2.7 ขวบ +*+* ละทางโลกสู่ทางธรรม +*+*
5555 อ่านหัวข้อแล้วอย่าเพิ่งตกใจว่าแม่จะจับโบอิ้งไปบวชชี หรือตัดหางปล่อยวัดนะ แค่เดือนที่ผ่านมามีประเด็นมาจุดประกายความคิด ปรับมุมมองชีวิตตัวเองและวิธีการเลี้ยงลูก จะว่าไปก็ต้องขอบคุณโบอิ้งที่ทำให้แม่คิดหาวิธีเลี้ยงลูกในแบบของตัวเองได้ หรือดีไม่ดีถ้าแม่ไม่ละความพยายามไปซะก่อน อาจจะได้เดินทางถูกทางตรงของพุทธองค์ท่านกับเขาบ้าง ว่าแล้วก็บันทึกไว้เป็นหลักฐานเตือนใจ เผื่อคิดออกนอกลู่นอกทางจะได้กลับมาอ่านว่าวันนี้คิดไว้อย่างไร
ที่ผ่านมาจะว่าไปก็หาข้อมูลเรื่องการเลี้ยงลูกมาสารพัดรูปแบบ สารพัดวิธี หลากหลายทฤษฎีทั้งไทยทั้งเทศ สอนลูกกับมือมาก็ระยะหนึ่ง ท้อบ้าง ถอยบ้าง แต่หลักใหญ่ใจความก็เน้นให้โบอิ้งช่วยเหลือตัวเองได้ในระดับที่ควรจะเป็น ซึ่งตอนนี้ก็ถือว่าแม่พอใจแล้ว ไม่ว่าจะทานอาหารได้เอง อาบน้ำ สระผม ใส่กางเกง ใส่เสื้อแบบสวมหัว แปรงฟัน บอกอึ/ฉี่ หรือจัดการเข้าห้องน้ำนั่งกระโถนเอง ฯลฯ ถึงจะยังทำเองได้ไม่เนี๊ยบ แต่ก็ไม่อายใคร :)
ส่วนวิชาการก็มีบ้าง แต่เริ่มไม่มุ่งเน้นอะไรเพราะได้ข้อสรุปกับตัวเองแล้วว่า "การสอนแบบจำ ไม่ได้ประโยชน์อะไรในระยะยาว" พอทิ้งระยะไม่นานโบอิ้งก็ลืม แต่ถ้าเขาเข้าใจหรือสนใจไม่ว่าจะสอนแค่ครั้งเดียวหรือแค่ผ่านๆตาแบบไม่ได้ตั้งใจจะสอน เขาก็จะจำได้ และเอามาประยุกต์ใช้เองตามแบบที่เด็กๆ เข้าใจ
ช่วงที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะเผลออารมณ์เสียใส่โบอิ้งไปไม่น้อย จนเหมือนมีอะไรมาดลใจ คว้าธรรมะกรอกหูระงับอารมณ์ ฟังมาก็หลายครั้งแต่ก็ไปไม่ถึงไหน ครั้งนี้ฟังแล้วคิดตาม ผลคือเราสงบ เย็นลง และเหมือนโบอิ้งเองก็อารมณ์เย็นลงด้วย ทำให้ใจมาฉุกคิด จะว่าไปชีวิตคนเราก็ไม่ยาว ไม่แน่ไม่นอน วันนี้คิดดีทำดีพูดดี ไม่รู้จะมีวันพรุ่งนี้ให้ได้สะสมความดีต่อหรือเปล่า ถ้ามีโอกาสสอนให้ลูกเข้าถึงทางที่ถูกได้เร็วเท่าไรก็น่าจะเป็นกำไรชีวิตให้โบอิ้งได้เท่านั้น
เสียดายไปนิดที่แม่คนนี้ก็ยังไปไม่ถึงไหน เคยเข้าวัดเข้าวานั่งเจริญสติกับหลวงปู่มาระยะหนึ่ง แต่ก็ต้องขาดหายไปเพราะมีลูกเล็ก ใจก็ยังแอบคิดอยากเรียนต่อ กลัวแต่ลูกจะไปรบกวนคนอื่นเขา ไว้รู้เรื่องรู้ราวกว่านี้หน่อยจะพาเข้าวัดเจริญสติเสียที ไหนๆก็เริ่มเรียนไปพร้อมกันเลย เพื่อจะหนุนให้หลุดให้พ้นกันได้ในชาติภพนี้
แต่จะว่าไปก็ยากไม่ใช่เล่น เพราะเรื่องแบบนี้ไม่ค่อยเห็นมีใครวางแนวทางไว้เป็นแบบอย่างเลย โดยเฉพาะเด็กเล็กๆ ที่ไม่ค่อยจะนิ่งกับตัวเอง จะเริ่มก็ยังงงๆว่าทำไงดี ทุกวันนี้ก็คงได้แต่สอนตัวเองไปก่อน แล้วพยายามพาลูกเข้าวัด สอนเรื่องการทำบุญ ทำทาน สวดมนต์ก่อนนอน ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย ลองหางานให้จิตทำ แทนที่จะสอนการตามดูตามรู้ลมหายใจ ซึ่งดูท่าจะงงแน่ เลยลองเอาเป็นว่าถ้าท่อง "พุธ" ให้เอานิ้วโป้งแตะกัน ท่อง "โธ" ก็แยกนิ้วออกจากกัน ตอนนี้ทำไปได้แค่ 5 รอบก็เริ่มยุกยิกไม่เอาอีกแล้ว แต่ก็นะดีกว่าไม่ได้เริ่มอะไรกันเลย ระหว่างนี้ขอแม่ศึกษาไปพลางๆก่อนนะ ทฤษฎีก็ไม่เป๊ะ ปฏิบัติยิ่งไม่ผ่าน คิดจะเป็นครูให้ลูกเลยต้องทำการบ้านกันขนานใหญ่
หรือใครผ่านมาอ่านมาเจอ มีวิธีดีๆ อย่าลืมแนะนำกันนะคะ
หนีไปฟังธรรมก่อนแล้วนะ
ธรรมะรักษาจ้าลูกรัก :)
Create Date : 09 มีนาคม 2555 |
|
1 comments |
Last Update : 9 มีนาคม 2555 23:36:53 น. |
Counter : 1191 Pageviews. |
|
|
|
งานนี้ต้องเอาธรรมะเข้าข่มกันเลยทีเดียว อิอิ
ของส้มก็อาศัยอ่านจากหนังสือต่างๆเอาน่ะค่ะ
โดยเฉพาะเรื่องเวลาโกรธลูก จำขึ้นใจเลย
เขาว่าห้ามใส่อารมณ์กับลูกเด็ดขาดเลย
ไม่มีผลดีมีแต่ผลเสียเนาะ ก็เลยพยายามข่มใจ
เพราะจ๋ำจ๋ำเองก็แสบใช่ย่อยจ้ะ
เรื่องดื้อนี่ไม่เป็น 2 รองใคร เป็นธรรมนดาของเด็กเนาะ
หลังๆเริ่มทำใจได้ ค่อยๆคุยกับเขา กอดเขา
แล้วหลังๆมานี่จ๋ำจ๋ำไม่ค่อยดื้อกับส้มนะคะ
จะไปดื้อกับย่ากับพ่อเขาแทน 555
ขอบคุณมิ๊หญิงที่ไปแสดงความยินดีเรื่องน้องในพุง
ของแม่ส้มด้วยนะคะ
ปล. เห็นด้วยว่าช่วงนี้ เด็กผู้ชาย มีเยอะจริงๆ
สงสัยโลกเราจะเปลี่ยนแปลงไปซะแล้วล่ะค่ะ