Group Blog
All Blog
|
Krill Oil วิตามินที่ทรงคุณค่าต่อร่างกายจากใต้ท้องทะเลลึก Antarctic Krill(Euphausia superba)เรียกสั้นๆว่า Krill เป็นหนึ่งในสัตว์ทะเลที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลก โดยนักวิทยาศาสตร์คาดว่ามีประมาณ 500 ล้านตันที่พบในมหาสมุทรใต้(Southern Ocean)หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ มหาสมุทรแอนตาร์กติก(Antarctic Ocean) ไข่ตัวเมียสามารถวางไข่ได้ถึง 10,000 ฟองต่อครั้ง และสามารถวางไข่ได้หลายครั้งในแต่ละฤดูกาล Krill ดำรงชีวิตยืดหยุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ ในช่วงฤดูหนาวเมื่ออาหารขาดแคลน จะสามารถหาแหล่งอาหารอื่น ๆ เช่น สาหร่ายที่อยู่ใต้พื้นผิวของน้ำแข็งบนพื้นมหาสมุทร แม้ในช่วงเวลาที่โหดร้าย krill สามารถอยู่ได้ถึง 200 วันโดยไม่มีอาหาร Krill Oil(คริลออยล์)เป็นน้ำมันที่สกัดได้จากสัตว์ทะเลขนาดเล็กกลุ่มเดียวกับกุ้ง อาศัยอยู่แถบมหาสมุทรแอนตาร์กติก ซึ่งเป็นมหาสมุทรที่อยู่ล้อมรอบทวีปแอนตาร์กติกา บางส่วนปกคลุมด้วยทะเลน้ำแข็งตลอดทั้งปีและเกือบทั้งมหาสมุทรในฤดูหนาว คริลออยล์มีสีแดงที่โดดเด่น ในขณะที่น้ำมันปลามีสีเหลืองหรือสีทอง Krill Oil มักมีราคาแพงกว่าน้ำมันปลา Krill Oil และน้ำมันปลา(Fish Oil)เป็นอาหารเสริมที่มีโครงสร้างคล้ายคลึงกัน คือกรดไขมันโอเมก้า 3 ได้แก่ DHA และEPA แต่ Krill Oil ประกอบด้วยสารประกอบที่โดดเด่นอีกตัวชื่อว่า Astaxanthin(แอสตาแซนธิน) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ไขมันโอเมก้า 3 ในน้ำมัน Krill พบได้ในรูปของโมเลกุลที่เรียกว่า phospholipids ซึ่งดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ง่ายขึ้น ฟอสโฟไลปิด(phospholipids)มีหน้าที่สะสมพลังงานในเซลล์ไขมัน(Fat cell)เป็นส่วนประกอบของเซลล์เมมเบรน(Cell Membrane)ซึ่งทำหน้าที่ให้สารบางชนิดผ่านเข้าไปในเซลล์ได้ พบมากในสมองและเส้นประสาท อีกทั้งทำหน้าที่เป็นสารรับส่งสารเคมีไปยังส่วนต่างๆ(Chemical messenger) Krill Oil มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง เช่น docosahexaenoic acid(DHA)และ eicosapentaenoic acid(EPA)ซึ่งมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ การตรวจสอบอย่างหนึ่งจากประเทศนอร์เวย์ โดยรวบรวมผลจากการศึกษา 14 ชิ้น พบว่า DHA และ EPA ที่พบใน Krill Oil สามารถออกฤทธิ์ทางชีวภาพมากกว่าน้ำมันปลา จึงเป็นอาหารเสริมที่นิยมในยุโรป ซึ่งเป็นตลาดระดับภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุด โดยมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 35% ซึ่งประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวียในภูมิภาคยุโรปจัดเป็นผู้บริโภครายใหญ่ ผลข้างเคียงที่พบบ่อยของ Krill Oil ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน ลมหายใจมีกลิ่น ท้องอืดท้องเฟ้อ มีประโยชน์อย่างไร 1.ลดการสะสมไขมันในผนังหลอดเลือด ลดการสังเคราะห์คอเลสเตอรอล(Cholesterol)ลดไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์(Triglyceride)และไขมันไม่ดี(LDL) 2.ลดอาการอักเสบในร่างกาย โดยเฉพาะโรคข้อเข่าเสื่อมและโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ 3.ดูดซึมได้ดีกว่าน้ำมันปลา(fish oil หรือ Omega-3)เนื่องจากมีโครงสร้างโมเลกุลแบบ phospholipids 4.ปราศจากสารปนเปื้อนด้วยโลหะหนักและปรอท เนื่องจาก krill อาศัยอยู่ล่างสุดของห่วงโซ่อาหาร 5.มีส่วนประกอบของโคลีน(Choline)ซึ่งเป็นสารตั้งต้นสำหรับ acetylcholine ที่ส่งสัญญาณไปยังสมอง จึงช่วยลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ระบบประสาทและสมอง 6.Krill มีสารประกอบแอสตาแซนธิน(Astaxanthin) ทำให้มีความเสถียรและมีโอกาสน้อยที่จะเกิดการออกซิไดซ์ 7.ลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ เช่น หลอดเลือดหัวใจตีบ แป้งทดลองกิน Krill Oil 1000 mg ต่อวัน ได้ไม่ถึงเดือน น่าจะเกือบ 3 สัปดาห์ ปรากฎว่า น้ำหนักเพิ่มขึ้นฮวบๆ 2 กิโลกรัมแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว กินอะไรก็อร่อยไปหมด เลยไม่ทันได้เปรียบเทียบว่า Krill Oil ดีกว่า Fish Oil อย่างไร เพราะหยุดกินไปโดยปริยาย กลัวว่าน้ำหนักที่เกินมา จะรีดออกยากค่ะ ที่มา : Are Krill Oil Benefits Even Better than Fish Oil Benefits? - Dr. Axehttps://draxe.com › krill-oil-benefits Krill oil vs fish oil: Which is better and why? - Medical News Todayhttps://www.medicalnewstoday.com › arti... Krill Oil vs Fish Oil: Which Is Better for You? - Healthlinehttps://www.healthline.com › nutrition Why Krill Oil Is More Stable than Fish Oil | Nutritional Outlookwww.nutritionaloutlook.com › omega-3 |
แป้งปังปอนด์
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 878 คน [?] เริ่มเขียนblog 20ก.ค55 ปัจจุบัน ( 3 มี.ค 57 ) แป้งได้มีเพจแป้งปังปอนด์ สร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์แชร์ข้อมูลจาก blog ให้ท่านที่สนใจได้ติดตามอ่านอย่างสะดวกและรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาโหลดเนื้อหาจาก blog ดังนั้นขออนุญาตงดตอบคำถามใดๆทางเพจและ facebook ค่ะ หากท่านใดมีคำถามเกี่ยวกับการกินวิตามินเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพและบำรุงผิวพรรณ รบกวนส่งคำถามไปยัง blog แป้งปังปอนด์ นานาสารพันปัญหา volume 5 อย่างเดียวเท่านั้นค่ะ ขออนุญาตฝากกด like เพจแป้งปังปอนด์ เพื่อเป็นกำลังใจในการสรรค์สร้างผลงานด้วยมันสมองและสองมือพยาบาลสาวภูไท คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จบการศึกษา ปี พ.ศ 2539 จากที่ราบสูงคนนี้ด้วยนะคะ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการนำชื่อ " แป้งปังปอนด์ " ไปใช้เพื่ออ้างอิงหรือติดป้ายสินค้าในเวปไซด์หรือที่ใดๆหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน " Blog แป้งปังปอนด์ " แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยการเผยแพร่เพื่อการอ้างอิงหรือนำรูปภาพไปโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด
|