ผงชูรส ผู้ต้องหาตัวการโรคอ้วน

เคยสงสัยกันบ้างไหมว่า โลกนี้มีสารเคมีที่เป็นต้นตอของโรคอ้วน ที่เป็นกันแพร่หลายทุกวันนี้
จอห์น เอร์บ ผู้ช่วยนักวิจัยของมหาวิทยาลัยวอเตอร์ลู ใช้เวลานับปีในการรวบรวมผลการวิจัยส่งให้รัฐบาล


เขาค้นพบสิ่งที่น่าตะลึง ในวารสารเผยแพร่งานวิจัยวิทยาศาสตร์ ระหว่างที่เขากำลังรวบรวมข้อมูลลงในหนังสือ เรื่อง "Slow Poisoning of america" ของเขา
จากงานวิจัยนับพันชิ้นทั่วโลก นักวิทยาศาสตร์สร้างหนูทดลองสำหรับงานค้นคว้าเรื่องโรคอ้วนและโรคเบาหวาน

ไม่มีหนูธรรมชาติตัวไหนเลยที่จะเป็นโรคอ้วน ดังนั้น นักวิทยาศาสตร์จึงสร้างหนูป่วยเป็นโรคอ้วนขึ้นมา โดยการฉีด MSG หรือผงชูรส ให้มันตั้งแต่เกิด MSG หรือผงชูรส จะไปเพิ่มปริมาณอินซูลินขึ้นถึง 3 เท่า ของปริมาณอินซูลินที่ตับอ่อนผลิตตามปกติ ทำให้หนู (และคน?) กลายเป็นโรคอ้วน พวกนักวิทยาศาสตร์เรียกหนูพวกนี้ว่า "MSG Treated Rats" หรือ "หนูที่ถูกทำให้อ้วนโดยผงชูรส"



ผงชูรส ?!

คุณตกใจเหรอ ?

เข้าไปในครัวนะ แล้วดูในตู้กับข้าว และตู้เย็น ทุกอย่างที่อยู่ในตู้นั่น มี MSG หมดเลย ! ทั้งซุปแคมป์เบล โดริโทส มันฝรั่งเลย์ ทอปราเม็ง น้ำเกรวี่ตราไฮนซ์ เนื้อแช่แข็งสำเร็จรูปตราสเวนสัน น้ำสลัดคราฟต์ และก้ออาหารที่บอกว่าไขมันต่ำด้วย

อันที่ไม่มีผงชูรส มันก็จะมีอีกตัว ที่ชื่อ โปรตีนจากพืชไฮโดรไลซ์ (Hydrolyzed Vegetable Protein) ซึ่งมันก็คืออีกชื่อหนึ่งของผงชูรส MSG นั่นเอง

แล้วคุณจะรู้ไหมว่า มีอาหารสำหรับเด็กจำนวนเท่าไร ที่เราป้อนให้เด็กๆ ทุกวัน ใส่ด้วยผงชูรส ชื่อของผงชูรส ถูกซ่อนไว้ภายใต้ชื่อต่างๆ เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคสังเกตเห็น

เรื่องมันยังไม่จบแค่นี้ เมื่อครอบครัวคุณ เพื่อนทีมงานของคุณ ออกไปทานอาหารนอกบ้าน ลองถามว่าเมนูไหนมีผงชูรส ไม่มีใครตอบว่า ใส่ผงชูรส แม้แต่ผู้จัดการร้าน ก็สาบานว่า ที่นี่ไม่มีผงชูรส แต่เมื่อคุณถามหารายการส่วนผสม แน่นอนว่าเครื่องปรุงล้วนมีผงชูรสทุกรายการ (ในไทยก็เช่น คนอร์ รสดี รสหนึ่ง ฯลฯ)

เบอร์เกอร์คิง แมกโดนัลด์ เวนดี้ส์ ทาโคเบลล์ ทุกร้าน แม้แต่ร้านนั่งทาน เช่น TGIF แอปเปิลบีส์ และ แดนนี่ส์ ล้วนใส่ผงชูรสอย่าง "อุดมสมบูรณ์" ส่วนไก่ผู้พันเคนตักดี้ เป็นรายที่แย่ที่สุด มีผงชูรสทุกจานไก่ น้ำสลัด น้ำเกรวี่ ไม่น่าแปลกใจหรอกที่ผู้คนจำนวนมากชอบกินผิวแป้งชุบไก่ทอดนั่น เพราะสูตรเครื่องเทศลับคือ ผงชูรส !


ทำไม ผงชูรสMSG ถึง ไปอยู่ในอาหารหลากหลายที่เรารับประทาน มันเป็นสารถนอมอาหาร หรือวิตามิน? ในหนังสือ Slow Poisoning of America [ //www.spofamerica.com ] บอกไว้ว่า ผงชูรส MSG ถูกใส่ในอาหารเพื่อผลกับร่างกายมนุษย์ แม้แต่เว็บไซต์ที่สนับสนุนโดยบริษัทอาหารที่ใช้ MSG [ //www.msgfacts.com ] ก้ยังบอกว่าเหตุผลที่ใส่ ก็เพื่อให้ผู้บริโภครับประทานมากขึ้น

ผลการศึกษากับผู้สูงอายุ แสดงให้เห็นว่า ผู้สูงอายุบริโภคอาหการที่ใส่ MSG มากกว่าปกติ กลุ่มสนับสนุน MSG บอกว่า การที่ผู้สูงอายุบริโภคมากขึ้นเป็นผลดี (ผลดีจริงเหรอ-ผู้แปล) แต่สำหรับพวกเราที่เหลือล่ะ ????

"ชิ้นเดียวไม่เคยพอ" ... มาพิจารณาผลของ MSG กันใหม่ และเราก็จะไม่แปลกใจว่า ทำไมถึงมีแต่คนอ้วนเต็มประเทศเช่นนี้ ? ผู้ผลิต MSG ยอมรับว่า เขาทำให้ผู้บริโภคเสพติดผลิตภัณฑ์เหล่านั้น ผงชูรส ทำให้ผู้บริโภคเลือกใช้แต่ผลิตภัณฑ์ของเขา และกินมันมากกว่าผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใส่ MSG

ไม่เพียงแต่ MSG จะถูกพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่า เป็นต้นเหตุของโรคอ้วน มันยังเป็นสารเสพติดอีกด้วย ! ตั้งแต่ผงชูรสถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมอาหารเมื่อ 50 ปีก่อน ผงชูรสถูกใช้ในอาหารแพ้คสำเร็จปริมาณมากขึ้นๆ ทุกวัน เช่น ซุป ของขบเคี้ยว อาหารจานด่วน ที่เรารับประทานกันทุกวัน

FDA ไม่ระบุปริมาณขั้นต่ำที่จะใส่ในอาหาร เขาว่ามันปลอดภัยที่จะรับประทานในปริมาณที่ไม่กำหนด ใครจะมารับประกัน (หือ?) ว่ามันปลอดภัย ในเมื่อ นักวิทยาศาสตร์นับร้อยศึกษาผลของมัน เช่นดังหัวข้อการวิจัยต่อไปนี้...


The Monosodium Glutamate (MSG) Obese Rat As A Model For The Study Of Exercise In Obesity.
Gobatto CA, Mello MA, Souza CT, Ribeiro IA. Res Commun Mol Pathol Pharmacol. 2002


Adrenalectomy Abolishes the Food-Induced Hypothalamic Serotonin Release In Both Normal and Monosodium Glutamate-Obese Rats.
Guimaraes RB, Telles MM, Coelho VB, Mori RC, Nascimento CM, Ribeiro Brain Res Bull. 2002 Aug


Obesity Induced By Neonatal Monosodium Glutamate Treatment In Spontaneously Hypertensive Rats:
An Animal Model of Multiple Risk Factors.
Iwase M,Yamamoto M, Iino K, Ichikawa K, Shinohara N, Yoshinari Fujishima Hypertens Res. 1998 Mar


Hypothalamic Lesion Induced By Injection Of Monosodium Glutamate In Suckling Period and Subsequent Development Of Obesity.
Tanaka K, Shimada M, Nakao K,Kusunoki Exp Neurol. 1978 Oct


ใช่แล้ว อันสุดท้ายนี่ค้นคว้าในปี 1978 ทั้งงานวิจัยทางการแพทย์ และการวิจัยโดยผู้ผลิตอาหาร รู้ดีว่า ผงชูรสมีผลข้างเคียงมากว่าทศวรรษ หลายการศึกษาอย่างที่รวบรวมไว้ในหนังสือของ จอห์น เอร์บ ระบุความเกี่ยวข้องของผงชูรสกับโรคเบาหวาน ไมเกรน อาการปวดหัวธรรมดา โรคออติสซึม ADHD และแม้แต่อัลไซเมอร์ เราจะสามารถหยุดผู้ผลิตจากการใส่สาร MSG ลงในอาหาร ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคอ้วนที่อ้วนกันทุกหัวระแหงขณะนี้หรือไม่ ?

เดือนที่แล้ว หน่วยงาน House of Representatives ผ่านกฏหมาย "ความรับผิดชอบส่วนบุคคลในการบริโภคอาหาร" เพื่อปกป้องบริษัทผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่ม จากกรฟ้องร้อง ภายใต้กฏนี้ ทีมีชื่อเล่นว่า "ชีสเบอร์เกอรืบิล" ใครก็ตามที่ซื้ออาหารและเครื่องดื่ม ไม่สามารถฟ้องบริษัทผู้ผลิต หรือร้านค้า ภัตตาคาร ที่จำหน่ายได้ ตราบใดที่ผลิตภัณฑ์ยังคงอยู่ในข้อกำหนดที่กำหนดไว้

รัฐสภา กำลังร่างกฏหมายใหม่ที่คล้ายๆ กันในปีนี้ กฏหมายถูกผลักดันจาก House of Representatives อ่านรายละเอียดเอาเอง ที่ //www.realcities.com/mld/krwashington/8458081.htm

หลายเดือนก่อน จอห์น เอร์บ นำหนังสือของเขาและข้อแนะนำไปเสนอที่สำนักงานสาธารณสุขสูงสุดของรัฐ ในแคนาดา ระหว่างที่นั่งอยู่ในนั้น เจ้าหน้าที่บอกเขาว่า "แน่นอน เรารู้ดีว่า MSG มันมีผลอย่างไร เลวร้ายขนาดไหน แต่เราแตะต้องมันไม่ได้!" แม้แต่เจ้าหน้าที่สูงสุดท่านนี้ ก้ไม่สามารถบอกประชาชนได้ว่าเขารู้อะไร สื่อสารมวลชนใหญ่ๆ ก็ไม่กล้าพูดเรื่องนี้ ด้วยความกลัวจะโดนฟ้องกลับเพราะทำให้เกิดความเสียหายกับรายได้ของบริษัทอาหารเหล่านั้น

เราควรทำอย่างไรดี ? ผู้ผลิตอาหาร และภัตตาคาร ล้วนทำให้เราเสพติดผลิตภัณฑ์เหล่านั้นเป็นปีๆ และเราก็ต้องจ่ายเงินซื้อมันมา เด้กๆ ลูกๆ ของเราก็ไม่อาจรอดจากโรคอ้วนจากสารนี้ เราควรทำอย่างไรดี ??

ทางที่ดีที่สุดคือช่วยตัวเอง และระวังเด็กๆ ลูกๆ เราจากการแพร่หลายไปทั่วของสารนี้ อุตสาหกรรมอาหารเรียนรู้จากอุตสาหกรรมบุหรี่ ลองคิดดู ถ้ากฏหมายคุ้มครองผู้ผลิตแบบนี้เกิดขึ้นกับบุหรี่ ก่อนที่จะมีใครเป่านกหวีดให้กับนิโคติน อะไรจะเกิดขึ้น ?


หยุด ผงชูรส MSG

ถ้าคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่ยังคิดว่าผงชูรสดีต่อสุขภาพ และก็ไม่เชื่อตาจอห์น เอร์บ ไปดูด้วยตาคุณเอง ที่ห้องสมุดการแพทย์แห่งชาติ ที่ //www.pubmed.com พิมพ์คีย์เวิร์ด "MSG Obese" (โรคอ้วนจากผงชูรส) และอ่านการศึกษาทางการแพทย์ 115 รายการที่ปรากฏขึ้นมาให้หมดนะ...







Ever wondered if there could be an actual chemical causing the massive obesity
epidemic, so did John Erb. He was a research assistant at the University of Waterloo, and spent years working for the government.
He made an amazing discovery while going through scientific journals for a book he was writing called The Slow Poisoning of America. In hundreds of studies around the world, scientists were creating obese mice and rats to use in diet or diabetes test studies.

No strain of rat or mice is naturally obese, so the scientists have to create them. They make these morbidly obese creatures by injecting them with MSG when they are first born. The MSG triples the amount of insulin the pancreas creates, causing rats (and humans?) to become obese They even have a title for the race of fat rodents they create: "MSG-Treated Rats".

MSG?

Are you shocked?. Go into your kitchen, check the cupboards and the fridge. MSG is in everything! The Campbell's soups, the Hostess Doritos, the Lays flavoured potato chips, Top Ramen, Betty Crocker Hamburger Helper, Heinz canned gravy, Swanson frozen prepared meals, Kraft salad dressings, especially the 'healthy low fat' ones.

The items that didn't have MSG had something called Hydrolyzed Vegetable
Protein, which is just another name for Monosodium Glutamate. It was shocking to see just how many of the foods we feed our children everyday are filled with this stuff. They hide MSG under many different names in order to fool those who catch on.

But it doesn't stop there. When your family goes out to eat, start asking at the restaurants what menu items had MSG. Many employees, even the managers, may swear they didn't use MSG. But when you ask for the ingredient list, which they should grudgingly provide, sure enough MSG and Hydrolyzed Vegetable Protein will be everywhere.

Burger King, McDonalds, Wendy's, Taco Bell, every restaurant, even the sit down ones like TGIF, Chilis', Applebees and Denny's use MSG in abundance. Kentucky Fried Chicken seemed to be the WORST offender: MSG was in every chicken dish, salad dressing and gravy. No wonder we love to eat that coating on the skin, their secret spice was MSG!

So why is MSG in so may of the foods we eat? Is it a preservative or a vitamin? In the book The Slow Poisoning of America (an expose on the food additive industry)
< //www.spofamerica.com > , it says that MSG is added to food for the addictive effect it has on the human body. Even the propaganda website sponsored by the food manufacturers lobby group supporting MSG at: //www.msgfacts.com explains that the reason they add it to food is to make people eat more.

A study of elderly people showed that people eat more of the foods that it is added to. The Glutamate Association lobby group says eating more benefits the elderly, but what does it do to the rest of us?

'Betcha can't eat just one', takes on a whole new meaning where MSG is
concerned! And we wonder why the nation is overweight? The MSG manufacturers
themselves admit that it addicts people to their products. It makes people
choose their product over others, and makes people eat more of it than they
would if MSG wasn't added.

Not only is MSG scientifically proven to cause obesity, it is an addictive substance! Since its introduction into the American food supply fifty years ago, MSG has been added in larger and larger doses to the pre-packaged meals, soups, snacks and fast foods we are tempted to eat everyday.

Article Continued In Next Column

Your Health Freedom May Be At Risk! Check Our CODEX/Activism Section | Main Articles Page | Back To Top
The FDA has set no limits on how much of it can be added to food. They claim
it's safe to eat in any amount. How can they claim it is safe when there are
hundreds of scientific studies with titles like these?

The Monosodium Glutamate (MSG) Obese Rat As A Model For The Study Of
Exercise In Obesity. Gobatto CA, Mello MA, Souza CT, Ribeiro IA. Res Commun
Mol Pathol Pharmacol. 2002

Adrenalectomy Abolishes the Food-Induced Hypothalamic Serotonin Release In Both Normal and Monosodium Glutamate-Obese Rats. Guimaraes RB, Telles MM, Coelho VB, Mori RC, Nascimento CM, Ribeiro Brain Res Bull. 2002 Aug

Obesity Induced By Neonatal Monosodium Glutamate Treatment In Spontaneously
Hypertensive Rats: An Animal Model of Multiple Risk Factors. Iwase M,
Yamamoto M, Iino K, Ichikawa K, Shinohara N, Yoshinari Fujishima Hypertens
Res. 1998 Mar

Hypothalamic Lesion Induced By Injection Of Monosodium Glutamate In Suckling
Period and Subsequent Development Of Obesity. Tanaka K, Shimada M, Nakao K,
Kusunoki Exp Neurol. 1978 Oct

Yes, that last study was not a typo, it WAS written in 1978. Both the medical research community and food "manufacturers" have known MSG's side effects for decades! Many more studies mentioned in John Erb's book link MSG to Diabetes, Migraines and headaches, Autism, ADHD and even Alzheimer's. But what can we do to stop the food manufactures from dumping fattening and addictive MSG into our food supply and causing the obesity epidemic we now see?

Last month the House of Representatives passed the "Personal Responsibility
in Food Consumption Act" to protect the food and beverage industry from civil lawsuits. Under the measure, known as the "Cheeseburger Bill," people who buy food or drinks couldn't sue the companies that made them, the stores that sold them or the restaurants that served them if they got fat from the products, so long as the products met existing laws.

The Senate is expected to take up a similar bill later this year." The Bill has already been rushed through the House of Representatives, and is due for the same rubber stamp at Senate level. read for yourself at: //www.realcities.com/mld/krwashington/8458081.htm

Several months ago, John Erb took his book and his concerns to one of the
highest government health officials in Canada. While sitting in the Government office, the official told him "Sure I know how bad MSG is, I wouldn't touch the stuff!" But this top level government official refused to tell the public what he knew. The big media doesn't want to tell the public either, fearing legal issues with their advertisers. It seems that the fallout on the fast food industry may hurt their profit margin.

So what do we do? The food producers and restaurants have been addicting us to their products for years, and now we are paying the price for it. Our children should not be cursed with obesity caused by an addictive food additive. But what can I do about it?

The best way you can help save yourself and your children from this drug-induced epidemic, is to inform as many people as possible. The food industry learned a lot from the tobacco industry. Imagine if big tobacco had a bill like this in place before someone blew the whistle on Nicotine?

Blow the whistle on MSG.

If you are one of the few who can still believe that MSG is good for us, and you don't believe what John Erb has to say, see for yourself. Go to the National Library of Medicine, at //www.pubmed.com. Type in the words "MSG Obese", and read a few of the 115 medical studies that appear.

Create Date : 16 ตุลาคม 2548		11 comments
Last Update : 16 ตุลาคม 2548 20:13:45 น.
Counter : 3998 Pageviews.
Share Tweet