หลวงพระบางเป็นเมืองที่เดินทางไปเที่ยวได้สะดวกครับ มีไฟล์ทบินตรงไปหลวงพระบางทุกวันโดยไม่ต้องขอวีซ่า การสื่อสารยิ่งไม่เป็นปัญหาเพราะภาษาไทยและภาษาลาวของคนที่นั่นใกล้เคียงกัน สามาถพูดคุย ซื้อของกันได้สบาย ภายในหลวงพระบางเหมาะกับการเดินเล่นหรือปั่นจักรยานชมเมือง มีร้านกาแฟน่านั่งหลายแห่ง หรือไปชมวิถีชีวิตชาวลาวที่ริมแม่น้ำทั้งแม่น้ำคานและแม่น้ำโขง อาคารบ้านเรือนในหลวงพระบางได้ถูกอนุรักษณ์ไว้ มองไปทางไหนก็เห็นอาคารสมัยก่อน ดังนั้นที่นี่จะไม่มีห้างสรรพสินค้าให้ช๊อปปิ้งหรือโรงภาพยนตร์เหมือนในเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ กิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวนอกจากเดินเล่นในเมือง ชมความงดงามของบ้านเมืองและผู้คนในหลวงพระบางแล้ว ยังสามารถล่องเรือไปตามลำน้ำโขง ชมธรรมชาติที่สวยงามสองฝั่งแม่น้ำ เหมือนที่ผมจะพาไปชมในนิตยสารฉบับนี้ และฉบับนี้ผมจะพาไปรู้จักกับรีสอร์ทอีกแห่งหนึ่งซึ่งอยู่นอกเมืองหลวงพระบางไปนิดเดียว ที่ Sofitel Luang Prabang
ที่นี่เป็นรีสอร์ทที่ออกแบบได้สวยงาม มีสิ่งอำนวยความสะดวกหลายๆอย่าง ทั้ง สระว่ายน้ำ สปา ฟิตเนส ห้องสอนทำอาหาร และสามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกจากบริการรถของรีสอร์ท ภายในรีสอร์ทร่มรื่น เหมาะกับการพักผ่อน ทั้งพื้นที่ส่วนกลางและอาคารห้องพักถูกออกแบบกลมกลืนไปกับเมืองหลวงพระบาง แต่คงไว้ซึ่งความสะดวกสบาย ลองมาชมบรรยากาศใน โซฟิเทล หลวงพระบาง และการล่องเรือไปตามลำน้ำโขงกับ Mekong Kingdoms ซึ่งเป็นตอนที่ 2 ของทริปหลวงพระบางในนิตยสาร online ชานไม้ชายเขาฉบับที่ 179 มาชมความสุขที่เรียบง่ายในหลวงพระบางอีกตอนหนึ่งครับ
หลวงพระบางเป็นเมืองท่ามกลางหุบเขา ที่แม่น้ำคานมาบรรจบกับแม่น้ำโขง
วิวจากบนเครื่องสวยจริงๆ ใครนั่งเครื่องไปที่นี่ผมแนะนำให้นั่งริมหน้าต่างเลยครับ
ตอนที่ 1 ผมได้พาไปชมโรงแรมในเมืองหลวงพระบางกันไปแล้วซึ่งเป็นโรงแรมที่เดินทางไปไหนก็สะดวก (ที่ 3 Nagas Luang Prabang MGallery by Sofitel )
ตอนที่ 2 ผมจะพาไปชมรีสอร์ทที่อยู่นอกเมืองไปซักนิดครับ
Sofitel Luang Prabang เป็นรีสอร์ทหรู ที่ออกแบบได้สวยงามในเครือเดียวกับ 3 Nagas Luang Prabang MGallery by Sofitel ที่อยู่ในเมือง
ที่นี่มีรถโบราณสีขาวจอดเด่นอยู่หน้ารีสอร์ท
Lobby ที่ใต้ถุนบ้าน ได้บรรยากาศของบ้านสมัยก่อน โปร่งสบาย
การตกแต่งใน Lobby ที่สวยงาม เข้ากับความเป็นหลวงพระบาง
บริเวณนี้จะแยกโซนจากห้องพัก ตรงนี้จะมีเฉพาะพื้นที่ส่วนกลาง
ลานสนามหญ้าที่ทำให้รีสอร์ทดูโปร่ง ได้บรรยากาศของการมาพักผ่อน
อาคารแต่ละหลังถูกออกแบบได้สวยงาม
ภายในรีสอร์ทร่มรื่น น่าอยู่
มาชมบรรยากาศช่วงกลางวัน ทางเข้าซ้ายมือคือทางเข้าไปยังโซนห้องพัก
ช่องทางเดินไปยังห้องพักที่สวยงาม
รายละเอียดการตกแต่งในรีสอร์ท
ทางเดินเข้าไปยังส่วนของห้องพักและห้องอาหาร
ที่นั่งเล่นในโซนห้องพักที่ร่มรื่น น่าพักผ่อน
มีการจัดสวนที่สวยงาม
พอเข้ามาในโซนห้องพักจะเจอห้องอาหารอยู่ขวามือ
ห้องอาหารของรีสอร์ทมีชื่อว่า Governor's Grill
ที่นี่เป็นทั้งห้องอาหารและบาร์ บรรยากาศดี
บริการอาหารทุกมื้อ รวมถึงอาหารเช้า
เปลนอนเล่นสบายๆท่ามกลางบรรยากาศที่ร่มรื่นในรีสอร์ท
ใกล้ๆห้องอาหารจะเป็นสระว่ายน้ำส่วนกลางของรีสอร์ท
เป็นสระว่ายน้ำส่วนกลางขนาดใหญ่ทีเดียว
อาคารอยู่หน้าสระว่ายน้ำเป็นอาคารห้องพัก ถ้าได้พักอาคารนี้ลงสระได้สะดวกมากๆครับ
ข้างๆสระจะมีที่นั่งเล่น ช่วงเย็นๆจะมี cocktail และเครื่องดื่มบริการฟรี
ช่วงเย็นๆบรรยากาศที่นี่น่ามานั่งเล่นพักผ่อน
ชอบการออกแบบอาคารห้องพักที่ดูสวยงาม ร่วมสมัย
ช่วงไหนอากาศร้อนๆ ได้มาเล่นน้ำในสระ สดชื่น ที่นี่มีห้องฟิตเนสด้วยครับ
บรรยากาศร่มรื่นกับมุมพักผ่อนในรีสอร์ท
ป้ายบอกทางที่สวยงาม ทุกอย่างที่นี่มีการเก็บรายละเอียดที่ดี มีห้องประชุมด้วยครับ
พอเข้ามาในโซนห้องพักห้องอาหาร จะมีอาคารทั้งสี่ด้านโดยพื้นที่ตรงกลางจะเป็นสวน สระว่ายน้ำ
ห้องอาหาร Governor's Grill ในสวน
มุมพักผ่อนสบายๆที่มีอยู่หลายจุด
ต่อไปผมจะพาไปชมในส่วนของห้องพักบ้างครับ
ห้องนี้เป็นห้องพักแบบ Garden Suite
ที่นั่งเล่น นอนเล่น ดูทีวี
เตียงนอนที่น่านอน
ในส่วนของห้องน้ำที่กว้างสบาย
ห้องพักที่นี่เพดานสูงโปร่ง
มีส่วนของอ่างอาบน้ำ
และส่วนของ Shower
ชอบการตกแต่งภายในห้องพักของที่นี่มากๆ
จุดเด่นที่สำคัญของห้องประเภทนี้คือสวนเล็กๆที่มีอ่างอาบน้ำด้านนอก
มีที่นอนเล่นนั่งเล่นหลายจุด
ในสวนจะมีความเป็นส่วนตัว ออกมาแช่น้ำเล่นได้เลย
ถึงแม้ในห้องพักจะไม่เห็นวิวภายนอก แต่ก็ทดแทนด้วยสวนน่ารักๆ และอ่างอาบน้ำ
เตียงนอนสี่เสา สวยมากๆ ที่นอนก็หลับสบาย
ตอนเข้าไปในห้องวันแรกจะมีผลไม้ต้อนรับ เครื่องดื่ม ขนมให้ด้วยครับ
ชอบห้องพักของที่นี่มาก น่าพักผ่อน มีมุมให้นั่งเล่น พักผ่อนทั้งในห้องและนอกห้อง
มาชมบรรยากาศข้างนอกกันต่อ
อาคารทุกอาคารในรีสอร์ทถูกออกแบบได้สวยงาม
โชคดีช่วงที่ผมไปมีการจัดพิธีบายศรีเพื่อเป็นสิริมงคลแก่แขกที่เข้าพัก
แขกทุกคนในรีสอร์ทจะถูกเชิญให้เข้าร่วม เป็นพิธีง่ายๆและอบอุ่น
พิธีบายศรีจะจัดที่กลางสนามหญ้าข้างๆ Lobby
มีผู้เฒ่าผู้แก่มาผูกข้อมือให้ อบอุ่นมากๆ
เป็นรีสอร์ทแรกที่ผมเคยเข้าพักที่มีพิธีบายศรีอย่างนี้ รู้สึกดีมากๆครับ
อาคาร lobby ช่วงใกล้ค่ำดูสวยงาม
ชอบการออกแบบที่ทำให้บรรยากาศเข้ากับรีสอร์ทในเมืองมรดกโลก
ภายใน lobby
มีที่นั่งเล่นอยู่หลายมุม และที่ lobby มีพนักงานอยู่ประจำคอยให้ความช่วยเหลือ
ห้องสมุดในรีสอร์ท สามารถเข้ามาทานอาหารในนี้ก็ได้ครับ
ตอนเช้าถ้าต้องการไปตักบาตรข้าวเหนียว สามารถแจ้งทางรีสอร์ทไว้ล่วงหน้า ทางรีสอร์ทจะจัดรถไปส่งในเมืองหน้าโรงแรม 3 Nagas
จากนั้นจะทานอาหารเช้าที่โรงแรม 3 Nagas ก็ได้ครับ หรือกลับมาทานที่โรงแรม ผมแนะนำว่ากลับมาทานที่ Sofitel มีอาหารให้เลือกเยอะกว่า
มาดูอาหารเช้าที่โซฟิเทลบ้างครับ เริ่มจากเบเกอรี่ซึ่งอยู่ในไลน์บุฟเฟต์
กาแฟหอมๆ สำหรับเริ่มต้นเช้าวันใหม่
หรือจะเป็นชา
อาหารเช้าที่นี่มีทั้งไลน์บุฟเฟต์และอาหารที่สั่งจากเมนูให้เลือก
สลัดผักที่น่าทาน
อาหารเช้าจากเมนูมีอาหารท้องถิ่นให้เลือกด้วยครับ
ข้าวต้มร้อนๆ น่าทานมากๆ
เมนูเส้น เฝอ อร่อยดี สั่งได้เรื่อยๆเลยครับ จนกว่าจะอิ่ม
มีพนักงานมาเตรียมเมนูไข่แบบต่างๆ
ทานอาหารเช้ากันแล้ว พร้อมที่จะออกเดินทางไปล่องเรือในแม่น้ำโขงกันต่อ ซึ่งเป็น highlight ของทริปนี้เลยครับ
ตอนแรกไม่นึกว่าจะเป็นเรือที่สวยและเป็นส่วนตัวแบบนี้ เรือลำนี้มีชื่อว่า Play โดย Mekong Kingdoms
เป็นเรือหรู สำหรับเช่าเหมาลำแบบส่วนตัว ภายในเรือมีสิ่งอำนวยความสะดวกหลายๆอย่างทั้งห้องน้ำ ห้องปรับอากาศ บาร์ โต๊ะทานอาหาร มุมนอนเล่นชมวิว
สามารถมาเที่ยวเป็นกลุ่มแบบส่วนตัว หรือจัดงานอีเวนต์บนเรือ บรรยากาศดีมากๆ
จุดหมายการล่องเรือครั้งนี้คือถ้ำปากอู แต่สิ่งที่ทำให้ประทับใจมากกว่าจุดหมายก็คือบรรยากาศระหว่างการล่องเรือ
บอกตามตรงเลยครับ ไม่อยากให้ถึงปลายทาง เพราะบรรยากาศการล่องเรือชิลมากๆ
ลมเย็นๆ วิวสวยๆ หมอกงามๆ เป็นการล่องเรือที่ประทับใจมากครับ
วิวสองข้างทางสวยมากๆ อากาศเย็นๆ เห็นหมอก อากาศเป็นใจ
เป็นการล่องแม่น้ำโขงที่ผ่านภูเขาสวยๆ วันที่ผมไปมีฝนตกเป็นบางช่วงทำให้มีหมอก ยิ่งสวยเข้าไปอีก
ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ชมวิวสวยๆ
ธรรมชาติที่นี่ยังสมบูรณ์มากๆ เป็นการล่องเรือที่ไม่เบื่อเลยครับ
บรรยากาศสบายๆของสมาชิกร่วมทริป
เป็นทริปที่ชิลมากๆ ใครที่มาเที่ยวหลวงพระบางแนะนำเลยครับ
เพจแม่ประนอมก็มา เจ้าของเพจน่ารักมากๆ ทุกคนล้วนประทับใจไปกับบรรยากาศการล่องเรือ
การเช่าเหมาลำปกติจะไม่รวมอาหารและเครื่องดื่ม แต่สามารถให้ทางเรือจัดให้ได้โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
อาหารว่างของทริปนั้น ได้ทั้งวิวสวยๆ การล่องเรือชิลๆ และอาหารอร่อยๆ
อิ่มอร่อยไปกับอาหารที่น่าทานและวิวสวยๆ
สมกับเป็นเมืองแห่งสายน้ำและภูเขาจริงๆสำหรับหลวงพระบาง
ถึงแล้วครับ ใช้เวลาล่องเรือเกือบๆสองชั่วโมงก็มาถึงถ้ำปากอู
นักท่องเที่ยวนิยมล่องเรือมาเที่ยวถ้ำนี้
ที่นี่เป็นถ้ำที่ไม่ลึกมาก มีพระพุทธรูปจำนวนมากภายในถ้ำ
เป็นถ้ำที่อยู่ติดกับแม่น้ำโขงเลยครับ มีบันไดขึ้นมาสะดวก
พระพุทธรูปภายในถ้ำ
บรรยากาศบริเวณปากถ้ำ มีเรือนักท่องเที่ยวหลายลำมาที่นี่
จริงๆแล้วภายในถ้ำไม่มีอะไรตื่นเต้นมากนักครับ ชอบบรรยากาศการล่องเรือ ชมวิวสองข้างทางมากกว่า
สมาชิกร่วมทริปต่างประทับใจกันทุกคน
เป็นการล่องเรือที่ประทับใจอีกครั้งหนึ่ง ได้บรรยากาศธรรมชาติมากๆ
ขากลับเราจะทานอาหารเที่ยงกันบนเรือเลยครับ
บรรยากาศที่โต๊ะอาหารในเรือ
เมนูอาหารบนเรือ ห่อหมกปลาแม่น้ำ อร่อยมากๆ
จานนี้เป็นไก่ย่างส้มตำ
ตบท้ายด้วยของหวานอร่อยๆ
เป็นการล่องเรือที่ประทับใจมากๆครับ สำหรับเรือลำนี้ ค่าเช่าเหมาลำอยู่ที่ 750 USD สำหรับครึ่งวัน (4 ขั่วโมง) และ 1200 USD สำหรับเต็มวัน (8 ชั่วโมง) ไม่รวมอาหาร เครื่องดื่ม รับผู้โดยสารได้ 25 คน ดูข้อมูลเพิ่มเติมจากเพจของบริษัทได้ที่
https://www.facebook.com/MekongKingdomsRiverBoats/ หรือเวปได้ที่
//mekongkingdoms.com ทางบริษัทมีเรือหลายขนาดให้เลือกครับ
จากนั้นกลับมาที่รีสอร์ท
มาเล่นน้ำ พักผ่อนสบายๆ
หรือมานั่งเล่นในสวนภายในห้องพัก
จะแช่น้ำอุ่นในบรรยากาศส่วนตัว
ฟ้าใสสวยมากๆ ถ้าช่วงหน้าหนาวคงยิ่งบรรยากาศดี
หลังจากออกไปเที่ยวข้างนอกมา ได้กลับมาพักผ่อนในรีสอร์ทก็สบายไปอีกแบบ
มาชมส่วนของสปาในรีสอร์ทกันซักนิด สปาของรีสอร์ทอยู่ในอาคารใกล้ๆ lobby
ห้องทำสปาที่บรรยากาศดี
ห้องน้ำที่ออกแบบได้สวยงาม
ชอบการออกแบบและตกแต่งของที่นี่มากๆ
ใครมาที่นี่ลองแวะมาทำสปา มานวดดูนะครับ
สปาที่นี่ชื่อว่า Le SPA
มาเก็บตกช่วงสุดท้ายของรีวิวทริปหลวงพระบาง
ที่นี่เป็นรีสอร์ทที่ร่มรื่น มีสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่าง
ของประดับในรีสอร์ทจากสุ่มไก่
ที่นั่งเล่นภายในรีสอร์ท บรรยากาศสงบ น่าพักผ่อน
ได้มาว่ายน้ำเล่นที่นี่ตอนเช้าๆ สดชื่นมากๆ
ชอบการออกแบบอาคารในรีสอร์ท สวยมากๆ
แล้วก็ได้เวลาเดินทางกลับ เมืองหลวงพระบางจากบนเครื่อง
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในทำเลที่สวยมากๆ
โบกมือลาเมืองหลวงพระบาง เป็นอีกทริปหนึ่งที่ประทับใจมากๆครับ
หวังว่าคงมีโอกาสคงได้กลับมาที่นี่อีก
ปิดท้ายด้วยภาพจากปก บริเวณ lobby ที่ออกแบบได้สวยงามของโซฟิเทล หลวงพระบาง
เป็นทริปประทับใจอีกทริปหนึ่งกับการเดินทางมายังหลวงพระบางครั้งแรกของผม ประทับใจกับผู้คน อาคารบ้านเรือน คนที่นี่ใจเย็น ยิ้มง่าย เป็นมิตร มีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ประทับใจกับความเป็นธรรมชาติที่เป็นเมืองกลางหุบเขาและมีแม่น้ำสายสำคัญไหลผ่านสองสาย มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งไม่ว่าจะเป็นน้ำตก วัดสวยๆ ถ้ำ ทำให้ช่วงเวลาในหลวงพระบางไม่เบื่อ เหมาะกับการให้เวลาผ่านไปช้าๆ ส่วนโซฟิเทล หลวงพระบาง เป็นรีสอร์ทที่ออกแบบได้สวย ภายในร่มรื่น อาคารต่างๆได้กลิ่นอายของความเป็นหลวงพระบาง ห้องพักสะดวกสบาย อาหารเช้ามีทั้งไลน์บุฟเฟต์และที่สั่งจากเมนู มีอาหารให้เลือกหลายอย่าง นอกจากนี้ยังมีพิธีบายศรีจากผู้เฒ่าผู้แก่เพื่อเป็นสิริมงคลให้กับแขกที่เข้าพัก โดยจะมีพิธีนี้หนึ่งครั้งในสัปดาห์ โดยไม่ได้กำหนดตามตัวว่าเป็นวันไหน แต่จะเลือกช่วงเย็นในวันที่มีแขกในรีสอร์ทมากๆซึ่งจะแจ้งให้แขกทราบล่วงหน้า ลองมาดูสรุปจุดเด่นจุดด้อยของที่นี่ในมุมมองของผมครับ
จุดเด่น
- เป็นรีสอร์ทที่ออกแบบได้สวยงาม ผสมผสานความสะดวกสบายและสถาปัตยกรรมย้อนยุคในหลวงพระบางได้อย่างลงตัว ได้กลิ่นอายของความเป็นหลวงพระบาง
- ห้องพักน่าอยู่ มีพื้นที่สวน ที่นั่งเล่นและอ่างแช่น้ำในสวน เป็นส่วนตัว
- มีสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่างเช่น สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ห้องฟิตเนส สปา ห้องสอนทำอาหาร
- ห้องอาหารบรรยากาศดี อาหารอร่อย อาหารเช้ามีให้เลือกหลายอย่าง
- มีรถบริการไปส่งในเมืองหลวงพระบาง สามารถออกไปตักบาตรข้าวเหนียวตอนเช้า
- พนักงานมีใจบริการที่ดีมาก ดูแลช่วยเหลือทุกๆอย่างเป็นอย่างดี
จุดด้อย
- อยู่นอกเมืองหลวงพระบางในส่วนที่เป็นมรดกโลก
- ห้องพักของที่นี่จะไม่เห็นวิวภายนอกครับ มีพื้นที่สวนให้นั่งเล่น
ประทับใจมากครับกับ โซฟิเทล หลวงพระบาง และการล่องเรือไปกับ Mekong Kingdoms เป็นประสบการณ์เดินทางที่น่าประทับใจอีกครั้งหนึ่ง ขอบคุณพนักงานที่ Sofitel ทุกๆคน ขอบคุณคุณเอ็ม พักสบาย ที่ชวนไปทริปนี้ ประทับใจมากๆ ขอบคุณเพื่อนร่วมทริปหลวงพระบางทุกๆคน ไว้เจอกันใหม่ในนิตยสารฉบับหน้านะครับ