เรียนห้องเดียวกับหม่าม้า แค่นี้คนฟังก็ร้องอ๋อ...เข้าใจทันที ด้วยบุคลิก(และแน่นอนที่สุด...วัย)ที่แตกต่างชัดเจนทำให้ อาจารย์ บุคลากรตลอดจนพนักงานมหาวิทยาลัยทุกคนรู้จักฉันดี แม้ตอนแรกจะไม่แน่ใจว่าใช่นักเรียนหรือเปล่าจนฉันต้องรับไหว้เด็กๆเหล่านี้ไปหลายครั้ง
บางคนเขินๆไม่รู้จะเรียกคำนำหน้าว่า ป้า หรือ พี่ ต่อเมื่อฉันเรียกแทนตัวเองว่า หม่าม้า โดย(แอบ)ถือวิสาสะนับเด็กๆพวกนี้อายุเกณฑ์เท่าลูกๆ ความเขิน ค่อยๆลดไป ความสนิทสนมกรายมาแทนที่
หม่าม้าขา วันนี้อาจารย์โทรมาบอกว่าจะเข้าคลาสสายครึ่งช.ม. ให้อ่านเอกสารที่แจกไปก่อน
พนักงานผู้ทำหน้าที่ประสานงานประจำสาขาหลักสูตรบอก เป็นอีกครั้งที่ฉันจะต้องนำสารจากเธอไปกระจายให้เพื่อนๆที่เหลือ คล้ายกับว่าฉันทำหน้าที่หัวหน้าชั้นกลายๆ
หม่าม้าคะ ตารางเมคอัพของวิชา.....ค่ะ
ฟังเผินๆเหมือนจะเป็นตารางแต่งหน้า ที่จริงเป็นศัพท์เรียกเข้าใจกันในกลุ่มคนเรียนหนังสือ ตารางเรียนจัดพิเศษที่อาจารย์และชั้นเรียนตกลงกันในวิชาที่รียนไม่ทันหรือขาดหายไปเพราะเจอวันหยุดนักขัตฤกษ์
หม่าม้าคะ บ่ายนี้จะมีเซคชั่นบรรยายพิเศษจากวิทยากรข้างนอก ช่วยบอกเพื่อนๆในชั้นเข้าฟังด้วย
นอกจากจะทำหน้าที่เป็นตัวประสานงานทางวิชาการให้แล้ว ฉันมักจะถูกยกให้เป็นตัวชูโรงเมื่อมหาวิทยาลัยมีกิจกรรมพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นตัวแทนนักศึกษามอบของที่ระลึกแก่วิทยากรพิเศษที่มาบรรยาย ตัวแทนสาขามอบพวงมาลัยดอกมะลิแก่บรรดาอาจารย์ทั้งหลายในวันไหว้ครู ตัวแทนชั้นเรียนเมื่อต้องประชุมร่วมกับชั้นเรียนอื่นเรื่องการจัดสัมมนาร่วม เป็นต้น
ฉันเลยกลายเป็น หม่าม้า ของทุกคนในมหาวิทยาลัยโดยปริยาย อาจารย์บางท่านก็ลืมชื่อจริงของฉัน เผลอเรียก คุณหม่าม้า ก็มี
ถ้าไม่นับวิชาการเงินแล้ว เทอมนี้ฉันสนุกกับการเรียนพอสมควร หลังจากเร่งปรับระดับความเร็วให้เท่ากับเพื่อนๆอ่อนวัยในกลุ่มผ่านมาได้หนึ่งภาคเรียนแล้ว อีกทั้งมีวิชาที่ฉันได้ขุดหยักสมองเปิดกรุในอดีตเล่าเรื่องความทรงจำย้อนยุคซึ่งสร้างความหรรษาให้กับชั้นเรียนไม่น้อย ฉันเลยได้ตำแหน่งขวัญใจของห้องไป เวลาอาจารย์ถามเรื่องราวสมัยเก่าๆก็มักจะหันมาทางฉัน เสมอ ทำให้ต้องตื่นตัว เตรียมพร้อมทุกนาที
หม่าม้า เค้าเป็นดาวมหาวิทยาลัยนะ ปออ่อนบอกเพื่อนๆที่มาเที่ยวบ้าน อย่างภูมิใจ
ใครๆเค้าเป็นตอนสาวๆ แต่หม่าม้าเป็นตอนแก่ เก๋เสียอีก
เพื่อนๆของลูกๆขบขันแกมฉงนเมื่อรู้ว่าฉันกลับสู่ห้องเรียนในวัยขนาดนี้ บางคนออกปากทึ่งในความเพียรพยายามครั้งนี้
โอ้โฮ หม่าม้าไม่เบื่อเหงกหรือครับ ตอนท่องหนังสือสอบ
โอ๊ย หม่าม้าน่ะน่ะเค้าชอบเขียน เคยฝันจะเป็นนักประพันธ์ใหญ่ ลูกชายตอบแทน เป็นนักเขียน S.E.A. WRITE รู้จักมั้ย พวกชอบไปเขียนข้างๆทะเลน่ะ เจ้าตัวเล่นคำพ้องให้เพื่อนๆงงเล่น
จริงด้วยแหละ ฉันเคยฝันจะเป็นนักเขียน เพราะทำคะแนนวิชาการประพันธ์ได้ดี การผันอาชีพมาเป็นเลขานุการแม้จะไม่ตรงใจนัก ก็ยังคงรักษาทักษะการสื่อสารไว้ได้บ้าง เสียดายตั้งแต่คลอดป่านดำแล้ว ฉันต้องออกจากงานเพื่อดูแลลูกๆทั้งลินินที่กำลังโตวันโตคืน ป่านดำกำลังอ้อแอ้ หลังจากนั้นก็มีปออ่อนรั้งท้าย เวลาส่วนตัวหมดวุ่นไปกับพวกเขาจนกระทั่งเริ่มโตๆกัน ฝีมือที่เคยฝึกปรือมลายไปสิ้น
Create Date : 01 มิถุนายน 2551 |
|
3 comments |
Last Update : 1 มิถุนายน 2551 19:09:02 น. |
Counter : 536 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
รุ้งพลบ |
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]
|
ใช้ชีวิตแสวงหามาหลายปี ปัจจุบันก็ยังแสวงหาไม่รู้จักเสร็จ บางอารมณ์เหนื่อยๆ ก็หยุดพัก แล้วตรองนิ่งเขียนบันทึกในสิ่งที่พบเห็น
บางอารมณ์ที่โมแรนติค ชอบดูสายรุ้งตอนโพล้เพล้
|
|
|
กลับมาถึงตำแหน่งขวัญใจนักเรียนบ้าง มีเรื่องไม่สบอารมณ์หลายๆเรื่องที่เพื่อนนักเรียนในชั้นอยากจะร้องเรียน ขอความผ่อนปรนจากทางมหาวิทยาลัย ซึ่งไม่พ้นที่จะต้องให้ฉันเป็นตัวแทนรวบรวมความคิดเห็นไปช่วยพูด เช่น ปัญหาที่จอดรถซึ่งต้องจ่ายแพงเป็นรายชั่วโมง หากวันไหนมาทำงานทั้งวัน ก็แทบจะต้องควักหมดตัวเลยเหมือนกัน
ทางที่ดี อย่าเอารถมา ไม่ต้องกังวลเรื่องหายด้วย เพื่อนคนหนึ่งสรุปหาทางออกให้
แต่กลับแท๊กซี่ดึกๆก็อันตรายนะ
แถมบ้านเราต้องเข้าซอยอีกลึก รถสองแถวก็เลิกวิ่งแล้ว ต้องซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์อย่างเดียว
นั่งแท๊กซี่ทุกครั้งก็พาจนเหมือนกันนะยะ
บรรดาเพื่อนผู้หญิงซึ่งมีมากกว่าครึ่งคัดค้าน เลยเป็นหน้าที่ของ ฮ นกฮูกคนนี้ที่ต้องรวบรวมคำร้องเรียนเรื่องอัตราค่าจอดรถส่งไปให้ฝ่ายบริหารนักศึกษา เงียบไปประมาณสักเดือนหนึ่ง จึงได้รับแจ้งกลับมา
ทางโรงเรียนเขากำลังขอต่อรองเจ้าของตึก คิดค่าจอดครึ่งเดียวหลัง 6 โมงเย็น หรือไม่ก็ราคาเดียวเหมาเบ็ดเสร็จรวมไปถึงวันหยุด
ฉันถ่ายทอดคำตอบที่ได้ทราบให้เพื่อนๆฟัง น่าขัน...ฉันเองเสียอีกที่ไม่ได้เดือดร้อน เพราะไม่ได้ขับรถมา กลายเป็นผู้ทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียงให้พวกเขา
เรื่องการใช้อุปกรณ์ในมหาวิทยาลัยก็เป็นอีกกรณีที่จุกจิก ตัวอย่างง่ายๆ เรื่องจำนวนกระดาษที่สั่งพิมพ์จากคอมพิวเตอร์ ซึ่งกำหนดในระเบียบเดิมนั้น นักศึกษาหนึ่งคนจะมีโควต้าเทอมละ 100 แผ่น
ไม่พอหรอกค่ะ เพราะแค่การบ้านวิชาเดียวก็ปาเข้าไปเกือบ 10 แผ่นแล้ว นี่มีทุกอาทิตย์ ทุกวิชา
เจอรายงานใหญ่ปลายเทอมอีก
บางวิชา อาจารย์ให้พิมพ์จากหัวข้อในอินเตอร์เน็ทออกมาต่างหาก
ปริ้นท์อยู่ดีๆ เครื่องรวน ปริ้นท์ซ้ำออกมาเป็นเทือก เสียโคว้ต้าไปฟรีๆ
นี่คือเสียงบ่นจากเด็กๆ วิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก็คือขอยืมโควต้าของคนที่เหลือในกลุ่ม แล้วคนที่ถูกยืมก็ต้องไปขอยืมโควต้าจากคนอื่นๆอีก เป็นปัญหาลูกโซ่กระทบไปหมดทั้งห้อง
สำหรับฉันเองก็ใช้กระดาษเกินโควต้าเยอะ เพราะต้องเตรียมข้อมูลค้นคว้าจากแหล่งต่างๆเพิ่มเติมเหมือนกัน อาศัยที่บ้านมีเครื่องปริ้นเตอร์พิมพ์งาน เลยใช้สมบัติส่วนตัวแทน แต่ก็อดเห็นใจเพื่อนๆไม่ได้ เพราะค่าใช้จ่ายส่วนนี้น่าจะถูกคำนวณไว้แล้วกับค่าเรียนที่สูงลิ่ว ถ้าทางมหา วิทยาลัยเพิ่มให้อีกคนละ 50 แผ่น ก็คงจะพอแก้ปัญหา
นี้ได้ เพราะเท่ากับเพิ่มโควต้าอีกประมาณ 250- 300 แผ่น ต่อนักเรียน 1 กลุ่ม ( 5-6 คน)
ข่าวดีจ้ะ ฝ่ายบริหารเพิ่มจำนวนโควต้ากระดาษพิมพ์ตามที่พวกเราขอไปได้แล้ว แต่ขอให้พวกเราประหยัดๆหน่อย พยายามใช้กระดาษ 2 หน้า ถ้าไม่จำเป็นนัก
ฉันบอกในชั้นเรียน หลังจากได้พูดคุยกับอาจารย์ฝ่ายบริหารพักใหญ่ๆ เพื่อนๆตบมือ ร้องเสียงเฮ