ย้อนยุคฟังเพลงแห่งความหลัง

ฉลอง สิมะเสถียร
1.น้ำตาแสงไต้ - ฉลอง สิมะเสถียร
2.เมื่อแดนฟ้าขาดเดือน -ฉลอง สิมะเสถียร
3.อุทยานกุหลาบ - ฉลอง สิมะเสถียร + สวลี ผกาพันธุ์
4.กระแจะจันทร์ - ฉลอง สิมะเสถียร + อารีย์ นักดนตรี
5.จันทร์ลอยฟ้า - ฉลอง สิมะเสถียร
6.ปิ่นรัก - ฉลอง สิมะเสถียร
7.ค่าของคน - ฉลอง สิมะเสถียร
8. สลักจิต - ฉลอง สิมะเสถียร

ฉลอง สิมะเสถียร
( ๓พฤศจิกายน ๒๔๖๘ – ๒ เมษายน ๒๕๒๐)
เกิดที่ตำบลวัดกัลยาณ์ ฝั่งธนบุรีเป็นบุตรคนทึ่ ๒ ใน ๘ คนของ นายสุจินต์ และ นางสังวาลย์
สิมะเสถียร จบจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย แล้วเข้าทำงานที่บริษัท สหไทยวัฒนา จำกัด เนื่องจากที่มีพรสวรรค์ใมนการร้องเพลงและมีน้ำเสียงที่ทุ้มนุ่มนวล จึงสมัครเข้ามาเป็นนักร้องของวงทรัย์สินฯ พอวงล้มก็ได้เข้าสมัครแสดงละครกับคณะศิวารมณ์ เรื่องที่ทำให้มีชื่อเสียงคือละครเรื่อง ” ขุนทัพพญายม ” บทประพันธ์ของอรวรรณ และ ” ราชินีบอด ” ของสุวัฒน์ วรดิลก เป็นศิษย์ของครูมารุต ครูเนรมิต และหม่อมหลวงทรงสอางค์ ทฆัมพร มักจะแสดงคู่กับคุณสุพรรณ บูรณะพิมพ์ จุฑารัตน์ เป็นประจำ
เมื่อออกจากคณะศิวารมณ์ ก็เข้าอยู่ในสังกัดของอัศวินการละคร ของพระองค์เจ้าวรวงศ์เธฮพระองค์เจ้าภานุพันธ์ ยุคล และมีชื่อเสียงมากจากละครเรื่อง ” บ้านทรายทอง ” ของ ก. สุรางค์นางค์ จนอัศวินการละครยุบไปเป็นอัศวินภาพยนตร์ ได้รับการชักชวนจาก คุณจำนง รังสิกุล โดยผ่านทางคุณอารีย์ นักดนตรี ให้มาร่วมงานในฝ่ายจัดรายการของบริษัทไทยโทรทัศน์ช่อง ๔ บางขุนพรหม
ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยรับ ” ใบโพธิ์ทองพระราชทาน ” ในฐานะเป็นผู้ประกาศอ่านออกเสียงได้ถูกต้องชัดเจน
ทางด้านละครวิทยุได้แสดงกับคณะแก้วฟ้า เรื่อง ” สลักจิต ” โดยแสดงเป็น ” อาเดียว คู่กับ จอย รัชนี จันทรังษี
ทางด้านการแสดงละคร ทีวี เรื่อง ” บ้านทรายทอง ” คู่กับสวลี ผกาพันธ์ ซึ่งแสดงเป็น พจมาน ต่อมาอีก ๘ ปีแสดงเรื่องเดียวกันอีกครั้งกับ อรัญญา นามวงศ์
คุณฉลองมีคณะละครชื่อ ” กัญชลิกา ” อันเป็นชื่อของบุตรสาวของท่าน และร่วมงานกับ แมน สุปิติ จนเรื่องสุดท้าย เรื่อง “ ศาลารัก ” ที่มิได้ร่วมแสดงเพราะเจ็บแล้ว และจากไปเมื่อ ๒ เมษายน ๒๕๒๐ เวลาประมาณ ๒ ทุ่ม ที่โรงพยาบาลศิริราช

เพลงน้ำตาแสงใต้
ประพันธ์ทำนองโดยสง่า อารัมภีร
คำร้อง: มารุต - เนรมิตร
โดยได้แรงบันดาลใจมาจาก
เพลงเขมรไทรโยค

++++++++++++++++++++++

นวลเจ้าพี่เอย .....
คำน้องเอ่ยล้ำ คร่ำครวญ
ถ้อยคำ เหมือนจะชวน
ใจพี่หวน ครวญคร่ำอาลัย

น้ำตา อาบแก้ม
เพียงแซมด้วยเพชรไสว
แวววับ จับหัวใจ
เคล้าแสงไต้ งามจับตา

นวล แสงเพชร เกล็ดแก้ว อันล้ำค่า
คราเมื่อแสงไฟ ส่องมา
แวววาวชวนชื่นชม

น้ำตาแสงไต้ ดื่มใจพี่ร้าวระบม
ไม่อยาก พรากขวัญภิรมย์
จำใจข่ม ใจไปจากนวล

นวลเจ้าพี่เอย นวลเจ้าพี่เอย

เพลงน้ำตาแสงไต้ เป็นเพลงประกอบละครเรื่อง
"พันท้ายนรสิงห์" ที่จัดแสดงที่ศาลาเฉลิมไทย
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๗ โดยคณะศิวารมณ์ ประพันธ์ทำนอง
โดยสง่า อารัมภีร โดยได้แรงบันดาลใจมาจากเพลง
เขมรไทรโยค และเพลงลาวครวญ ทำนองแบบไทยๆ
หวานเย็นและเศร้า ผู้ขับร้องคนแรกคือ สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์

เมื่อแดนฟ้าขาดเดือน
คำร้อง/ทำนอง บุญให้ พ่วงพิพัฒน์
ฉลอง สิมะเสถียร ขับร้องต้นฉบับ

++++++++++++++++

.เมื่อแดนฟ้าขาดเดือน ใครหนอจะเยือน
คอยเป็นเพื่อนแดนฟ้า

ลมก็ไม่รำเพยเชยมา กลิ่นบุปผา หอมไม่หวนทวนลม
ชมยิ่งชม เศร้าใจ เดือนพรากจากไป

พาหัวใจ หงอยเหงา ดาว พราว พรายแสง
ก็ไม่แจ่มแจ้ง หรือจะแข่งแสงเดือน

...เมื่อแดนฟ้าขาดเดือน อกใจสะเทือน
เหมือนเมื่อฉันขาดเธอ ใจก็ได้แต่ใฝ่ละเมอ

คิดถึงเธอ มุ่งละเมอ ไม่วาย
ใจหนอใจเดือนเอย

ข้าไม่นึกเลย ว่าเดือนจะเลยจากฟ้า
เดือน ลับเลือนตา หรือจะกลับมาให้ข้าชมเหมือนเคย

...เมื่อแดนฟ้าขาดเดือน เปรียบดูก็เหมือน
คล้ายแสงเดือนซ่อนเร้น จะไม่ให้กระต่ายแลเห็น

แสงเดือนเพ็ญ ที่เคยเห็นแต่ก่อนมา
วาสนากระต่ายน้อย ได้แต่เศร้าสร้อย

เฝ้าหลงคอยคอยหา คอย คอย จนกว่า
แสงเดือนที่ลา จะกลับมาเยี่ยมเยือน

ค่าของคน
คำร้องชาลี อินทรวิจิตร
ทำนอง สมาน กาญจนะผลิน
ผู้ขับร้อง ฉลอง สิมะเสถียร

+++++++++++++++++++++++

ค่าของเงิน ค่าของเงิน
หลอมใจ คนเพลิน ลืมชั่วดี

ให้ลืมทั้ง ความ ปราณี
ถือว่าเงินมี ย่อมมีคน บูชา

ค่าน้ำใจ ค่าน้ำใจ
เหมือนดังสายฝน รินจากฟ้า

ฆ่าความคิด ริษยา มีแต่กรุณา
เพราะคุณค่าแห่งน้ำใจ

เงิน..นี่หรือ ง้างเหล็ก ยัง โอนอ่อน
โยกจิตคน ให้คลอนไฉน

แต่เงินมิอาจจะซื้อน้ำใจ
ของบางคนได้ ดั่งจิตปอง

ค่าของคน ค่าของคน
เหมือนดังมนต์เพรียกคอยเรียกร้อง

ให้คนเมินหัน มามอง
หวนกลับมาปอง เพราะคุณและค่าของคน

สลักจิต
ผู้ขับร้อง ฉลอง สิมะเสถียร

+++++++++++++++++

สลักจิต ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ
ยอด ชีวี ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ
หลง รัก สลัก ทรวง แสน รัก แสน ห่วง
แสน หวง สุ ดา ดวง
รัก สลัก สุด หัก ใจ
สลักจิต ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ
ยอด ชีวี ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ
โอ้ ชาติ นี้ สูญ รัก หรือ อย่าง ไร
ฟ้า สิ้น ดิน ล่ม ไม่ ขอ ไกล
สลัก จิต จ๋า ขอ ฝาก ใจ ไว้
จาก อา เดียว
สลักจิต ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ
ยอด ชีวี ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ
โอ้ ชาติ นี้ สูญ รัก หรือ อย่าง ไร
ฟ้า สิ้น ดิน ล่ม ไม่ ขอ ไกล
สลัก จิต จ๋า ขอ ฝาก ใจ ไว้
จาก อา เดียว

อุทยานกุหลาบ
คำร้อง : สุนทรียา ณ เวียงกาญจน์
ทำนอง : สง่า อารัมภีร
ขับร้องโดย ฉลอง สิมะเสถียร , สวลี ผกาพันธุ์

เพลง "อุทยานกุหลาบ" บุญช่วย หิรัญสุนทร
เพ็ญศรี พุ่มชูศรี ขับร้อง (ต้นฉบับ) เมื่อปี 2490
เพลงประกอบละคร เรื่อง "ผาคำรณ" ของ ส.อาสนจินดา

ผู้ขับร้อง : บุญช่วย หิรัญสุนทร + เพ็ญศรี พุ่มชูศรี (ต้นฉบับ)
, ฉลอง สิมะเสถียร + สวลี ผกาพันธุ์

+++++++++++++++++++++++++++++

(ช) โอ้ละเน้อ หอมกลิ่นกุหลาบอบอวล รื่นรัญจวน
เย้ายวนชวนให้ คอยฝันใฝ่ใคร่เด็ดดม
เฝ้ามองหมายแนบแอบอิง สุดโน้มกิ่งเชยชม แสนหวั่น หนามคม
ได้เพียงวอนสายลม ช่วยพา หอบกลิ่นหอมมา ชโลมอุราชั่ววัน
(ญ) โอ้ละเน้อ ไฉนเฝ้าแต่เพียงรำพัน หากใฝ่ฝันไม้พันธุ์งามวิไล
ควรหรือไม่เด็ดมาถือ ขลาดกลัวแม้เพียงขวากหนาม
พันธุ์ไม้งามหลุดมือ ไม่เอื้อมแย่งยื้อ พอไม้งามหลุดมือ
ขื่นขม ได้แต่ระทม ตรอมตรมอุรา
(ญ) โอ้ละเน้อ ไฉนเฝ้าแต่เพียงรำพัน
หากใฝ่ฝันไม้พันธุ์งามวิไล ควรหรือไม่เด็ดมาถือ
(ช) ขลาดกลัวแม้เพียงขวากหนาม พันธุ์ไม้งามหลุดมือ
(ญ) ไม่เอื้อมแย่งยื้อ พอไม้งามหลุดมือขื่นขม
ได้แต่ระทม ตรอมตรมอุรา

เพลง กระแจะจันทร์
คำร้อง / ทำนอง พรานบูรพ์ หรือ จวงจันทร์ จันทร์คณา
ขับร้องโดย ฉลอง สิมะเสถียร , อารีย์ นักดนตรี

+++++++++++++++++++++++

ช. ฟังคำแล้วจงจำสักนิด แม่ชื่นชีวิตของพี่
คนเดียวเท่านี้ พี่รักแนบสนิท รักฝังจิต ฝังใจ
หากพี่พรากจากไป จะฝากน้องไว้กับใคร ไม่เท่าฝากใจไว้กับตัว
คิดถึงพี่ไว้ วันละนิด ละนิดละหน่อย ทวีรักไว้
วันละน้อย ละหน่อยคอยซึ้ง
รักเก่าเรายังตรึง ถึงสนิทติดใจ
ญ. ฟังคำแล้วจงจำสักนิด นะชื่นชีวิตของน้อง
คนเดียวที่ปอง รักของน้องแนบสนิท รักฝังจิต ฝังใจ
หากพี่พรากจากไป พี่อย่าหวนห่วงใย
น้องจะเก็บใจเอาไว้กับตัว
คิดถึงน้องไว้ วันละนิด ละนิด ละหน่อย
ทวีรักไว้ วันละน้อย ละหน่อยนะพี่
รักเก่าของเรานี้ จะไม่มีจืดจาง
พ. รัก โอ้ รักของเรา
ญ. สองรักเราร่วมเคล้า
ช. สองรักเราร่วมใจ
ญ. สดกว่ารสอื่น อื่น เพราะรัก นะ
ช. ชื่นกว่ารสใดใด

ญ. สดกว่ารสอื่น อื่น เพราะรัก นะ
ช. ชื่นกว่ารสใดใด

ญ. รักเรารักฝากไว้
ช. มอบหัวใจให้กัน
ญ. พลอดพร่ำ แล้วจงจำเอาไว้
อย่าเหลวไหลหลงเลือน
พร่ำพรอดออดเอื้อน ต่างขอเตือนต่อชีวิต
ช. รักฝังจิต ฝังใจ หากเมื่อพรากจากไป
ต่างห่วงหวงอาลัย ต่างฝากใจไว้ต่อกัน
ญ. คิดถึงกันไว้ วันละนิด ละนิดละหน่อย
ช. ทวีรักไว้ วันละน้อย ละหน่อยคอยซึ้ง
พ. รักเก่าเรายังตรึง ถึงสนิทติดใจ

เป็นเพลงจากละครเรื่อง กระแจะจันทร์ ของคณะจันทโรภาส
แสดงที่โรงพัฒนาการ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2480 ต่อมา
ฉลอง สิมะเสถียร และ อารีย์ นักดนตรี นำมาขับร้องใหม่
ก็ได้รับความนิยมมากขึ้นอีกครั้ง

เพลง จันทร์ลอยฟ้า
ขับร้องโดย ฉลอง สิมะเสถียร

++++++++++++++++++++++

จันทร์เอ๋ยจันทรา ลอยเวหา กลางนภาผ่อง
แสงนวลส่อง เรืองรอง พร่างพื้นปฐพี

โสมลอยเด่น แสงเพ็ญ ทั่วธรณี
ปลอบฤดี กระต่ายน้อย ให้หงอยคลาย

เพียงเห็นเพ็ญจันทร์ ลอยเฉิดฉัน กลางนภาลัย
โถเจ้ากระต่าย ลืมตาย สดชื่นตื้นตัน

น้ำใจกระต่าย คิดหมาย เพียงรัศมีจันทร์
ใช่หมายมั่น จะกระสัน เอื้อมโอบดวง

ใยหนอจันทร์เพ็ญ ลอยดวงเด่น เห็นกลางสรวง
แย้มลอยล่วง เต็มดวง ไม่ทุกค่ำคืน

แสงจันทร์เจ้า เย้าใจ กระต่ายชื่น
แต่ถึงคืน ข้างแรมไซร้ กระต่ายตรม

ขอขอบคุณ
ครูเพลง.. ศิลปินนักร้อง
ขอบคุณ... ทุกๆตัวอักษร..ในบทเพลง
ที่ขับกล่อมโลกใบนี้ให้มีความสุขสุนทรีย์
และขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามา รำลึกถึง
เสียงเพลงไพเราะในอดีต ด้วยกันนะคะ

+ฝากข้อความที่นี่คะ+
+เฉลิมลาภ ทราบแล้วเปลี่ยน+

Create Date : 11 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2557 5:39:15 น.		0 comments
Counter : 3587 Pageviews.
Share Tweet