BlogGang.com : : tukdee : SET ไซด์เวย์ระหว่างวัน รอผลประชุม FED

SET ไซด์เวย์ระหว่างวัน รอผลประชุม FED

โบรกมองแนวโน้มหุ้นไทยยังแกว่งตัวแคบ รอผลประชุมเฟด 18-19 มิ.ย.นี้ คาดรีบาวน์ไม่เกินแนวต้าน 1,500 จุด เพราะมีแรงขายรออยู่มาก

ดัชนีหุ้นไทยวานนี้ ( 17 มิ.ย.) ปรับตัวผันผวนแกว่งสลับแดนลบและบวก โดยช่วงเช้าส่วนใหญ่จะแกว่งตัวในแดนลบลงไปแรงสุดลดลง 17.14 จุด อยู่ที่ 1,448.13 จุด และช่วงบ่ายเปิดมาในแดนบวกสลับย่อตัวลง และปิดตลาดที่ 1,471.04 จุด เพิ่มขึ้น 5.71 จุด หรือ 0.39% และมีมูลค่าซื้อขายรวม 43,414 ล้านบาท

-สถาบันซื้อสุทธิ +2,095.11 ล้านบาท
-นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ +489.25 ล้านบาท
-บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ -1,086.92 ล้านบาท
-นักลงทุนทั่วไป -1,497.44 ล้านบาท

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัยลูกค้าบุคคลบล.บัวหลวง จำกัด(มหาชน) กล่าวในรายการหุ้นโค้งสุดท้ายว่า ดัชนีหุ้นไทยยังคงมีแนวโน้มแกว่งตัวไซด์เวย์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงรอผลประชุมของเฟดในวันที่ 18-19 มิ.ย.นี้ โดยการปรับตัวขึ้นที่ระดับ 1,500 จุด ในช่วงที่ผ่านมา จะเห็นได้เริ่มมีแรงขายออกมา เพราะเป็นระดับดัชนีที่มีแรงซื้อค่อนข้างมาก

ส่วนการประชุมเฟดรอบนี้คาดว่าจะยังคง QE เพราะมองว่าเศรษฐกจิสหรัฐยังคงต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว แต่การยุติ QE หรือไม่จะมีความชัดเจนขึ้นในการประชุมช่วงเดือนก.ย.และธ.ค.นี้

ขณะที่แรงขายหุ้นที่ออกมาทั่วโลกรวมทั้งตลาดหุ้นไทยส่งผลให้มูลค่าหุ้นปรับลดตามค่า P/E ที่ลดลง ซึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทจดทะเบียนมีกำไรเติบโตด้วยแรงขับเคลื่อนของมาตรการภาครัฐและการลดภาษีให้บริษัทจดทะเบียน ซึ่งในปีหน้ามาตรการเหล่านี้จะเริ่มหมดลง จึงน่าจับตาผลความสามารถในการทำกำไรของบจ.ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า และอาจะจะต้องเริ่มทบทวนเป้าหมายดัชนีปีนี้ที่ 1,700 จุด

ดังนั้นการลงทุนหลังจากควรเลือกหุ้นที่กำไรไม่ผันผวนมาก ให้ผลตอบแทนเงินปันผลสูง โดยอาจจะใช้ดัชนี SETHD เป็นตัวอ้างอิง โดยแนะนำ BTS - BECL

กรอบการลงทุน 18 มิ.ย.

-บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส ให้กรอบลงทุนที่ 1,450-1,500 จุด แนะนำหุ้น RATCH

-บล.ไอร่า ให้กรอบลงทุนที่ 1,450-1,485 จุด แนะนำหุ้น N/A

-บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง ให้กรอบลงทุนที่ 1,460- 1,485 แนะนำหุ้น DEMCO

-บล.เอเซียพลัส ให้กรอบลงทุนที่ 1,450 - 1,485 แนะนำหุ้น BBL

-บล.ธนชาต ให้กรอบลงทุนที่ 1,465- 1,482 แนะนำหุ้น MLINK

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวานนี้ที่ระดับ 1,471.04 จุด เพิ่มขึ้น 5.77 จุด(+0.39%) มูลค่าการซื้อขาย 43,475.27 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวานนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,474.75 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,448.13 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 395 หลักทรัพย์ ลดลง 290 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 134 หลักทรัพย์

นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส บล.เคทีบี(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ยังมีโมเมนตัมในทางบวกได้อยู่ แต่ตลาดโดยรวมก็อยู่ในทิศทางที่แกว่งตัวและมีการเหวี่ยงในระยะสั้นด้วย โดยตลาดบ้านเรายังอยู่ในแดนบวกเช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกเล็กน้อย ยกเว้นแต่ตลาดญี่ปุ่น และตลาดเวียดนามที่บวกแรงเกือบ 2% คงเป็นผลจากปัจจัยภายในเฉพาะ

ทั้งนี้ ตลาดฯกำลังรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ที่จะมีขึ้นในวันที่ 18-19 มิ.ย.นี้ ซึ่งกว่าจะทราบผลประชุมก็น่าจะเป็นวันที่ 19 มิ.ย.โดยนักลงทุนต่างจับตาว่ามาตรการ QE ว่าจะยังอยู่หรือไม่ แต่ทางเราคาดว่าทางสหรัฐฯยังจำเป็นที่จะต้องใช้มาตรการ QE อยู่ในช่วงนี้ ซึ่งเราก็มองที่ข้อสรุปสุดท้าย

นอกจากนี้ ตลาดบ้านเรายังมีปัจจัยการเมืองในประเทศที่เข้ามารบกวนจิตวิทยาการลงทุน ล่าสุดมีการชุมนุมของกลุ่ม"หน้ากากขาว" แต่ในแง่ของปัจจัยพื้นฐานยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ดังนั้น จึงมองว่าช่วงสั้นตลาดฯคงจะยังแกว่งตัว โดยยังมองในทางบวกหลังจากที่ตลาดฯปรับฐานแรงในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ราคาหุ้นยังไม่แพง

แนวโน้มการลงทุนในวันนี้(18 มิ.ย.)นายปริญทร์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังแกว่งตัวอยู่ ซึ่งในช่วงที่รอผลการประชุมเฟด นักลงทุนอาจจะมีการซื้อๆ ขายๆ หรืออาจมีการขายทำกำไรออกมาบ้าง พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,450-1,480 จุด

ตลาดหุ้นเปิดรับสัปดาห์ใหม่ ไม่สดใสนัก และเกิดความผันผวนช่วงแคบๆระหว่างชั่วโมงซื้อขาย แต่สุดท้ายดีดตัวบวกต่อ ซึ่งเป็นผลจากการที่หุ้นกลุ่มพลังงานขยับขึ้นแรง ขณะที่หุ้นส่วนใหญ่ในตลาดประคับประคองตัว เพราะไม่มีข่าวดีสนับสนุนอย่างชัดเจน

ดัชนีวันนี้ปิดที่1473.04 จุด เพิ่มขึ้น5.77 จุด มูลค่าซื้อขาย 43,475 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 489 ล้านบาท

แม้ว่าตลาดหุ้นย่านเอเชียหลายแห่งยังฟื้นตัวแรง แต่เนื่องจากตลาดหุ้นไทยเมื่อวันศุกร์พุ่งทะยานไปก่อนหน้า ทำให้นักลงทุนเกิดความแหยงในการไล่หุ้น เพราะกลัวถูกแรงขายกระหน่ำ และยังชะลอการลงทุนอยู่ เนื่องจากไม่มันใจว่า ดัชนีจะเดินหน้าได้ต่อเนื่อง ทำให้มูลค่าการซื้อขายไม่คึกคัก

แรงขับเคลื่อนที่ทำให้ตลาดบวกต่อ เกิดจากหุ้นในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีที่พุ่งขึ้นมา โดยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันในตลาดลกที่เพิ่มขึ้น และในระยะสั้น หุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี จะมีความเด่นสุด ดัชนีจะขยับต่อ ก็ต้องลุ้นหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีเป็นตัวนำ

ภาวะตลาดวันนี้ มีสภาพเหมือนหมดแรงวิ่ง เพราะวันศุกร์ร้อนจัดไปหน่อย นอกจากนั้น ยังมีความกังวลผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งอาจพิจารณายกเลิกมาตรการอัดฉีดเงินก่อนกำหนด ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบต่อตลาด แต่ตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐคืนวันจันทร์บวกกันเฉลี่ยประมาณ 1% ซึ่งจะส่งผลจิตวิทยาเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย

วันนี้จึงอาจได้เห็นดัชนีไต่ระดับขึ้นไปอีก แต่เร็วเกินไปที่จะบอกว่า เห็น1500 จุดในรอบนี้

Create Date : 18 มิถุนายน 2556

Last Update : 18 มิถุนายน 2556 10:47:45 น.

0 comments

Counter : 674 Pageviews.