Bloggang.com : รำเพย : ล้างหน้า ล้างเครื่องสำอาง ล้างกันแดด

ล้างหน้า ล้างเครื่องสำอาง ล้างกันแดด

ล้างหน้าใครว่ายาก.... นั่นสิ การล้างหน้ามันไม่น่าจะเป็นเรื่องยากไปได้ แต่มันก็เป็นไปแล้วค่ะ บริษัทเครื่องสำอางสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆออกมามากมาย ทั้งโฟมล้างหน้า ครีมล้างหน้า ครีมเช็ดเครื่องสำอาง สบู่ล้างหน้า ออยล์ล้างเครื่องสำอาง ฯ มันก็น่าอยู่หรอกนะ ที่จะทำให้ผู้บริโภคอย่างเราๆงงกันว่าจะเลือกอะไรใช้จึงจะเหมาะ

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาดผิวหน้าที่ดีควรเป็นอย่างไร?

มันก็ต้องล้างให้หน้าสะอาดสิคะ ถามได้ มันควรทำให้ผิวหน้าของคุณสะอาดเท่านั้นละค่ะ ไม่มีการเพิ่มสารอื่นเข้ามาแปลกปลอม ไม่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่าจะทำหน้าที่อื่นๆด้วย เช่น ล้างหน้าพร้อมๆกับทำให้หน้าชุ่มชื้น (นั่นมันหน้าที่ของ moisturizer)

ต้องล้างหน้าคุณได้สะอาดโดยไม่ทำให้แห้งตึง หรือว่าทิ้งคราบหนึบๆไว้บนผิว

ต้องไม่ครูดผิว พูดง่ายๆก็คือคุณไม่ควรใช้ที่ล้างหน้าที่มีสครับอยู่ด้วยทุกวันค่ะ ถ้าคุณต้องการใช้สครับเพื่อที่จะขจัดเซลผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไปก็สามารถทำได้ แต่ควรใช้อาทิตย์ละไม่เกิน 2 ครั้ง ส่วนที่ล้างหน้าทุกวันๆนั้นขอให้เป็นแบบอ่อนโยนจะดีที่สุด จะได้ไม่ครูดผิวของคุณมากเกินไปนัก

ไม่มีน้ำหอม เพื่อที่จะได้ไม่ระคายเคืองผิว แต่ก็นะ หายากจะตายที่ล้างหน้าที่ไม่มีน้ำหอมนี่น่ะ หาได้ก็ดี หาไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ

ทำไมเรื่องของการล้างหน้ามันถึงได้ยุ่งยากนักนะ

ขอขึ้นต้นด้วยสิ่งที่ทำความสะอาดได้ดีที่สุดคือ "สบู่" ค่ะ ..... ถึงแม้ว่าสบู่จะชำระล้างไขมัน และความสกปรกต่างๆได้ดีมาก แต่สบู่นั้นไม่ใช่สิ่งที่ควรเอามาล้างหน้าเลย เพราะผิวหน้าคนเราปกติมีค่า pH ประมาณ 5.4-5.9 หรือค่อนมาทางกรด แต่สบู่ก้อนๆนั้นจะมีค่าความเป็นด่างค่อนข้างสูงคือ pH 9-10 ซึ่งพอเอามาล้างหน้าแล้วหน้าจะเปลี่ยนสภาวะแวดล้อมกลายไปเป็นด่างอ่อนๆซึ่งเหมาะกับการเจริญเติบโตของ Proprionibacterium acnes (แบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว) เอาสบู่มาล้างตัวน่ะดี แต่เอามาล้างหน้าบ่อยๆนี่เห็นจะมิดีเป็นแน่

การล้างหน้าถ้าเลือกผลิตภัณฑ์ไม่เหมาะสมก็อาจจะทำให้หน้าแห้งเกินไป ซึ่งเป็นสิ่งที่นำไปสู่อาการระคายเคือง อันเป็นสาเหตุของสิวได้ โดยเฉพาะสิวนูนแดง (Papule)

สารชำระล้างบางชนิดก็รุนแรงกว่าชนิดอื่น เช่น Sodium lauryl sulphate ก็จะก่อความระคายเคืองได้ง่ายกว่า sodium laureth sulphate เพราะฉะนั้นจะเลือกที่ล้างหน้าก็ต้องอ่านให้ดีๆนะคะว่ามันมีส่วนผสมของอะไรบ้าง

และที่สำคัญที่สุดคือข้อสุดท้ายนี่แหละค่ะ ....สาเหตุที่ทำให้เรื่องของการล้างหน้ามันยุ่งยากก็คือบริษัทเครื่องสำอางต่างๆนี่แหละตัวดีนักแล มันเป็นสงครามจิตวิทยาอย่างนึงทีเดียวเชียว จุดประสงค์ของเค้าก็คือต้องการทำของมาขายให้คนซื้อ ดังนั้นยิ่งขายผลิตภัณฑ์ได้หลายชนิดเค้าก็ได้เงินมากขึ้น เราถึงเจอกับความสับสนเพราะเค้าสร้างที่ล้างหน้าให้มันมาในหลายรูปแบบทั้ง เจล โฟม ออย ผ้าเช็ดเครื่องสำอาง โทนเนอร์หลังล้างหน้า ฯ "ออยล์ล้างมาสคาร่าต้องใช้คนละตัวกับออยล์ล้างหน้า ไม่ได้นะคะต้องใช้ออยล์เช็ดลิปสติกต่างหากค่า รวมกันไม่ได้" โอย...สารพัดละ ผู้หญิงเราก็ยอมเสียเงินไปสิคะ ก็อยากสวยนี่นะ

เฮ้อ..... เหนื่อย

เอาอย่างนี้ เรามาเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับลักษณะการใช้ของเราจะดีกว่าค่ะ

ชนิดของผลิตภัณฑ์ล้างหน้า
สบู่ : ก็อย่างที่บอกไว้แล้วว่าสบู่น่ะจริงๆแล้วล้างอะไรก็สะอาดสุดๆ แต่ไม่เหมาะกับการเอามาล้างหน้าเพราะว่ามันจะทำให้ pH ของผิวหน้าเปลี่ยนไป ดังนั้นข้ามข้อนี้ไปค่ะ

สบู่สังเคราะห์ หรือ soapless cleanser : อาจจะอยู่ในรูปก้อน โฟม เจล (เช่นเซตาฟิล ซีบ้าเมด ฯ) ที่ล้างหน้าแบบนี้จะมีค่า pH ที่เหมาะสมกับผิวหน้า ไม่ทำให้ผิวหน้าแห้ง และไม่ทิ้งคราบไว้บนผิว

โลชั่นหรือออยล์เช็ดเครื่องสำอาง : กลุ่มนี้จะเป็นการทำความสะอาดผิวหน้าโดยการใช้น้ำมัน เช่น ออยล์ชู, ออยล์ของ DHC, cleansing oil ของ L'Occitane หรือโลชั่นล้างหน้าของนีเวีย กลุ่มนี้จะเหมาะกับคนที่ผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง

ครีมทำความสะอาด : ชื่อก็บอกว่าเป็นครีมนะคะ เพราะงั้นมันก็คือที่ทำความสะอาดหน้าโดยใช้ไขมันคล้ายกับแบบออยล์นั่นแหละค่ะ เพียงแค่ว่ามันจะหนักกว่าหน่อย เช่นพอน์ด cold cream เหมาะกับคนที่แต่งหน้าเข้มๆหน่อย และผิวค่อนข้างแห้ง

โลชั่นเช็ดหน้า (cleansing lotion, clearifying lotion, toner): รำเพยไม่ใช่แฟนของกลุ่มนี้เลย เพราะรู้ว่าถ้าเราล้างหน้าให้ถูกวิธี และเลือกที่ล้างหน้าถูกกับการใช้เราก็สามารถล้างหน้าให้สะอาดได้ โดยที่ไม่ต้องใช้โทนเนอร์ซ้ำอีก แต่ถ้าคุณชอบใช้เพราะใช้แล้วมั่นใจดี ก็ใช้เถอะค่ะมันไม่ได้เลวร้ายอะไรหนักหนา เพียงแค่ว่าควรเลือกหาชนิดที่ไม่มีแอลกอฮอล์ เช่น Alcohol-Free Toner ของ นิวโทรจิน่า หรือ extra comfort toning lotion ของ clarins

นอกจากพวกที่ทำความสะอาดหน้าที่เขียนไว้ข้างต้น ก็ยังมีอีกแบบคือ ที่ทำความสะอาดหน้าแบบที่ใช้ขจัดเซลผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกไปด้วย คุณจะเรียกมันว่า สครับ หรือ facial exfoliatior ถ้าเป็น scrub มันก็จะเป็นการขจัดเซลผิวด้วยการขัด แต่ถ้าเป็นใช้สารเคมีเสริมในผลิตภัณฑ์ล้างหน้านั่นจะถือว่าเป็น chemical exfoliator ค่ะ

Facial scrubbers : ทำความสะอาดผิวพร้อมๆกับขัดลอกเซลที่ตายแล้วด้านบนให้หลุดออกไปพร้อมๆกัน ไม่ควรใช้เกินสัปดาห์ละครั้ง เพราะการครูดผิวหน้าบ่อยๆจะทำให้ผิวหน้าระคายเคืองได้

ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ผสมสารขัดลอกเซลผิวลงไปด้วย (ก็พวกที่ผสม AHA หรือ BHA ลงไปด้วยนั่นแหละ) : รำเพยเคยเห็นว่ามีบางยี่ห้อใส่สารกลุ่มนี้ลงไปในที่ล้างหน้าด้วย ก็ไม่รู้ว่าจะใส่ลงไปทำไมเพราะว่ามันโดนหน้าไม่นานก็ล้างแล้ว ถ้าคุณต้องการจะผลัดเซลผิวให้ได้ผลก็ควรเลือกครีม หรือโลชั่นที่ผสม AHA หรือ BHA ลงไปตรงๆดีกว่า

แถม:
AHA จะทำงานได้ดีในความเข้มข้น 5-8 เปอร์เซนต์ และผลิตภัณฑ์นั้นๆมีค่า pH ที่ 3-4
BHA จะทำงานได้ดีถ้ามีความเข้มข้น 1-2 เปอร์เซนต์ และค่า pH3-4
ถ้าคุณมีกระดาษขมิ้นก็ลองทดสอบเล่นๆดูที่บ้านก็ได้ค่ะ

พอจะทราบแล้วนะคะว่าที่ล้างหน้าแบ่งเป็นกี่แบบกันบ้าง ทีนี้มาลองดูกันว่าจะเลือกอย่างไรให้เหมาะ ทีนี้คำว่าเหมาะน่ะ ต้องดูว่าเหมาะคืออะไร คุณอาจจะเลือกให้เหมาะกับผิวของคุณเช่น ผิวแห้งก็เลือกที่ล้างหน้าที่มีไขมันมากหน่อย ส่วนผิวมันก็เลือกที่ล้างหน้าที่มันน้อยหน่อย แหม...แต่แบบนั้นมันก็ออกจะตรงๆ ง่ายไปหน่อย ที่จริงในเมื่อเราไม่ได้ต้องการให้ที่ล้างหน้ามาบำรุงอะไรหน้าเรานี่นะ เราแค่ต้องการล้างให้หน้าสะอาด และไม่แห้งตึง ดังนั้นเลือกให้เหมาะกับการใช้งานจะดีกว่าค่ะ

คนเราทุกคนผิวบอบบางทั้งนั้นแหละ หรือคุณจะบอกว่าผิวคุณทนท้นทน เอาอะไรมาครูดมาถูบ่อยๆก็ไม่เป็นไร คนเราผิวอ่อนกันทั้งนั้นจริงไหม ทุกคนควรเลือกที่จะหลีกเลี่ยงการเอาผลิตภัณฑ์หลายๆอย่างมาทำร้ายหน้าของเราซะที

ล้างหน้าตอนที่ผิวไม่ได้เลอะเทอะมากมาย
ตอนเช้า ผิวหน้าคุณไม่ได้สกปรกอะไรมากมายใช่ไหม ถ้าคุณตื่นนอนขึ้นมาแล้วหน้าไม่ได้มัน เหนอะหนะอะไรมากมาย น้ำสะอาดล้างก็พอแล้วค่ะ ถ้าคุณเป็นคนหน้ามันหรือก่อนนอนทาครีมไว้เยอะๆ ก็อาจจะเลือกพวก soapless cleanser มาล้างสักหน

ถ้าคุณแต่งหน้า หรือใช้ครีมกันแดด
ต้องล้างให้แน่ใจว่าเครื่องสำอางต่างๆนั้นหลุดหมดจริงๆ โดยเฉพาะรองพื้นและกันแดดซึ่งมักจะติดแน่นทนนานกับผิวของคุณ คุณควรใช้โลชั่นเช็ดเครื่องสำอาง (สำหรับผิวมัน) หรือถ้าคุณแต่งหน้าเยอะจัดก็ใช้พวกครีมเช็ดเครื่องสำอางเช็ดก่อน ถ้าไม่แน่ใจว่าออยล์หรือครีมจะหมดออกไปไหมก็อาจจะใช้พวก soapless cleanser ล้างอีกที ถ้าชอบสะดวกก็ใช้โทนเนอร์เช็ดเพื่อกำจัดความมันคงค้างให้หมดไปก็ได้ค่ะ

วิธีล้างหน้า
ที่จริงรำเพยละงงมากๆที่สาวๆชอบมาถามว่า "อะไรล้างกันแดดออกได้หมดบ้าง" จะบอกให้ว่าอะไรที่ล้างเครื่องสำอางออกได้หมดมันก็ต้องล้างกันแดดออกได้หมดนั่นแหละ กันแดดไม่ใช่กาวตราช้างนะคะ จะได้ติดแน่นอะไรกันมากไปกว่ารองพื้นน่ะ

ที่คุณล้างแล้วมันไม่สะอาด ..... กรุณาอย่าโทษที่ล้างหน้า ..... โทษตัวคุณเองนั่นแหละที่ดันล้างไม่เป็นเอง

วิธีล้างหน้าที่ถูกวิธีจะทำให้คุณกำจัดครีม กำจัดอะไรต่อมิอะไรออกไปได้หมด คุณไม่จำเป็นต้องซื้อที่ล้างหน้าแพงๆขวดละพันมาใช้หรอก ขวดละร้อยกว่าๆก็ล้างได้สะอาดเหมือนกันถ้าล้างเป็น ล้างยังไงถึงจะเรียกว่าล้างเป็น ลองมาดูกัน

1. ถ้าแต่งหน้าหรือทากันแดด ก็ควรใช้ที่ทำความสะอาดเครื่องสำอางออกก่อน ถ้ามันเป็นแบบที่เช็ดออกก็อย่าประหยัดมากนัก ใช้ทาให้ทั่วหน้า แล้วนวดเบาๆจากนั้นปล่อยให้ผลิตภัณฑ์ทำหน้าที่ของมันแล้วจึงค่อยเช็ดออกอย่างเบามือ

ถ้าคุณเลือกที่ล้างเครื่องสำอางที่ละลายน้ำได้ ล้างออกในคราวเดียวก็ให้นวดโฟม หรือที่ล้างหน้านั้นๆให้ทั่วหน้า ปล่อยไว้สักพักแล้วล้างออก

2. ซับหน้าเบาๆ อย่าถู อย่าเช็ดลากพรืดๆ เพราะว่ามันจะทำให้ผิวหน้าถูกขูดเป็นรอย ระคายเคืองผิวและอาจจะก่อให้เกิดผื่นคันได้

สรุป

-เลือกที่ล้างหน้าให้เหมาะกับการใช้งาน แต่งหน้ามากก็ใช้พวกโลชั่นหรือครีมเช็ดเครื่องสำอางออกก่อน แต่งหน้าน้อยๆให้เลือกเอาแบบขั้นตอนเดียวก็พอ

-ยิ่งขั้นตอนน้อย ก็รบกวนผิวน้อยลง ดีกับผิวคุณค่ะ

-คุณไม่จำเป็นต้องใช้ผ้าขัดขี้ไคล หรือว่าแปรงช่วยล้างหน้ามาเป็นเครื่องช่วยในการล้างหน้าหรอกค่ะ แค่อย่างกที่ล้างหน้า และปล่อยให้มันทำหน้าที่ของมันสักพักก่อนจะเช็ดหรือล้างออก

-ซับหน้าอย่างเบามือ อย่าครูดทำความระคายเคืองให้ผิว

ยาวไปหน่อย แต่อยากเขียนให้ละเอียดจริงๆ คงไม่ว่ากันนะคะ

Create Date : 15 พฤศจิกายน 2550

Last Update : 15 พฤศจิกายน 2550 18:25:08 น.

6 comments

Counter : 5559 Pageviews.