ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด
<<
กรกฏาคม 2556
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
25 กรกฏาคม 2556

SET ผันผวน รอดูการเมือง

โบรกมองหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังคงผันผวน รอดูปัจจัยการเมืองประชุมสภาส.ค.นี้ แต่เทคนิคยังสัญญานบวก ให้กรอบลงทุนที่ 1,470 - 1,550 จุด

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ ( 24 ก.ค.) ยังคงปรับตัวผันผวน โดยขึ้นไปสูงสุดได้ที่ 1,519.21 จุด เพิ่มขึ้น 5.90 จุด และลงไปต่ำสุดที่ 1,496.88 จุด ลดลง 16.43 จุด และปิดตลาดที่ 1,501.36 จุด ลดลง 11.95 จุด หรือ 0.79% และมีมูลค่าซื้อขายรวม 53,355 ล้านบาท

-สถาบันซื้อสุทธิ 509.39 ล้านบาท
-นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ -416.30 ล้านบาท
-บัญชีบริษัทหลักทรัพย์สุทธิ 631.25 ล้านบาท
-นักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ -724.33 ล้านบาท

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์บล.กรุงศรี จำกัด (มหาชน) กล่าวในรายการหุ้นโค้งสุดท้ายว่า แนวโน้มดัชนีช่วงนี้ยังคงปรับตัวผันผวนเหมือนในวันนี้ ซึ่งดัชนีขยับเข้าไปใกล้แนวต้าน 1,520 จุด แต่มีแรงขายช่วงท้ายตลาดทำให้ดัชนีอ่อนตัวลง โดยคาดว่าในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,470 - 1,550 จุด โดยในวันพรุ่งนี้มีแนวรับแรกที่ 1,490 จุด และมองว่าตลาดยังคงมีสัญญานเป็นบวก

ส่วนประเด็นที่ต้องจับตาในขณะนี้คือ การประชุมสภาในเดือนส.ค.นี้ว่า รัฐบาลจะให้ความสำคัญอะไรมากกว่ากันระหว่างพรบ.นิรโทษกรรม หรือ พรบ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ซึ่งหากให้น้ำหนักที่พรบ.นิรโทษกรรม อาจจะส่งผลให้การเมืองร่อนระอุขึ้น และตลาดผิดหวังกับการคาดการณ์ในหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และอีกประเด็นที่ต้องติดตามคือ การประเมินจีดีพีของไทยในปีนี้ และถ้อยแถลงของเฟด

สำหรับหุ้นกลุ่มที่ยังเก็งกำไรได้คือ กลุ่มพลังงาน กลุ่มอสังหาริมทรัพย์-รับเหมาก่อสร้าง กลุ่มสื่อสาร

ด้านกลุ่มแบงก์ที่มีการตั้งสำรองหนี้สูญกันจนส่งผลต่อกำไรนั้น จะต้องแยกประเด็นการตั้งสำรองออกเป็น 3 กรณีคือ 1.การตั้งสำรองตามปกติตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย 2. การตั้งสำรองเพราะมีหนี้สูญเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหนี้สูญที่น่าจับตาขณะนี้คือ สินเชื่อรถเก่า 3. ตั้งสำรองไว้ในช่วงที่มีกำไรดีเพื่อรองรับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนในอนาคต

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวานนี้ที่ระดับ 1,501.36 จุด ลดลง 11.95 จุด(-0.79%) มูลค่า​การซื้อขาย 53,364.42 ล้านบาท

​การซื้อขายหุ้นวานนี้ ดัชนีหุ้น​ไทย​เคลื่อน​ไหว​ทั้ง​ใน​แดนบวก-ลบ ​โดยขยับขึ้น​แตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,519.21 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,496.88 จุด

ส่วนหลักทรัพย์​เปลี่ยน​แปลงวานนี้ ​เพิ่มขึ้น 277 หลักทรัพย์ ลดลง 395 หลักทรัพย์ ​และ​ไม่​เปลี่ยน​แปลง 160 หลักทรัพย์

นายศราวุธ ​เต​โชชวลิต ​ผู้อำนวย​การอาวุ​โสฝ่ายวิจัย บล.อาร์​เอชบี ​โอ​เอส​เค(ประ​เทศ​ไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้น​ไทย​ในช่วงบ่ายนี้มี​แรงขาย​ทำกำ​ไรออกมาหลังจากที่วานนี้​ได้ปรับตัวขึ้น​ไปค่อนข้าง​แรง ​เช่น​เดียวกับหลายตลาด​ในภูมิภาค​ก็มี​แรงขาย​ทำกำ​ไรออกมาด้วย​เช่นกัน หลังจากที่ตัว​เลข PMI ของจีนออกมาลดลง ​แต่ตัว​เลข PMI ของทางยุ​โรปออกมาดีขึ้น

นอกจากนี้ นักลงทุน​เริ่มมี​ความกังวล​เกี่ยวกับประ​เด็น​การ​เมือง หลังจากที่จะมี​การนำพ.ร.บ.นิร​โทษกรรม ​เข้าสู่สภา​ในวันที่ 7 สิงหาคมที่จะ​ถึงนี้

​แนว​โน้ม​การลงทุน​ในวันนี้(25 ก.ค.)นายศราวุธ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะ​แกว่งตัว​ทั้ง​ใน​แดนบวก-ลบ ​แต่คาดหวังว่าจะ​ได้​การประกาศผลประกอบ​การของบริษัทจดทะ​เบียนช่วยหนุน พร้อม​ให้​แนวรับ 1,490 จุด ​แนวต้าน 1,520 จุด

ดัชนีหุ้นวันที่ 24 ก.ค.56 ปิดที่ 1,501.36 จุด ลบ 11.95 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 53,364.42 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 407.14 ล้านบาท

หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด INTUCH ปิด 92.25 บาท ลบ 1 บาท, TRUE ปิด 9.40 บาท บวก 0.05 บาท, JAS ปิด 8.70 บาท ลบ 0.15 บาท, CK ปิด 21.40 บาท บวก 0.30 บาท และ KBANK ปิด 187.50 บาท ลบ 0.50 บาท

ตลาดหุ้นไทยเริ่มออกอาการสะเปะสะปะ เป๋ไปเป๋มาอีกแล้ว ชาวบ้านชาวเมืองเค้าบวกเขียวปรี๊ดเขียวปี๋กันหมด บวกอยู่ดีๆ พ่อคุณมาแดงเถือกกกกก...!!

รอบนี้ มีเรื่องหวาดเสียวอีกจนได้ เมื่อวิปรัฐบาล และพรรคเพื่อไทย มีมติจะนำร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมฉบับของนายวรชัย เหมะ ส.ส.เพื่อไทย เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาต้นเดือน ส.ค.นี้ ทำเอานักลงทุนกลับมาหวาดผวาอีกครั้ง ว่าประเด็นนี้จะเป็นความเสี่ยงที่กลับมาบั่นทอนบรรยากาศการลงทุนอีกครั้ง ตลาดหุ้นไทยที่บอบบางอยู่แล้ว ยิ่งยวบไหวขึ้นไปอีก...การเมืองเป็นวิบากกรรมของตลาดหุ้นแท้จริง!!!

มีข่าว “มารุต อรรถไกวัลวที” ซีอีโอ VGI คงเป้ารายได้งบปี 56/57 (เม.ย.56-มี.ค.57) โต 30% แต่หวั่นปัญหาการเมืองจะซ้ำเติมเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง จึงต้องจับตาใกล้ชิด
หากปัญหาการเมืองไม่หนักหนามากและไม่กระทบต่อภาคเศรษฐกิจ เชื่อว่าจะทำผลงานได้ตามเป้า แต่ครึ่งปีหลัง อุตสาหกรรมโฆษณาโดยรวมจะชะลอตัวลงอยู่แล้ว ซึ่งบริษัทมีแผนโปรโมชั่นกระตุ้นการใช้เงินโฆษณาของลูกค้า เพื่อรักษารายได้ไม่ให้ตกลง

บล.เกียรตินาคินแนะนำซื้อให้ราคาเป้าหมาย 147 บาท, บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส ให้พื้นฐาน 145 บาท ส่วนเอเซียพลัส ให้เป้า 132 บาท ขณะที่ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ให้ราคาเหมาะสม 122 บาท!!

ปิดท้าย “ภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ” นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ มองหุ้นครึ่งปีหลังน่ามีเสถียรภาพมากขึ้น ไม่ผันผวนขึ้น-ลงแรงเหมือน 1-2 เดือนที่ผ่านมา เพราะนักลงทุนซึมซับรับข่าว เตรียมตัวเตรียมใจยอมรับ การลด-เลิกมาตรการ QE ของสหรัฐฯ ไปมากแล้ว ส่วนความผันผวนจากเงินไหลเข้า-ออก เป็นผลกระทบระยะสั้นไม่น่าห่วง ตอนนี้รอดูผลกำไรไตรมาส 2 แต่เชื่อว่าครึ่งปีหลัง ตลาดจะกลับสู่ภาวะปกติ ถ้าไม่มีปัจจัยลบใหม่ๆเข้ามากระตุ้น

“ภัทธีรา” ยังมองดัชนีปีนี้ที่ 1,550-1,600 จุด เป็นระดับที่เหมาะสมและมีพื้นฐานรองรับ แต่จะสูงหรือต่ำกว่านี้อยู่ที่ผลประกอบการบริษัทจด ทะเบียนไตรมาส 2 จะเป็นตัวชี้ว่าครึ่งปีหลังจะเป็นอย่างไร แต่นักวิเคราะห์ได้ปรับลดประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนเหลือโต 18-20%.



Create Date : 25 กรกฎาคม 2556
Last Update : 25 กรกฎาคม 2556 10:05:06 น. 0 comments
Counter : 545 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

tukdee
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 51 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add tukdee's blog to your web]