|
อยากให้รู้ว่าคิดถึง..ตอน..อนาคตที่น่ากลัว
อืม..ขณะที่พวกเรากำลังเดินซื้อของอยู่..เราก็คอยสังเกตยายตัวร้าย..
เอ..ยายตัวร้ายนี่มีลักษณะของแม่บ้านที่ดีเนอะ..
ถ้าใครได้ไปเป็นคนแม่ครัว..รับรองว่าไม่มีการใช้จ่ายเกินงบแน่ๆสิ..
ก็เธอเล่นต่อราคาของทุกอย่างที่ซื้อเลย..แถมยังได้ตามที่ต้องการอีก..
นี่เราไม่ได้ว่าเธองกหรอกนะ..ขอบอก..แต่เธอเป็นคนประหยัดมากๆสิ..
แหมๆ..ยายตัวร้ายนี่เก่งหลายอย่างจังแฮะ..
แต่เราไม่กล้าขัดคอเธอหรอกนะ..เมื่อคืน..สี่เขี้ยวยังจำติดตาสิ..
นี่ตาบ้า..เดินให้มันเร็วๆหน่อยสิยะ..
โห..เผลอเดินช้าหน่อยเดียว..ทำเป็นดุ..
ก็นายเดินให้เร็วๆหน่อยสิ..โน้น..ไปรับของที่พันสิ..
อ้าว..นี่..ยายบ๊อง..เราตั้งใจจะมาเดินดูของนะ..
ไม่ใช่ตั้งใจจะมาคอยถือของให้เธอ..
เย็นนี้จะกินข้าวหรือเปล่า..
กินสิ..
งั้นก็ไม่ต้องบ่น..ไปรับของที่พี่พันโน้น..
ฮืม..ฝากไว้ก่อนเหอะ..ยายตัวร้าย..
นี่ถ้าไม่เห็นว่าทำกับข้าวอร่อย..จ้างให้เราก็ไม่ยอมหรอกนิ..
เฮ้อ..การมีเพื่อนต่างเพศนี่..มันลำบากเหมือนกันนะ..
เออ..ดูๆไป..ยายตัวร้ายนี่เหมือนคุณหนูมาเดินจ่ายของเลยเนอะ..
เพราะมีคนคอยรับใช้ตั้งสองคน..คือเรากับเจ้าพันไง.. เฮ้อ..คิดๆไป..ก็สงสารตัวเองเนอะ..วาสนาเราคงมีได้แค่นี้..มั๊ง..นะ..ยัยตัวร้าย..
ในขณะที่เรากำลังเดินหน้ามุ่ยเพราะความหนักนั่นเอง..
เราก็เห็นยายตัวร้ายเลือกซื้อของร้านหนึ่งอยู่..
อืมๆ..เจ้าของร้านเป็นหญิงชราคนหนึ่ง..แกขายของจำพวกผัก..
แปลกแฮะ..ร้านนี้ยายตัวร้ายไม่ต่อราคาเลยสักคำ..
มันน่าสงสัยๆ..เดี๋ยวมีเวลาต้องถามดูสักหน่อย..
เอ..แต่ดูๆแล้วก็น่าสงสารแกเหมือนกันเนอะ..อายุแกก็มากแล้ว..
แต่ยังต้องออกมาขายของอยู่อีก..
เออ..ถ้าเราแก่ตัว..เราจะต้องลำบากแบบนี้ไหมอ่ะ..
ชักเริ่มกลัวแล้วสิเรา..อย่างนี้หรือเปล่านะ..
ที่เขาเรียกว่ายังใช้กรรมไม่หมด..ถึงต้องทนอยู่เพื่อรับกรรมต่อไป.. กรรมนี่..มันน่ากลัวนะ..ยัยตัวร้าย..
เฮ้อ..ในที่สุด..การจ่ายกับข้าวโดยเอาชีวิตเราเป็นเดิมพันก็จบลง..
จะไม่ให้พูดอย่างนี้ได้ยังไง..ก็ยายตัวร้ายเล่นจ่ายของเสียมากเลย..
เราถือคนเดียวสิ..มันหนักมากๆนา..หิ้วจนปวดแขนเลยสิ..
เอ..หรือว่ายายตัวร้ายแกล้งเราหว่า..ชักเกิดความสงสัยตะหงิดๆแล้วสิ..
ด้วยความสงสัยนั่นเองทำให้เราอดที่จะถามไม่ได้..
นี่ยายบ๊อง..เธอแกล้งเราหรือเปล่า..
ชั้นไปแกล้งอะไรนาย..
ก็เธอซื้อของเสียมากมายสิ..เราถือคนเดียวมันหนักนะ..
อ้าว..แล้วทำไมนายไม่เอาไปเก็บไว้ที่รถก่อนเล่า..มาถือไว้ทำไม..
เออ..นั่นสิเนอะ..ทำไมเราคิดไม่ถึง..
สม..อยากโง่นัก.. กรรมของเราอีกแล้วนะ..ยัยตัวร้าย..
ในระหว่างที่เรากำลังขับรถกลับ..เจ้าพันก็เอ่ยขึ้น..
น้องดาวเข้าใจคำว่า..เป็นเครื่องมือทำกรรมไหมครับ..
ไม่เข้าใจเลยค่ะ..พี่พันหมายถึงอะไรหรือคะ..
เออ..นั่นสิ..ชั้นก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน..แกช่วยอธิบายหน่อสิ..
อืม..ถ้าพูดถึงเครื่องมือฆ่าคน..น้องดาวคิดถึงอะไรก่อน..
ปืน..มีด..ระเบิด..ค่ะ..
อืม..แล้วแกล่ะ..
ชั้นก็คิดเหมือนยายบ๊อง..
แต่ว่าสิ่งเหล่านั้นมันเป็นสิ่งไม่มีชีวิต..ไม่มีความคิดนี่นา..
ต้องอาศัยคน..มันถึงจะฆ่าคนได้..
ดังนั้น..คนเรานี่เองที่เป็นเครื่องมือฆ่าคนที่น่ากลัว..
เพราะว่าสามารถคิด..ตรึกตรองและวางแผนได้..
ถึงแม้จะไม่มีอาวุธเหล่านั้น..ก็ยังสามารถฆ่าคนได้..
แล้วที่พี่พันบอกว่าเป็นเครื่องมือทำกรรมล่ะคะ..มันหมายความว่าอย่างไร..
อืม..สมมุตินะครับ..สมมุติว่าน้องดาวอยากจะฆ่าเจ้านุ..
แต่ไม่อยากจะลงมือเอง..เลยมาสั่งให้ผมไปฆ่าเจ้านุแทน..
น้องดาวเป็นคนสั่ง..เรียกว่าเป็นคนคิดทำกรรม..
ผมเป็นคนลงมือ..เรียกว่าเป็นเครื่องมือทำกรรม..
เจ้านุเป็นผู้รับกรรม..ในพวกเราทั้งสามนี่..ใครจะมีผลอย่างไร..
น้องดาวคิดได้ไหมครับ..
ก็..ดาวจะต้องรับกรรมหนักกว่าพี่พัน..เพราะเป็นคนต้นคิด..
พี่พันรับกรรมน้อยกว่า..เพราะไม่ใช่คนต้นคิด..
ส่วนตาบ้านุได้รับผลของกรรมเก่าอย่างเดียว..
อืม..จริงๆแล้ว..ผมต้องได้รับกรรมมากกว่าน้องดาวนะ..
เอ๋..ทำไมอย่างนั้นล่ะคะ..
เพราะว่าผมได้รับคำสั่งมาจากน้องดาว..แล้วก็คิดวางแผน..
เรียกว่ามีเจตนาที่จะคิดฆ่าเกิดขึ้น..เมื่อวางแผนเสร็จ..
ก็คอยหาโอกาสที่จะฆ่าเขา..เรียกว่ามีความพยายามในการฆ่า..
เมื่อฆ่าเขาสำเร็จ..เรียกว่าเขาตายด้วยความพยายามนั้น..
ดังนั้นผมจนต้องได้รับกรรมมากว่าน้องดาว..น้องดาวแค่เป็นคนต้นคิด..
แต่ไม่ได้มีความพยายามในการฆ่าเขานะครับ..
แต่ก็จะต้องเป็นคนรับกรรมเหมือน..ตรงนี้ต้องดูที่เจตนาเป็นสำคัญครับ..
อ้อ..ค่ะ..ดาวเข้าใจแล้ว..อย่างนี้ดาวเป็นคนต้นคิด..
พี่พันเป็นเครื่องมือทำกรรม..
ตาบ้านุเป็นคนรับกรรมเก่า..
ทั้งดาวทั้งพี่พันจะต้องจะรับผลกรรมในชาติหน้า..
ใช่ครับ..ตอนนี้เราทำได้แค่เพียงป้องกัน..
ไม่ให้เราเป็นเครื่องมือทำกรรมชั่ว..ที่จะคอยส่งผลไปภพหน้าเท่านั้น..
หมายความว่าอย่างไรหรือคะ..
ก็ที่น้องดาวบอกว่า..เวลาที่เราไปซื้ออาหาร..
เราไม่รู้ว่ามันมีสารปนเปื้อนอะไรบ้างหรือเปล่า..
คนปลูกหรือคนทำการผสมสารเพื่อเอามาขายเป็นคนสร้างกรรม..
แต่กรรมมันจะไม่สำเร็จ..ถ้าไม่มีใครซื้อ..แต่เมื่อมีคนซื้อ..
กรรมนั้นมันก็เกิดกับเขา..เพราะสำเร็จตามที่เขาตั้งใจ..
แล้วคนซื้อก็เป็นเครื่องมือของการสร้างกรรมต่อจากเขา..
คือเอามาปรุงเป็นอาหารให้คนอื่นกิน..ทำให้คนอื่นเจ็บป่วย..
ถึงแม้ว่า..คนทั้งสองจำพวกนี้จะได้รับผลกรรมเหมือนๆกัน..
แต่ว่า..คนที่เป็นต้นคิดจะได้รับผลของกรรมมากกว่า..
เพราะว่า..คนซื้อเขาไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายคนอื่น..
และเมื่อไม่มีคนคิด..เหตุการณ์อย่างนั้นมันก็ไม่เกิดขึ้น..
มันเหมือนกับการจ้างวานฆ่าคนนั่นแหล่ะ..คนจ้างจะมีความผิดมาก..
เพราะเป็นคนต้นคิด..คนลงมือจะมีความผิดน้อย..
เพราะไม่ได้เป็นเจ้าของความคิด..ผมหมายถึงทางกฎหมาย..
แต่ทางศีลธรรมแล้ว..คนลงมือจะเป็นผู้รับกรรมมากกว่า..
แล้วเราจะป้องกันได้อย่างไรคะ..
แล้วน้องดาวคิดว่าอย่างไรครับ..ถึงจะไม่เป็นเครื่องมือทำร้ายคนอื่น..
ก็..คงต้องเลือกซื้อแต่ของที่คิดว่าสะอาดเท่านั้นค่ะ..
อืม..นั่นแหล่ะครับ..
เป็นวิธีการป้องกันการเป็นเครื่องมือทำกรรมอย่างหนึ่ง..
แต่จริงๆแล้วการบังคับตัวเองไม่ให้ตกอยู่ในอำนาจของ..
ความโลภ..ความโกรธ..ความหลง..
นับได้ว่าเป็นเครื่องป้องกันอย่างดีที่สุดนะครับ..
คนเราทุกวันนี้..ส่วนมากจะตกอยู่ในอำนาจของความโลภ..
ความโกรธ..และความหลง..
ถ้าหากเราป้องกันตัวเองไม่ให้ตกอยู่ภายใต้อำนาจของทั้งสามสิ่งนี้ได้..
มนุษย์เราคงจะมีชีวิตอยู่อย่างเป็นสุข..
แล้วเราจะป้องกันได้อย่างไรคะ..
ฮูย..นี่ยายบ๊อง..เรื่องนี้เดี๋ยวเราจะอธิบายเอง.. ในเรื่องของมงคล ๓๘ ประการ..ที่เราจะเขียนเรื่องหน้าอ่ะ..อธิบายตอนนี้..
เดี๋ยวเราก็หมดภูมิกันพอดีสิ..เธอเอาไว้อ่านตอนนั้นนา..นะ..ยัยตัวร้าย..^0^
เฮ้อ..นี่ชั้นตั้งใจว่าจะมาเดินดูของนะนี่..
กับต้องมานั่งฟังแกกับยายบ๊องพูดเรื่องอะไรกันก็ไม่รู้..ชั้นมึนจริงๆนะ..
ก็เรื่อง..การทำกรรม..การเป็นเครื่องมือทำกรรม..
และการรับผลของกรรมไงล่ะ..
ขยายอีกนิดสิ..
งั้นเอาอย่างนี้นะ..สมมุติว่า..ในขณะที่แกกำลังขับรถอยู่นี่..
ถ้าแกพาชั้นกับน้องดาวไปประสพอุบัติเหตุ..
ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต..จะคนเดียวหรือทั้งหมดก็ได้..
แกเป็นผู้รับกรรมจากชาติภพก่อน..นอกจากนั้นแล้ว..
แกยังได้สร้างกรรมใหม่..เพื่อที่จะได้ไปรับผลของกรรม..
ในชาติภพหน้าด้วย..เพราะทำให้คนอื่นบาดเจ็บหรือเสียชีวิต..
ส่วนชั้นกับน้องดาว..ได้รับผลของกรรมเก่า..แต่ไม่ได้สร้างกรรมใหม่..
เพราะไม่ได้เป็นต้นเหตุ..ทำให้คนอื่นบาดเจ็บหรือเสียชีวิต..
คงได้รับแต่ผลกรรมเก่าเท่านั้น..
งืมๆ..พอเข้าใจนิดหน่อยแล้ว..
แล้วที่แกว่าการเป็นเครื่องมือสร้างกรรมล่ะ..หมายความว่าอย่างไร..
ในขณะที่แกกำลังขับรถคันนี้อยู่..เกิดมีรถคันอื่นวิ่งมาชนรถคันนี้..
จนทำให้พวกเราบาดเจ็บหรือเสียชีวิตก็ตาม..
คนขับรถคันนั้นก็เป็นผู้รับกรรมเก่า..
นอกจากนั้นแล้วยังได้สร้างกรรมใหม่..
ที่ตัวเองจะต้องไปรับผลของกรรมในชาติภพหน้าด้วย..
เพราะว่าเป็นตัวต้นเหตุ..ที่ทำให้พวกเราได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต..
ส่วนแกเป็นคนขับรถคันนี้..ก็ได้รับผลของกรรมเก่า..
นอกจากนั้นแล้วแกก็ยังเป็นเครื่องสร้างกรรมใหม่ด้วย..
เพราะว่าเป็นคนพาชั้นกับน้องดาวไปบาดเจ็บหรือเสียชีวิต..
ส่วนชั้นกับน้องดาว..เป็นคนรับกรรมเก่าอย่างเดียว..
เพราะไม่ได้เป็นคนพาแกไปได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต..
โห..นี่ชั้นต้องรับผิดชอบมากถึงขนาดนี้เชียวรึ..
ก็ใช่น่ะสิ..เพราะงั้น..แกตั้งใจขับรถไป..อย่าหันมาคุยบ่อยนัก..
นั่นสิ..ชั้นยังไม่อยากตายนะ..ตาบ้า..
โธ่..ตายพร้อมกันหลายคน..ดีจะตาย..จะได้ไม่เหงา..
ตายจริงก็คงไม่เท่าไหร่..กลัวแต่ไม่ตายจริงต้องมาพิการ..
แล้วใครจะเลี้ยงชั้นเล่ายะ..
ก็เราไง..รับเลี้ยงตลอดชีพ..
ตาบ้า..ใจอกุศล.. งืมๆ..เราอยากรับเลี้ยงเธอจนตลอดชีพจริงๆนะ..ยัยตัวร้าย.. เอ่อ..พี่พันคะ..ถ้าหากว่า..ในระหว่างที่ตาบ้านี่ขับรถอยู่..
แล้วดาวเกิดชวนคุยจนได้รับอุบัติเหตุเล่าคะ..
ใครจะเป็นผู้รับผลของกรรมอะไรบ้าง..
อืม..ตรงนี้ต้องดูที่เจตนาด้วยนะครับน้องดาว..
ว่าตอนที่น้องดาวชวนคุยนั้นมีเจตนาอย่างไร..
เจตนา..หมายถึงความคิดใช่ไหมคะ..
ใช่ครับ..กรรมจะให้ผลมากหรือน้อยก็อยู่ที่ความคิด..
อย่างไรหรือคะ..
ถ้าในขณะที่เราทำกรรม..
เรามีความคิดว่าคนๆนี้..จะต้องได้รับผลของการกระทำของเรา..
แล้วเขาได้รับผลนั้นของการกระทำนั้นจริง..
ไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือกรรมไม่ดีก็ตาม..กรรมนั้นก็จะให้ผลมาก..
แต่ถ้าหากว่าไม่มีความคิดอย่างนั้น..ทำไปโดยความพลั้งเผลอ..
กรรมก็ยังมีอยู่นั่นเอง..เพียงแต่น้อยกว่าเท่านั้น..
คืออย่างไรคะ..
น้องดาวเคยไปถวายของที่วัดหรือเปล่าครับ..
เคยค่ะ..ถ้าว่าง..แม่จะพาไปบุญทุกวันพระ..
ก่อนจะถวายของน้องดาวทำอย่างไรก่อนครับ..
พระท่านจะให้ศีลก่อนค่ะ..ดาวก็รับศีล..
ทำไมพระท่านถึงทำอย่างนั้นน้องดาวเคยคิดไหมครับ..
ไม่เคยค่ะ..แต่ถ้าให้ดาวคิดตอนนี้..
คงเป็นเพราะท่านต้องการทำให้ใจของเราเป็นกุศล..
ใช่ครับ..อย่างที่ผมพูดตั้งแต่ต้นว่า..
คนเราจะพูดอะไรก็ตาม..จะทำอะไรก็ตาม..
ความคิดของตัวเองเท่านั้นที่เป็นใหญ่..
เพราะว่าเราจะทำ..จะพูดตามความคิด..
ถ้าคิดดีการกระทำก็ดี..คำพูดก็ดี..
ถ้าคิดไม่ดี..การกระทำและคำพูดก็จะไม่ดีตามไปด้วย..
ที่พระท่านให้ศีลก่อน..
ก็เพราะต้องการชำระใจที่ไม่ดีให้หมดไปและทำใจให้เป็นกุศล..
เมื่อใจของเราเป็นใจดีเป็นใจประกอบด้วยกุศลแล้ว..
ผลของทานที่เราถวายก็จะให้ผลที่มาก..
ค่ะ..ดาวเข้าใจแล้ว..
งืมๆ..ชั้นก็เข้าใจเหมือนกันอ่ะ..
เราเข้าใจจริงๆนะ..ยัยตัวร้าย.. เฮ้อ..หลังจากที่พล่ามไปหลายหน้า..
ในที่สุด..การไปจ่ายกับข้าวมื้อเย็นก็เสร็จสิ้นลงอย่างปลอดภัย..
เพราะว่า..พวกเราได้กลับมาถึงบ้านของยายตัวร้ายจนได้..
เมื่อเรากลับมาถึงบ้านของยายตัวร้ายก็ไม่เจอลุงโชติ..
พอถามป้าสายถึงได้รู้ว่าลุงแกเข้าไปรดน้ำต้นไม้อยู่หลังบ้าน..
เจ้าพันก็เตร่ไปหลังบ้านทันที..
ส่วนเราน่ะเรอะ..มีที่หมายแล้วเหมือนกัน..
แต่ไม่ใช่หลังบ้านหรอกนา..ในบ้านเลยล่ะ..
ที่ไหนน่ะรึ..ก็ที่ครัวไง..
ก็เราอยากคุยกับยายตัวร้ายน่ะสิ..
ภาพที่ยายตัวร้ายซื้อผักของป้าคนนั้นยังจำติดตาอ่ะ..
แต่ปรากฏว่าโดนไล่ออกมาเสียนี่..
แหมๆ..ยายตัวร้ายนี่ไม่ให้ความร่วมมือเลยนิ..
เราก็เลยต้องเตร่ไปหลังบ้านบ้าง..
เมื่อเดินไปถึงก็เห็นลุงโชติกับเจ้าพันคุยกันถึงเรื่องต้นไม้..
เราก็เลยกลายเป็นผู้รับฟังที่ดี..
แหะๆ..ก็เราไม่มีความรู้เรื่องต้นไม้เลยนี่นา..
ขืนไปคุยเข้า..เดี๋ยวจะกลายเป็นปล่อยไก่ตัวโตๆไปสิ..
เป็นผู้รับฟังนี่แหล่ะ..ไม่เปลืองตัวดี..
หลังจากที่มึนจากการฟังเขาคุยกัน..
เออ..ใกล้จะมืดแล้วสิ..ป่านนี้ยายตัวร้ายทำกับข้าวเสร็จหรือยังนะ..
ต้องย่องๆไปดูเสียหน่อย..
อ้าว..จะไปไหนหรือเจ้านุ..
โห..อุตส่าห์ว่าจะย่องแล้วนา..เจ้าพันกลับเห็นได้..
อืม..จะไปดูยายดาวหน่อยว่าทำกับข้าวเสร็จหรือยัง..
คุณนุถ้าจะหิวแล้วสิครับ..
เปล่าหรอกครับคุณลุง..ผมจะไปดูเผื่อจะมีอะไรให้ช่วยบ้างครับ..
เฮ้อ..ถึงตอนนี้ไม่ต้องย่องแล้วสิเรา..เดินเข้าไปอย่างนี้แหล่ะ..
ยายบ๊อง..เสร็จหรือยัง..
ยังสิ..นายหิวแล้วรึ..
เปล่า..เราแค่มาดูว่ามีอะไรจะให้ช่วยบ้างไหม..
งั้น..นายช่วยยกข้าวไปให้แม่ชั้นหน่อยสิ..
อืม..เดี๋ยวเราช่วยยกไปให้เอง..
เอาแก้วน้ำกับน้ำไปด้วยนะ..
เสร็จแล้วก็ไปบอกพ่อชั้นให้มาอาบน้ำ..เดี๋ยวจะได้กินข้าวกัน..
อืม..เดี๋ยวเรามาช่วยยกนะ.. คอยก่อนนะ..ยัยตัวร้าย.. หลังจากที่ทุกคนได้อิ่มหนำด้วยฝีมือยายตัวร้ายแล้ว..
เจ้าพันกับลุงโชติก็ไปนั่งคุยกันต่อ..
ส่วนเรารึ..ก็ในครัวไง..ต้องไปช่วยยายตัวร้ายล้างชามก่อน..
ที่แรกยายตัวร้ายไม่ยอมหรอกนะ..แต่เราบอกว่ามีเรื่องจะถาม..
เค้าถึงยอม..ก็ภาพของป้าคนขายของยังจำติดตานี่นา..
แล้วเรามันเป็นคนเก็บความสงสัยไม่เป็นเสียด้วยสิ..
ถ้าไม่ทำให้กระจ่าง..รับรองว่าคืนนี้นอนไม่หลับแน่ๆสิ..มันคาใจอ่ะ..
นี่ยายบ๊อง..เมื่อเย็นเธอซื้อของร้านสุดท้าย..
เราไม่เห็นเธอต่อราคาเลย..เธอรู้จักเขารึ..
อืม..รู้จักสิ..ป้าสีแกเคยทำงานร่วมกับพ่อชั้น..
เธอรู้จักเขามานานแล้วรึ..
นานแล้ว..ตั้งแต่ชั้นยังเป็นเด็ก..ชั้นก็เห็นแกทำงานอยู่กับพ่อชั้นแล้ว..
พ่อบอกว่าตอนที่พ่อมาทำงานใหม่ๆ..ป้าสีแกก็ทำงานอยู่ก่อนแล้ว..
อืมๆ..งั้นแกก็คงทำมานานมากเลยเนอะ..คงจะรุ่นแรกแย้มบริษัทมั๊งนี่..
ตาบ้า..พูดภาษาอะไร..ชั้นไม่เห็นเข้าใจ..
ก็รุ่นบุกเบิกบริษัทไง..โธ่..ทำเป็นโง่..
ฮึ..ตาบ้า..สี่เขี้ยวเมื่อคืน..ยังไม่เข็ดอีกรึ..
เออ..นั่นสิ..เราลืมไป..ดีกันนะ..บ้านป้าแกอยู่ที่ไหนรึ..
อยู่ใกล้ตลาดนั่นแหล่ะ..เดินสักเดี๋ยวเดียวก็ถึงบ้านแกแล้ว..
บ้านแกอยู่กันกี่คนรึ..ทำไมต้องให้แกมานั่งขายของด้วยล่ะ..
ลูกหลานไม่มีเลยหรือ..
ตอนนี้แกอยู่คนเดียว..สามีแกตายไปแล้ว..
ลูกแกมีครอบครัวกันไปหมดแล้วสิ..
อ้าว..แล้วทำไมแกไม่ไปอยู่กับลูกๆของแกล่ะ..
ชั้นก็ไม่รู้หรอกนะ..ลูกๆของแกก็อยากให้ไปอยู่แต่แกไม่ยอมไปเอง..
อืม..น่าสงสารแกเนอะ..แก่แล้วยังต้องลำบากอีก..
นั่นสิ..แต่ลูกๆแกก็ส่งเงินมาให้ใช้บ่อยๆนะ..
ป้าแกคงไม่อยากอยู่เฉยๆมั๊ง..ถึงต้องออกไปขายของ..
นั่นสิ..ผักนั่นแกปลูกเองรึ..
ใช่..ชั้นเคยแวะไปที่บ้านแกมา..เห็นแกปลูกเอง..
ชั้นถึงไม่กลัวว่าจะมีสารปนเปื้อนไง..เวลาจะเลือกของจำพวกผัก..
เราก็เลือกดูที่มีรอยแมลงกัดกินเล็กน้อย..
เพราะว่าแมลงมันกินได้..คนก็กินได้เหมือนกัน..
เออ..นั่นสิเนอะ..
แต่ชั้นก็ยังไม่ค่อยแน่ใจหรอกนะ..
ชั้นถึงต้องเตรียมด่างทับทิมติดบ้านไว้ด้วย..เอาไว้ล้างผักหรือผลไม้..
ด่างทับทิมมันช่วยได้รึ..
ช่วยได้สิ..ถึงแม้จะไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์..แต่มันก็ช่วยได้เยอะเลย..
งืมๆ..เราเพิ่งรู้นะว่าด่างทับทิมมันช่วยล้างสารพิษได้..
อ้าว..พวกนายไม่เคยใช้เลยรึ..
ไม่เคยอ่ะ..เพราะว่าที่ทำงานเค้ามีแม่ครัวทำให้กิน..
แต่ถ้าเราออกไปข้างนอก..เราก็ซื้อกิน..ไม่เคยทำกับข้าวเองเลยสิ..
อืม..นายโชคดีเนอะ..ที่มีคนทำให้กิน..
ไม่หรอกนา..
เพราะว่าถ้าเราออกจากงานที่ทำแล้วเราจะทำกับข้าวอะไรกิน..
เราทำไม่เป็นสักอย่าง..นอกจากไข่กับมาม่า.. นี่เป็นอาหารหลักของเรา..หลังจากเรื่องใหญ่ครั้งที่สองนะ..ยัยตัวร้าย..
ตอนที่เราเห็นป้าแก..ทำให้เรานึกถึงอนาคตของตัวเอง..
นึกว่าไงรึ..
ก็นึกว่าพอเราแก่ตัวไป..เราจะต้องลำบากเหมือนป้าแกหรือเปล่าน่ะ..
อ้อ..นายเริ่มมีความคิดแล้วนี่..
ฮูย..ยายบ๊อง..เรามีความคิดมาตั้งนานแล้วนา..แต่มันคิดคนละอย่างสิ..
นายมีความคิดว่ายังไง..
หมายถึงตอนไหนรึ..
ก็ที่นายบอกว่านายมีความคิดตั้งนานน่ะ..นายมีความคิดยังไงรึ..
ก็เราคิดแค่ว่าทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก็พอแล้วสิ..
อ้อ..นายไม่เคยคิดถึงอนาคต..
ใช่อ่ะ..เราไม่เคยคิดถึงอนาคตเลยว่าในวันข้างหน้าเราจะเป็นอย่างไร..
อืม..งั้นนายก็เริ่มคิดได้แล้ว..ถ้านายคิดแค่ทำปัจจุบันอย่างเดียว..
มันก็ไม่ถูก..นายจะต้องคิดถึงอนาคตด้วย..
นั่นสิเนอะ..
แล้วที่ชั้นบอกให้ชวนพี่พันกับพี่นะไปเรียนต่อล่ะ..นายชวนหรือยัง..
เจ้านะยังไม่กลับสิ..แต่เราชวนเจ้าพันแล้วล่ะ..
พี่พันว่ายังไงบ้างล่ะ..
ก็..ตกลงน่ะ..แต่ว่าต้องรอเปิดเทอมหน้า..
อืม..นี่แหล่ะ..เป็นการวางแผนชีวิตไว้เพื่ออนาคตล่ะ..
งืมๆ..ตอนนี้..เราจะวางแผนเพื่ออนาคตสักอย่างหนึ่งอ่ะ..
แผนอะไรของนาย..
อีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันลอยกระทงแล้ว..เราเลยจะชวนเธอไปเที่ยวอ่ะ..
ตาบ้า..นี่รึแผนอนาคตของนาย..
อืม..ใช่สิ..หรือเธอคิดว่าวันลอยกระทงไม่ใช่วันในอนาคต..
มันก็ใช่..แต่ว่า..มันจะมีประโยชน์อะไรสำหรับอนาคต..
ชั้นยังไม่เห็นว่ามันจะมีประโยชน์อะไรเลย..
มีสิ..วันนั้นน่ะ..เราคิดว่าเจ้านะต้องชวนน้องนัทมาแน่ๆ..
เธอจะได้รู้จักน้องนัทด้วยไง..แล้วเธอยังจะมีเพื่อนเพิ่มขึ้นด้วยนา..
อ้อ..นายคิดจะชวนชั้นไปเป็นเพื่อนคนชื่อนัทรึ..
ใช่อ่ะ..เพราะถ้าไม่มีผู้หญิงไปด้วย..
ทางบ้านน้องนัทเค้าคงไม่ให้มาหรอก..
อืม..จะไปกันกี่คนรึ..
เรายังไม่รู้เลย..ต้องรอถามกันก่อน..
แล้วนายคิดจะไปเที่ยวที่ไหน..
ที่วัดหลวงพ่อโสธรไง..อยู่ไม่ไกลเอง..
อืม..ชั้นยังไม่รับปากหรอกนะ..ไม่รู้ว่าพ่อแม่ชั้นจะให้ไปหรือเปล่า..
เราไปกันกลางวันสิ..จะกลับกันตอนค่ำๆหน่อย..
เพราะเจ้านะต้องไปส่งน้องนัท..กลับดึกไม่ได้..
อืม..งั้นรอให้ชั้นขอพ่อกับแม่ก่อนนะ..ค่อยให้คำตอบ..
ได้สิ..ใกล้ๆแล้วเราจะมาถามเธออีกครั้งหนึ่ง.. เราอยากไปเที่ยวกับเธอนะ..ยัยตัวร้าย..
ขอขอบคุณเฉดสีอักษรสวยๆจากบล๊อกคุณป้ามดด้วยนะขอรับ
ปล. ยายตัวร้าย..เรื่องนี้เราเขียนให้เธอนะ..
ถ้าพลัดหลงเข้ามาอ่าน..ก็คอมเม้นบอกด้วยนา..
เรายังคิดถึงเสมอ..เพื่อนรักต่างเพศ..
บรรยายโดย...ปีศาจน้อยจอมซน..
Create Date : 28 พฤศจิกายน 2552 |
Last Update : 7 ธันวาคม 2553 20:33:52 น. |
|
0 comments
|
Counter : 587 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|