อยากสร้างบ้านให้แม่สักหลัง
บ้านเดิมที่แม่อยู่ ณ. ปัจจุบันนี้มันเริ่มเก่า แก่ ทรุดโทรม ก็นะมันใช้งานมาตั้งแต่เรายังเล็กๆ นี่ ก็ต้องเริ่มเสื่อมไปตามกาลเวลา บ้านเป็นบ้านไม้ ยกพื้น ชั้นเดียว ยกพื้นพอให้น้ำไม่ท่วม เนื่องจากทุกปีน้ำจะมาก ซึ่งบ้านตามต่างจังหวัดมักจะเป็นแบบนี้ และน้ำก็ท่วมทุกปี แต่ไม่ได้เดือดร้อนเหมือนน้ำท่วม กทม. ดังที่ผ่านมา อายุบ้านก็เป็น 5-6 สิบปีได้แล้ว ตั้งแต่ย่า พ่อ ซึ่งรุ่นพ่อก็มาต่อเติมด้านหน้า เพราะสมาชิกในบ้านเพิ่มขึ้น แต่หลังจากพวกเราเรียนจบ ทำงาน และออกมาอยู่ข้างนอกกัน บ้านก็เหลือแม่คนเดียว ( พ่อเสียไปเกือบ 10 ปีแล้ว นี่ถ้าพ่อยังอยู่ ป่านนี้บ้านคงได้ทำใหม่ไปแล้ว) พอมีหลาน แม่ก็ต้องไปเลี้ยงหลานที่หัวหิน บ้านเลยไม่มีใครอยู่เป็น 2-3 ปี การที่ไม่มีใครอยู่บ้านทำให้บ้านเก่าเร็ว ( จริงๆ คือมันก็เก่าอยู่แล้ว ) และนี่หลานก็เริ่มโต น้องสาวบอกให้แม่อยู่ต่อที่หัวหิน แต่ท่านไม่ชอบ ไปไหนไม่สะดวกเหมือนบ้านเอง จะได้ไปทำบุญก็ไป วันพระไปวัดก็ได้ วัดอยู่ใกล้บ้าน ไม่ต้องคอยลูกๆว่างวันไหนถึงจะได้ไป และแม่ท่านก็มีปัญหา โรคกระดูกทับเส้น ทำให้การเดินค่อนข้างลำบาก เดินมากไปไม่ได้ และที่สำคัญอยู่บ้านสบายใจ อากาศดี มีเพื่อนบ้าน ญาติๆ อยู่ใกล้ๆ ว่างๆก็นั่งคุยกัน ตามประสา ไม่เหงา โอ้ๆๆ เขียนเรื่องบ้านไปออกเรื่องอะไรเนียะ .... ดังนั้น เมื่อแม่จะกลับมาอยู่บ้านก็เลยอยากจะทำบ้านที่มีอยู่เดิมให้สบาย อยู่ในสภาพดี ดี เลยมีโครงการซ่อมแซมบ้าน งบประมาณไม่อยากให้มากนัก ( อิอิ ก็เพราะไม่มีเงินนะสิ ) นี่ก็ต้องกู้เค้า ธ. ออมสิน นะค่ะ พอดีบริษัทกับ ธนาคารทำ MOU กันเลยได้สิทธิ์ในการกู้ดอกเบี้ยพิเศษ ...... แต่ติดที่ชื่อที่ดินยังเป็นชื่อย่า ( ย่าเสียแล้ว ก่อนพ่อเสีย 2 ปี) ไม่ได้โอนเลย เราเองเลยต้องจัดการเดินเรื่อง เป็น ผู้จัดการมรดก ซึ่งจะสามารถนำที่ดินดังกล่าวมาเข้าแบงค์ กู้เงินได้ แต่ขั้นตอนการจัดการขอเป็น ผู้จัดการมรดก นี่สิ มันยุ่งยากชะมัด ต้องทำหนังสือเซ็นต์รับรองจากญาติ พี่น้อง มอบหมายให้เราเป็นผู้จัดการมรดก ก็คือการเป็นตัวแทนนั่นเอง แต่ที่ดินก็ไม่ได้เป็นของเราหรอก ( เรื่องเอกสารต่างที่จะนำขึ้นศาลน้องชายที่เป็นทนายความก็เป็นคนจัดการ) หลังจากนั้นต้องไปขึ้นศาลเพื่อฟ้อง ศาลจะนัดวันสอบและ ลงประกาศตามหนังสือพิมพ์ ภายใน 30 วัน ถ้าไม่มีผู้คัดค้านจึงจะสามารถ เป็นผู้จัดการมรดกได้ รวมๆแล้วระยะเวลาการดำเนินการก็ปาเข้าไปหลายเดือนอยู่ ระหว่างนี้ก็ให้น้องชายเขียนแบบบ้านว่าจะซ่อม เพิ่มเติม อะไรตรงไหนของบ้าน ( น้องชายเป็นวิศวกรโยธา กรมทางหลวง ได้ใบอนุญาติเขียนแบบบ้าน สามารถเซ็นต์ได้ ) ซึ่งก็หายห่วงเรื่องแบบบ้านไป น้องชายเคยเขียนแบบกุฏิพระ 2 หลัง ให้กับหลวงลุง ซึ่งถ้าจ้างเค้าทำก็หลายบาทอยู่ เราเลยสามารถบอกน้องได้ว่า เห้ย ตรงนี้เอาแบบนี้น่า บันไดเอาแบบนี้นะ เอากี่ห้อง ห้องนอนกี่ห้อง ห้องน้ำอยู่ตรงไหน ครัวอยู่ตรงไหน ภายในงบประมาณเท่านี้นะ ลดเสปกของวัสดุหน่อยก็ได้ อันนี้ก็เชื่อใจได้ไปเปราะนึง .... นี่ก็น่าจะเป็นบ้านหลังแรกของเราด้วย เกิดมาไม่เคยมีบ้านเป็นของตัวเองเลย ถ้าบ้านเสร็จก็น่าจะปลาบปลื้ม ดีใจเป็นที่สุดแน่ๆ ก็ได้แต่หวังว่าการดำเนินการต่างๆจะรวดเร็วเหมือนดังที่ใจหวัง แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ See You Next Time
Create Date : 29 มีนาคม 2555 |
|
71 comments |
Last Update : 29 มีนาคม 2555 13:52:38 น. |
Counter : 2251 Pageviews. |
|
|
|