Good view 360 องศา @ lebua at state tower

6-7 / 08 / 2010

ติดรถของที่ทำงาน ไปซื้อกล้องที่ Kingpower เพราะจะใช้สิทธิ์วันเกิดของเพื่อนดำ เนื่องจากได้ลดราคา 30 เปอร์เซ็นต์ อยากได้ G11 จึงไม่รอช้าจัดการเป็นเจ้าของซะเลย

นัดกับแอนที่รางน้ำ ก่อนซื้อขอลองก่อนนะคะ ถ่ายนางแบบแอนนี่แหละ



ถ่ายแบบว่ายังไม่เป็น คือลองดูเฉยๆ



แล้วก็ได้มาเชยชม





แล้วก็ไปสอยนาฬิกา DKNY อีกเรือน ตามด้วย คสอ.ของแอน เริ่มหิววิ่งขึ้นไปกินที่รามายานะ



มีคูปองเหลือจากการซื้อของคราวที่แล้ว จะหมดอายุสิ้นเดือนต้องรีบมาใช้บริการ



พร้อมค่ะ เริ่มได้แต่ว่าต้องรีบนะคะ รีบกินรีบไปซื้อของต่อค่ะ



ยอดฟักแม้ว กับขาเป็ด





พยายามจะงดอาหารทะเล แต่ห้ามปากตัวเองไม่ได้









รีบค่ะรีบ ทานได้นิดเดียว อิอิ แต่ของแอนไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะ ที่ถ่ายมาน่ะของข้าพเจ้าล้วนๆ



จากนั้นเราก็ไปที่พักค่ะ ที่ Lebua at state tower เดินเข้ามาใน Lobby ก่อนเลยค่ะ



Lobby ออกมืดๆ ไปนิด







check in ก็ได้ upgrade อีกแล้ว เบื่อๆ (ซะเมื่อไหร่) จาก Superior Suite Balcony Room เป็น Tower Club, Cityview Suite (51-59 Fl) including below club benefits เราได้ชั้น 58 แถมได้เข้า Business Lounge ฟรีๆอีกด้วย เริ่ดดดดดดดดด



ห้องนี้ค่ะ



ใช้ key cards เปิดเข้าไป



ใส่ silper ก่อนดีไหม



การรีวิวครั้งนี้ไม่เรียงตามลำดับเวลาเหมือนทุกๆ ครั้งนะคะ แต่ขอรีวิวเป็นลำดับๆไป เช่น มุมนั่งเล่น ห้องนอน ห้องน้ำ อาหารเช้า และ club lounge นะคะ







ห้องยาวและลึกมากกกกก



มีครัวเล็กๆ ให้หน่อยนึงค่ะ



ทุกอย่างในตู้เย็นทานได้เต็มที่ค่ะ เพราะไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มแล้ว เสร็จเรา หุ หุ กี่กระป๋องละนั่น มีหวังกระเป๋าหนักอีกแล้วตอนกลับ





เปิดดูในตู้เสื้อผ้า



ในลิ้นชัก



มุมทีวีค่ะ







กระจกบานใหญ่เลื่อนเปิดปิด กั้นห้องระหว่างห้องนอนกับห้องด้านนอกได้เลยค่ะ แถมส่องตัวได้แบบเต็มๆ



twin bed น่านอนค่ะ











ต่อไปเป็นห้องน้ำ



จะแช่อ่าง



หรือจะไม่แช่ก็มาอาบในนี้



มี Bvlgari ให้ใช้เชียวนะคะ



อ่างล้างหน้า หินอ่อนที่เห็นนี้ ถ้าได้ข้อมูลมาไม่ผิดเป็นหินอ่อนนำเข้าจากต่างประเทศราคาสูงมาก



พร้อม Amenities



น้ำดี่ม ติดฉลาก Lebua



ออกไปดูวิวที่ระเบียงค่ะ วิวจากชั้น 58 เชียวนะเออ







ทิวทัศน์ยามเย็นของกรุงเทพ ในขณะที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝน









ยามค่ำคืน













กล้องใหม่เพื่อการนี้โดยเฉพาะ อิอิ





และตอนสายๆ ตื่นขึ้นมาก็เป็นแบบนี้









ชอบสะสมปากกาของโรงแรมต่างๆ ค่ะ เดี๋ยวจะต้องขอนำกลับบ้าน



ห้องอาหารต่างๆของที่นี่ หยิบขึ้นมาดูสักหน่อยเพราะเดี๋ยวจะพาไปทานอาหารเช้านะคะ



เราสามารถเลือกทานอาหารเช้าได้ 2 ที่ จะไปที่ Club Lounge หรือจะไปทานที่ Cafe' Mozu ก็ได้ เราเลือก Mozu เพราะว่ามีอาหารหลากหลายกว่า ถ้ารับประทานที่ Club Lounge จะเป็นแบบ Continental Breakfast



จะนั่งตรงไหนดีน้า....





ติดสระว่ายน้ำก็น่านั่ง









ที่สวยๆ ส่วนใหญ่จะอยู่ด้านนอก และร้อน จึงเลือกเข้าไปนั่งข้างในเย็นๆ ดีกว่า



ได้ที่นั่งแล้ว เดินไปดูอาหาร ไลน์อาหารเยอะค่ะ น่าทานทั้งนั้นเลยด้วย















ช่วยนับด้วยนะคะว่าหม่ำอะไรเข้าไปบ้าง

















ไม่ได้ถ่ายของแอนมานะคะ ที่เห็นเนี่ยคือจัดการคนเดียวเลยค่ะ แถมยังตกหล่นไปบางรูปอีก แบบนี้ต้องเข้าห้องน้ำซะแร้วววว



ต่อไปจะพาไป Club Lounge นะคะ อยู่ที่นี่ 2 วัน 1 คืนเข้าไป 3 รอบค่ะ กลัวจะไม่คุ้ม กินตลอดและชอบไปชมวิวค่ะ วิว 360 องศา สวยสุดยอด

ที่ The Tower Club Lounge จะให้บริการ (Open from 6:00am until 18:00pm)

6am – 11am – Continental Breakfast
11.30am – 3 pm – Light Lunch
3 pm – 6 pm – High Tea



6 am - 6 pm จะเป็น Club Lounge แต่หลังจาก 6 pm ไปกลายร่างเป็น breeze ห้องอาหารแพงน้องๆ sirocco













ดื่มน้ำก่อนค่ะ มีหลากหลายให้เลือก เราสองคนไม่ดื่มแอลกอฮอล เลยไม่ได้ลิ้มรสของแพงค่ะ soft drink ประเภท โค้ก แปะซี่ ก็หรูแล้วสำหรับเรา ห่วย...











ทานกับแซนด์วิช ไส้ไก่ แซลมอน ทูน่า ปูอัด ไข่กุ้ง



เค้กอีกสัก 2-3 ชิ้น





ขนมอีกสักหน่อย



ตามด้วยช็อคโกแลตมาติดๆ





ขนมปังอีกสักตะกร้า



เต็มโต๊ะแบบนี้



จากนั้นก็ไปชมวิวด้านนอกค่ะ เป็นไฮไลท์ของการมาพักที่นี่เลยนะคะ






Breeze อยู่ชั้น 52 ใช่หรือป่าวหนอจำมะได้ เบื่อจัง สมองปลาทองเนี่ย



ตอนที่เราขึ้นมาที่นี่เป็นเวลา 5 pm อีก 1-2 ชั่วโมง ตรงนี้จะกลายเป็นที่ทานอาหารราคาแพงๆ แบบว่าไม่มีวาสนาจะได้กินเลยอะ ลองเปิดเมนูดูแล้วจะเป็นลม







โต๊ะนี้เป็นโต๊ะที่วิวดีที่สุดแล้ว มองเห็นแม่น้้ำเจ้าพระยา เห็นเพนนินซูล่า แชงกรีล่า โอเรียลเต็ล







เห็น Millenium hilton ด้วย



หลังจาก check out แล้ว เราก็กลับไปที่ Lounge อีกรอบเพื่อไปหม่ำกลางวัน ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้าน

เริ่มที่ซุปเห็ด





ตับห่านค่ะ แต่ไม่รู้ว่าพอทำมาเป็นแบบนี้มีชื่อว่าอะไร ถามบริกรแล้ว ก็จำไม่ได้







ตบท้ายด้วยผัดไทกุ้งสด



ล้างปากด้วยผลไม้



แต่ไม่ต้องจ่ายเงินค่ะ ฟรี....จากอภินันทนาการของคนจองให้ค่ะ



ก่อนกลับเราต้องออกไปชมวิวกันอีกครั้งค่ะ ครั้งนี้เป็นตอนเที่ยงๆ เลยค่ะ แดดไม่ร้อนแถมลมแรงสุดๆ







มีหลักฐานว่าลมแรงมั่กๆ เพื่อนแอนตัวผอมเกือบปลิว





ต้านลมไม่ไหวต้องมาพิงกระจกไว้ ขนาดอ้วนนะยังเกือบปลิว อิอิ ม่ายช่าย กลัวกระโปรงจะเปิดมากกั่ว



มาชมวิวกันบ้าง วิวผ่านกระจก







และผ่านเลนส์กล้องตัวใหม่ แบบยังถ่ายไม่เป็น คริ คริ





ยังสงสัยตัวเองว่าทำไมไม่ไปถ่ายวิวอีกด้านนึงบ้าง ถ่ายอยู่เฉพาะด้านแม่น้ำเจ้าพระยา อีกด้านที่เป็นถนนหนทางทำไมไม่ไปถ่าย สงสัยจะได้กล้บไปใหม่อีกรอบ แต่คงไป sirocco ล่ะคราวนี้

ขออำลา Lebua at state tower ด้วยภาพนี้ค่ะ



ถ้ามีวาสนาคงได้กลับไปอีกนะคะ จากความรู้สึกส่วนตัวที่พักของที่นี่ไม่ค่อยเด่นนะคะ ห้องก็ธรรมดาออกแนว service apartment บริการเป็นเลิศ และวิวสวยมากค่ะ สวยสุดๆสวยกว่าเพนนินซูล่า สวยกว่า chatrium สวยกว่า Millenium hilton ถึงแม้จะไม่ติดแม่น้ำก็ตาม แต่วิวแบบว่า 360 องศาจริงๆ ที่ Lebua at state tower เค้ามีชื่อที่ห้องอาหาร sirocco ค่ะแต่ราคาก็อะนะพูดแล้วเซ็ง

ประทับใจมากค่ะ ปลื้มจัง...ไม่เสียชาติเกิดที่ครั้งนึงในชีวิตได้มาเยือนและมาชมวิวสวยๆ ของกรุงเทพแบบนี้

พบกันใหม่ที่เชียงใหม่นะคะ วันแม่พาแม่ไปเที่ยวที่เชียงใหม่ค่ะ

Create Date : 23 สิงหาคม 2553		4 comments
Last Update : 23 สิงหาคม 2553 23:40:22 น.
Counter : 5816 Pageviews.
Share Tweet