|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ธรรมสอนใจ.......
เมื่อวานนี้(3 ต.ค.)เป็นวันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้เข้าเฝ้าและได้รับหนังสือคำสอนเตือนสติมาเล่มหนึ่ง....เลยอย่างให้ท่านทั้งหลายได้ชมกันบ้าง......
ธรรมสอนใจ ธรรมเป็นที่พึ่งทางจิตใจได้อย่างแท้จริง เมื่อจิตใจ มีธรรมเป็นที่พี่ง ตนก็เป็นที่พี่งของตนเองได้ คิดดูว่า ทุกๆ คนเกิดผู้เดียว แก่ เจ็บ ตาย ไปดีไม่ดีผู้เดียว คือต่างคน ต่างมาต่างคนต่างไป ถ้าตนไม่เป็นที่พึ่งของตนได้แล้ว ใคร จะเป็นที่พึ่งของตนได้ และตนจะเป็นที่พี่งของตนได้ก็ต่อ เมื่อมีธรรมเป็นที่พึ่งทางจิตใจเท่านั้น พระบรมศาสดาได้ ตรัสสอนไว้ว่า "ท่านทั้งหลายจงมีตนเป็นเกาะเป็นที่พึ่ง อย่ามีสิ่งอื่นเป็นเกาะเป็นที่พี่ง จงมีธรรมเป็นเกาะเป็นที่พี่ง อย่ามีสิ่งอื่นเป็นเกาะเป็นที่พึ่ง"......... ผู้ให้อภัยง่าย ก็คือ ไม่โกรธง่ายนั้นเอง ดังนั้นผู้ที่ปรารถนาจะฝึกจิตให้ไม่โกรธง่ายจึงควรต้องฝึกตนให้เป็นผู้มีเหตุผล เคารพเหตุผล นั้นคือ ให้คิดหาเหตุผลเพื่อให้เกิดความเห็นอกเห็นใจผู้ที่ตนอยากจะโกรธ เมื่อเห็นอกเห็นใจด้วยเหตุผลแล้วจะได้ไม่โกรธ จะได้อภัยให้ในความผิดพลาด หรือบกพร่องของเขา กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ ให้คิดหาเหตุผลเพื่อให้เกิดเมตตาในผู้ที่ตนอยากจะโกรธนั้นเอง...... การได้มาซึ่งสิ่งของ หรือทรัพย์สินใดๆๆ ก็ตามด้วยวิธีอันมิชอบนับเป็นการได้ที่ไม่คุ้มเสีย เพราะสิ่งเหล่านั้น เมื่อถึงเวลาก็ต้องหมดสิ้นไปตามธรรมดา แต่ความเสียหายอันเกิดจากการทุจริตย่อมจักคงอยู่..... การเพ่งดูผู้อื่นทำให้ตนเองไม่เป็นสุข แต่การเพ่งดูใจตนเองทำให้ใจเป็นสุขได้ แม้กำลังโกรธมาก หากเพ่งดูใจตนเองให้เห็นว่ากำลังโกรธมาก ความโกรธก็จะลดลง เมื่อความโกรธน้อยหากเพ่งดูใจตนเองให้เห็นว่ากำลังโกรธน้อย ความโกรธก็จะหมดไป จึงกล่าวได้ว่าไม่ว่าจะมีอารมณ์ใดก็ตาม โลภ หรือโกรธ หรือหลงก็ตาม การเพ่งดูใจตนเองทำให้ใจเป็นสุขได้........ เมตตาไม่พึงมีขอบเขต ไม่พึงมีระยะกาล.... เมตตาพึงมีได้อย่างเต็มเปี่ยม โดยปราศจากอุปสรรค เพราะเมตตาไม่จำต้องอาสัยทรัพย์สิ่งของเมตตาเป็นเรื่องของจิตใจโดยบริสุทธิ์แท้ เมื่อมีจิตใจก็มีเมตตาได้ด้วยกันทุกคน...... คนมีอำนาจเหนือกรรม อาจควบคุมกรรมของตนได้ แต่ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่า จะต้องควบคุมเจตนาของตนได้ด้วย โดยตั้งมั่นแน่วแน่อยู่ในธรรม เช่น เมตตา สติ ปัญญา สัจจาธิษฐษนเป็นต้น อันเป็นส่วนจิต และศลี อันหมายถึงตั้งเจตนา เว้นการที่ควรเว้น ทำการที่ควรทำในขอบเขตอันควร........
อันคนทำงานที่เป็นคุณให้เกิดประโยชน์ ย่อมจะต้องประสบถ้อยคำถากถาง หรือการขัดขวางน้อยหรือมาก ผู้มีใจอ่อนแอก็จะเกิดความท้อไม่อยากที่จะทำดีต่อไป แต่ผู้ที่มีกำลังใจย่อมจะไม่ท้อถอย ยิ่งถูกค่อนแคะก็ยิ่งจะเกิดกำลังใจมากขึ้น คำค่อนแคะกลายเป็นพาหนะที่มีเดชะแห่งการทำความดี แม้พระพุทธเจ้าก็ยังถูกคนที่ริษยามุ่งร้าย จ้างคนให้ตามด่าว่าในบางครั้ง.....
ความเชื่อกรรม ถ้าเชื่อให้ถูกทางก็จะแก้ความเชื่อโชดลางต่างๆได้เป็นอันมาก และสำหรับคนเรามีปัญญาสร้างกรรมใหม่ๆขึ้นได้ดีๆ มีพระธรรมของพระพุทธเจ้าปฏิบัติรักษาอยู่ ก็เป็นผู้มีสรณะกำจัดทุกข์ภัยต่างๆ ได้เป็นอย่างดี......
"มาร" แปลว่า "ผู้ฆ่า" "ผู้ทำลายล้าง" มารข้างนอก คือผู้มุ่งทำลายล้างข้างนอก มารข้างใน คือกิเลสในใจของตนเอง เป็นต้นว่า ความรัก ความชัง ความหลง ซึ่งบังใจเราไม่ให้เกิดปัญญาในเหตุผลเมื่อชนะมารในใจของตนได้แล้ว มารข้างนอกก็ทำอะไรไม่ได้.........
อันมูลเหตุที่ให้เกิดความตึงเครียดขึ้นนั้น โดยตรงที่สุดก็คือ ตัณหา ความทะยานอยากในจิดใจของบุคคล กิเลสเหล่านี้เป็นไฟเผาโลกอยู่ทุกกาลสมัย และเป็นนายที่บงการมนุษย์ให้เบียดเบียนทำลายล้างกันและกัน แม้บุคคลจะมีอำนาจครอบงำผู้อื่นได้มากมาย แต่ก็ต้องเป็นทาสของตัณหา จึงได้ขวนขวาย เพื่อหักล้างผู้อื่นลงไปให้ย่อยยับ โดยที่ไม่พยายามหักตัณหาในใจของตนเองลงไปเลย เมื่อเป็นเช่นนี้ ความสงบก็เกิดขึ้นได้โดยยยากยิ่งแก้ด้วยวิธีเพิ่มเติมตัณหาให้แก่ตนและหักล้างผู้อื่นให้จำยอมก็ยิ่งเพิ่มความไม่สงบ เพราะไม่มีใครที่ยินยอมแก่กัน ต้องพากันพยายามป้องกันตน หรือ คิดหักล้างเป็นการตอบแทนกันอยู่ตลอดไป.....

Create Date : 04 ตุลาคม 2549 |
Last Update : 28 พฤษภาคม 2550 22:33:31 น. |
|
4 comments
|
Counter : 645 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: bitter sugar (bitter sugar ) วันที่: 10 ตุลาคม 2549 เวลา:16:29:25 น. |
|
|
|
โดย: ป้าเกษ (inhouse ) วันที่: 12 ตุลาคม 2549 เวลา:9:36:43 น. |
|
|
|
โดย: ป้าเกษ (inhouse ) วันที่: 16 ตุลาคม 2549 เวลา:15:36:21 น. |
|
|
|
โดย: แนท IP: 222.123.89.64 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:12:55:29 น. |
|
|
|
| |
|
JavaScript:
JavaScript:
JavaScript:
|
|
|
|
|
|
|
|