ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด
 
พฤษภาคม 2556
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
21 พฤษภาคม 2556

SET บวกแรง รายย่อยขายทำกำไร

โบรกมองหุ้นไทยวันนี้ไต่ระดับทดสอบ 1,650 จุด แนะจับหุ้นเด่นสุด 3 กลุ่มช่วงนี้ กลุ่มหุ้นคำนวณ MSCI - หุ้นกลุ่มอสังหา- หุ้นรับเหมาก่อสร้าง

ดัชนีหุ้นไทยวานนี้ ( 20พ.ค.) ปรับตัวสดใสต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยขึ้นไปสูงสุดที่ 1,646.59 จุด และปิดตลาดที่ 1,643.40 จุด เพิ่มขึ้น 15.44 จุด หรือ 0.62% และมีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 57,750 ล้านบาท

-นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ +42.46 ล้านบาท
-นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ +1,622.60 ล้านบาท
-บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ +566.59 ล้านบาท
-นักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ -2,231.65 ล้านบาท

นายวิกิจ ถิรวรรณรัตน์ ผู้จัดการสายงายวิจัยลูกค้าบุคคลบล.บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวในรายการหุ้นโค้งสุดท้ายว่า แนวโน้มหุ้นไทยวันนี้จะเป็นภาพของไต่ระดับทดสอบ 1,650 จุด จากปัจจัยบวกของแรงเก็งกำไรคาดการณ์กนง. ลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 29 พ.ค.นี้ หลังจากมีการประกาศตัวเลข GDP ในไตรมาส 1/56 ซึ่งออกมาต่ำกว่าคาดจึงส่งผลให้มีแรงเก็งกำไรหุ้นอสังหาริมทรัพย์

รวมทั้งยังมีแรงซื้อในหุ้นที่ได้เข้าคำนวณในดัชนี MSCI ในหุ้น INTUCH - TRUE ซึ่งเป็นกลุ่มหุ้นที่น่าจับตาในช่วงนี้ และยังมีแรงเก็งกำไรหุ้นรับเหมาก่อสร้างในประเด็นโครงการบริหารจัดการน้ำที่จะเริ่มมีความชัดเจนในเดือนมิ.ย.นี้

อีกทั้งการเมืองในประเทศยังลดดีกรีความร้อนแรงลง หลังจากรัฐบาลยืนยันว่าจะไม่มีการนำพรบ.ปรองดองเข้าสู่การประชุมสภาฯ ในช่วงสิ้นเดือนนี้

อย่างไรก็ตามราคาหุ้นปัจจุบันถือว่าไม่ถูกแล้วหากเทียบกับการปรับตัวของดัชนีที่ขึ้นมาทะลุ 1,600 จุด ขณะที่ยังไม่มีการปรับประมาณการกำไรของบจ.และราคาเป้าหมาย ดังนั้นการลงทุนขณะนี้จึงเหมาะสำหรับการลงทุนระยะสั้น และควรลงทุนอย่างระมัดระวัง

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวานนี้ที่ระดับ 1,643.40 จุด ​เพิ่มขึ้น 15.44 จุด(+0.95%) มูลค่า​การซื้อขาย 57,892.40 ล้านบาท

​การซื้อขายหุ้นวานนี้ ดัชนี​เคลื่อน​ไหว​ใน​แดนบวกตลอด​ทั้งวัน ​โดยขยับขึ้น​แตะจุดสูงสุดของวันนี้ที่ระดับ 1,646.59 จุด ​และดัชนี​แตะจุดต่ำสุดของวันนี้ที่ระดับ 1,636.21 จุด

ส่วนหลักทรัพย์​เปลี่ยน​แปลงวานนี้ ​เพิ่มขึ้น 377 หลักทรัพย์ ลดลง 289 หลักทรัพย์ ​และ​ไม่​เปลี่ยน​แปลง 135 หลักทรัพย์

นายธน​เดช รังษีธนานนท์ ​ผู้อำนวย​การฝ่ายวิ​เคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้น​ไทยวานนี้ดัชนีปรับตัว​เพิ่มขึ้นตามตลาดหุ้นส่วน​ใหญ่​ในภูมิภาค​เอ​เชีย รับ sentiment ​ใน​เชิงบวกจากภายนอก จากปัจจัย​เศรษฐกิจ​โดย​เฉพาะ​ความ​เชื่อมั่น​ในตัว​เลข​เศรษฐกิจสหรัฐฯ​เพิ่มสูงขึ้น ​ทำ​ให้ดัชนีตลาดหุ้นดาว​โจนส์ปรับตัว​เพิ่มขึ้น​ทำสถิติสูงสุดอยู่ตลอด​ในช่วงนี้

ขณะที่ตัว​เลขงบ​การ​เงินบริษัทจดทะ​เบียน​ในประ​เทศ​ไตรมาส 1/56 สามารถ​ทำกำ​ไร​ได้ 2.4 ​แสนล้านบาท ​และมีบริษัทจดทะ​เบียนหลายกลุ่มที่​ทำผลงานออกมาดี​เกินคาด สะท้อน​แนว​โน้มที่ดีของผล​การดำ​เนินงานต่อ​เนื่อง​ใน​ไตรมาสถัด​ไป ​แม้ว่าอัตร​การ​เติบ​โตของ GDP ​ในประ​เทศงวด​แรกของปีนี้จะอยู่ที่ 5.3% ​แต่​ก็​ไม่ส่งผลกระทบมากต่อตลาด

สำหรับ​แนว​โน้มตลาดหุ้น​ไทย​ในวันนี้ คาดว่า ดัชนียังมี​โอกาสปรับตัวขึ้นต่อ​ได้ จาก sentiment ​ในภาพรวมออกมา​ในทิศทางที่ดี ประกอบกับตลาดยังมี​ความคาดหวัง​เรื่อง​การลดอัตราดอก​เบี้ยน​โยบาย​ใน​การประชุมคณะกรรม​การน​โยบาย​การ​เงิน(กนง.)ครั้งหน้า อย่าง​ไร​ก็ตามระวัง​แรงขาย​ทำกำ​ไรระยะสั้น ​เนื่องจากดัชนีปรับ​เพิ่มขึ้นมามากพอสมควร ​ทำ​ให้อาจมี​แรงขาย​ทำกำ​ไร​ในระหว่างวัน​เกิดขึ้น​ได้

นอกจากนี้ยังติดตาม​การประชุมน​โยบาย​การ​เงินของธนา​การกลางญี่ปุ่น(BOJ)​ในวันนี้ ​ซึ่งมีประ​เด็น​เรื่อง​การสนับสนุนน​โยบายผ่อนคลายทาง​การ​เงินที่ธนาคารญี่ปุ่นมี​ความคิด​เห็น​เดียวกับทางรัฐบาลญี่ปุ่น

พร้อม​ให้​แนวต้าน 1,650 จุด ​แนวรับ 1,620 จุด


นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นตามตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดอยู่ตลอดในช่วงนี้

ขณะที่ตัวเลขงบการเงินบริษัทจดทะเบียนในประเทศไตรมาส 1/56 สามารถทำกำไรได้ 240,000 ล้านบาท และมีบริษัทจดทะเบียนหลายกลุ่มที่ทำผลงานออกมาดีเกินคาด สะท้อนแนวโน้มที่ดีของผลการดำเนินงานต่อเนื่องในไตรมาสถัดไป แม้ว่าอัตรการเติบโตเศรษฐกิตในไตรมาสแรกปีนี้จะอยู่ที่ร้อยละ 5.3 ต่ำกว่าคาดหมายแต่ก็ไม่ส่งผลกระทบมากต่อตลาด

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันนี้ คาดว่าดัชนียังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้ ประกอบกับตลาดยังมีความคาดหวังเรื่องการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 29 พ.ค.นี้ ดัชนีมีแนวต้านที่ 1,650 จุด แนวรับที่ 1,620 จุด

ส่วนเงินบาท เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 29.81-29.83 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 29.83-29.85 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ.

ดัชนีหุ้นวันที่ 20 พ.ค.56 ปิดที่ 1,643.40 จุด บวก 15.44 จุด สูงสุดในรอบกว่า 19 ปี นับจากระดับ 1,667.94 เมื่อวันที่ 6 ม.ค.37 ระหว่างวันดัชนีขึ้นไปสูงสุดที่ 1,646.59 มีมูลค่าซื้อขาย 57,892.40 ล้านบาท

หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด INTUCH ปิด 95.75 บาท ลบ 1.50 บาท, TRUE ปิด 10.40 บาท บวก 0.65 บาท, ITD ปิดที่ 9.05 บาท บวก 0.30 บาท, MLINK ปิด 5.60 บาท บวก 0.10 บาท และ PTT ปิด 343 บาท เพิ่มขึ้น 8 บาท

ฝ่ายวิจัย บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) มองหุ้นไทยได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น หลังได้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯดีขึ้น ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/56 ที่ออกมาต่ำกว่าคาด

ทำให้นักลงทุนบางส่วน คาดหวังว่า กนง.จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการลงทุนในตลาดหุ้น

ทั้งนี้ สภาพัฒน์ เผยเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/56 โต 5.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นการขยายตัวที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น โดยเป็นผลจากการส่งออกที่ไม่สามารถขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะประชุมเพื่อพิจารณาอัตรา

ดอกเบี้ยนโยบายครั้งต่อไปวันที่ 29 พ.ค.นี้ หลัง กนง.มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.75% เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน

ขณะที่มองทิศทางตลาดระยะสั้น ยังมีโอกาสขยับขึ้นไปได้อีก แต่อยู่ในกรอบจำกัดและให้ระวังความผันผวนและแรงขายทำกำไร หลังดัชนีเดินหน้าทำนิวไฮได้ต่อเนื่อง ด้านเทคนิคมองแนวต้านไว้ที่ระดับ 1,650 ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,640-1,630 จุด ทั้งนี้ ตลาดยังคงจับตาการแถลงต่อสภาคองเกรส ของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด อย่างใกล้ชิดในสัปดาห์นี้

บล.เคทีซีมิโก้ ชี้มีแรงซื้อหุ้นใหญ่ในกลุ่มพลังงาน และมีเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้า โดยตัวเลข GDP ไตรมาสแรกปี 56 ที่ชะลอตัวไม่ได้ส่งผลกดดันต่อจิตวิทยาการลงทุน เนื่องจากตลาดได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าแล้ว รวมถึงนักลงทุนได้ให้ความสนใจการประชุม กนง. ว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่ ส่งผลให้ตลาดยังคงอยู่ในทิศทางบวกได้ มองแนวโน้มตลาดคาดดัชนีจะแกว่งตัวในแดนบวก โดยต้องลุ้นว่าดัชนีจะผ่านบริเวณ 1,650 จุดได้หรือไม่ แต่คาดว่าน่าจะมีแรงขายในบริเวณนี้อยู่ แต่หากดัชนีสามารถผ่าน 1,650 จุดได้ ประเมินว่าแนวต้านถัดไปจะอยู่ที่ 1,700 จุด

แนะกลยุทธ์การลงทุน ควรซื้อเก็งกำไรหุ้นรายตัวที่มีทิศทางกำไรไตรมาส 2 ดี รวมทั้งหุ้นที่มีข่าวมีสตอรี่ในการพลิกฟื้นหรือเปลี่ยนแปลงธุรกิจ ด้านเทคนิคให้แนวรับ 1,636 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,650 จุด.



Create Date : 21 พฤษภาคม 2556
Last Update : 21 พฤษภาคม 2556 10:43:11 น. 0 comments
Counter : 592 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

tukdee
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 51 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add tukdee's blog to your web]