สำหรับหนุ่มๆโดยเฉพาะ วิธีเลือกสูท
วิธีเลือกสูท (ตอนที่1) รำเพยเป็นคนที่อยู่กับยายมาตั้งแต่เด็ก ตอนเรียนประถมน่ะมีเรียนวิชาตัดเย็บ อิชั้นก็ไม่เคยทำเองเลยค่ะ ไม่ยายก็แม่ทำให้ตลอด (ไงล่ะ ความลับเปิดเผย) ที่แม่ไม่ให้ทำเองเพราะว่าตอนแม่เด็กๆ แม่เอานิ้วไปแหย่ตรงเข็มเย็บผ้าทำให้เล็บหายไปเล็บนึง แต่ก็ใช่ว่ารำเพยจะเย็บไม่เป็นนะ เพราะว่าถึงจะไม่ได้ทำเองก็โดนบังคับให้นั่งดูอยู่ดีนั่นแหละ แค่ว่าไม่ให้จับจักรเท่านั้นเอง เนื่องจากจักรที่บ้านเป็นจักรไฟฟ้าด้วย ไม่ใช่จักรถีบแบบที่โรงเรียนใช้ จักรไฟฟ้ามันอันตรายกว่าหลายเท่า ด้วยความที่ว่ายายสอนให้ดูเสื้อ หัดดูตะเข็บ หัดดูว่าอะไรคือคำว่าเนี้ยบ และตะเข็บเรียบร้อยดี ถึงจะไม่รู้วิธีตัดเสื้อแบบยาย แต่สิ่งที่ได้มาจากยายก็คงเป็นเรื่องของการดูการเลือกเสื้อนี่แหละค่ะ ยายบอกเสมอมาว่าเสื้อผ้าน่ะ ไม่จำเป็นต้องแพงก็ได้นะ ของไม่มียี่ห้อ ของที่ขายตามตลาดก็ยังได้ แต่ว่าต้องดูตะเข็บ ดูวิธีการเย็บให้เป็นโดยเฉพาะถ้าจะซื้อสูท ต้องดูให้ละเอียดถี่ถ้วน เพราะว่าสูทน่ะ พอเย็บไม่ดี มันเห็นได้ชัดกว่าเสื้อแบบอื่น สำหรับรำเพยแล้ว สูทเป็นเครื่องแต่งการชิ้นที่สำคัญที่ผู้ชายควรมี และควรจะเลือกให้เป็น เพราะว่าสูทดีๆที่ตัดเย็บดีๆ ถึงจะแพงหน่อย แต่ว่าก็ใช้ได้ทนนาน และใช้ได้หลายโอกาส วันนี้ลองมาดูวิธีเลือกสูทกันหน่อยเป็นไร เรื่องที่ควรสนใจก็มี หลักๆ 3 ส่วน เนื้อผ้า ตัว jacket กางเกงเนื้อผ้า เนื้อผ้าของสูทแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่คือ ผ้าที่ไม่ใช่ผ้าขนสัตว์ และ ผ้าขนสัตว์ ผ้าที่ไม่ใช่ผ้าขนสัตว์ ผ้าฝ้าย, ลินิน, โลลิเอสเต้อร์, ไม่โครไฟเบอร์, สแปนเดกซ์, และ เทฟลอน เนื่องจากเมืองไทยอากาศค่อนข้างร้อน ดังนั้นผ้าที่ระบายความร้อนยากรำเพยจึงไม่ขอเอ่ยถึงนะคะ ในที่นี้จะพูดถึง ผ้าที่เหมาะกับเมืองไทยคือ ผ้าฝ้ายและลินินเท่านั้นค่ะ เพราะว่าเป็นผ้าเนื้อเบา ระบายอากาศได้ดีผ้าฝ้าย ข้อดี : ผ้าฝ้ายที่เนื้อดีจะตัดสูทได้ดูดี แต่ถ้าจะให้ดีควรเป็นผ้าฝ้ายที่ปนกับ lycra เพราะว่าจะเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับตัวผ้า สูทจะคงตัวได้ดี และรูปทรงไม่เสียง่าย ข้อเสีย : ซีดง่ายและยับง่าย แต่ก็ยังไม่ง่ายเท่าผ้าลินิน ความเห็น: ถ้าไม่อยากร้อนเพราะผ้าขนสัตว์ หรือว่าไม่อยากเสียเงินซื้อสูทขนสัตว์เนื้อเบา น้ำหนักเบา ก็เลือกใช้สูทผ้าฝ้ายที่เนื้อแน่น และตัดเย็บดีก็จะได้สูทที่สวยไม่แพ้สูทขนสัตว์เลยค่ะผ้าลินิน ข้อดีของสูทผ้าลินิน : เป็นผ้าสูทที่เหมาะสำหรับหน้าร้อน ระบายอากาศได้ดี น้ำหนักเบา ข้อเสีย : เปื้อนง่ายมากๆ ยับง่าย ไม่เหมาะกับท่องเที่ยว ความเห็น : สูทลินินถ้าตัดเย็บดีๆจะสวยมากนะคะ แต่ว่าใส่แล้วอย่านั่งเชียว เพราะพอนั่งแล้วลุกขึ้นเนี่ย เห็นผ้ายับตามรอยที่นั่งเลยค่ะ ใส่สวยถ้าคุณไม่ต้องนั่งไม่ต้องลุกบ่อยๆ เหมาะกับใส่ไปพวกงานเปิดตัวห้องภาพ หรืองานคอกเทล หรืออีกกรณีหนึ่งก็คือไปริมทะเลอากาศร้อนๆ แต่ต้องแต่งตัวดูทางการเล็กน้อย สูทลินินก็เหมาะกับอากาศดีค่ะ เบาๆดีผ้าขนสัตว์ Tweed ผ้าวูลที่น้ำหนักมาก นิยมกันแถบ Scotland อุ่นมาก ถ้านึกภาพสูทที่ตัดจากผ้าแบบนี้ไม่ออกลองนึกถึงภาพ professor ในหนังเก่าๆนะคะ ที่ใส่สูทดูเชยๆ ข้อดี : อุ่น ข้อเสีย : หนัก ใส่แล้วแก่ดีแท้ คนอ้วนใส่แล้วจะบวมๆ เพราะผ้าหนา ความเห็น : อยู่เมืองไทยอย่าใส่ผ้า tweed เลยจ้ะ คันคะเยอตายเลย ร้อนนะมันร้อนFlannel ข้อดี : ทนทาน อุ่น เหมาะสำหรับสูทหน้าหนาว สีที่นิยมคือสีเทาเข้ม หรือมีลายเส้นนิดๆ ข้อเสีย : หนา และ อุ่นเกินไปสำหรับเอามาใส่ทำงาน ความเห็น : ไม่เหมาะกับเมืองไทยค่ะ ใส่แล้วจะคันๆ น้ำหนักมาก คลิกที่รูปค่ะTropical น้ำหนักเบา ส่วนมากจะมาในสีอ่อนหน่อย แต่ว่าสีเข้มก็มีค่ะ ข้อดี : น้ำหนักเบาถึงเบามาก เหมาะสำหรับอากาศที่ร้อน ข้อเสีย : เนื่องจากน้ำหนักเบา จึงยับง่ายหน่อยค่ะ (แต่ก็ไม่ใช่ว่าง่ายแบบลินินนะ) ความเห็น : เหมาะสำหรับอากาศบ้านเรา เนื่องจากการระบายอากาศดีพอควร เพราะว่าเนื้อผ้าจะเบา ใส่สบายแต่ก็ถ้าต้องใช้ทุกวันๆ อาจจะพังได้ง่าย เพราะว่าความบางของผ้านั่นแหละค่ะ คลิกที่รูปค่ะWorsted *เพิ่มเติม* worsting คือกระบวนการการคัดเลือกเส้นวูลที่สั้นๆออกจากการทอ ทำให้ได้เส้นวูลที่ยาว ซึ่งผ้าจะเรียบและเนียนกว่าทนกว่าการทอโดยใช้เส้นด้ายสั้นบ้างยาวบ้างค่ะ ผ้าที่ผ่านกรรมวิธีนี้เป็นผ้าที่เหมาะที่สุดสำหรับคนที่เพิ่งจะมีสูทเป็นชุดแรก น้ำหนักจะเบาถึงปานกลาง ข้อดี : มีความทนทานสูง ทนยับ และใส่ได้ตลอดปี มีทั้งแบบน้ำหนักเบาและปานกลางนะคะ เลือกได้หลายแบบ ข้อเสีย : ไม่มี ความเห็น : เหมาะกับอากาศบ้านเรา และ คนที่ทำงานในห้องแอร์ สำหรับเมืองไทยควรเลือกแบบที่ทอน้ำหนักเบาหน่อย ราคาอาจจะแพงสักนิด แต่ว่าเป็นผ้าแบบที่คุ้มมาก เพราะว่าทนนาน และใช้ได้หลายโอกาส คลิกที่รูปค่ะราคาและคุณภาพของผ้า ราคาและคุณภาพของผ้าขึ้นอยู่กับ 1)วัตถุดิบที่เอามาทำผ้า 2)ลักษณะการทอของผ้า 1) วัตถุดิบที่เอามาทำผ้า อันนี้ก็แน่นอนค่ะ ถ้าขนของสัตว์นั้นหายากมันก็ย่อมแพง เช่น lamb wool กับ cashmere wool ราคามันก็ต้องแตกต่างกันแน่ละ 2) ลักษณะการทอผ้า ยิ่งทอละเอียดมากเท่าไหร่ ผ้าก็จะยิ่งทนและราคาแพงขึ้นเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ผ้าที่ทอ 60-80 twists ก็ย่อมถูกกว่าและไม่เนียนเท่าผ้าที่ทอด้วย 120 twists ผ้าสูทปกติควรจะเป็นการทอตั้งแต่ 100 twists ขึ้นไปค่ะ หมดแรงเขียนแล้ว ไว้วันหลังค่อยมาต่อกันเรื่อง style ของ Jacket กับ กางเกงนะคะ วันนี้ลาไปก่อนละ ไม่ไหวแหล่ว
Create Date : 02 กรกฎาคม 2548
25 comments
Last Update : 3 กรกฎาคม 2548 6:41:12 น.
Counter : 14210 Pageviews.
โดย: เอ็นสี่ IP: 61.90.102.25 2 กรกฎาคม 2548 13:17:26 น.
โดย: la-la-bell IP: 61.91.142.208 2 กรกฎาคม 2548 15:02:01 น.
โดย: รำเพย 2 กรกฎาคม 2548 18:15:03 น.
โดย: รำเพย 2 กรกฎาคม 2548 18:18:53 น.
โดย: อซ. IP: 203.151.140.123 2 กรกฎาคม 2548 22:04:15 น.
โดย: รำเพย 3 กรกฎาคม 2548 7:07:59 น.
โดย: คีรีบูนปีกบาง IP: 202.69.142.100 3 กรกฎาคม 2548 23:29:24 น.
โดย: mungkood 3 กรกฎาคม 2548 23:42:39 น.
โดย: ด.เด็ก IP: 221.128.101.112 4 กรกฎาคม 2548 10:44:08 น.
โดย: nuanear IP: 58.8.141.130 31 กรกฎาคม 2550 17:00:56 น.
โดย: ต้น IP: 203.146.63.189 12 สิงหาคม 2550 14:20:11 น.
โดย: yumenobasho IP: 219.179.57.134 9 ธันวาคม 2550 10:56:27 น.
โดย: เศรษฐีคนใหม่ IP: 202.28.25.165 11 กันยายน 2551 15:23:02 น.
โดย: โด้ IP: 58.8.166.156 16 ตุลาคม 2551 6:46:11 น.
โดย: เอก IP: 124.121.243.82 28 พฤศจิกายน 2551 11:18:31 น.
โดย: เล็ก IP: 58.9.164.246 15 กรกฎาคม 2552 1:57:43 น.
โดย: ริคาโด้ IP: 58.9.126.78 31 พฤษภาคม 2553 15:01:41 น.
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
สูทจริงๆ ไม่มีอ่ะ
เดี๋ยวมาช่วยเลือกให้หน่อยน๊าาาาาาา