Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2550
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
16 พฤษภาคม 2550
 
All Blogs
 
Childcare experience







กว่าจะเริ่มเก็บประสบการณ์เลี้ยงเด็ก ก็หลังจากสัมภาษณ์ผ่านเกือบเดือน เพราะไม่ได้รีบ ( แม้ว่าอายุจะเกือบเกินแล้วก็เหอะ ) ตอนแรกมุ่งไปที่เนิสเซอร์รี่เพราะว่าน่าจะได้ลองฝึกเลี้ยงเด็กจริงๆมากกว่า แต่พอทำได้ 1 สัปดาห์ก็มีอันต้องโบกมือลา แค่ไปทำวันแรกก็เกือบถอนตัวแล้ว เนืองจากเจ้าของมีทัศนะคติทีไม่ค่อยดีกับโครการออแพร์ แถมชอบพูดคำว่า"ขี้ข้า"บ่อยมาก แต่เค้าก็ไม่ได้พูดตรงอะไรมาก จะเปรียบกับเค้าเองมากกว่า ว่ามาเปิดเนิสเซอร์รี่ เป็นพี่เลี้ยงเด็ก ก็เหมือนขี้ขา ต้องคอยทำโน้นทำนี้ให้ ผู้ปกครองบางคนก็โน้น นี่ นั้น เราก็คิดในใจ อ้าว แล้วลาออกจากงานประจำมาเปิดทำไมหว่า ก็เพราะมันเป็นอาชีพไม่ใช่เหรอ แถมเป็นอาชีพที่เงินเยอะด้วย อย่างว่านะ ก็ต้องเสี่ยงกับชีวิตของเด็กเหมือนกัน โดยเฉพาะเด็กอ่อนมากๆ เราก็เห็นด้วยกับเค้าในบางส่วนนะ มันขึ้นอยู่กับจะมองในมุมไหนมากกว่า เราเชื่อว่าใครมาสมัครโครงการนี้ก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจพอสมควร

เราเลยไปขอทำที่โรงเรียนอนุบาล ก็เลือกที่ใกล้บ้านที่สุดนี้แหละ ได้ทำเวียนอยู่ 3 ชั้น อนุบาล 3 อนุบาล 1 เตรียมอนุบาล

อาทิตย์แรกครูจับให้ไปอยู่ห้องอนุบาล 3 เพราะครูผู้ช่วยลา ได้ยินกิตติศัพท์ว่าซนอย่างหนัก แต่ความรู้สึกเราก็แบบ เด็กอะ ก็ต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้ว จะให้เรียบร้อยเหมือนกันหมดคงไม่ได้ แต่เด็กคนไหนดื้อก็ดื้อจริงๆเล้ย เราพูดจนแสบคอ แบบว่าเด็กไม่เห็นเราเป็นครู ไม่ฟังเท่าไหร่

แต่ก็มีเรื่องขำๆ อันนี้เราขำเอง แบบว่าหลอกเด็กสำเร็จ ปกติทุกวันพอเคารพธงชาติเสร็จ เด็กๆก็จะกลับเข้าห้อง ครูก็จะไปทำธุระอะไรนิดหน่อย แล้วก็ตามมาทีหลัง เราก็จะอยูในห้องกับเด็ก เวลานี้แหละ คุยกัน เล่นกัน ครูมาทีหลังก็ได้ดุเด็กทุกวัน วันนึงเราก็บอกว่า "วันนี้มาเล่นเกมกัน ให้ทุกคนแปลงร่างเป็นก้อนหิน เอามือกอดอก ห้ามพูด ห้ามลุกไปไหน ใครมีเสียงลอดออกมาก่อน แพ้" ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะเชื่อหรอก แต่ลองดู ปรากฎว่ากระตือรือล้นกัน นั่งเงียบกันซะน่ารักเชียว แถมไม่พอ ยังเอามือปิดปากอีกต่างหาก ทีนี้ครูก็มาที่ห้อง ทำหน้าประหลาดใจ ถามเราว่าวันนี้ทำไมนั่งกันเรียบร้อยโดนครู( เรา )ดุใช่ไหม เห็นไหม ถ้าไม่เรียบร้อยก็จะไม่มีคนรัก ประมาณนั้น แล้วก็ถามอะไรสักอย่างนี้แหละ แต่ทุกคนเงียบบบบบ บางคนหันมามองหน้าเรา แบบว่าพูดได้ไหม เราก็พยักเพยิดให้พูดนั้นแหละ เราว่าครูคงงงน่าดูเหมือนกัน

ที่ประทับใจอีกเรื่องของชั้นนี้ คือ มีเด็กซื้อขนมให้ ช่วงก่อนกลับบ้าน หลังตื่นนอน ล้างหน้าเรียบร้อย จะปล่อยให้เด็กไปซื้อหนม เด็กคนนึงยื่นขนมถุง 5 บาทให้เรา เราก็ถามว่าให้ครูเหรอ เด็กก็เขินๆ พยักหน้าแล้วไปนั่งกินขนมกับเพื่อน สงสัยแอบคิดว่าเราไม่มีหนมกิน เพราะนั่งมองเด็กกินตลอด แต่เราก็ให้เด็กแบ่งกันกินแหละ เด็กบางคนจะไม่ได้เงินมาซื้อขนม ก็ต้องไปบอกด้วย ว่าครูจะแบ่งขนมให้เพื่อนกินนะ แต่ก็แปลกนะที่ชั้นนี้ไม่ได้เอ็นดูเด็กคนไหนเป็นพิเศษเลย

ถัดมาได้ไปดูแลเด็กชั้นอนุบาล 1 ตอนมาอยู่ห้องนี้แรกๆ ทำไมไม่หนุกเลยอะ เด็กนิ่งๆกันยังไงก็ไม่รู้ มีอยู่สัก 5-6 คน ที่เข้าหา มาพูดด้วย อยากนั่งใกล้ๆเรา อะไรทำนองนั้น แต่ผ่านไป 2 วัน เออ เด็กมันน่ารักดีแฮะ คือ มองดูแล้วก็มีความสุข ตลกดี แล้วไม่ซนไง มีซนอยู่สัก 2-3 คน บอกอะไรก็ฟัง น้ำมูกย้อย ( ช่วงนั้นยังหนาวอยู่บ้าง ประมาณ มกรา )ก็สูดเข้าไหลออก อยู่แบบนั้น เห็นแล้วแสบจมูกแทน ก็ยื่นทิชชู่ให้ ปากแตกก็ทาลิปมันให้ ก็คงจะเห็นความงามในจิตใจเราบ้างนะ 555

ที่โรงเรียนเค้าจะให้ครูเอาโรงเท้าแตะมาใส่ในโรงเรียนได้ เราก็เอาฟองน้ำมาคู่นึง เท้าเราค่อนข้างใหญ่เลย ใส่เบอร์เกือบใหญ่สุด ตั้งแต่ตอนอยู่อนุบาล 3 แล้ว โรงเท้าหายไป 2 วัน เราก็ อะไรเนี้ยะ ร้องเท้าคู่ 30 บาท ใครเอาไปฟ่ระ พอวันที่ 3 เห็นเด็กใส่ตอนเดินแถวไปกินข้าว ( เด็กก็จะมีฟองน้ำเหมือนกัน ) เราก็ เห้ย นี้ของครูไม่ใช่เหรอ แหมใส่พอดีกับเท้าจังนะ เราก็ เออ ใส่ไปก่อนก็ได้ มาดูหน้าห้อง เราก็ว่า ที่เก็บรองเท้ามี 2 ที่ไง ปกติเราดูแต่หน้าห้องเลยไม่เห็น ต่อๆมาก็สังเกตุเห็นเด็กเวียนกันใส่รองเท้าเราจัง ใส่ไปเข้าห้องน้ำบ้าง ไปเติมน้ำบาง เออ เอาเข้าไป

อนุบาล 1 ก็มีเหมือนกัน พอดีเป็นเด็กที่เราเอ็นดูมากที่สุดก็เลยขำๆเป็นพิเศษ ปกติหลังเด็กตื่นนอนก็จะไปล้างหน้าที่ห้องน้ำ เจ้าหนูนี่ก็ใส่ร้องเท้าเราครับ แล้วครูประจำชั้นเห็นไง ก็ร้องเล่นๆให้เรามาดู บอกว่าโดนขโมยรองเท้า เด็กมันเขิน ( ไม่ใช่เด็กช่างพูด ) แรกๆก็เดิน ( มาเก็บรองเท้า ) พอมีคนมองหลายๆคน เลยวิ่งซะเลย แต่แบบกระโดดนิดๆ เพราะรองเท้าจะหลุด เกือบล้มซะละ น่าเอ็นดูจริงๆ

วันสุดท้ายที่อยู่ห้องนี้ ไม่รู้สึกอยากไปเลยจริงๆ เพราะกลัวเด็กลืมเรา ซะงั้น แต่พอมาเตรียมอนุบาล เด็กจะอายุประมาณขวบครึ่ง แต่ไม่เกิน 3 ขวบ อันนี้ก็มีความสุขไปอีกแบบ แบบที่มีอะไรทำ เหนื่อยๆ ไม่ใช่นั่งดูเฉยๆ ห้องนี้มีเด็ก 20 กว่าคน มีครูคนเดียว แต่จะมีครูอีกคน ห้องเตรียมอนุบาลเด็กที่ยังเล็กเกินกว่าจะมารวมกันมาช่วยบ้าง เพราะห้องเดียวกัน แต่มีที่กั้นต่ำๆเท่านั้น แล้วห้องนั้นก็มีผู้ช่วย อายุพอๆกับเรา

ที่นี้ก็เจอเด็กหลายแบบ บางคนมาวันแรกเดินมานั่งตักเฉย เรียก ปี้ๆ ( พี่ ) เด็กนี้เป็นตัวของตัวเองมาก เพราะชั้นนี้จะให้เรียกครูว่าแม่ แล้วก็ฉลาด เป็นเด็กที่เสนอหน้าได้กับทุกคน และทุกสถานการณ์จริงๆ ถ้าไม่เห็นกับตา ไม่อยากจะเชื่อ เจอเด็กอีก 2 คน ไม่ยอมเข้ากลุ่มไปนั่งดูวีซีดีการ์ตูนกับเพื่อน รองเท้าก็ไม่ถอด ประมาณว่ามาไม่นาน ว่างั้น แต่ไม่ถึงก็ร้องไห้โวบวาย เราก็ทำสำเร็จไปนึงคน เห็นชะเง้อๆมองทีวี เราก็เข้าไปคุย อยากดูไหม มองเห็นเหรอ ถอดรองเท้าเนอะ เดี๋ยวห้องจะเปื้อนน้า พาไปนั่งจนได้ แต่ตอนงีบกลางวันจะร้องไห้แบบแอบร้อง แต่พอเข้าไปคุยปุ๊บ ปล่อยโหเลย เราก็กลัวโดนเพ่งเหมือนกันนา เพราะจะพาลทำเด็กคนอื่นตื่น อันนี้ก็ต้องไปพูดทุกวันว่า นอนนะ ตื่นขึ้นมาแม่ก็มารับแล้ว แม่มาเมื่อไหร่จะปลุก แล้วประโยคประจำตัวก็คือ "เดี๋ยวแม่ก็มารับแล้ว" พูดกับเราหลายครั้งต่อวัน จ้า รับฟัง ก็มารับอยู่ทุกวัน อย่างกับเคยนอนโรงเรียนซะอย่างงั้น

ส่วนอีกคนต้องวันที่ 2 ถึงจะยอมมาทำกิจกรรมกับเพื่อน หลังจากนั้นก็วิ่งมากอด เรียก "แม่จ๋า แม่จ๋า" มีวันนึงที่เราไม่ได้ไปทำงาน ประจวบกับเด็กขาดเรียน4-5 วัน กลับมาก็จำกันไม่ได้ซะละ เข้าไปจับก็สะบัดออก แต่ก็เข้าใจนะ เด็กก็ค่อนข้างปรับตัวได้แล้ว ก็เข้ากับเพื่อนได้เอง รวมทั้งเราด้วย วันดีคืนดีก็มาขอให้เราหอมแก้มแบบงงๆ ( เรานะที่งง ว่าน้องแกมาอารมณ์ไหน )

แต่ก็มีบางคนที่มาแปลกสุดๆ ข้าวปลาไม่กิน ยืนมองไปที่หน้าต่าง รอพ่อมารับ อย่าเข้าไปพูดเชียวนะ จะร้องไห้ออกมาทันที แต่ว่าอยู่ใกล้ได้ ไม่มีปัญหา ครูประจำชั้นจะออกนอกห้องก็จะร้องเหมือนกัน บางทีก็ต้องกระเตงกันไป เพราะเดี๋ยวคนอื่นตื่น แต่ 2 วันสุดท้าที่เราไป เริ่มจะกินละ แต่ยังไม่ยอมนอน เพื่อนดูดนมเหลือวางไว้แล้วหลับ อยู่ดีๆก็เอามาดูด ทั้งๆที่ของตัวเองมีแต่ไม่เคยได้กินเลย ถึงเวลาแจกขนม แต่ว่าเรายังจัดการเช็ดหน้าเช็ดตาไม่เสร็จ ก็ไปคว้ามาให้เราแกะ เป็นกรณีพิเศษเลยแหละ เอาไปกินก่อน เยอะๆเลย สงสัยช่วงหลังๆจะหิวจัด เพราะไม่เคยกินข้าวกลางวันด้วย อย่างงี้จะโตไหมเนี้ยะ

เรื่องเด็กๆเนี้ยะ มีอีกเยอะแยะมากมาย เพราะแต่ละคนก็สามารถเอามาเล่าได้เป็นฉากๆเลย

แรกๆที่ไป ที่ทำหลักๆระหว่างวันก็พวกเทกระโถน ล้างก้น เช็ดฉี่ เก็บถ้วยข้าว เด็กก็ทำผลัดกับครู แล้วแต่สถานการณ์ ( รู้สึกว่าส่วนใหญ่จะกำจัดสิ่งปฏิกูล ^ ^: ) หลังๆเป็นนังแจ๋วเต็มตัวเลย แบบว่าทำเหมือนมี 10 มือ ช่วงหลังเด็กตื่นจะเป็นช่วงที่ต้องรีบที่สุด ใหม่ๆเราจะมีหน้าที่เก็บที่นอน หวีผม ถักเปีย ครูอีกห้องจะมาเช็ดหน้า เราก็จะปะแป้งต่อ ครูประจำชั้นก็แจกขนม แต่หลังๆรู้สึกว่ามันจะเป็นหน้าที่เราโดย ( เกือบ ) สมบูรณ์ พอเวลานั้นครูก็ไปล้างขวดนมบ้าง ซักผ้าบาง เราก็จัดการครับ มือเป็นระวิง ต้องทำให้เร็วด้วย เพราะเด็กบางคนจะกลับกับรถโรงเรียน ซึ่งเวลานั้นต้องกินขนมแล้ว หลังๆจัดการเด็กรถก่อนเลย บางทีก็มาเปียผมให้พวกรอผู้ปกครองทีหลัง

เป็นประสบการณ์ที่ดีมากครั้งหนึ่งของชีวิตเราเลยก็ว่าได้ เพราะไม่เคยใกล้ชิดกับเด็กเล็กมาก่อน พอมาทำแล้วรู้สึกว่ามีความสุขจัง ถึงเหนื่อยแต่ก็ได้รับอะไรดีๆกลับคืนมา อยู่บ้านบางทีก็ยิ้ม หัวเราะขึ้นมา พี่ก็บอกว่าเราบ้าไปแล้ว แค่เรานึกถึงก็มีความสุขแล้ว

ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เรากลับไปเอาใบรับรองที่นัดให้เราไปเอาหลังเก็บชั่วโมงเสร้จ ก็ได้เจอเด็กๆอีกครั้ง เด็กก็ยังเรียกเราว่าแม่ ยิ้มแย้มกันเหมือนเดิม อิอิ ยังจำกันได้นะ ( ก็แน่ล่ะ เพิ่งผ่านไป 2 อาทิตย์กว่า )แต่เด็กบางคน คำแรกที่พูดเมื่อเห็นหน้าเราก็คือ " เดี๋ยวแม่ก็มารับแล้ว"






Create Date : 16 พฤษภาคม 2550
Last Update : 9 ตุลาคม 2550 13:25:12 น. 7 comments
Counter : 367 Pageviews.

 
เจ๊หลีก็เลี้ยงเด็กเหมือนกันค่ะ แต่เป็นเด็กที่บ้าน 3 คนเลี้ยงจนแก่หมดแล้วค่ะ เลี้ยงแล้วไม่รู้จักไปไหนด้วยนะคะ ลูกค่ะ ลูก จะเอาไปเลี้ยงซักคนไม๊คะ


โดย: กิน ๆ เที่ยว ๆ วันที่: 16 พฤษภาคม 2550 เวลา:19:56:03 น.  

 
จะยกให้เหรอค่ะ ที่บ้านขาดบุคลากรพอดี ฮิฮิ



โดย: ดวงตากระต่าย วันที่: 17 พฤษภาคม 2550 เวลา:13:32:10 น.  

 
ได้โฮสหรือยังคะ รออยู่น้า


โดย: กระพรวนน้อยเสียงใส วันที่: 15 มิถุนายน 2550 เวลา:20:07:52 น.  

 
ยังไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะ รอสอบปลายปี กว่าจะไปก็มกราคมโน้น คงสวนทางกันแน่ๆ



โดย: ดวงตากระต่าย วันที่: 20 มิถุนายน 2550 เวลา:18:32:54 น.  

 
เพิ่งได้อ่านเม้นท์ ขอบคุณนะคะที่ไปเยี่ยมบล๊อก ..เราสมัครกับออแพร์ไทยแลนด์จ้า ..ตอนนี้เพิ่งส่งเอกสารไปอเมริกา เพราะเพิ่งได้ใบ CRC มาค่ะ ก็รอคอลจากโฮสค่ะ ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้ไปเมื่อไหร่..อิ อิ ยังไงจะบอกแน่นอนจ้า...


โดย: Nim (Ridmanee_T ) วันที่: 26 มิถุนายน 2550 เวลา:16:53:29 น.  

 
แวะมาตอบจ้า..วิธีที่เราจัดรูปนะ เราจะแบ่งเป็น 5 เซ็ต ด้วยกัน เซ็ตแรกก็จะเป็นเรื่องชีวิตส่วนตัว ครอบครัว พี่น้อง สัตว์เลี้ยง อันที่ 2 จะเป็นรูปเรากับเพื่อนๆ กิจกรรมการเข้าค่าย ทำงานระหว่างเรียน พอดีเราเรียนครูมา รูปที่เกี่ยวกับการทำกิจกรรมกับเด็กมีเยอะ แต่ถ้าไม่มี ก็เป็นรูปเราถ่ายกับเพื่อนๆ อันที่ 3 เป็นกิจกรรม งานอดิเรกที่เราทำ พอดีเราเป็นครูสอนเทควันโด ก็เลยนำเสนอ แล้วก็มีรูปภาพร้านขายของ อาชีพที่เราทำตอนนี้ อันที่ 4 เป็นรูปที่เลี้ยงเด็กที่ศูนย์ อันสุดท้ายเป็นรูปเด็กที่เราเคยเป็นพี่เลี้ยงมา ก็จะมีข้อความประกอบรูปภาพ ...ยังไงก็ลองทำดูนะจ๊ะ อาจจะไม่ทำตามนี้ก็ได้ เอาใจช่วยจ้า... ปล. ที่ว่าอายุจะเกือบเกินนั้น อายุเท่าไหร่เหรอจ๊ะ บอกได้ป่าว แล้วทำไมต้องไปเดือน มกรา ..อยากรู้ค่ะ อิ อิ..


โดย: Nim (Ridmanee_T ) วันที่: 3 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:29:36 น.  

 
โห .. ต้องไปเก็บชม.เลี้ยงเด็กด้วยเหรอค่ะ


โดย: mydream99_girl วันที่: 17 ตุลาคม 2551 เวลา:13:42:36 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ดวงตากระต่าย
Location :
Chiangmai Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




The greatest adventures are experience in the soul... not across oceans or desserts.

Friends' blogs
[Add ดวงตากระต่าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.