|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
เล่ห์ร้าย อุบายรัก ตอนที่3
หลังจากที่เอกองค์เดินออกมาจากห้องเพื่อไปทำงานที่บริษัทของตัวเองตามที่ได้กล่าวไว้กับเพื่อนรัก ทว่าความ จริงแล้วไม่ใช่...ชายหนุ่มรีบเดินสาวเท้าพาร่างสูงของตัวเองมาหยุดอยู่ที่ฝ่ายบัญชีของบริษัท NCL คอปเปอร์เรชั่น สถานที่ที่กำลังทำให้เขาพบใครบางคนอยู่อยากเจอมาถึงสองปี
สองปีแล้วสินะ ที่เขาเพียรพยายามตามหาเธอมาตลอด ไม่ว่าที่ไหน ที่เขาคิดว่าเธอจะไป เขาก็ตระเวนไปทุกที แต่สุดท้ายก็ไม่พบแม้เพียงเงา ถ้าเขารู้เรื่องราวเร็วกว่านี้ เขาจะไม่ปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเป็นอันขาด แต่มันช่วยไม่ได้จริงๆที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเฉกเช่นอุบัติเหตุเกิดขึ้น หากวันนั้นเขาอยู่ที่นี่อยู่ข้างๆเธอ เธอคงไม่ตกเป็นจำเลยของใครต่อใครจนถึงทุกวันนี้
อุบัติเหตุในครั้งนั้นมันเกิดขึ้นในช่วงที่เอกองค์ไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ เขากลับมาหลังจากที่ได้รับข่าวการเสียชีวิตของสิริสราว่าที่คู่หมั้นของเพื่อนรักทันที แต่เหตุการณ์มันก็ผ่านไปกว่าสองเดือนแล้ว ไม่มีใครพูดถึงพิชญาในแง่ดีเลย ทุกคนรุมกล่าวหาประณามหญิงสาวให้เขาฟัง ซึ่งเขาไม่เชื่อเด็ดขาดว่า... ว่าคนที่เขารักจะเป็นคนแบบนั้น และเขาก็ปักใจว่าเธอไม่ใช่คนผิดมาจนถึงทุกวันนี้
อย่างน้อยถ้าพิชญาเป็นฝ่ายผิด เขาก็อยากจะรับฟังคำยืนยันจากปากของเธอเอง
แต่ทุกอย่างมันสายไปเสียแล้ว เมื่อเขากลับมาพิชญาก็ถูกไล่ให้ไปอยู่ที่อื่น และไม่ว่าเขาจะตามหาเธออย่างไร ผลคือไม่พบ ห่วงแสนห่วงว่าเธอจะอยู่ตัวคนเดียวอย่างไร เจ็บไข้ไม่สบายเธอจะเป็นอย่างไร จะทรมานกับการถูกกล่าวหาหรือไม่ หลังจากที่การตายของสิริสราเริ่มซาลง เอกองค์พยายามสืบหาพิชญาจากที่ต่างๆ อย่างไม่โจ่งแจ้งนัก เพราะเขาเกรงใจภูมิรพี อย่างไรภูมิรพีก็เป็นเพื่อนสนิทที่เขาควรถนอมน้ำใจเอาไว้
โรงพยาบาล...เขาได้รับข่าวจากนายแพทย์เจ้าของไข้ของพิชญาเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยของเธอว่าสุขภาพไม่ค่อยดีนัก...เพียงเท่านี้ก็ทำให้เอกองค์แทบดิ้นทุรนทุรายด้วยความทรมานที่ไม่สามารถอยู่ข้างๆพิชญาได้ในวันที่เธอต้องการใครสักคนเพื่อนอยู่เป็นเพื่อนหรือเป็นที่ปรึกษา
แต่วันนี้เขากำลังจะได้พบเธอ เขาจะไม่ปล่อยให้ใครมาทำร้ายเธออีกเป็นแน่ เขาจะอยู่ข้างๆเธอ
เอกองค์อยู่ความคิดไว้เพียงเท่านั้น เมื่อสังเกตเห็นร่างบางเล็กๆของผู้หญิงคนหนึ่งกำลังทำท่าเก้ๆกังๆอยู่ข้างๆเครื่องถ่ายเอกสารชายหนุ่มจ้องมองเรือนร่างเล็กในชุดแซคสีชมพูหวาน ใบหน้ารูปหัวใจเล็กๆหันด้านข้างมาทางเขา เพียงเท่านี้ก็เรียกรอยยิ้มกว้างของเขาให้ฉีกกว้างมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อรู้ว่าเจ้าของชุดแซคเป็นใคร
น้องแพน เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้าน ก่อนจะรีบสาวเท้ายาวๆจะไปยืนอยู่ข้างๆคนตัวเล็ก
พิชญาชะงักเมื่อก้าวถอยหลังแล้วต้องสะดุดกึกกับร่างใหญ่ ที่ยืนตระง่าราวกับกำแพงใหญ่ยักษ์อยู่ด้านหลัง ทันทีที่คิดได้ร่างเล็กๆของหญิงสาวก็กล่าวคำขอโทษอย่างสุภาพออกมา เสียงหวานๆของเธอที่เขาไม่ได้ยินมาถึงสองปีเต็ม กำลังทำให้เอกองค์ละลายด้วยความสุขที่พบหญิงสาวอีกครั้ง
เมื่อหญิงสาวหมุนตัวกลับไปก็พบกับคนที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี เรียกเอารอยยิ้มกว้างจนแก้มแทบปริจากหญิงสาวออกมาได้
พี่เอก! พิชญาเอ่ยออกมาด้วยเสียงสั่นๆ ก่อนจะกระโดดโผเข้ากอดร่างยักษ์ตรงหน้าทันที แพน...แพนคิดถึงพี่เอกที่สุดในโลกเลยค่ะ
เอกองค์มือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูกในช่วงแรกที่คนตัวเล็กกระโดดกอดราวกับลูกลิง แต่พอตั้งสติได้เขาก็กอดตอบหญิงสาวแน่นๆราวกับว่าไม่อยากให้คนตัวเล็กหายไปไหน อยากให้อยู่ในอ้อมกอดเขาตลอดไป โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้...ว่ามีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองมาทางเขาและเธออย่างเกรี้ยวกราด
พี่เอกมาทำอะไรที่นี่คะ ร่างบางของหญิงสาวผละออกจากเอกองค์ทันทีที่สติเริ่มกลับมา เอกองค์ส่งเสียงอึกอักในลำคออย่างเสียดายที่ร่างนุ่มนิ่มที่กอดอยู่เบี่ยงตัวหลบออกไปจากวงแขนของเขา แต่ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ เขาจึงยอมปล่อยมือออกจากร่างบางอย่างเสียดาย มือทั้งสองเลื่อนลงมากุมมือน้อยอย่างรักใคร่
พี่มาหาไอ้ภูมิ เอ่อ...พี่หมายถึงว่าแวะมาทำธุระที่นี่นะจ๊ะ ไม่นึกเลยว่าจะได้เจอน้องแพนที่นี่ เอกองค์ยิ้มกลบเกลื่อนเมื่อรู้ว่าตนเองพูดในสิ่งที่ไม่สมควรออกมาซะแล้ว
จริงซินะ พี่เอกเป็นเพื่อนสนิทของพี่ภูมิ... เอ่อ คุณภูมิรพีประธานบริษัท รอยยิ้มของหญิงสาวเจื่อนลง เมื่อเอ่ยถึงบุคคลที่สาม
ตอนนี้...ไม่สิ นี่มันก็เลยเที่ยงมานานแล้ว พี่จะชวนน้องแพนไปทานข้าวมันก็ยังไงอยู่ เอาเป็นว่าเย็นนี้ล่ะกัน พี่ขอจองตัวน้องแพนไว้เลยนะ น้องแพนไม่มีธุระที่ไหนใช่ไหมจ๊ะ ไปทานข้าวกับพี่นะครับ เอกองค์กล่าวด้วยรอยยิ้มกริ่ม โดยที่เขาลืมนัดของเพื่อนสนิทอย่างภูมิรพีไปซะสนิท
ค่ะ ตกลงแพนไม่มีธุระกับใครหรอกค่ะ นอกจากจะกลับไปช่วยงานที่สถานสงเคราะห์... ว่าแต่พี่เอกเถอะ ไม่มีนัดกับสาวๆที่ไหนแน่นะคะ แพนไม่อยากโดนสาวๆของพี่เอกตามรุมทึ้งเหมือนตอนอยู่มหาลัยหรอกนะ
หญิงสาวกล่าวอย่างอมยิ้ม เธอยังจำได้ดีตอนที่เธออยู่ปีหนึ่ง เอกองค์เป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ที่กำลังเรียนปริญญาโท มีสาวๆตามมารุมด่าต่อว่าเธอถึงที่คณะ เรื่องที่หล่อนไปยุ่งกับเององค์มากเกินไป เธอยังจำเหตุการณ์ในวันนั้นได้ดี ทั้งๆที่วันนั้นเธอกลัวมาก แต่พอผ่านเหตุการณ์นั้นมาได้ ยามเมื่อนึกถึงทีไรก็เผลอยิ้มออกมาทุกที
แหม! ไม่มีแล้วล่ะจ๊ะ พี่เป็นเด็กดีนะเดี๋ยวนี้ ว่าแต่ว่าน้องแพนยังอยู่ที่.... ยังไม่ทันที่เอกองค์จะพูดจบประโยคเสียงโทรศัพท์เจ้าปัญหาก็ดังขึ้นมาขัดการสนทนาระหว่างเธอกับเขา ชายหนุ่มล้วงกระเป๋ากางเกงคว้าโทรศัพท์มือถือออกมา ก่อนจะเบ้ปากชักสีหน้าเบื่อหน่ายทันทีที่รู้ว่าปลายสายคือใคร
โทรศัพท์แผดเสียงดังอยู่ไม่กี่ครั้งก็ถูกเอกองค์กดตัดสายไปในที่สุด การกระทำของชายหนุ่มคงสร้างความขุ่นเคืองให้กับปลายสายอยู่ไม่น้อย แต่ทว่าเขาไม่สนใจ ตอนนี้สิ่งที่เขาสนใจมากที่สุดคือร่างบางเล็กของคนตรงหน้ามากกว่า
สองปีที่ไม่เจอ พิชญาดูเป็นสาวสะพรั่ง สวยขึ้นมาก ผมสลวยซอยไล่ระดับยาวแค่หัวไหล่บัดนี้ มันยาวลงมาคลอเคลียบั้นเอวของเธอเสียแล้ว แต่ที่ยังเหมือนเดิมคือความสลวยของเส้นผม ที่ชายหนุ่มเกือบเผลอเอามือไปสัมผัสอยู่บ่อยๆ ดวงจากลมโตสีน้ำตาลอ่อน หวานซึ้ง ที่ไม่ว่าดูอย่างไรก็สุกสกาวเป็นประกายในใจของเอกองค์อยู่เสมอ จมูกเชิดรั้นกับริมฝีปากบางเล็กเหมือนสตรอเบอรี่สีแดงสดน่าจูบที่สุดในความคิดของชายหนุ่ม ทุกอย่างล้วนประกอบอยู่บนใบหน้ารูปหัวใจเล็กๆของเธอ
คงไม่ยากถ้าจะเธอจะทำให้ผู้ชายหลงรักแค่สบตาเธอเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น ตัวอย่างเช่น...เขา เขาหลงรักเธอตั้งแต่แรกเห็น แต่ที่ผูกมัดใจของเขาได้ไม่ใจแค่ความสวย จิตใจที่อ่อนโยนของเธอต่างหากล่ะที่มัดใจเขาไว้ซะอยู่มัด แล้วอย่างนี้จะให้เขาเชื่องั้นหรือ ว่าเธอจะไปฆ่าคนตายได้ ไม่มีทาง ...
เอ้า! พี่เอก เล่นจ้องแพนตาไม่กระพริบซะขนาดนี้เดี๋ยวแพนก็พรุนหมดหรอกคะ คนตัวเล็กกระเซ้า มีรอยยิ้มระบายอยู่ตรงหน้า
แหะๆ นั่นซิพี่จ้องขนาดนี้ถ้าแพนเก็บสตางค์ค่าดูละก็ พี่ต้องหมดตัวแน่นอน แต่พี่ก็ยอมหมดตัว ขอแค่ได้มองแพนไปนานๆ...ชั่วชีวิต ประโยคสุดท้ายดูเหมือนจะดังก้องอยู่แค่ในลำคอของชายหนุ่มเท่านั้น
พี่เอกว่าอะไรนะคะ !? แพนไม่ได้ยินเลย ยิ้มกว้างของพิชญาหุบลงจนเกือบจะเป็นบึ้ง เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นร่างสูงของใครคนหนึ่งจ้องมองมาทางเธออย่างไม่พอใจนัก
ภูมิรพีก้าวขายาวๆของตนเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงที่ที่เพื่อนรัก ยืนหัวล่อต่อกระซิกอยู่กับพนักงานบริษัทตัวเองอย่างสนุกสนาน โดยไม่สนใจสายตาของพนักงานคนอื่นในบริษัทแม้แต่น้อย เอกองค์ชะงักเล็กน้อยเมื่อภูมิรพีมายืนเคียงข้างเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
เฮ้ย! ไอ้ภูมิ แกมายืนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะ ไม่ให้สุ่มไม่ให้เสียง ฉันตกใจหมด
ฉันน่าจะถามแกมากกว่านะไอ้เอก ว่าแกยืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แกลาฉันกลับตั้งแต่ตอนเที่ยงครึ่งบอกจะรีบกลับไปทำงานที่บริษัทของแกไม่ใช่เหรอ แล้วไหงมายืนหัวล่อต่อกระซิกกับพนักงานของฉันได้ล่ะ
ภูมิรพีกล่าวโดยไม่มองหน้าเพื่อนรัก แต่กลับจ้องหน้าร่างบางที่ยืนอยู่แทน สายตาดุดัน สายตาที่มีแววตำหนิ จนหญิงสาวต้องหลุบตาลงต่ำมองพื้นกระเบื้องแทนการมองหน้าของผู้พูดไปโดยปริยาย
เธอไม่กล้าแม้แต่จะสบตาของเขา สายตาของเขามีพลัง หากเธอสบตาของเขาในตอนนี้ พละกำลังคงถูกดูดกลืนหายไปหมด จนไม่มีเรี่ยวแรงพอจะยืนอยู่ตรงหน้าเขาได้ เขาคงไม่รู้หรอก ว่าเธอต้องให้ความกล้าแค่ไหนในการที่จะเผชิญหน้ากับเขา
จริงอยู่แม้คำพูดของภูมิรพีจะตำหนิเอกองค์ แต่หญิงสาวรู้ดีว่าคนที่เขาตำหนิจริงๆหมายถึงใคร
บรรยายกาศรอบตัวเริ่มอึมครึมขึ้น จนเอกองค์อดเสียวสันหลังหวาบแทนคนตัวเล็กที่ยินตัวสั่นงันงกอยู่ไม่ได้ ตอนนี้ตัวของหญิงสาวราวกับหดเล็กลงเหลือเพียงสองเซ็นต์ หรืออาจไม่มีตัวตนอยู่ ณ ที่นี่ก็ได้ หากเขาไม่รีบทำอะไรสักอย่างในตอนนี้...
เฮ้ย!แย่ล่ะ เอกองค์จงใจอุทานออกมาเสียงดังเพื่อเรียกร้องความสนใจจากภูมิรพีให้หันมาสนใจเขา มากกว่าจะใช้สายตาดุๆตำหนิพิชญา ซึ่งเขาก็ทำได้...ภูมิรพีเบนสายตาจากหญิงสาวมามองเพื่อนรักทันที อะไรของแกว่ะ
นี่มันก็เลยเวลาทำงานของฉันมาตั้งนานแล้วนี่หว่า แย่ล่ะสิ เลขาจอมเฮี้ยบของฉัน คุณพรพิมลบ่นตายแน่ๆเลย เวรแท้เลยแกเอ๊ย
พรพิมลคือเลขาสาววัยกลางคนรุ่นๆแม่ของเอกองค์ ที่อยู่ช่วยงานมาตั้งแต่รุ่นบิดาของเขา ซึ่งตอนนี้คุณประพันธ์ บิดาของเอกองค์ได้มอบหมายให้คุณพรพิมลมาช่วยงานชายหนุ่มแทน เป็นการปูพื้นฐานและสอนการทำงานให้กับเอกองค์ อันจะสืบต่อดำรงตำแหน่งประธานบริษัทต่อจากผู้เป็นบิดา พรพิมลจึงไม่ใช่พนักงานทั่วไป แต่เปรียบเสมือนญาติของเององค์
เอกองค์ทำท่าลุกลี้ลุกลนกอปรกับการดูนาฬิกาข้อมือเรือนสวย ชักสีหน้าร้อนลนเล็กน้อย เพียงเท่านี้ก็เรียกร้องความสนใจจากภูมิรพีได้แล้ว
สมควรแล้ว แกโดดงานมาคุยกับพนักงานของฉันเองนี่ ช่วยไม่ได้ว่ะ
โถ่! วกกลับเข้าเรื่องเดิมจนได้ เรื่องนี้ฉันผิดเอง น้องแพนไม่ผิดหรอก ฉันมากวนเวลาทำงานของเค้าเอง แกอยากว่าอะไรก็ว่าฉันเถอะเรื่องนี้น้องแพนไม่ผิดหรอก
ฮึ! ออกรับแทนกันเหลือเกินนะ สายตาคมกริบจ้องมองหญิงสาวอย่างเอาเรื่อง จนพิชญาเริ่มหายใจติดขัด อดอัดกับสภาพแบบนี้เต็มทน แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อเธอเลือกมาทำงานที่นี่ ให้เขาโขกสับถึงที่เอง สิ่งที่ทำได้คืออดทนคำเดียวเท่านั้น
เอ้าก็มันเรื่องจริงนี่หว่า น้องแพนเค้าไม่คิด ฉันผิดเอง
ทำไม! แกกลัวฉันจะลงโทษพนักงานของฉันรึไง แต่แกไม่ต้องห่วงหรอกนะ ฉันไม่ทำอะไรหรอกแค่เรื่องเล็กน้อย ฉันไม่ถือสาหรอก แต่การที่แกกับคุณพนักงานตระกองกอดกันในที่สาธารณะมันก็เกินไปจริงไหม
เอกองค์สะอึกคิดไม่ถึงว่าภูมิรพีจะเห็นช็อตเด็ดเข้าพอดี ขอโทษว่ะ ฉันดีใจมากไปหน่อย ก็แหม! ฉันไม่ได้เจอน้องแพนมาตั้งนานแล้วนี่นา เลยเผลอตัวไปหน่อย ยังไงแกก็เป็นเจ้านายที่ใจกว้างอย่าสือสาเลยนะ
ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่คิดว่ามันไม่สมควรทำแค่นั้น คนอื่นมองมามันจะไม่ดี แต่ฉันอาจคิดมากเกินไป เพราะขนาดคนที่ถูกกอดเค้าก็ไม่ได้ว่าอะไรนิ
พูดอะไรอย่างนั้นวะ เหลวไหลจริงๆเลยแกเอ๊ย ! คิดเล็กคิดน้อย เอกองค์แก้ตัวแทนหญิงสาวเป็นพัลวัน
ภูมิรพียิ้มย่องอยู่ภายในใจ แม้สีหน้าจะดูราบเรียบแต่ภายในใจกลับสุมตัวไฟแค้นที่ไม่มีวันดับ จนกว่าผู้หญิงตรงหน้าจะมอดไหม้ด้วยไฟแค้นของเขา... ใช่! ตอนนี้เขายังไม่ทำอะไรกับหล่อนหรอก ย้ำว่าแค่ตอนนี้เท่านั้นนะ อย่างน้อยเขาก็ไม่กล้าทำอะไรรุนแรงต่อหน้าเพื่อนรักที่ดูจะห่วงหวงหญิงสาวตรงหน้าจนออกนอกหน้านอกตาตอนนี้หรอก มันยังไม่ถึงเวลา!
พิชญาสะดุ้งเล็กน้อยรู้สึกร้อนๆหนาวๆกับคำพูดที่เฉือดเฉือนของชายหนุ่ม เหมือนหล่อนจะสัมผัสอะไรบางอย่างในตัวของภูมิรพีได้ ความเกลียดชังที่มีต่อเธอยังไงล่ะ ไม่ว่าผ่านไปกี่ปี สายตาเย็นชาคู่นั้นไม่มีวันกลับไปอ่อนโยนเหมือนเช่นดังก่อนอีกแล้ว
พิชญาลอบมองใบหน้าภูมิรพี สิ่งที่สะท้อนในดวงตาของเธอคือบุรุษที่มากไปด้วยพลังอำนาจบางอย่างที่แฝงอยู่ในตัว ผมซอยไล่ระกับยาวแค่คอดูดีสมกับฐานะของประธานบริษัทใหญ่ จมูกโด่งเป็นสัน สีผิวคมเข้มสีแทนผมสีดำสนิทเช่นเดียวกับนัยน์ตาคมกริบที่พร้อมจะเฉือดเฉือนทุกสรรพสิ่งนัยน์คู่นั้นเมื่อก่อนเคยมีความอ่อนโยนให้กับเธอ แต่ตอนนี้ไม่มีอีกต่อไปแล้ว
เอ่อ ฉันว่าฉันกลับไปทำงานก่อนดีกว่า นี่มันก็เลยเวลามาตั้งนานแล้ว แกไปส่งฉันหน่อยดิวะภูมิ
อะไรของแก... ปกติเห็นเดินร่อนไปทั่วบริษัทได้ แต่ตอนนี้จะให้ฉันไปส่ง ทำไมเห็นหน้าคนที่ไม่ได้เห็นมานานถึงกับทำให้แกหาทางออกจากบริษัทของฉันไม่ถูกเลยรึไงไอ้เอก
บ้า! ไม่ใช่โว้ย... แกก็คิดไปนั่น รีบไปกันเถอะก่อนที่ฉันจะโดนคุณพรพิมลบ่นมากกว่านี้ เอกองค์พูดก่อนตบบ่าเพื่อนรักเบาๆและดุนหลังให้ภูมิรพีเดินนำหน้าไปก่อน แต่ก็ไม่วายหันหลังมากำชับร่างบางด้วยเสียงเบาๆว่า พี่ไปก่อนนะจ๊ะน้องแพน อย่าลืมนัดของพี่นะคืนนี้ที่ร้าน .... แล้วเจอกันจ๊ะ
ค่ะ พิชญาตอบรับด้วยรอยยิ้มกว้างพร้อมกับโบกมืออำลาเอกองค์ ก่อนจะหันกลับมาให้ความสนใจกับเครื่องถ่ายเอกสารเจ้าปัญหาต่อ แต่ในสมองยังไม่วายนึกถึงคำพูดที่ดูถูกเหยียดหยามของภูมิรพี
เธอคงจะเป็นผู้หญิงที่เลวมากในสายตาของเขาสินะ ทั้งๆที่รู้ถึงข้อนี้ดีอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่วายนึกน้อยใจในโชคชะตาและชะตากรรมของตัวเอง กับคำพูดที่ยังคงดังก้องอยู่ในใจ ทำไมคนที่ตายกลับเป็นสราไม่ใช่เธอ เฝ้าถามตัวเองอยู่หลายครั้ง แม้จะรู้ว่าชาตินี้คงหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้ ราวกับเป็นคำถามที่ไร้คำตอบ...
แค่วันแรกของการทำงาน กับการเผชิญหน้ากันครั้งแรกนับตั้งแต่ไม่ได้พบกันมาสองปี มันช่างเฉือดเฉือดหัวใจของเธออย่างเหลือคณานับ แล้วอย่างนี้จะทำงานที่นี่ต่อไปได้อย่างไร เอาเถอะ...ไม่ว่ายังไงเรื่องราวก็ย้อนกลับไป ณ จุด จุดเดิมไม่ได้อีกแล้ว สิ่งที่สามารถทำได้ตอนนี้คือการเผชิญหน้าต่อไปอย่างกล้าหาญ แม้จะรู้ว่ามันยากเต็มทีก็ตาม
|
Create Date : 08 ธันวาคม 2548 |
|
3 comments |
Last Update : 16 มกราคม 2552 20:34:01 น. |
Counter : 756 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: กุ๊กไก่ kaijunk2002@hotmail.com IP: 203.188.9.175 31 ธันวาคม 2548 23:21:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: คนคนหนึ่ง IP: 61.90.82.46 2 มกราคม 2549 23:11:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: pinkpearl IP: 203.113.39.6 3 มกราคม 2549 2:02:29 น. |
|
|
|
|
|
|
หลงเข้ามาไม่รู้จะไปทางไหน เข้ามาเซ็นสมุดเยี่ยมก่อนเลยค่า ยินดีต้อนรับเพื่อนใหม่ทุกคนค่ะ
เล่ห์ร้าย อุบายรัก ตอนที่16
มาแว้วววว!! >O<
|
ไข่มุกมาอัพเดทเรื่อง ปฎิบัติการรักดักหัวใจนายตัวแสบตอนที่5 แล้วค่ะ เอาไปแค่70% ก่อนนะเด้อ
|
.::หลังไมค์ถึงไข่มุกค่ะ::.
|
งานประพันธ์ทุกชิ้นเป็นลิขสิทธิ์โดยชอบธรรมของผู้เขียน ซึ่งได้รับการคุ้มครองตามพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ ห้ามทำซ้ำ หรือนำไปโพสต์ที่อื่นโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าของเรื่องโดยเด็ดขาด มีปัญหากรุณาติดต่อ kitty_Mukkแอดhotmail.com
|
ฝากข้อความถึงไข่มุกที่นี่ค่ะ^O^
cursor
|
|
|
|
|
|
|
5555 พี่ตามมาเยี่ยมบล๊อกตามคำชวนที่เวปเด็กดีนะค่ะ สู้สู้ สู้ตายค่ะ