กรกฏาคม 2549

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
31
 
 
เมื่อคุณนายพาคุณสามีไปทำใบขับขี่ไทย
เมื่อวานได้ฤกษ์ โดด....เอ๊ย ไม่ใช่ลางานพาคุณสามีไปทำใบขับขี่ไทย เนื่องด้วยใบขับขี่สากลที่คุณเธอเอามาจากบ้านเธอนั้น ใกล้จาหมดอายุแล้ว เพื่อให้การขับขี่ยวดยานในท้องถนนเมืองไทยเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายไทย เผื่อในวันนั้นของเดือน ที่คุณนายไม่สามารถขับรถได้ คุณสามีจาได้เป็นสารถีขับรถให้ดิฉันไปทำงานไงคะ

กว่าจะพารถฝ่าด่านรถติดมหันต์ในวันศุกร์สิ้นเดือนได้ จากบ้านที่บางบัวทองไปกรมการขนส่งทางบกที่แถว ๆ จตุจักรก็ใช้เวลาเข้าไปเกือบชั่วโมงครึ่ง ทั้ง ๆ อุตส่าห์ออกจากบ้านสายแล้ว คือ 9 โมงเช้า ไปถึงก็ไปวนหาที่จอดรถบริเวณอาคาร 4 ซึ่งเป็นอาคารที่ผู้ที่จะมาติดต่อขอมีใบขับขี่ทุกประเภทจะต้องมาที่นี่ เราไปจอดได้ตรงแถว ๆ สนามทดสอบขับรถที่ใกล้ ๆ ใช้เวลาเดินไม่ถึง 5 นาที

แล้วคุณสามีก็ถามแบบกึ่งรำคาญว่า "นี่คนไทยชอบจอดรถใกล้ ๆ ที่ที่จะมาทำธุระหรือมาซื้อของเสมอเหรอ ยอมวนแล้ววนอีกเนี่ยนะ"

ก็ใช่น่ะสิ เพื่อรู้เหรอยะ ไม่เสียเวลาต่อปากต่อคำด้วยหรอก ดิฉันเดินนำเธอไปที่อาคาร 4 ที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าในทันที อ่านป้ายที่แปะแถวนั้น เขียนว่า "ทำใบขับขี่ เชิญที่ประชาสัมพันธ์ชั้น 2" ดิฉันเลยนำคุรสามีเดินขึ้นบันไดไปที่ชั้นสองในทันที

"มาทำอะไรคะ" คุณเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ 1 ในกลุ่มประชาสัมพันธ์ที่นั่งเรียงรายอยู่ประมาณ 5 คนเอ่ยถาม แม้หน้าจะปราศจากรอยยิ้ม แต่น้ำเสียงก็ฟังดูเป็นมิตรอยู่บ้าง

"พาแฟนมาทำใบขับขี่ไทยค่ะ" ตอบแล้วก็นำเอกสารที่ติดมือมาด้วย อันได้แก่ หนังสือเดินทาง work permit ใบรับรองแพทย์ ใบขับขี่สากล และใบขับขี่ท้องถิ่น รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว 2 รูป เธอตรวจเอกสารแล้วบอกว่า

"ไปถ่ายเอกสารให้เรียบร้อยแล้วมาใหม่ อย่าลืมให้แฟนเซ็นรับรองมาด้วย" สั่งเราแล้ว เธอก็หันไปหาลูกค้า...เอ๊ย...ผู้มาติดต่อรายใหม่ เราเดินออกไปที่โต๊ะถ่ายเอกสารด้านนอก คุณพี่คนถ่ายเอกสาร ดูเหมือนจะคุ้นเคยกับงานนี้ดี แถมยังช่วยเราตรวจเอกสารด้วย

"มีใบรับรองแพทย์มาแล้วนะน้อง.....เอกสารครบนะ" คุณพี่ถาม พลางซีรอกซ์เอกสารต่าง ๆ ให้ และจัดเรียงให้อย่างเรียบร้อย "ขอบคุณค่ะพี่" ได้เอกสารครบ ก็เดินกลับไปที่โต๊ะเดิม เจ้าหน้าที่คนเดิม ตรวจเอกสารเสร็จก็กดบัตรคิวให้

"เซ็นใบขอทดสอบสมรรถภาพนะคะ แล้วเอกเอกสารไปรอที่ช่อง 1 ถึงเวลายื่นให้เขายื่นเองนะคะ" เธอกำชับ แล้วชี้นิ้วไปทางที่เราจะต้องเดินไป แล้วหันไปต้อนรับผู้มาติดต่อรายต่อไปอีกเช่นเดิม เรากะคุณสามีไปนั่งรอที่ช่องหมายเลข 1 ประมาณ 5 นาที คุณพี่ผู้หญิงก็เรียกไป เราก็ให้สามีไปคนเดียว งานนี้ สบาย ไม่ต้องไปเป็นล่าให้ เย้ๆๆๆ ....อ้าวไม่ถึง 2-3 นาทีดี ก็มีคนกวักมือเรียก

"หนูแดง....." คุณสามีเรียกไหว ๆ "เซ็นอะไรเนี่ย...." ทำหน้างง พยายามพูดภาษาไทยสุดฤทธิ์ เราก็ต้องมานั่งอธิบายให้เธออีกครั้ง

"เรียบร้อยแล้วค่ะ ขึ้นไปสอบสมรรถภาพทางสายตาที่ชั้นสามนะคะ เวร็จแล้วลงมาจ่ายเงินค่าธรรมเนียม 105 บาทค่ะ" เจ้าหน้าที่ช่อง 1 บอกเราด้วยน้ำเสียงราบเรียบเคยชินเหมือนสิ่งที่เธอต้องพูดวันละเป็นสิบ ๆ ร้อย ๆ หน แต่ก็ยังเปี่ยมด้วยความเป็นมิตร

"มาทำอะไร อ้าวแล้วมีเอกสารอะไรไหม" เจ้าหน้าที่ชั้นสาม หน้าตาไม่เป็นมิตร แล้วยังพูดแบบมะนาวไม่มีน้ำด้วย น้ำเสียงแย่มาก ถามคุณสามีเป็นภาษาไทยปนอังกฤษ พอเห็นสามีทำหน้างง เธอก็ยิ่งตะคอกขึ้นเสียง "ไอ้อะไรนะ ใบขับขี่ ไดรวิ่งอ่ะ มีไหมๆๆๆๆๆ" ดิฉันเลยต้องทำตัวประหนึ่งเจ้าหญิงขี่ม้าขาวไปช่วยคุณชาย....

"พี่แจ๊ส....หนังสือเดินทางอ่ะ" ได้มาจากสามีก็ยื่นให้คุณเธอ คิดแล้วก็ดีใจที่อุตส่าห์แต่งตัวมาอย่างสวยงาม และหิ้วหลุยส์ติ๊งต๊องมาด้วย ข่มค่าข่ม ข่มด้วยการแต่งกาย อย่างน้อย สายตาของเธอก็ดูแคลนดิฉันไม่ได้

"ไปนั่งรอเลยค่ะ..." ให้ตาย เจ๊แกกินรังต่อรังแตนที่ไหนมา พูดจาถึงได้ห้วนขนาดนั้น เหมือนต้อนใครไปไหนสักที่หนึ่ง ดิฉันกล้ำกลืนอารมณ์เดือด แล้วพาคุณสามีไปนั่งรอที่ห้องด้านใน ข้างในก็มีคนเพียบนั่งรอสอบ

"นี่คุณมาทำอะไร....ถ้าไม่ได้สอบ ออกไปเลยนะ...." เสียงเจ้าหน้าที่คนเดิม แต่เธอไม่ได้ดุดิฉันค่า ดุน้องผู้ชายอีกคนด้วยน้ำเสียงเหมือนครูฝ่ายปกครองที่โรงเรียนเก่ายังไงยังงั้น หน้าตาดุโคตร ๆ

"นาย........" เธอขานชื่อเรียก "รอที่เส้นสีฟ้าเลยนะ คุณ.....ไปรอที่เส้นสีแดงค่ะ คุณ.................คุณ...............แจสเปอร์...............คุณ............." หลังจากนั้น เจ๊ก็ขานชื่อเรียกผู้มีสิทธิ์สอบสมรรถภาพทางสายตาคนแล้วคนเล่าเป็นสิบคนอย่างเร็วปานจรวด

ผู้สอบต้องยืนที่เส้นสีฟ้า "เท้าอย่าเกินออกมาบอกไม่ฟังเลย" เธอทำเสียงดุอีกแล้ว หลังจากนั้น ผู้เข้าสอบต้องมองชาร์ตที่มีรูปวงกลมขนาดเล็กใหญ่ สีต่าง ๆ เต็มไปหมด เธอเอาปลายไม้ชี้ไปที่จุดต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว ๆ เร็วมาก ดิฉันยังมองแทบไม่ทัน คุณพุดสีผิดได้ไม่เกิน 2 ครั้ง อุแม่เจ้า สามีเราจะสอบผ่านไหม เพราะเธอเป็นตาบอดสี มองสีต่าง ๆ เห็นไม่เหมือนเรา แม้ว่าจะพอแยกสีได้ แต่เธอจะตอบได้ไหมวะ ท่ามกลางสถานการณ์ที่กดดัน กับผู้หญิงที่วางตัวเป็นเจ๊ขาใหญ่ บ้าอำนาจขนาดนั้น

"สีอะไร ตอบชัด ๆ " เจ๊ตามกดดันมาอย่างต่อเนื่อง บางคนก็ตอบตะกุกตะกัก ไม่ทันใจเจ๊ เจ๊ก็ทำหน้าเดือดขึ้นมาทีเดียว

"ใครคะ คุณชื่ออะไร....อ้าว ไม่ได้เรียก มายืนทำไม คุณ....ไปไหนคะ เรียกแล้วทำไมไม่มา" โอ้มายบุดดา นี่มันอะไรกันวะ ยังกับเรือนจำ มีเจ๊แกเป็นพัสดีสาว หน้าเหี้ยม

มาถึงคราวสามีเราแล้ว ดิฉันกลัวแทน ไม่กล้าหันไปมอง ว่าเจ๊จะทรมานสามีเราหรือเปล่า เธอจะตอบได้ไหม.....

"สีอะไร....พูดเร็ว ๆ " สามีดิฉันนิ่งครู่หนึ่งก่อนตอบ

"กรีน สีเขียว" เธอตอบได้ถุกนะ ดิฉันเป็นพยานได้ แต่ตอบช้า เจ๊ก้ออกอาการยักษ์นิดหนึ่ง

"ไปนั่งเลยค่ะ" พูดไทยเสียงดุ มือชี้ไปที่นั่ง สามีเลยเดินไปนั่ง

"ไอตอบได้นะ แต่ชีเล่นจิ้ม ๆ ๆๆๆๆ เร็วขนาดนั้น ตอบไม่ทันอ่ะ" สามีแอบบ่น เราก็ได้แต่นวดแขนนวดขาให้กำลังใจเธอ พักหนึ่ง เจ๊มาเรียก

"พร้อมหรือยัง"

อาจจะด้วยจำนวนผู้รอสอบน้อยลง งานของเจ๊ในช่วงเช้าใกล้สิ้นสุดแล้ว เจ๊ก็เลยใจเย็นนิดหนึ่ง ค่อย ๆ จิ้ม ๆวงกลมสีให้สามีตอบอย่างเย็นใจ

"ไปรอช่องต่อไปเลยนะ" เจ๊บอก น้ำเสียงดีขึ้น มีเมตตาเล็กน้อย เราแทบกระโด สามีฉันสอบผ่านว่ะ ขนาดตาบอดสี แต่เธอก็ยังแยกแยะสีได้ค่ะ ต้องมีสมาธินิ่ง ๆ อ่ะ

ตอนนี้ สอบสมรรถภาพสายตาอีกแบบ คือการให้กดเบรก และให้เลื่อนแท่งสองแท่งให้มาอยู่ในระดับเดียวกัน ซึ่งการสอบสองแบบนี้ ดิฉันจำไม่ได้ว่าเคยสอบด้วย เลยไม่ค่อยรู้เรื่องเหมือนกัน โชคยังดี มีคุณคนอินเดียอยู่ 2 คน ท่าทางดูดีหน่อย เลยเดินเข้าไปถามว่าเขาให้ทำอะไร พอคุรพี่เริ่มอธิบาย ดิฉันก็ปล่อยให้สามีฟังไป แล้วปลีกวิเวกออกมา อันนี้ สามีสอบผ่านได้ฉลุย ไม่มีปัญหา ปัญหาที่เราคิดว่าหมดไปแล้ว กำลังเริ่มต้นขึ้นมาแล้วสิคะเนี่ย

"เอาจมูกวางตรงร่อง แล้วมองตรง ๆ นะคะ ห้ามเอียง" เสียงเจ้าหน้าที่ผู้หญิงอธิบายสามี ซวยล่ะสิ สามีเดี๊ยนเป็นตาบอดสี ปกติก็มองสียากอยู่แล้ว นี่ให้มองผ่านช่องแสง แล้วตอบว่าเป็นสีอะไรน่ะเหรอ โอ้มายบุดดา สอบตกก็งานเนี๊ยะ กระนั้น ดิฉันก็ยังให้กำลังใจสามี "ใจเย็น ๆ นะพี่..."
บีบมือให้กำลังใจเสร็จ ตัวเองก็มานั่งเครียดเอง

สักพักคุณเจ้าหน้าที่หันมาเรียกดิฉัน

"แย่นะ ตอบผิดหมดเลยค่ะคุณ เค้ามองไม่เห็นเลย..." ดิฉันถอดใจแล้ว รู้แน่ ๆว่า เค้าคงตอบไม่ได้แน่

"คุณพี่ช่วยดูให้หน่อยได้ไหมคะ"

"เดี๋ยวพักตาแล้วลองอีกครั้งนะ....." เธอพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด พอลองอีกครั้ง ผลก็กลับเป็นอิหรอบเดิม คุณสามีรู้สึกแย่มาก ๆ ทำหน้าหงิก ดิฉันได้แต่บีบมือให้กำลังใจ

"ใจเย็น ๆ พี่" บอกเขาแล้วก็หันไปหาคุณเจ้าหน้าที่ผู้หญิง ส่งสายตาอ้อนเต็มที่ "ช่วยดูให้หน่อยได้ไหมคะ"

"เราพร้อมช่วยทุกคนค่ะ แต่เค้าต้องช่วยตัวเองด้วย ต้องตอบให้ถูกนะคะ" เธอตอบช้า ๆ แววส่อแววปราณี "เอางี้แล้วกัน พักตาแล้วมาสอบใหม่ตอนบ่าย"

ยังมีหวังเว๊ย ยังมีหวัง.....ดิฉันพาสามีไปไหว้ศาลพระภูมิเจ้าที่ที่หน้ากรม สามีทำหน้างง แต่ก็ยกมือไหว้ตาม จากนั้น พาไปกินของอร่อยแถว ๆ ซอยอารีย์ ตบท้ายด้วยไอศครีมไผ่ทองเจ้าอร่อย สามีถอดใจ ดิฉันพยายามให้กำลังเต็มที่ แม้ว่าในใจจะมั่นว่าตกแหง๋ ๆ

"ตกก็ช่างมัน ไอขับรถได้ทุกประเทศ ยกเว้นประเทศไทย ไม่เป็นไร ไอมียู..." เธอพูดไปหัวเราะไป ฝาดเฝื่อนพิกลอยู่ ไอ้เราก็พยายามให้กำลังใจต่อไป แต่พอเดินไปเจอแดดร้อนมาก ๆ ชักหงุดหงิดได้เหมือนกัน

"อ้าว มาพอดี.....พร้อมแล้วนะคะ" เจ้าหน้าที่คนเดิมทัก แล้วเราก็ส่งสามีไปขึ้นเขียง....เอ๊ย......โต๊ะสอบ โดยยืนให้กำลังใจข้าง ๆ

"สีอะไรคะ..." เสียงเจ้าหน้าที่ถามเมื่อใช้มือกดแป้นไฟ สามีนิ่งแล้วค่อย ๆ ตอบ "แดง" ภาษาไทยชัดเจน

"สี..." เธอถามต่อ
"แดง" สามีตอบ ถูกต้องแล้วคร๊าบ เสียงคุณปัญญาแว่วเข้ามาในหู

"สี..." เธอถาม
"เขียว" คุณสามีพยายามเต็มที่
"สี..."
"เหลือง...." คราวนี้ ผิดค่ะ คุณเจ้าหน้าที่เริ่มหน้าเครียด
"ผิดค่ะ เอาใหม่ สี...." เธอถาม กดสีเขียวสีเดิม จะด้วยการเดาหรืออะไรก็สุดรู้ สามีตอบ "เขียว"

กรี๊ด ดิฉันอยากร้องออกมาจริง ๆ ให้ดัง ๆ แบบปาล์มมี่เลยค่ะ คุณเจ้าหน้าที่เซ็นตรงคำว่าผ่านค่า ผ่านจริง ๆ

"ลงไปที่ชั้นสองเพื่อจ่ายเงินนะคะ"
คุณสามียิ้มแก้มแทบปริแน่ะค่ะ

ตอนนี้ได้มาแล้วนะคะ ในที่สุด เราก็ได้มา ยากยิ่งกว่ายากค่ะ เพียงเพราะเธอเป็นตาบอดสี โชคยังดี ที่เป็นไม่มาก ยังพอเห็นสีอยู่บ้าง






Create Date : 30 กรกฎาคม 2549
Last Update : 2 ธันวาคม 2550 1:19:31 น.
Counter : 4075 Pageviews.

11 comments
  
ยินดีด้วยนะค่ะ

เจ้าหน้าที่ไทยเราเป็นแบบนี้แหล่ะค่ะ
โดย: Candydolls วันที่: 30 กรกฎาคม 2549 เวลา:10:51:30 น.
  
เจ๊หนูแดง ดีใจด้วยนะ ตอนนี้ก็มีคนขับรถให้แล้วดิ ในรูปพี่แจ๊สหน้าโหดว่ะ ฮิฮิ ดีมากที่ไม่ท้อซะก่อน
โดย: MingDK วันที่: 30 กรกฎาคม 2549 เวลา:19:22:33 น.
  
ขอบคุณค่าที่เข้าไปตอบกะทู้ให้ในพันทิบ ตอนนี้คิดม้ากมากค่ะว่ากลับไปจะอยู่ไงกัน จะเช่าบ้านหรือซื้อบ้านดี และจะอยู่ กทม. หรือแถวทะเลที่ไม่ไกลจาก กทม. ปวดหมองจัง แล้วจิงป่าวที่กฎสำหรับต่างชาติเปลี่ยนทุกวัน
ขอให้คุณหนูแดงกะคุณแจ๊สมีความสุขนะคะ
โดย: P&C Ladisch IP: 213.39.223.124 วันที่: 25 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:37:23 น.
  
คุณ P&C คะ ขอบคุณค่ะที่แวะมาเยี่ยมบล็อกเรา แฮะ ๆ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อัพบล็อกเกี่ยวกับชีวิตในไทยเท่าไหร่ ถ้ากลับมาเมืองไทยก็ไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะ แต่ต้องเตรียมความพร้อมเท่านั้นเอง อยู่แถว กทม. ก็ต้องเจอรถติด แล้วก็ถ้าอยู่ไกลจากเมืองแบบเราก็ลำบากหน่อย ขนาดสองคนมีรถขับนะคะ ยังลำบากเลย

สำหรับเรื่องกฎสำหรับต่างชาติ ไม่เปลี่ยนง่าย ๆ แบบนั้นหรอกค่ะ เพียงแต่ว่าเจ้าหน้าที่อาจพูดแตกต่างกันไปบ้าง เช่นเพื่อนเรา แฟนเขาจะเปิดบัญชีในไทย ธนาคารไม่ยอมเปิดให้ บอกว่าต้องมีใบทำงาน ทั้ง ๆ ที่บางธนาคารเปิดได้ ต้องอดทนค่ะ อดทนมาก ๆ เลย ถ้าพูดกับคนนี้ไม่รู้เรื่อง ก็ลองไปคุยกับคนอื่น ธนาคารอื่น ชีวิตต้องสูค่า

โดย: Ninie IP: 168.120.4.203 วันที่: 25 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:40:35 น.
  
ตอนนี้คุยกันทุกวันค่ะเรื่องจะไปอยู่เมืองไทยวันๆม่ายทำไรหาข้อมูลตลอดซะมีคะ ก็คิดกันว่าจะอยู่ใกล้ทะเลเพราะชอบดำน้ำและส่วนตัวเองก็ไม่ค่อยอยากอยู่ในกรุงเทพเซ็งรถติดค่ะ พูดถึงแบงค์ซะมีบอกว่าจะเปิดบัญชีที่ สิงค์โปรหรือว่าที่อื่นเอาคะเค้าว่าคงจะง่ายกว่าคือเค้าเล่นหุ้นด้วยค่ะเวลาชื้อขายไม่ต้องเสียภาษีไรทำนองนี้แหละค่ะ คิดว่าจะสร้างบ้านใหม่ด้วยแต่ยังไม่รู้งบเท่าไรไม่อยากเสียตังค์เยอะเอาแค่พออยู่2คนไม่ต้องหลังใหญ่มากแต่ตอนนี้ข้าวของก็แพงขึ้น
โดย: P&C Ladisch วันที่: 29 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:34:42 น.
  
ยินดีด้วยค่า อ่านไปก็ลุ้นแทบแย่
โดย: lady rabbit IP: 58.64.120.62 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2550 เวลา:1:00:15 น.
  
โดย: ----------- IP: 222.123.90.246 วันที่: 10 ธันวาคม 2550 เวลา:12:28:01 น.
  
เห็นเหมือนกัน ไม่อยากจะเชื่อ เดี๋ยวนี้ราชการหลายที่เขาพัฒนาแล้ว แต่เห็นที่นี่ยังเป็นแบบนี้อยู่ น่าสลดนะ เห็นหลายคนโดนเจ้าหน้าที่ด่า ตะคอก สารพัด เฮ้อ น่าเห็นใจ แต่ดูดูแล้ว เจ้าหน้าที่ก็อยากรีบไล่ไล่ให้ผ่านๆ กลับๆ ไป แต่ก็ไม่น่าจะมารุนแรงใส่กันเล้ยย

อย่างไรก็ดีใจด้วยที่สอบผ่าน เย้
โดย: n IP: 58.136.28.152 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:18:26:53 น.
  
ขอโทษนะคะสอบใบขับขี่มีภาษาของแต่ละประเทไหมคะเผอิญว่าสามีเป็นคนอิตาลี ช่วยตอบด้วยนะคะ
โดย: italy IP: 79.30.170.158 วันที่: 8 มีนาคม 2553 เวลา:17:09:49 น.
  
คุณอิตาลีคะ ไม่คิดว่ามีภาษาอื่นนอกจากอังกฤษนะคะ แต่ถ้าเขามีใบขับขี่ของอิตาลีอยู่แล้ว มาสอบที่เมืองไทยก็น่าจะสอบแค่ภาคปฏิบัติเองค่ะ
โดย: Ninie วันที่: 17 เมษายน 2553 เวลา:13:39:13 น.
  
ขอถามผู้ รู้ ค่ะ ดิฉัน มีสามมีเป็นชาวเบลเยี่ยม ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน จะทำใบขับขี่ที่เมืองไทยได้หรือเปล่าค่ะ และมีขันตอนอย่างไร คุณสามีของดิฉัน มีใบขับขี่ ของเบลเยี่ยม อยู่แล้วค่ะ
โดย: นิว IP: 125.26.9.67 วันที่: 19 พฤษภาคม 2553 เวลา:22:29:58 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Ninie
Location :
กรุงเทพ  Netherlands

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 127 คน [?]




ได้ออกประจำการเสียที....แต่ต้องหนีร้อนไปถึงรัสเซียเชียวหรือ จะไหวรื้อ?
เมื่อเขาฉันถามว่า "เธอจะบ้ารองเท้าไปถึงไหน?"
ใครอยากได้วารสารสราญรมย์ หนังสือดี ๆ ของกระทรวงการต่างประเทศ โปรดเข้ามาอ่านด้วยจ้า
Cast away ที่ La a Natu@Pranburi
เมืองไทยในสายตาของพี่แจส ผ่านเลนส์
10 ยอดการ์ตูนผู้หญิงในดวงใจ ภาค 1
เมื่อคิดจะแต่งงานกับฝรั่ง และย้ายฐานทัพมาอยู่เมืองไทย ต้องทำอย่างไร

บ ล็ อ ก ข อ ง เ พื่ อ น