Group Blog
 
<<
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
29 กันยายน 2552
 
All Blogs
 
หาดทรายปลายดาว 07


คุยกันก่อนอัพ

จบไปเป็นทางการแล้วค่ะกับนิยายเรื่อง เงาบรรณ ^ ^
มาอ่านหาดทรายปลายดาวกันต่อเนอะ

เมื่อไม่กี่วันก่อนพอดีมีน้องมาขอพูดคุยเล็กน้อยเพื่อจะเอาไปประกอบการรายงานในชั้นเรียน
สมัยนี้เป็นโลกยุคไฮเทคด้วยมั้งคะ อะไรๆจึงติดต่อสื่อสารถึงกันง่ายดาย

เลยคิดว่าสมัยก่อนตอนเราเรียนเนี่ย ไม่ค่อยมีนะคะแบบไปติดต่อขอข้อมูลอะไรเองอย่างนี้
อดนึกไม่ได้ว่าเริ่มแรกเลยถ้าตอนนั้นเป็นเราจะเป็นยังไงนะ 555+

คิดว่าคงกลัวผิดพลาดน่าดูค่ะ สมัยเด็กๆเลยไม่ใช่คนกล้าแสดงออกนัก
ไม่ถึงขนาดอายเหนียมนะคะ แค่ชอบอยู่เงียบๆไม่สุงสิงกับคน เป็นพวกเก็บตัวใช้ได้ทีเดียว
มาเปลี่ยนตัวเองในช่วงขึนชั้นมัธยมปลาย ที่ทำได้ทุกอย่าง (มั่นมาก)
รู้สึกเหมือนเป็นบุคลิกที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แม้เสี้ยวใหญ่ในตัวจะยังคงอยู่
คือนิสัยที่ชอบใช้ชีวิตสงบเงียบตามลำพัง แต่เวลามีงานเนี่ย...ลุยแหลกเหมือนกันค่ะ
^o^


Ploy666.


**************

หาดทรายปลายดาว 07
ผู้แต่ง ploy666 (สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย)



อย่างน้อยน้ำอิงก็รู้ว่าตัวเองไม่ได้อิ่มทิพย์แค่เพราะเห็นพระอาทิตย์ตกน้ำ ท้องหล่อนที่ปวดแปลบปลาบเป็นระยะบ่งบอกความหิวเมื่อท้องฟ้ามืดสนิทลงนานแล้วแต่งานกลับเพิ่งเสร็จสิ้น

อยากสมน้ำหน้าตัวเองที่รนหาเรื่องเหนื่อยถึงนี่

แต่ก็ทำไม่ลงเมื่อมองเห็นสีหน้าเปี่ยมสุขของวรรณและครอบครัว...

ยิ่งทำงานเยอะยิ่งหิวข้าว น้ำอิงไม่รีรอที่จะบอกออกไปเมื่อนภดลถามไถ่รวมๆอย่างอาทรว่า

“หิวข้าวกันหรือยัง”

“หิวค่ะ!”

เงาตะคุ่มของคนตัวสูงใหญ่ที่กำลังเดินเลยไปไขกุญแจเปิดประตูรถอีกคันหยุดมือและเงยมอง ก่อนที่ใครจะว่าอย่างไรต่อนั้นนภดลก็หันไปบอกผู้เป็นน้องชายเขาเชิงสั่งว่า

“งั้นปรัชญ์พาน้องเขาไปนั่งร้านประจำที่พี่เคยบอกไว้เลยนะ เดี๋ยวพี่โทรให้เขาลงบัญชีพี่ไว้เอง”

น้ำอิงเกรงใจจึงรีบบอกว่า “อิงจ่ายเองได้ค่ะพี่นภ ยังไงอิงก็มาเที่ยวอยู่แล้ว”

“ไม่เป็นไร มื้อนี้พี่เลี้ยงคิดซะว่าเป็นการขอบคุณที่มาช่วย แล้วอีกอย่างพี่ก็ยังไม่ได้เลี้ยงรับปรัชญ์ด้วยถือซะว่าเลี้ยงรวมๆไปเลยดีกว่า เดี๋ยวพี่จะไปส่งคนงานสองคนนี่ก่อนค่อยไปรับลูก...เจอกันที่รีสอร์ตนะ ปรัชญ์ก็ดูแลน้องเขาให้ดีๆด้วย ขับรถระวังหน่อย”

“ครับ”

คนถูกฝากรับคำหนักๆทีเดียว

นภดลยิ้มอย่างใจดีก่อนอำลาแยกย้ายไป

แสงปรัชญ์เคลื่อนกายเข้าไปนั่งประจำที่คนขับและรอคอย น้ำอิงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจำใจตามไปนั่งคู่กัน ก่อนหันไปบอกอย่างจริงจังว่า

“อิงกลับไปกินอะไรง่ายๆที่รีสอร์ตดีกว่ามั้งคะ อีกอย่างเราก็เหนื่อยแล้วด้วย”

“ป่านนี้แก้วตาคงเข้านอนแล้ว คนท้องแก่ไม่ควรถูกปลุกลุกมาทำกับข้าว อีกอย่างพี่วรรณก็ติดรถไปกับพี่นภไม่รู้ว่าจะถึงรีสอร์ตเมื่อไหร่ด้วย”

เหมือนเป็นประโยคบอกเล่าและปิดเอาทางค้านไปจนหมดสิ้น

หญิงสาวลอบมองเสี้ยวหน้าองค์ประกอบเข้มมีแววดุนั้นและไม่อยากจะต่อปากต่อคำให้วุ่นวายไปอีกนอกจากยอมรับโดยดี ตอนนี้น้ำอิงเหนื่อยและเพลียจนหมดแรงจะรบรากับใคร

ยังไม่ทันไรเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น น้ำอิงควานหาของที่ตนเองต้องการและเผลออุทานเล็กน้อยเมื่อเสียหลักเล็กน้อยเพราะรถกำลังเลี้ยว ล้อรถบางส่วนจมลึกลงไปในทราย

“ขอโทษที” ใครอีกคนบอกเบาๆ

เชื่อเถอะว่าหล่อนไม่ได้พบวี่แววเสียใจในประโยคนั้นเท่าที่ควร!



ร้านอาหารที่แสงปรัชญ์พาไปนั่งเป็นร้านเล็กๆซึ่งหาดและเย็นสบายด้วยสายลมค่ำที่โกรกผ่านคลอเสียงคลื่นแว่วมา

ชายหนุ่มทักทายกับเจ้าของร้านสองสามคำอย่างคนที่รู้จักมักคุ้นกันมาก่อนแล้ว

เขาสั่งกับข้าวที่ทำง่ายๆมาสองสามอย่างพร้อมข้าวสวยหุงร้อนๆเพื่อให้อุ่นท้อง ก่อนยื่นเมนูมาให้น้ำอิงเหมือนจะถามว่าต้องการอะไรเพิ่มอีกหรือไม่ หญิงสาวเพียงแต่ส่ายหน้า ความเหนื่อยล้าทำให้หล่อนรู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนสมองเหมือนจะไม่ทำงานเสมอ

ตอนนี้หล่อนไม่มีแก่ใจจะสนใจสิ่งใดนอกจากรอให้อาหารเหล่านั้นมาพร้อมกันที่โต๊ะ

เมื่อดูเหมือนหญิงสาวตรงหน้าจะสมัครใจเล่นภาษาใบ้แข่งกับเขา แสงปรัชญ์จึงค่อยๆผ่อนลมหายใจยาวและหรี่ตามองนิ่งๆ

แวบหนึ่งที่น้ำอิงคล้ายเห็นแววขันจุดพรายในดวงตาคมดุจัด แต่มันวาววะวับครู่เดียวก่อนจะถูกกลบหายจนหล่อนไม่แน่ใจนัก...

“เครื่องดื่มอะไรดี” ประโยคนั้นไร้คำลงท้าย ทว่าน้ำเสียงเรียบๆนั้นก็ฟังดูจะอ่อนลงกว่าทุกที “น้ำเปล่า...น้ำอัดลม หรือว่าน้ำผลไม้”

“น้ำเปล่าเถอะค่ะ กินอย่างอื่นไม่ลง...”

นัยน์ตาโรยเหมือนจะหมดเรี่ยวแรงทำให้น้ำอิงสงบเสงี่ยมกว่าที่เคย

หรือบางทีอาจเป็นเพราะโทรศัพท์สั่งงานจากเฮียอเนกเมื่อครู่นี้ทำให้เซลล์ประสาทของน้ำอิงรวนไปถนัดตาก็เป็นได้

จะพักร้อนสักทีก็หนีไม่พ้นเรื่องงาน ตราบใดที่ยังต้องการกลับไปอย่างคนมีอาชีพน้ำอิงก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบเหล่านี้ได้ แม้ว่าส่วนหนึ่งใจหล่อนก็จำต้องยอมรับว่าการทำงานช่วยให้หล่อนสนุกสนานและภาคภูมิใจไม่น้อยเลย

ชายหนุ่มหันไปสั่งเครื่องดื่มตามนั้น

กิริยาอาการของเขาดูผ่อนคลายลงเมื่อยืดแขนวางพาดไปตามความยาวของพนักเก้าอี้อีกตัวที่อยู่ใกล้ แม้เจ้าตัวจะหันออกไปมองทะเลอย่างทอดอารมณ์ น้ำอิงก็ยังสังเกตเห็นบุคลิกที่แฝงความเชื่อมั่นอย่างร้ายกาจในตัวผู้ชายคนนี้อยู่ดี

แต่เมื่อพินิจด้วยสายตาอันเป็นกลาง อย่างน้อยน้ำอิงก็ต้องยอมรับแบบไม่เต็มใจนักว่าภาพเบื้องหน้าคือความสมบูรณ์แบบเชิงศิลป์ที่ไม่อาจมองข้ามผ่านไปได้...เงาที่ทอดหลบจากแสงไฟสลัวรางส่งให้วงหน้าคมเป็นสันแลชัดเจนดูกระด้างแบบชายชาตรี ทว่าดวงตาดำจัดที่เปล่งประกายเจิดจ้าสะท้อนถึงพลังงานอันเคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่ง เลยไกลออกไปคือผืนฟ้าที่มืดสนิทแต่ยังพอเห็นเกลียวคลื่นที่สะบัดโลดพลิ้วโยนตัวไปมาลั่นครืนครามเหมือนประกาศศักดาความเป็นเจ้าของท้องฟ้าและผืนดินนี้...

ปากไวเท่าความคิดเมื่อถามโพล่งออกไปว่า

“คุณทำงานอะไรอยู่คะ”

เขาเบือนหน้ากลับมาอย่างแปลกใจ แต่ก็ตอบโดยดีว่า “ผมเป็นวิศวกรที่ปรึกษา”

“อิงทำในบริษัทโฆษณาน่ะค่ะ” เมื่อเห็นวี่แววเชิงถามจากอีกฝ่ายหล่อนจึงขยายความต่อนิดหน่อยว่า “ตำแหน่งอาร์ตไดเร็คเตอร์”

“อ้อ...”

หางเสียงที่ลากน้อยๆเหมือนจะบอกเป็นนัยว่าอาชีพกับตัวตนของหล่อนเหมาะสมกันดี

น้ำอิงรู้ว่าหล่อนถูกใครหลายคนมองว่ามีโลกส่วนตัวและจิตนาการที่ไม่หยุดนิ่ง สายตาเวลามองอะไรๆจึงมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่าง แต่ดูเหมือนการมองของแสงปรัชญ์จะแปลกออกไปเล็กน้อยตรงที่มันราบสงบลงคล้ายไม่ได้ต้องการค้นลึกไปกว่านั้น

เขายินยอมปล่อยที่ว่างให้หล่อนแสดงตัวตนอันเป็นอยู่ มากกว่าจะใช้ถ้อยคำมาจำกัดคั่น

ผู้ชายคนนี้ก็แปลกดี...

ความคิดถูกกั้นขวางด้วยหางตาที่มองเลยออกไปยังลูกค้าอีกกลุ่มที่นั่งอยู่โต๊ะห่างเลยกันเข้าไปด้านในของร้าน

“รู้จักเหรอ”

คนถามเพี้ยงเอี้ยวกายหันไปมองตาม

“ไม่ค่ะ...แค่เคยเห็น”

น้ำอิงกลับไปสนใจอาหารร้อนๆควันกรุ่นหอมฉุยที่เพิ่งยกมาตามคำสั่งเมื่อครู่ใหญ่นี้ ชายหนุ่มที่ร่วมโต๊ะจึงไม่คิดจะซักใดๆต่อไปอีกนอกจากเริ่มลงมือรับประทานอย่างเงียบ

กระทั่งเสียงฝ่ามือสะบัดใส่ผิวเนื้อใครบางคนดังลั่นร้านนั่นแหละที่ทำให้น้ำอิงสะดุ้งเฮือกและหันขวับไปมอง

หญิงสาวผู้ตกเป็นฝ่ายถูกกระทำนั่งตัวลีบหน้าหันไปทางหนึ่งจากแรงฝ่ามือของเพื่อนสาวร่วมกลุ่มซึ่งลุกยืนตัวสั่น...ไม่ใช่เพราะตกใจ...แต่เป็นอาการโกรธอย่างฉุนเฉียวรุนแรงจนน่ากลัวทีเดียว คนกลางที่อยู่โต๊ะเดียวกันเหลียวมองไปทั่วอย่างขยาดต่อการตกเป็นเป้าสายตาจึงร้อนรนจ่ายเงินค่าอาหารยัดใส่มือบริกรเกินๆไปจากรายการจริงที่กะได้และลากตัวต้นเหตุจากไป ทิ้งให้ยิหวาร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาอยู่ตรงนั้นโดยไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้

แสงปรัชญ์มองตามมือของหญิงสาวตรงหน้าเขาที่วางช้อนและส้อมลง น้ำอิงเช็ดปากอย่างเงียบๆก่อนจะพึมพำแผ่วๆว่า

“ขอตัวสักครู่นะคะ”

ปฏิกิริยาแรกของแสงปรัชญ์คือการนิ่ง และสิ่งที่เขาทำต่อมาคือดึงเอาโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กจากกระเป๋าตนเองที่เก็บไว้มิดชิดก่อนหน้านี้ขึ้นมาถามว่า

“เบอร์โทรคุณล่ะ”

แม้จะแปลกใจแต่น้ำอิงก็บอกออกไปโดยดี

ชายหนุ่มใช้เวลาครู่เดียวในการบันทึกก่อนจะบอกสั้นๆปิดท้ายว่า “ถ้ามีอะไรอยากให้ช่วยก็เรียกได้ ผมจะไปรอที่รถ”

“ค่ะ”

ความเข้าใจที่ส่งผ่านสื่อสารกันเงียบๆนั้นดูเหมือนจะไม่ต้องใช้คำพูดมากมายเยิ่นเย้อ

น้ำอิงลุกเดินตรงไปที่หญิงสาวซึ่งใบหน้าเปรอะเปื้อนด้วยน้ำตาอย่างน่าเวทนาและก้มลงปลอบสองสามคำก่อนจะพากันลุกเดินไปทางห้องน้ำพร้อมเสียงถอนหายใจอย่างโล่งอกจากคนอื่นๆที่เห็นเหตุการณ์อยู่ตั้งแต่แรก

แสงปรัชญ์มองตามคนที่เพิ่งลับหายไปด้วยดวงตาที่อ่านไม่ออก

เขาเคาะนิ้วลงกับโต๊ะสองสามทีเหมือนตรึกตรองบางสิ่ง ก่อนจะจัดการเรื่องค่าอาหารด้วยตัวเองโดยไม่ลงบัญชีไว้ ลุกเดินไปยังบริเวณที่จอดรถไว้ก่อนจะถูกกลืนหายไปในเงามืดที่ทาบลงมาปกคลุม...



แก้มที่แดงก่ำเป็นรอยนิ้วนั้นเห็นได้ถนัดตา น้ำอิงยืนหันหลังพิงเคาน์เตอร์รอให้ยิหวาล้างคราบน้ำตาออกไปแม้จะยังเห็นดวงตาที่ช้ำจากอารมณ์ที่ผ่านเข้ามาอย่างกะทันหันก็ตามที

“ขอบคุณค่ะ”

ยิหวากล่าวเบาๆแทบไม่ได้ยิน ขณะรับทิชชูซึ่งน้ำอิงยื่นส่งให้พร้อมเสียงถอนใจอย่างเวทนา

“ท่าทางจะช้ำเยอะอยู่นะคะ”

“เดี๋ยวก็หายค่ะ” รอยยิ้มฝืดเฝื่อนช่วยให้ดูดีขึ้นกว่าเดิมได้เพียงเล็กน้อย “ปกติเราเป็นเพื่อนกันแต่มันก็ต้องมีบ้างใช่ไหมคะที่ผิดใจกันได้”

ใช่...และไม่ใช่...

เท่าที่จำได้น้ำอิงมั่นใจว่าเพื่อนหล่อนไม่เคยลงไม้ลงมือรุนแรงขนาดนี้เพียงเพราะไม่พอใจกับเรื่องจุกจิกในการเที่ยวไกลบ้าน แต่ก็ไม่ใช่ภาระที่จะไปทำให้ความกังวลใจในดวงตาคู่ที่มองมากึ่งขอร้องนั่นเพิ่มปริมาณกว่าเดิม น้ำอิงจึงเพียงยิ้มคล้ายจะยอมรับและไม่กล่าวสืบต่อไปอีก

“มาเที่ยวหรือคะ” น้ำอิงหันเหหัวข้อสนทนา

ยิหวาพยักหน้านิดๆ

“เคยมาแค่สมุยน่ะค่ะ แต่หนนี้ปาล์มกับจูนอยากมาพะงันก็เลยลุยกันมาเอง”

“อิงก็เพิ่งเคยมาเหมือนกันค่ะ เห็นพวกคุณที่สถานีรถไฟก่อนหน้านี้แต่นึกว่าจะไปที่สมุย”

อาจเพราะความเป็นมิตรและอากัปกิริยาสบายๆของน้ำอิงที่ทำให้ยิหวาไว้ใจพอจะเอ่ยเชิงปรึกษาขึ้นอย่างลังเลว่า

“พอจะรู้จักที่พักว่างๆที่อื่นไหมคะ คืนนี้หวาไม่อยากกลับไปรวมกลุ่มกับเพื่อนน่ะค่ะ”

คนฟังย่อมทราบดีแก่ใจว่าหญิงสาวตรงหน้าต้องการเวลาตั้งหลักก่อนเผชิญปัญหา อย่างน้อยหล่อนก็ดูน่าสงสารจนไม่สมควรจะต้องถูกส่งกลับไปรองรับโทสะเพื่อนสนิทในค่ำคืนนี้

น้ำอิงไม่ได้เสียเวลาคิดสักนิดตอนบอกออกไปว่า “อิงพักที่ริมเลรีสอร์ตค่ะ...ถ้าสนใจนะ”

“ค่ะ...ขอบคุณมากๆค่ะ”

สายตาคู่หม่นนั้นมีวี่แววตื้นตันใจ

น้ำอิงเพียงแต่ยิ้มให้เชิงปลอบในที แต่ใจหล่อนกำลังคิดว่าคนที่รออยู่ที่รถจะมีสีหน้ายังไงหนอ...















Create Date : 29 กันยายน 2552
Last Update : 21 ตุลาคม 2552 18:34:02 น. 6 comments
Counter : 585 Pageviews.

 
ตอนจบ... ทุกคนจึงได้รู้ความจริงว่า
น้ำอิงเป็น... "โรคกระเพาะ"
แล้วเรื่องก็ปรับเข้าโหมดเศร้า
เพราะถือเป็นโศกนาฎกรรมที่ร้ายแรงมากมาย เหอ เหอ

ผมเดาตอนจบได้เก่งมะครับ ฮ่าๆ ...



โดย: deluck IP: 118.172.73.74 วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:10:54:32 น.  

 
ถ้าน้ำอิงเป็นโรคกระเพาะ
เดี๋ยวจะให้แสงปรัชญ์เป็นหมอที่แอบปลอมตัวมา
โฮะ โฮะ โฮะ


โดย: ploy666 IP: 124.157.190.203 วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:12:41:40 น.  

 
หวัดดีคุณพลอยค่ะ

กำลังพยายามปั่นงานอยู่ค่ะ
แต่ไม่คืบหน้าไปถึงไหนเลย


โดย: ปณาลี วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:22:52:27 น.  

 
พลอยหยุดปแล้วล่ะคุณตูน มิสามารถจริงๆค่ะ T^T
ไม่เคยเป็นมาก่อน ได้แต่ลุ้นเอาว่าจะกลับมาปกติเมื่อไหร่นะ
^ ^
ช่วงนี้เตรียมออกจากบ้านเพื่อให้สบายใจขึ้นน่ะค่ะ


โดย: ploy666 IP: 124.157.190.203 วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:14:37:36 น.  

 
ดีจ้า...นุ้งพลอยยยยยยยยยยยยยยย


มิส...มิส...ฝันดีน๊า......อิอิอิ


โดย: เรือไฟ วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:21:11:16 น.  

 
มีส..ด้วยจ้าพี่บิว จุ๊บๆ
(เล่นกันเองก็ได้ด้วยเนาะ 55+)


โดย: ploy666 IP: 124.157.190.203 วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:2:24:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ploy666
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




หนังสือที่มีวางจำหน่ายเฉพาะในบล็อก
https://ploy666.bloggang.com




ชื่อเรื่อง : เศวตธามัน (บัลลังก์ศศิธรา)
นามปากกา : สิตาปางค์
ประเภท : จินตนิยาย , โรแมนติก
รูปเล่ม : ขนาด 700 หน้า A5
ออกแบบปก : Little thing

ราคา : 850.- บาท
สินค้าหมด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ploy666&group=28

สั่งซื้อที่ : .........

หมายเหตุ : งดใส่ลายเซ็นนักเขียนทุกกรณีค่ะ

** ***********************************



ชื่อเรื่อง : เงาบรรณ
นามปากกา : ลายน้ำ
ราคา : 259.- บาท
สั่งซื้อที่ (ยุติการสั่งซื้อ)

สินค้าหมดค่ะ



****************

นิยายที่อัพล่าสุดคือเรื่อง

รอยทรายบนลายรัก
...และ...
กระต่ายในใจจันทร์



***********

เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า
ทนไม่ไหวแล้ว...
จงเรียนรู้ ที่จะขอความช่วยเหลือ

โลกไม่ได้โหดร้ายเกินไปนัก
ผู้คน ก็ไม่ได้ใจร้ายไปซะทั้งหมด

เป็นกำลังใจให้ค่ะ...


Ploy666.



************

หมายเหตุสักนิดค่ะ...

ถ้าเป็นไปได้ งดการแปะรูปใส่คอมเม้นท์นะคะ
เจ้าของบล็อกเข้าหน้าจอไม่ได้จ้า เน็ตห่วยมากมาย

ขอบคุณคนใจดีทั้งหลายล่วงหน้าค่ะ


**************

เนื้อหาต่างๆที่อัพในบล็อก
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย


Friends' blogs
[Add ploy666's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.