|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
คือรัก...1
ตอนที่ 1 เพล้ง !!!!! เสียงแก้วที่ตกกระทบพื้น จนลูกแก้วสโนว์บอลกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยกระจายเต็มพื้น สิ่งที่หลุดจากมือเรียวลงไปไม่เพียงแค่ทำให้เกิดเสียงดัง แต่ยังทำให้เจ้าของลูกแก้วใจสั่นอย่างหาเหตุผลไม่ได้ และเสียงดังที่เกิดขึ้นอีกเช่นกันได้เรียกความสนใจจากคนในบ้านให้มาสนใจเธอด้วย เกิดอะไรขึ้นน่ะแก้ว เสียงของก้อยพี่สาวของเธอดังมาก่อนที่ตัวจะมาถึงห้องนอนของน้องสาว
อ๋อ...สโนว์บอลน่ะพี่ก้อย มันหลุดจากมือแก้ว ก็เลยแตกละเอียดเลย หยิบขึ้นมาจ้องมันอีกล่ะสิ เมื่อไหร่แก้วจะเลิกจ้องไอ้ลูกบอลนี้สักทีฮึ เสียงพี่สาวที่แสดงความท้อใจเมื่อเห็นอาการเดิม ๆ ของน้องสาวเวลาที่เจ้าหล่อนคิดว่าไม่มีใครเห็น ก็แค่หยิบมาดูเฉย ๆ น่ะพี่ก้อย มันสวยดี
อย่ามาโกหกเลยนะแก้ว พี่เห็นแก้วจ้องลูกบอลนี้แล้วก็ถอนใจเฮือก เฮือก มากี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว แก้วน่าจะเลิกคิดถึง เลิกทำร้ายตัวเองเพราะอิศได้แล้วนะ รู้ทั้งรู้ว่าเขามีแฟนแล้ว อิศน่ะ เขามีแฟนมาเป็นสิบสิบแล้วมังคะพี่ก้อย แต่ก็ไม่เคยเห็นลงเอยกับใครสักที และแก้วก็เจ็บทุกครั้งที่เขามีแฟนใช่มั้ย พี่สาวต่อความทันที แถมยังเป็นคนช่วยเหลือให้เขาจีบคนนั้นคนนี้จนสำเร็จ ในขณะที่ตัวเองเจ็บปวดปางตาย ไม่มากมายขนาดนั้นไหรอกพี่ก้อย ธรรมดาแหละเป็นเพื่อนกันมาตั้งยี่สิบกว่าปี พอเพื่อนมีแฟนเราก็รู้สึกเหมือนคนถูกทิ้งเป็นธรรมดาแหละ แต่มันไม่ธรรมดา เพราะแก้วไม่ได้รู้สึกว่าแค่เพื่อนถูกทิ้ง แต่แก้วรู้สึกว่าตัวเองอกหักไปเลย
แล้วนี่เกิดอะไรขึ้นอีก ทำไมวันนี้ได้เอาลูกแก้วขึ้นมาเล่นอีก วันนี้อิศไปรับแอรินมาที่บ้านค่ะ เขาจะพาคนรักมาให้ครอบครัวเขารู้จักค่ะ น้ำเสียงที่กอแก้วพยายามสะกดไม่ให้สั่นแต่ทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ถึงแม้เสียงจะไม่สั่นแต่มันก็แผ่วลงเรื่อย ๆ พร้อมกับน้ำตาที่พาลจะไหลออกมาจนเธอต้องเงยหน้าขึ้นมองเพดานเพื่อไล่ให้มันไหลกลับเข้าไป
กิ่งก้อยเดินเข้าไปโอบกอดน้องสาวเอาไว้ก่อนจะปลอบโยนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ตัดใจซะนะน้องรัก มันนานมากเกินไปแล้วนะที่แก้วทำเพื่ออิศมาโดยตลอด และแก้วเองก็เจ็บปวดมานักต่อนักแล้ว แต่อิศก็ไม่เคยรับรู้ว่าแก้วรู้สึกยังไง แก้วจะพยายามค่ะพี่ก้อย แก้วจะเป็นเพื่อนที่ดีของอิศเท่านั้น ถ้าอิศมีความสุข แก้วก็น่าจะยินดีกับเพื่อน มีความสุขไปกับเพื่อนใช่มั้ยคะ มันก็คงต้องเป็นแบบนั้น พี่เชื่อนะว่าสักวันแก้วจะทำได้เพราะแก้วก็ทำมาโดยตลอดแล้ว
ก่อนที่สองพี่น้องจะได้คุยกันไปมากกว่านี้ เสียงโทรศัพท์มือถือของกอแก้วก็ดังขึ้น และเป็นเสียงที่เธอจำได้ดี เป็นเสียงโทรศัพท์ของคนพิเศษคนเดียวที่เธอตั้งไว้ และเธอรู้แล้วว่าถึงเวลาที่เธอจะต้องยิ้มเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดอีกครั้ง
เมื่อเธอรับโทรศัพท์ชายหนุ่มบอกว่าพาแฟนสาวมาถึงบ้าน ใจหญิงสาวเริ่มสั่นไหว ร่างกายสะท้านเจ็บปวด จนระงับอาการสั่นของร่างกายไว้ไม่ได้ ดวงตาคู่สวยพร่าพรายด้วยน้ำตา เมื่อเธอเก็บเศษลูกแก้วที่แตกละเอียดจึงทำให้เศษแก้วบาดมือไปหลายที่ เมื่อเธอจัดการกับบาดแผล และอาการของร่างกายที่แสดงออกมาถึงความรวดร้าวได้แล้ว เธอจึงเดินข้ามไปยังบ้านที่เธอวิ่งเข้าออกมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กจนถึงปัจจุบัน และกอแก้วเองยังไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันว่า หากอิศรามีแฟนหรือแต่งงานจนพาเข้าบ้าน เธอจะยังคงเดินเข้าออกบ้านหลังนี้ได้อีกหรือเปล่า
ทันทีที่ร่างสูงโปร่งเดินผ่าน ประตูรั้วเข้าไป ชายหนุ่มที่แต่งตัวด้วยชุดลำลองแบบสุภาพ กางเกงสแลคสีเข้มตัดกับเสื้อยืดคอโปโลสีอ่อนก็เดินตรงรี่เข้ามาที่หญิงสาว พร้อมกับคว้ามือของเธอขึ้นมากุมทันที คนที่จับมือมีแต่ความรู้สึกตื่นเต้น ในขณะที่คนถูกจับมีแต่ความร้าวราน
แก้ว...แก้วช่วยเราหน่อยนะ แก้วก็รู้ว่าเราไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนเข้าบ้านนอกจากแก้ว เมื่อเช้าเรายังไม่บอกแม่เลยนะว่าจะพาแอรินมาบ้าน แก้วอยู่เป็นเพื่อนเราหน่อยนะ เสียงนุ่ม ๆ ออดเพื่อนสาวพร้อมกับจับมือหญิงสาวเขย่าไปมาเหมือนเด็กร้องขอสิ่งที่ตัวเองต้องการจากผู้ใหญ่
กอแก้วบิดมือออกจากการเกาะกุมของอิศราเพราะเธอเหลือบไปเห็นสายตาของแอรินที่มองมาที่เธอแบบไม่ไว้ใจ ปล่อยมือเราก่อนเถอะอิศ โน่น...เห็นไหม แอรินจ้องใหญ่แล้วนะ หญิงสาวเตือนเพื่อนรักเบา ๆ ให้เขาปล่อยมือเธอ แต่ใจของกอแก้วไม่ได้คิดที่จะอยากปล่อยมือออกจากการเกาะกุมดั่งที่ร่างกายแสดงออกเลย มือนุ่ม ๆ ที่เธอกำลังสัมผัสนี้ เธอเคยมีความสุขทุกครั้งที่เขาเกาะเกี่ยวเอาไว้กับเธอ แก้วต้องสัญญากับเราก่อนว่า วันนี้จะอยู่เป็นเพื่อนเราทั้งวัน เผื่อแม่ไม่ปลื้มแอริน แก้วจะได้ช่วยพูดไง หญิงสาวจ้องไปที่หน้าคมคายของเพื่อนรัก นี่เขาจะรู้บ้างไหมว่าคำพูดของเขาแต่ละคำถ้ามันบาดได้เหมือนมีด มันคงบาดเธอจนแผลเหวอะหวะไปทั่วกายแล้ว แค่ความเจ็บปวดที่รู้ว่าเขาจะพาคนรักเข้าบ้านไม่พอ ยังต้องมานั่งทนให้เห็นภาพบาดตาบาดใจเข้าไปอีก กอแก้วเองสงสัยมาโดยตลอดว่าทำไมอิศราไม่เคยรับรู้ความรู้สึกของเธอ ในขณะที่คนรอบข้างคนอื่น ๆ รับรู้ได้หมดว่าเธอรู้สึกยังไงกับเขา ไม่ว่าจะเป็นคุณประไพพรรณแม่ของเพื่อนเธอเอง พ่อของเธอและพี่สาว เพื่อน ๆ ในกลุ่มอีกทุกคนรู้ว่าเธอรู้สึกพิเศษกับเพื่อนคนนี้กันหมด แต่เจ้าตัวไม่รู้หรือไม่ยอมรับรู้กันแน่นะ
ได้สิ แต่ว่าถ้าป้าไพไม่มีปัญหาอะไร เราขอตัวนะ อิศราพยักหน้ารับตามเงื่อนไขก่อนจึงปล่อยมือออกจากมือเรียว และทั้งสองเดินมาสมทบที่ที่มีหญิงสาวอีกคนยืนอยู่ก่อนจะเดินเข้าบ้าน
กอแก้วเดินนำหน้าคนทั้งสองโดยไม่สนใจคนข้างหลัง เธอพยายามซ่อนความเจ็บปวดที่เหมือนหนามแหลมทิ่มแทงเอาไว้ภายใน ทำตัวให้ร่าเริงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นในขณะที่สองคนข้างหลังพูดคุยกันเบา ๆ พอได้ยินกันแค่สองคน รู้สึกว่าแก้วคุ้นเคยกับบ้านนี้มากเลยนะคะอิศ ดูสิเดินไม่เหลียวหลังเลย แอรินกล่าวถึงเพื่อนรักของคนรักคล้ายคนไม่พอใจ อ๋อ...แก้วเขาวิ่งเล่นกับผมมาตั้งแต่เด็กแล้วล่ะ เราเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากนี่ แอรินก็รู้ ค่ะ...รู้ว่าเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก แต่ไม่เคยรู้ว่าสนิทกันทั้งบ้านแบบนี้ ก็บ้านของแก้วอยู่ติดกับบ้านผมเอง พ่อกับพี่สาวของแก้วผมก็รู้จักดี บ้านเราสองหลังเป็นมิตรกันดีน่ะ พ่อของแก้วเป็นข้าราชการผู้ใหญ่นะ และพ่อผมก็เสียแล้ว ผมก็เลยนับถือท่านเป็นพ่ออีกคน พอ ๆ กับที่แก้วเสียแม่ไป แก้วก็นับถือแม่ผมเป็นแม่เหมือนกันมั้ง
อิศราเล่าความสัมพันธ์ของบ้านสองบ้านให้คนรักฟังโดยที่ไม่ได้เห็นสีหน้าขี้ระแวงของคนที่เดินข้าง ๆ เพราะเขาเข้าใจว่าแอรินไม่ใช่เพื่อนสนิทในกลุ่ม เขาจึงอยากให้เธอรู้จักตัวเขา ครอบครัวเขาและครอบครัวของเพื่อนสนิท โดยที่เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาเล่ามา ทำให้คนรักระแวงคลางแคลงใจในความสัมพันธ์ของคนสองคน
ภายในบ้านเมื่อกอแก้วเดินเข้าไปถึงเป็นคนแรกและคุณประไพพรรณที่กำลังง่วนอยู่หน้าตู้อบเงยหน้าขึ้นมาเห็น หญิงวัยกลางคนเดินตรงมาที่หญิงสาวที่เธอรักประดุจลูกสาว อ้าว...แก้วมาแล้วเหรอ อิศไปหาหนูหรือเปล่า เมื่อเช้าป้าเห็นแต่งตัวขับรถออกไปด้วย ได้ยินเสียงรถเข้าบ้านแล้วนะแต่ยังไม่เห็นตัวคน ป้ากำลังอบขนมอยู่จ้ะ เพิ่งหัดทำสูตรที่ได้มาใหม่จากเพื่อน หนูมาช่วยป้านะ ประไพพรรณพูดชวนคุยไปเรื่อย ๆ เช่นทุกครั้ง ช่วงเวลาวันหยุดเธอและเพื่อนของลูกชายจะช่วยกันทำขนมตามสูตรใหม่ ๆ ที่ได้มาแล้วช่วยกันชิม ช่วยกันกิน หากวันไหนขนมอร่อยคนที่จะถูกตามมากินอีกก็คือ ก้อยและคุณผดุง จนที่บ้านนี้หลายครั้งกลายเป็นปาร์ตี้เล็กๆ ไปเลย
ก่อนที่กอแก้วจะได้ตอบผู้อาวุโส สองคนที่เดินตามหลังก็เข้ามาถึงก่อน อ้าว...นั่นไงตาอิศมาแล้ว แล้วมีเพื่อนมาอีกคนเหรอ ครับคุณแม่... แอริน นี่คุณแม่ผมครับ ชายนุ่มแนะนำมารดาให้คนรักรู้จัก คุณแม่ครับ นี่แอรินเพื่อนผมครับ อิศรายังไม่กล้าบอกมารดาว่าแอรินเป็นคนรักที่เขาจะพามารู้จักและเหตุนี้ทำให้แอรินไม่พอใจกับตำแหน่งที่อิศรายังไม่อยากเปิดเผย แล้วหนูนี่ทำงานที่เดียวกันกับลูก ๆ หรือเปล่า คุณประไพพรรณรับไหว้ก่อนถามกลับพร้อมกับพยักเพยิดหน้าไปทางกอแก้วด้วย
อิศราและกอแก้ว หลังจากเรียนจบทั้งสองได้เข้าทำงานในบริษัทที่ประไพพรรณเป็นหุ้นส่วน แต่ประไพพรรณเองเห็นว่าอิศรายังเด็กและด้อยประสบการณ์จึงไม่ให้ลูกชายอยู่ฝ่ายบริหาร อยากให้เรียนรู้ประสบการณ์อื่น ๆ ไปก่อน ทั้งสองคนจึงได้เป็นเพื่อนร่วมงานกันอีกเช่นเคย เปล่าหรอกครับ แอรินทำงานอยู่บริษัทอื่น แต่ก็อยู่ใกล้ ๆ กัน อ้าวเหรอ...แล้วรู้จักกันได้ยังไง คุณประไพพรรณยังคงซักต่อเพราะเธอรู้สึกว่าคน ๆ นี้ต้องเป็นคนพิเศษของลูกชาย ซึ่งเธอไม่เคยคิดมาก่อนเพราะเห็นว่าลูกชายมีเพื่อนหญิงแค่คนเดียวคือกอแก้ว แต่ตอนนี้ลูกชายกลับพาผู้หญิงอีกคนเข้าบ้าน เธอในฐานะแม่จึงต้องกลั่นกรองก่อน
เอ่อ...เราเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกันครับ ก็เลยได้รู้จักกัน อิศราไม่ยอมบอกที่มาที่ไปที่คนสองคนมีโอกาสได้รู้จักกัน เพราะเขาไม่อยากให้มารดารู้ว่าแอรินเข้ามาจีบเขาก่อน และเขาเห็นว่าแอรินเป็นคนสวย เป็นดาวมหาวิทยาลัย เขาจึงให้ความสนใจอยู่บ้าง แต่ตลอดเวลาที่เรียนมหาวิทยาลัย เขาเองก็สนุกสนานกับกลุ่มเพื่อนจึงไม่ค่อยได้สานต่อความสัมพันธ์กับแอริน และเพิ่งมีโอกาสมาพบกันอีกทีหลังจากที่เรียนจบอกมาแล้ว และแอรินก็ยังคงเข้ามาพูดคุยกับเขาอีกครั้ง ซึ่งเขาเองเห็นว่าตอนนี้ยังไม่ได้มีใครเป็นตัวเป็นตน จึงอยากลองคบดู
ไปสิเข้าครัวกัน แม่กำลังอบขนม มาช่วยกันไหม คุณประไพพรรณยุติการซักประวิติไว้ก่อนและชวนทุกคนเข้าร่วมวงทำขนม เธอคิดว่ายังมีเวลาพิจารณาเพื่อนของลูกคนนี้ได้อีกทั้งวัน ตลอดเวลาที่สามคนช่วยกันทำขนม อิศราก็ขยันเอาใจแอรินแต่ก็ไม่ลืมที่จะเอาใจใส่เพื่อนรักเหมือนกับทุก ๆ ครั้งที่กอแก้วมาทำขนมกับแม่ของเขา แต่ความรู้สึกของสองสาวกลับแตกต่างกันออกไป
คนหนึ่งรู้สึกว่าคงสูญเสียเพื่อนรักไปจริง ๆ ความเจ็บปวดวิ่งพล่านไปทั่วกายเมื่อเธอเห็นอิศราขยันเอาใจแอริน น้ำตาพาลจะหยดเอาเสียดื้อ ๆ ก็หลายครั้ง กอแก้วเงียบจนผิดปกติจนคุณประไพพรรณเองก็รู้สึกได้ แต่ก็เข้าใจว่าเพราะอะไร เพราะเธอเองก็พอจะรู้ว่ากอแก้วรู้สึกกับลูกชายของเธอมากกว่าคำว่าเพื่อน แต่เธอก็ไม่เคยคิดที่จะกีดกันหรือคัดค้านเพราะกอแก้วเป็นเด็กดีในสายตาผู้ใหญ่มาตลอด
ส่วนอีกหนึ่งสาว ถึงแม้อิศราจะเอาใจใส่เธอ แต่ก็เห็นเขาไม่ลืมที่จะพูดคุย หยอกล้อ ป้วนเปี้ยนอยู่รอบกายของเพื่อนสนิทอย่างกอแก้ว ทำให้แอรินยิ่งระแวงความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่มากขึ้น เมื่อสบโอกาสที่ได้อยู่ด้วยกันสองคน แอรินจึงถามกอแก้ว แก้ว...แก้วมาที่บ้านนี้บ่อยเหรอ กอแก้วหันมาจ้องหน้าของแอรินเพื่อค้นหาความนัยของคำถามก่อนจะพยักหน้าและตอบเบา ๆ ใช่...ก็มาเกือบทุกวันแหละ มาทานข้าว ทำขนม ทำการบ้าน ท่องหนังสือ ก็มาตั้งแต่เด็กแล้ว ถ้าอิศมีแฟนแล้ว แก้วยังจะมาบ้านนี้อีกไหม ทำไมถามแบบนั้นล่ะ ถึงอิศมีแฟนแต่อิศก็ยังเป็นเพื่อนแก้วนะ ทำไมแก้วจะมาไม่ได้
กอแก้วพอจะรู้ความนัยแห่งคำถาม ทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา บ้านที่เธอมาแต่เล็กแต่น้อย เธอมาก่อนที่ผู้หญิงคนี้จะรู้จักกับอิศราด้วยซ้ำ แถมที่เธอมีโอกาสรู้จักกับผู้ชายคนนี้ก็เพราะเธอแนะนำให้รู้จัก เมื่อผู้หญิงคนนี้พูดเหมือนไล่เธอ ไม่อยากให้เธอมา กอแก้วจึงรวนแอรินด้วยคำตอบ หรือแอรินคิดว่า ถ้าแอรินเข้าบ้านนี้แล้วจะไม่ยอมให้แก้วคบกับอิศอีก ถ้าคิดแบบนั้นแก้วจะได้บอกเลิกเป็นเพื่อนอิศก็ได้ กอแก้วเชื่อว่าหากเธอบอกอิศราไป ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าคนที่จะไม่ได้เข้าบ้านนี้อาจเป็นแอรินแทนที่จะเป็นเธอก็ได้
ไม่ใช่แบบนั้น แต่เรารู้สึกว่าอิศน่ะสนิทกับแก้วเกินไป เมื่ออิศคิดจะคบกับเราเป็นแฟน เราก็อยากให้อิศมองเรา ดูแลเราบ้าง ไม่ใช่แบ่งปันให้เพื่อนมากกว่าให้แฟนตัวเอง ก็ได้ เดี๋ยวเราจะเป็นคนไปเอง กอแก้วเข้าใจแจ่มชัดถึงความระแวงที่แอรินมีต่อเธอ ทำให้เธอตัดสินใจที่จะให้ความสัมพันธ์ของเพื่อนรักกับคนรักไม่มีปัญหา เธอจึงยินยอมที่จะเป็นฝ่ายเดินออกจากชีวิตของคนทั้งสองเพื่อให้เพื่อนของเธอมีความสุข กอแก้วจึงเดินไปลาเจ้าของบ้านโดยอ้างว่าเธอมีธุระกับพี่สาว
ป้าไพคะ วันนี้แก้วคงอยู่ร่วมทีเบรกกับป้าไพไม่ได้นะคะ แก้วจะไปธุระกับพี่ก้อยค่ะ อ้าวเหรอลูก...ป้านึกว่าหนูว่างทั้งวัน พอดีพี่ก้อยจะออกไปซื้อของขวัญวันเกิดให้คุณพ่อค่ะ เราเลยจะไปช่วยกันเลือก เออ...จริงสินะ ใกล้วันเกิดของคุณพ่อแล้วสิ ช่วงปลายฝนต้นหนาว บางปีฉลองวันเกิดท่ามกลางสายฝน บางปีมีลมเย็นแผ่ว ๆ มา สนุกกันล่ะ ปีนี้ไม่รู้จะเป็นยังไงนะ ไปเถอะลูกเอาไว้วันหลังเราค่อยมาทำเค้กวันเกิดให้คุณพ่อกัน ก่อนที่กอแก้วจะเดินออกจากบ้าน อิศราซึ่งเธอไม่รู้ว่าเขาเดินออกไปไหนก็เดินสวนเข้ามา
แก้วจะไปไหน แก้วจะกลับบ้านแล้ว จะออกไปข้างนอกกับพี่ก้อย ไปไหน วันนี้ไม่มีโปรแกรมนี่ เมื่อวานเรายังคุยกับพี่ก้อยอยู่เลยว่าบ่าย ๆ จะมาดื่มน้ำชากัน พอดีชวนกันไปหาของขวัญวันเกิดให้พ่อน่ะ และอีกอย่างแก้วก็บอกอิศแล้วว่าถ้าป้าไพกับแอรินไม่มีปัญหาเราก็จะกลับ นี่ก็เห็นดี ๆ อยู่ เข้ากันได้ ไม่น่ามีปัญหานะ เออ...ถ้าแก้วมีธุระก็กลับเถอะ เราอยู่กับแอรินกับคุณแม่ได้
กอแก้วรู้สึกตีบตันในลำคอขึ้นมาทันทีที่อิศราอนุญาตให้เธอไปได้ ทุก ๆ ปี ทั้งอิศราและกิ่งก้อย ทั้งสามคนจะช่วยกันหาของขวัญวันเกิดให้คุณพ่อของเธอ ไปช่วยกันเลือก ช่วยกันซื้อ และช่วยกันออกไอเดียในการจัดงานวันเกิดเล็ก ๆ ให้กับคุณพ่อทุกปี แต่ปีนี้เขาอนุญาตให้เธอไปกันเองสองคนกับพี่สาว โดยไม่แสดงความคิดเห็นกับสิ่งที่เคยทำร่วมกันทุกปี กอแก้วก้มหน้าซ่อนน้ำตาที่กำลังเอ่อท้นเพราะความน้อยใจ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอเชื่อว่าอิศราน่าจะเห็นความรู้สึก เห็นความรักของเธอที่มีต่อเขาบ้าง แต่สุดท้ายเธอก็ได้คำตอบว่า เขาไม่เคยเห็นเธอในสายตาเลย เธอไม่เคยได้เป็นคนสำคัญของเขาเลย มีแต่เขาเท่านั้นที่เป็นคนสำคัญในหัวใจของเธอไม่สร่างซา ไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่วันนี้เธอคงต้องหวนกลับไปคิดถึงคำเตือนของพี่สาวที่บอกว่า เธอเจ็บมามากแล้วเพราะผู้ชายคนนี้ คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ เธอควรตัดใจจากเขาได้แล้ว แต่ขอนะพี่ก้อย แก้วขอเวลาอีกสักนิด เวลาที่แก้วเพาะบ่มความรักมันเนิ่นนานจนแก้วเองก็จำไม่ได้ว่าแก้วรักอิศตอนไหน จะให้แก้วตัดใจเลิกรักเขาภายในเวลาอันสั้นแก้วคงยังทำไม่ได้ แต่แก้วจะพยายาม แก้วจะไม่ให้ตัวเองต้องเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว...หรือนี่คือถึงเวลาที่เธอต้องสะบั้นหัวใจตนเองให้แตกสลายไปเหมือนกับเจ้าสโนว์บอลลูกนั้น ลูกบอลที่เธอเชื่อว่าผู้ชายคนนี้เป็นเจ้าของร่วมกับเธอและวันนี้มันก็สลายหายไปแล้ว ฤา หัวใจของเธอก็จะต้องเป็นเช่นนั้น
Free TextEditor
Create Date : 04 สิงหาคม 2553 |
Last Update : 4 สิงหาคม 2553 0:16:37 น. |
|
0 comments
|
Counter : 328 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
อุดรธานี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]
|
หนังสือ...เป็นเส้นทางในการนำผู้คนสู่ความสำเร็จ การอ่านหนังสือเป็นวิธีการที่ต้องเดินไปบนเส้นทางนั้น หนังสือทุกเล่ม ไม่ว่าจะมีราคาแพง ราคาถูก เล่มที่เก่าเก็บมานานหรือเล่มที่เพิ่งพิมพ์ออกมาจากโรงพิมพ์สด ๆ ร้อน ๆ หนังสือวิชาการหรือหนังสืออ่านเล่น ทุกเล่มล้วนบ่งบอกตัวตนของตนเองและมีคุณค่าในตัวเองทุกเล่มเช่นเดียวกัน...มาเถอะมาอ่านหนังสือกัน เพื่อเพิ่มคุณค่าของตนเองและคุณค่าของหนังสือ
|
|
| |