เรื่องหัวใจ กับ หู ทำให้ เฮ้อ...

เมื่อวาน แม่กับพ่อพาหนู ไปตรวจติดตาม อาการของหัวใจ ตามที่หมอนัด แม่ไปด้วยอารมณ์แบบซิวๆ มาก เพราะ
- น้ำหนักของหนูก็ขึ้นดี
- ดูดนมได้ ไม่มีเหนื่อย
- การหายใจ ถึงแม้ว่า จะมีเสียงครื้ดคราดบ้าง แต่ก็ถือว่า น้อยกว่าเดิมเยอะ

แม่ว่า "หัวใจ" ของหนู น่าจะไม่มีปัญหาอะไรแล้วละ

ก่อนพบคุณหมอ แม่พาหนูไปชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง และวัดระดับออกซิเจนในร่างกาย
หนูหนัก 4,900 กรัม สูง 56.5 ออกซิเจนในร่างกาย 100 เต็ม
คุณหมอ 2 ท่าน (คุณหมออยู่ในทีมที่เคยดูแล ตอนที่หนูอยู่ในห้อง NICU) ทำการตรวจร่างกายของหนู พร้อมฟังเสียงการเต้นของหัวใจ
แล้วรายงานผลตรวจ ให้อาจารย์หมอฟังอีกครั้ง (สรุปว่า การตรวจครั้งนี้ ใช้หมอ 3 ท่านเลย)

คุณหมอ 2 ท่าน รายงานผลการเต้นหัวใจของหนูครั้งนี้ ว่า ปกติ
อาจารย์หมอ มาตรวจอีกครั้ง ใช้เวลาฟัง ไม่นานเท่าไหร่ แล้วบอกให้คุณหมอ 2 ท่านฟังดีๆ ฟังตอนที่น้องเค้าหยุดหายใจด้วย ฟังให้ถึงปลายขั้วหัวใจเลย

พอคุณหมอ 2 ท่านมาตรวจอีกครั้ง คราวนี้ ใช้เวลาตรวจค่อนข้างนานทีเดียว แล้วบอกว่า ได้ยินเสียงแฟ้บๆๆ นิดนึง

แล้วคุณหมอ 3 ท่านก็คุยกันต่ออีกสักพัก....

อาจารย์หมอให้พาหนูไปเอ็กซเรย์หัวใจ เพื่อสนับสนุนผลการตรวจ

หลังได้ผลมาแล้ว คุณหมอก็ แจ้ง พ่อกับแม่ ว่า

ลิ้นหัวใจที่เคยรั่ว ตอนนี้ ปิดเรียบร้อยแล้ว (แม่ดีใจทีสุด)

แต่หัวใจ ห้องล่างด้านซ้าย โต กว่าปกติ เนื่องมาจาก มีเส้นเลือดบางเส้น "ตีบ" (กี่เส้นก็ไม่รู้) ทำให้เลือดไม่สามารถผ่านไปได้ด้วยดี ส่งผลให้หัวใจตรงนี้ ทำงานหนักกว่าปกติ

ถ้าหัวใจทำงานหนักเกินไป ตัวของหนูจะเหนื่อยง่าย และถ้าเลวร้ายมากๆ หัวใจก็จะล้มเหลวได้

แนวทางการ รักษา เนื่องจาก ตอนนี้ หัวใจของหนู ยังคงทำงานได้ตามปกติ ไม่มีอาการเหนื่อยแต่อย่างใด ก็ให้ ติดตามอาการต่อไป

แต่ เมื่อไหร่ ที่ตัวของหนู เริ่มดูดนมได้น้อยลง ดูดแล้วพักหายใจทางปาก เท้าบวม หายใจเร็ว คุณหมอจะให้ยาขยายหลอดเลือด (แม่ต้องเฝ้าสังเกตอาการของหนูอย่างเคร่งครัดแล้วละ)

แม่ทำได้แค่ เฮ้อออออ

หลังจากตรวจหัวใจเสร็จ แม่แวะเข้าไปตรวจ คัดกรองการได้ยิน อีกครั้ง คุณหมอ ใช้เวลาตรวจหลายครั้งมากๆๆ "ไม่ผ่าน" ทุกครั้ง
คุณหมอได้แต่พูดว่า มหัศจรรย์ เหมือนจะผ่าน แต่ไม่ผ่าน (ช่วงที่ตรวจ หนูหลับไม่ค่อยสนิท และหายใจเสียงดังครืดคร้าด) คุณหมอคิดว่า น่าจะเกิดจากสาเหตุนี้ แต่ก็ใช้เวลาค่อนข้างนานทีเดียว ก็เลยให้มาตรวจใหม่อีกที
แต่คราวนี้ จะตรวจแบบ ABR (ตรวจก้านสมอง) การตรวจแบบนี้ จะบอกได้เลยว่า หนูได้ยินหรือไม่ ถ้าได้ยิน ได้ยินกี่เดซิเบล แต่ต้องใช้ยานอนหลับ ซึ่งคุณหมอไม่อยากใช้วิธีนี้ เพราะหนูยังเด็กเกินไป

ดังนั้น ก่อนตรวจ คุณหมอให้แม่ขอคำแนะนำจากหมอเด็กอีกที ว่าสามารถให้หนูใช้ยานอนหลับได้หรือเปล่า?????

เฮ้ออออออ

กลับถึงบ้าน

พอหนูหลับสนิท ได้สักพัก แม่เอาของเล่นที่มีเสียงดัง มาเขย่า ไกลจากหนูพอควร เสียงก็ดังมากทีเดียว
หนู....สดุ้งงงง ตื่นเลย แม่ปลอบหนูนอนต่อ

แค่นี้แหละ ที่แม่ต้องการรู้ ถึงแม้จะได้ยินแบบเบาๆๆ ก็ยังดีนะ หวังว่า ผลการตรวจการได้ยิน จะออกมา ให้แม่ได้ชื่นใจหน่อยเนอะ

แม่รักหนูจัง

Create Date : 10 กันยายน 2554 Last Update : 10 กันยายน 2554 20:12:02 น. Counter : 2860 Pageviews.		11 comments
Share Tweet