ไก่ฟ้า - ลาวเจริญศรี - ยอยศพระลอ (3 บ ท เ พ ล ง จ า ก ว ร ร ณ ก ร ร ม)
เ พ ล ง จ า ก ว ร ร ณ ค ดี ไ ท ย ลิ ลิ ต พ ร ะ ล อ
1.ไก่ฟ้า อดิเรก จันทร์เรือง 2.ลาวเจริญศรี 3.ยอยศพระลอ ขับร้องโดยคุณชินกร ไกรลาส ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ลิลิตพระลอ เป็นนิยายท้องถิ่นของไทยภาคเหนือ เข้าใจกันว่าเป็นเรื่องจริง ในหลักฐานพงศาวดารกล่าวว่า พระลอเป็นคนสมัยเดียวกับท้าวฮุ่ง จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเรื่องราว ที่เกิดขึ้นระหว่าง พ.ศ.๑๖๑๖-๑๖๙๓ และยังสันนิษฐานกันว่า เมืองสรองคงจะเป็นตอนเหนือของ อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ส่วนเมืองสรวงคงจะเป็นเขตอำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ลิลิตพระลอ เป็นวรรณคดีสำคัญอีกเรื่องหนึ่งของไทย วรรณคดีสโมสรยกย่อง ให้เป็นยอดวรรณคดีประเภทลิลิต ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้แต่งและแต่งเมื่อใด มีผู้สนใจศึกษาค้นคว้า หาหลักฐานเกี่ยวกับผู้แต่งและระยะเวลาในก ารแต่งแต่ยังหาข้อยุติไม่ได้ว่าแต่งในสมัยใด ระหว่าง สมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ หรือสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
ทั้งเรื่องผู้แต่งและปีที่แต่ง ไม่ปรากฏหลักการหรือข้อความระบุที่ชัดเจน แต่อาจอาศัยเนื้อเรื่องที่ระบุถึงสงครามระหว่างไทยและเชียงใหม่มาเป็นจุดอ้างอิง ซึ่งเดิมนั้นเชื่อว่าน่าจะแต่งขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พ.ศ. 2199-2231) แต่ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจน และเป็นที่ถกเถียงกันมาจวบจนปัจจุบัน นักจารณ์วรรณคดีส่วนใหญ่ ลงความเห็นว่า ลิลิตพระลอแต่งขึ้นในสมัยอยุธยาแน่ แต่ยังมีบางท่านเสนอเวลาที่ใหม่กว่านั้น ว่าน่าจะแต่งขึ้นในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ แต่ยังมีผู้คล้อยตามไม่มากนัก นักวรรณคดีมักจะยกโคลงท้ายบทมาเป็นหลักฐานพิจารณาสมัยที่แต่ง ดังนี้
659.จบเสร็จมหาราชเจ้า นิพนธ์ ยอยศพระลอคน หนึ่งแท้ พี่เลี้ยงอาจเอาตน ตายก่อน พระนา ในโลกนี้สุดแล้ เลิศล้ำคุงสวรรค์ฯ 660.จบเสร็จเยาวราชเจ้า บรรจง กลอนกล่าวพระลอยง ยิ่งผู้ ใครฟังย่อมใหลหลง ฤๅอิ่ม ฟังนา ดิเรกแรกรักชู้ เหิ่มแท้รักจริงฯ ลิลิตพระลอได้รับยกย่องจากวรรณคดีสโมสร เมื่อ พ.ศ. 2459 ให้เป็นยอดแห่งลิลิต
จากโคลงข้างบน มีผู้เสนอว่า "มหาราช" คือกษัตริย์ เป็นผู้แต่ง และ "เยาวราช"เป็นผู้เขียน (บันทึก) และสันนิษฐานว่า ผู้แต่งน่าจะเป็น สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 และผู้เขียน คือ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 และคาดว่าน่าจะแต่งเมื่อ พ.ศ. 2034-2072
อย่างไรก็ตาม นักวรรณคดีบางท่าน เสนอว่า น่าจะอยู่ในสมัยพระชัยราชาธิราช (พ.ศ. 2077-2089)เนื่องจากเป็นสมัยที่มีสงครามระหว่างไทยกับเชียงใหม่ และเป็นสมัยแรกที่มีการใช้ปืน (ปืนไฟ) ในการรบ ภาษาสำนวนในลิลิตพระลอ อ่านเข้าใจได้ง่ายกว่าวรรณกรรมเรื่องอื่นๆ ในสมัยอยุธยา แต่ก็ยังมีศัพท์ยาก และศัพท์โบราณอยู่บ้าง ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเหตุให้นักวิจารณ์บางท่าน เสนอว่า ลิลิตพระลอแต่งในสมัยรัตนโกสินทร์ เครดิตจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เรื่องย่อ : เมืองสรวงและเมืองสรองเป็นศัตรูกัน พระลอ กษัตริย์เมืองสรวง ทรงพระสิริโฉมยิ่งนัก จนเป็นที่ต้องพระทัยของพระเพื่อนพระแพงราชธิดาของ ท้าวพิชัยพิษณ ุกร กษัตริย์แห่งเมืองสรอง นางรื่นนางโรย พระพี่เลี้ยงได้ขอให้ปู่เจ้าสมิงพราย ช่วยทำเสน่ห์ให้พระลอเสด็จ มาเมืองสรวง เมื่อพระลอต้องเสน่ห์ได้ตรัสลาพระนางบุญเหลือ พระราชมารดา และนางลักษณวดีมเหสี เสด็จไปเมืองสรองพร้อมกับนายแก้วนายขวัญพระพี่เลี้ยง พระ ลอทรงเสี่ยงทายน้ำที่แม่น้ำกาหลง ถึงแม้จะปรากฏรางร้ายก็ทรงฝืนพระทัยเสด็จต่อไป ไ ก่ผีของปู่เจ้าสมิงพรายล่อพระลอกับนายแก้วนายขวัญไปจนถึงสวนหล วง นางรื่นนางโรย พี่เลี้ยงของพระเพื่อนพระแพง ออกอุบายลอบนำพระลอกับนายแก้วนายขวัญไปไว้ในตำหนัก ของพระเพื่อน พระแพง ท้าวพิชัยพิษณุกรทรงทราบเรื่องก็ทรงพระเมตตารับสั่งจะจัดการอภิเษก พระลอกับพระเพื่อนและพระแพงให้ แต่พระเจ้าย่าเลี้ยงของพระเพื่อนพระแพงยังทรงพยาบาท พระลอ อ้างรับสั่งท้าวพิชัยพิษณุกรตรัสสั่งใช้ให้ทหารไปรุมจับพระลอ พระเพื่อนพระแพงและ พี่เลี้ยง พระลอ พระเพื่อน พระแพง และพี่เลี้ยงทั้งสี่ช่วยกันต่อสู้จนสิ้นชีวิตทั้งหมด ท้าวพิชัยพิษณุกรพิโรธพระเจ้าย่าและทหาร รับสั่งให้ประหารชีวิตทุกคน พระนางบุญเหลือทรงส่งทูตมาร่วมงานพระศพกษัตริย์ทั้งสาม ในที่สุดเมืองสรวงและเมืองสรองก็กลับมาเป็นไมตรีต่อกัน
บทร้อยกรองบางตอนจากลิลิตพระลอ 30.เสียงลือเสียงเล่าอ้าง อันใด พี่เอย เสียงย่อมยอยศใคร ทั่วหล้า สองเขือพี่หลับใหล ลืมตื่น ฤๅพี่ สองพี่คิดเองอ้า อย่าได้ถามเผือฯ .................. .................. 215..ใดใดในโลกล้วน อนิจจัง คงแต่บาปบุญยัง เที่ยงแท้ คือเงาติดตัวตรัง ตรึงแน่น อยู่นา ตามแต่บุญบาปแล้ ก่อเกื้อรักษาฯ .................. .................. 261.ลางลิงลิงลอดไม้ ลางลิง แลลูกลิงลงชิง ลูกไม้ ลิงลมไล่ลมติง ลิงโลด หนีนา แลลูกลิงลางไหล้ ลอดเลี้ยวลางลิง ฯ .................. .................. 290.ร้อยชู้ฤๅเท่าเนื้อ เมียตน เมียแล่พันฤๅดล แม่ได้ ทรงครรภ์คลอดเปนคน ฤๅง่าย เลยนา เลี้ยงยากนักท้าวไท้ ธิราชผู้มีคุณ ฯ .................. .................. 625.เสียงไห้ทุกราษฎร์ไห้ ทุกเรือน อกแผ่นดินดูเหมือน จักขว้ำ บเห็นตะวันเดือน ดาวมืด มัวนา แลแห่งใดเห็นน้ำ ย่อมน้ำตาคน ฯ .................. ..................
ไก่ฟ้า คำร้อง : ส.เกษศิริ-ไสล ไกรเลิศ ทำนอง : เพลงลาวจ้อย
เพลง"ไก่ฟ้า" เป็นเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับวรรณคดี เรื่อง ลิลิตพระลอ โดยในบทเพลงกล่าวถึงไก่ที่ล่อพระลอให้ไปพบ พระเพื่อนพระแพง ในเนื้อหาบทเพลงพรรณาถึง ความงามของไก่ฟ้า และกล่าวถึงตัวพระลอเองที่ติดตามมาเพราะความงามของไก่ เนื้อหาในวรรณคดีกล่าวไว้ว่า พระเพื่อน พระแพง หลงรักพระลอ จึงให้พระพี่เลี้ยง คือ นางรื่น กับ นางโรย ไปขอความช่วยเหลือจาก ปู่เจ้าสมิงพราย ผู้เก่งกาญวิชาอาคม เสกไก่ขึ้นมาจากวิญญาณของผีพราย และไปล่อพระลอซึ่งกำลังประพาสป่าอยู่นั่น ต้องตามไก่ตัวนี้มาจนเข้าเขต พระอุทยาน เมืองสรอง พบกับพระเพื่อน พระแพง
++++++++++++++++++
ไก่ฟ้าเอย โสภิณ ข้อยได้ยินสมนามว่าเจ้างามจริงหนอ หลอกให้พระลอ พบเลยก่อลำเค็ญ
เที่ยวตามยากเย็น เพราะเป็นด้วยมนต์สุดา ไก่ฟ้าเอย โสภิณ ข้อยได้ยินสมนามว่าเจ้างามจริงหนา
โอ้เจ้าขวัญตา สวยสง่าไฉน ข้อยสู้ตามไป ถึงดงแดนไพรซอกซอน
*โศกเอยบ่เคยพบเจ้า ข้อยหลงแต่เงา ข้อยเฝ้าครวญหาอาวรณ์
คิดไปใจข้อยสะท้อนร้าวรอน มิวายอาวรณ์อ่อนใจ ไก่ฟ้าเอย โสภิณ ข้อยได้ยินสมนามว่าเจ้างามไฉน
เจ้าอยู่หนใด ขอจงได้กู่ขาน อย่าทรมาน สงสารข้อยบ้างเถิดเอย (ซ้ำ*)
เพลงลาวเจริญศรี อายุเยาว์ วเรศรุ่น เจริญศรี พระเพื่อนพี่ แพงน้อง สองสมร งามทรง อ่อนซ้อน ดังอัปสรจากฟ้า ลงมาเอย แม่คุณเอ๋ย ข้อยบ่เคยพบเจ้า สองนางลำเพาเจ้างามตา สาวใดไป่เหมือน สองเพื่อนแพงนา แต่ข้อยดูมา ลักษณาบ่ ปาน เพลงนี้ สร้างชื่อเสียงให้กับ พูลศรี เจริญพงษ์ มาก อาจเป็นเพราะ ชื่อของ เพลงเจริญศรี และนามสกุล เจริญพงษ์ มาสอดคล้องต้องกันโดยบังเอิญ พูลศรี เจริญพงษ์ เข้ามาเป็นนักร้องของ วงดนตรีกรมประชาสัมพันธ์ ในราวปี พ.ศ. ๒๔๙๕ เมื่อมีอายุได้ ๑๘ ปีพอดี มีผลงานเพลงที่ไพเราะเป็นอมตะ อยู่ด้วยกันหลายเพลง เช่น เพลงลาวเจริญศรี เพลงลาวครวญ เพลงลาวเสี่ยงเทียน เพลงข้องจิต เพลงฉันจะคอย เพลงดอกพุดตาน และ เพลงจากครูเพลงคนอื่น เช่น เพลงคู่กันแล้วแคล้วกัน เพลงชั่วฟ้าดินสลาย เพลงบัวขาว เพลงระฆังทอง เพลงวนาลี ฯลฯ
ใน หนังสือ สารานุกรมศัพท์ดนตรีไทย ภาคประวัติและบทร้องเพลงตับ ประวัติเพลงหน้าพาทย์และเพลงโหมโรง ฉบับราชบัณฑิตยสถาน บอกว่า
...เนื้อร้อง เป็นตอนที่ พระลอ ได้ฟังนักขับซอ ที่ นางรื่น นางโรย ซึ่งเป็นพระพี่เลี้ยงของ พระเพื่อน พระแพง ส่งมาขับซอพรรณนาถึงความงาม ของ พระเพื่อน พระแพง พระลอ ฟังแล้วพอพระทัยมาก เมื่อ นางรื่น นางโรย รู้ จึงหาคนทำเสน่ห์ พระลอ ถึง ๒ ครั้ง พระลอ ต้องเสน่ห์ ทรงคลั่งไคล้ถึง พระเพื่อน พระแพง จะเสด็จไปหา ระหว่างทางที่เสด็จ พระลอ ทรงเสี่ยงน้ำ และทราบว่า การเดินทางไปครั้งนี้ พระองค์จะสิ้นพระชนม์ แต่ก็ยัง เสด็จไปด้วยอำนาจมนต์เสน่ห์... จาก(เพลงสังคีตสัมพันธ์ โดย คีตา พญาไท)
เพลงยอยศพระลอ ประพันธ์คำร้อง พยงค์ มุกดา (ศิลปินแห่งชาติ ประเภทการประพันธ์เพลงไทย ปี 2534) ประพันธ์ทำนอง มนตรี ตราโมท (ศิลปินแห่งชาติ ประเภทดนตรีและเพลงไทย ปี 2538) เพลงนี้ขับร้องโดยศิลปินมากมาย ที่รู้จักและนิยมมากที่สุด คือ ชินกร ไกรลาศ ชินกร ไกรลาศได้รับ รางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน จากเพลงยอยศพระลอ เมื่อ วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514
ชินกร ไกรลาศ หรือ ดร.ชิน ฝ้ายเทศ เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2489 ที่ จังหวัดสุโขทัย เป็นนักร้องลูกทุ่งที่ประยุกต์เพลงพื้นบ้านมาผสมผสานกับ การแสดงดนตรีลูกทุ่งในหลายลักษณะ ทั้งลำตัด เพลงฉ่อย เพลงเกี่ยวข้าว เพลงเรือ เพลงอีแซว และเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นักร้องเพลงลูกทุ่ง) ประจำปีพุทธศักราช 2541
เนื้อเพลง ยอยศพระลอ ชินกร ไกรลาศ
รอยรูปอินทร์ หยาดฟ้า...... มาอ่าองค์ ในหล้า แหล่งให้คนชม
งามสม....ขุนลอท้าว น้ำพระทัย ณ หัวเจ้า ยิ่งแม่ กาหลง
ยามพระทรงคชสาร.... พระยิ่งหาญ ยิ่งกล้า เกินพระยาสีหราชท้าว กลางศึก
พระบาทเจ้า ล้านโลกใครบ่เท่า พ่อขุนแมนสรวง
รูปดังองค์อินทร์ หยาดฟ้ามาสู่ดิน โสภิณดังเดือนดวง เหนือแผ่นดินแดนสรวง เหนือปวงหนุ่มใด
เหล่าอนงค์หลงสวาท ยอมเป็นทาสรักบำเรอ นามขุนลอท้าวเธอ ทรงสถิตย์ ณ ทรวงใจ
ลุ่มแม่กาหลงเจ้า หรือจะเท่าถึงครึ่ง แม้น้อยหนึ่ง น้ำหทัย เมื่อทรงคชสาร พระยิ่งหาญยิ่งกล้า
ดั่งพระยาสีหราชผู้เป็นใหญ่ ใช่เพียง ศึกรบ สยบพระทรงชัย แม้ในศึกรักพระยังยิ่งใหญ่
นาถอนงค์ปลงใจ ใคร่อิงอุ่น นับล้านโลกาล้วน บ่ควรคู่บุญ ดั่งพ่อขุนแมนสรวง เอย
ขอขอบคุณ ครูเพลง.. ศิลปินนักร้อง ขอบคุณ... ทุกๆตัวอักษร..ในบทเพลง ที่ขับกล่อมโลกใบนี้ให้มีความสุขสุนทรีย์ และขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามา รำลึกถึง เสียงเพลงไพเราะในอดีต ด้วยกันนะคะ
| ห้องฝากข้อความ |
Create Date : 21 ตุลาคม 2557 |
|
0 comments |
Last Update : 21 ตุลาคม 2557 12:52:34 น. |
Counter : 6007 Pageviews. |
|
|
|