ตัวของเรา สไตล์ของเรา ทำไมต้องเหมือนใคร
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2558
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
11 ธันวาคม 2558
 
All Blogs
 
ผมบ้าญี่ปุ่น หรือว่า คุณบ้าฝรั่ง

ระยะนี้ผมเห็นคนพูดถึงประเด็นความชอบในชาติต่างๆ กันถี่ขึ้น ทำให้ผมนึกถึงประสบการณ์ตรงของตัวเองขึ้นมา เพราะงั้นวันนี้ผมก็จะมาพูดถึงเรื่องนี้แหละครับ

ผมเชื่อว่ายังมีคนอื่นๆ อีกไม่น้อยที่เป็นเหมือนกับผมและถูกคนรอบข้างตัดสินแบบเดียวกันกับที่ผมโดน กรณีของผมนี้ก็อาจเป็นตัวอย่างสำหรับกรณีของอีกหลายๆ คนก็ได้

ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบญี่ปุ่นมาก และหลายครั้งผมก็โดนคนอื่นหาว่า "บ้าญี่ปุ่น" บ้าง เป็น "ทาสญี่ปุ่น" บ้าง......แต่ผมไม่ยอมรับคำตัดสินแบบนั้น เพราะผมรู้ตัวดีว่าผมไม่ได้เป็นพวกบ้าญี่ปุ่นหรือทาสญี่ปุ่นอย่างที่คนพวกนั้นพูดหรือคิดกัน ผมกลับมองถึงวิธีคิดของคนกลุ่มนั้นว่ามีปัญหา ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ผมแต่อยู่ที่คนพวกนั้นมากกว่า......


ผมชอบญี่ปุ่นมาก ชอบในหลายเรื่องหลายด้านก็จริง แต่ก็ชอบอย่างมีสตินะครับ ไม่ใช่ขาดสติจนแยกข้อดีข้อเสียไม่ออกแล้วเอาอย่างไปหมด ผมชอบในข้อดีของเขาซึ่งผมมองว่ามันมีเยอะมาก และผมก็ไม่ชอบในข้อเสียซึ่งมีอยู่อีกไม่น้อยเหมือนกัน แต่ทุกคนและทุกชาติมันก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอครับ มีข้อดีข้อเสียปนๆ กันไป

แต่ที่ผมเจอมา ปัญหามันเกิดจากคนที่ไม่ยอมรับว่าทุกคนมีทั้งดีและเสีย ชอบฝรั่งแบบไม่รับรู้ข้อดีข้อเสีย ทุกอย่างที่เป็นฝรั่งคือดีทั้งหมด เรียกง่ายๆ คือคลั่งฝรั่งนั่นแหละ แล้วก็มาพยายามกล่อมให้ผมคลั่งฝรั่งเหมือนที่เขาเป็น พอผมไม่คล้อยตามเพราะผมมองทั้งข้อดีและข้อเสียเลือกชอบในสิ่งที่ตรงกับความชอบตัวเอง ก็โดนหาว่าบ้าญี่ปุ่นทันที.....เดี๋ยวจะหาว่าผมพูดเข้าข้างตัวเอง พยายามโจมตีอีกฝ่าย ลองดูในรายละเอียดต่อจากตรงนี้ไปได้เลยครับ

เอาล่ะครับ เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังว่าผมเจออะไรมาบ้างกับเรื่องนี้.....
จากนี้ไปจะยาวมากครับ คือมันไม่สามารถจะเล่าแบบสั้นๆ โดยไม่ลงรายละเอียดได้เลยนี่ขนาดผมตัดรายละเอียดออกไปตั้งเยอะแล้วนะ



ผมชอบอะไรในญี่ปุ่นบ้าง.....
อย่างที่บอกว่าผมชอบญี่ปุ่นในหลายๆ ด้าน เมื่อมองจากภายนอกแล้วผมทำอะไรหลายๆ อย่างในแบบคนญี่ปุ่น โดยผมเอาแนวคิดของเขามาใช้ไม่ใช่การ copy-paste ไม่ใช่การส่งผ่านจากญี่ปุ่นมาที่ตัวผมโดยไม่ผ่านการประมวลผลใดๆ.....ผมชอบญี่ปุ่นเพราะผมรู้สึกว่าญี่ปุ่นเนี่ยเขามีความหลากหลายมาก ไม่เป็นสูตรสำเร็จ ไม่ใช่การทำทุกอย่างตามกันไปหมด (บางคนอาจเถียงว่าไม่จริง แต่ผมจะขยายให้ทีหลังครับว่ามันยังไง) ซึ่งผมเป็นคนที่ไม่ชอบความจำเจหรือเป็นสูตรสำเร็จผมเลยชอบตรงจุดนี้มากๆ ส่วนเรื่องอื่นๆ อย่างพวกความมีวินัย แนวทางปฏิบัติในสังคม (บางเรื่อง) ความละเอียดในการทำงานและอื่นๆ


สิ่งที่ผมทำโดยปกติและคนอื่นมองเห็นได้ก็คือ.....

- ผมชอบกินอาหารญี่ปุ่น ทั้งข้าว บะหมี่ ซูชิ แต่ผมไม่ได้ชอบกินของดิบนะ (กินได้บ้างแต่ไม่ได้ชอบ)....คือส่วนตัวแล้วผมชอบกินรสค่อนข้างอ่อน รสออกหวานๆ เค็มๆ เปรี้ยวๆ แบบนี้ (รสเผ็ดผมก็กินนะ ไม่ใช่พวกกินเผ็ดไม่ได้ แต่ไม่ใช่ประเภทขาดเผ็ดไม่ได้เลย) ซึ่งอาหารญี่ปุ่นก็มีรสแบบที่ผมกินพอดี เพราะงั้นผมจะชอบกินมันก็ไม่แปลกนี่ครับ จริงมั้ย? ที่จริงก็ไม่ใช่ว่าจะต้องเป็นอาหารญี่ปุ่นหรอก อาหารที่เป็นรสแบบนี้ผมกินหมด อย่างอาหารฝรั่งผมก็กิน บางอย่างผมก็ชอบด้วย


- ผมชอบดูหนังญี่ปุ่น ทั้งหนังฉายโรงและทีวีซีรี่ส์ .....ผมว่าหนังและละครของญี่ปุ่นมันมีอะไรบางอย่างที่หาไม่ได้จากหนังของที่อื่น (ไม่ขอลงรายละเอียดละกันนะครับ) ซึ่งมันกลายเป็นจุดที่ทำให้ผมสนใจมัน

ไม่ได้หมายความว่าหนังหรือละครของชาติอื่นผมจะไม่ดูนะครับ ผมดูหนังหลากหลายมากทั้งหนังไทย ญี่ปุ่น จีน-ฮ่องกง/ใต้หวัน เกาหลี ฝรั่ง-ฮอลลีวู้ด เยอรมัน อังกฤษ ออสเตรเลีย เวียดนาม สิงค์โปร์ อินเดีย อิสราเอล อิหร่าน และอื่นๆ อีกที่เปิดเจอ เพราะหนังของแต่ละชาติก็มีรูปแบบของเขาไม่ว่าจะเป็นภาพ แสง การแสดงออกของคน การเขียนบท การเล่าเรื่อง มุมกล้อง การตัดภาพหรือสวิทชิ่ง ...เชื่อว่าหลายคนที่ชอบว่าผมยังดูไม่เท่าผมด้วยซ้ำ



Vocaloid จากค่าย Crypton ภาพวาดโดย iXima

- ผมชอบฟังเพลงญี่ปุ่น แต่ไม่ชอบฟังเพลงฝรั่ง(ภาษาอังกฤษ)....ผมชอบฟังเพลงญี่ปุ่นเพราะผมชอบความหลากหลาย และเพลงญี่ปุ่นก็มีความหลากหลายมากทั้งเนื้อหา ทำนอง เสียงดนตรี รวมถึงวิธีการร้องหรือการใช้เสียง .....มันตอบโจทย์ของผมได้นั่นเอง

ผมฟังเพลงทั้งเพลงทั่วไป เพลงอนิเม(ซึ่งหลายเพลงก็มาจากนักร้องที่คุ้นๆ กันนี่แหละ) และเพลงโวคัลลอยด์ซึ่งมีไอเดียของคนแต่งที่หลากหลายมาก ซึ่งความหลากหลายตรงนี้ผมไม่เจอในเพลงของชาติอื่นเลยทั้งไทย เกาหลี จีน ฝรั่ง

ไม่ใช่ว่าผมจะฟังแต่ภาษาญี่ปุ่นนะครับ ภาษาอื่นผมก็ฟัง ผมชอบฟังภาษาแปลกๆ ที่ไม่ค่อยได้ยินกันอย่าง เยอรมัน ฝรั่งเศส สวีเดน ฟินแลนด์ ฮังการี โรมาเนีย ด้วย



ภาพจากเรื่อง Hyouka, Steins Gate, Tokyo Ghoul

- ผมชอบดูอนิเม....อย่างที่ผมบอกว่าผมชอบความหลากหลาย อนิเมตอบโจทย์นี้ของผมได้เป็นอย่างดี มันมีความหลากหลายในทุกด้าน มีความเป็นธรรมชาติ มุมกล้องและการตัดภาพที่บางครั้งหนังที่ใช้คนแสดงทำไม่ได้ และคุณภาพงานอนิเมชั่นที่สูง แต่คนที่ดูก็ต้องรู้ว่าเรื่องไหนเป็นเกรดไหนด้วย คุณภาพและความหลากหลายมันขึ้นอยู่กับแนวเรื่อง เรทคนดูว่าระดับไหน และเกรดของเรื่องนั้นๆ


- ผมชอบใช้สินค้าญี่ปุ่น....สินค้าญี่ปุ่นนี่อธิบายยากครับ บอกได้แค่ว่ามันสามารถหาของที่มีดีจริงๆ ได้ แต่ของเหล่านั้นถ้าดูภายนอกมันจะดูเหมือนไม่ต่างออกไปเลย ต้องใช้เองถึงจะรู้ว่ามันต่างยังไง ซึ่งพอจะบอกได้แค่ว่าความแตกต่างมันจะไม่ได้อยู่ที่ความโก้หรู อินเทรนด์ หรือนำแฟชั่นทันสมัยอะไรแบบนั้นเลย



การแต่งตัวของคนญี่ปุ่นที่มีความหลากหลาย
(ภาพจากวิดีโอโดย Yamada Taro)


- ผมชอบการแต่งตัวด้วยแนวคิดญี่ปุ่น อย่าเพิ่งคิดว่าผมเป็นพวกตามเทรนด์ญี่ปุ่นนะครับ ผมใช้แนวคิดของเขาตรงที่ว่า "ใส่อย่างที่อยากใส่ ให้เข้ากับตัวเองและเหมาะสมก็พอ" เพราะแนวคิดนี้มันถึงเกิดความหลากหลายในการแต่งตัวมากครับ ไม่ใช่แค่ตามเทรนด์กันไป มันจึงตอบโจทย์ของผมที่ชอบความหลากหลายได้....อีกอย่างคือผมเป็นคนไม่ชอบใส่เสื้อผ้าสีสด ไม่ชอบสไตล์ฉูดฉาด เพราะงั้นสไตล์เรียบๆ และสีแบบญี่ปุ่นเลยเข้ากับสไตล์ของผม


- ผมชอบรูปแบบการแสดงออกของคนญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นมีการแสดงออกที่ดูพอดีกว่าฝรั่งอเมริกัน คือดูมั่นใจแต่ไม่กร่างในขณะเดียวกันก็ยังมีความสุภาพและสำรวมในแบบของคนเอเซียอยู่ด้วย เช่นการไม่เดินกางศอก การพูดคุยค่อยๆ (อันนี้แล้วแต่ด้วยว่าเป็นคนจากแถวไหน คนญี่ปุ่นไม่ใช่ว่าจะพูดค่อยกันไปซะหมด) คือผมไม่ชอบท่าทางของคนที่มั่นใจมากเกินไป เน้นพูดเสียงดังๆ แสดงออกมากๆ ไว้ก่อนแบบนั้นครับ คือเสียงพูดเอาแค่พอดีๆ ให้เหมาะก็พอแล้ว และไม่ควรทิ้งความสุภาพและความสำรวมแบบเอเซียไป

แน่นอนว่ามันไม่ใช่ทุกคนหรอก คนญี่ปุ่นที่มารยาทแย่ก็มี คนที่กร่างก็มี ไม่สำรวมก็มี อเมริกันที่ไม่กร่างก็มี ที่ท่าทางสำรวมก็มีเหมือนกัน แม้พวกเขาจะไม่สมบูรณ์แบบ แต่โดยรวมแล้วผมรู้สึกได้ว่าคนญี่ปุ่นดูจะมีความพอดีมากที่สุด


- ผมชอบลักษณะบางอย่างของสังคมและคนญี่ปุ่น.....ความมีระเบียบและวินัยของคนญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่น่าประทับใจ บ้านเมืองสะอาด เป็นระเบียบ และสังคมแบบจะทำอะไรก็ต้องนึกถึงคนอื่นด้วยเสมอ อย่าให้กระทบคนอื่น อย่าให้คนอื่นเดือดร้อน ไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวกัน เคารพความเป็นส่วนตัวของกันและกัน คนญี่ปุ่นยังใส่ใจกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่คนไทยหรือฝรั่งไม่ได้ให้ความสำคัญอีกด้วย ซึ่งทำให้มันเกิดรูปแบบไอเดียใหม่ๆ ที่ทำให้เรารู้สึกได้ว่าเขาเข้าใจคิด หรือทำอะไรในแบบที่หลายครั้งเราไม่ทันคิด

มันไม่ใช่ทุกคนที่จะทำได้ตามนี้ทั้งหมดอยู่แล้ว คนที่เห็นแก่ตัวทำอะไรไม่สนใจว่าจะกระทบหรือทำให้ใครเดือดร้อนหรือไม่ก็มี คนที่ไม่รับผิดชอบไม่มีระเบียบวินัย คนที่ไม่ใส่ใจรายละเอียด คนแบบนี้มีอยู่ทุกที่และทุกสังคมครับ


ถึงตรงนี้ถ้าสังเกตุก็จะรู้ได้ว่าญี่ปุ่นมีความหลากหลาย นี่แหละครับที่ผมบอกว่ามันไม่เป็นบล๊อค ไม่เป็นสูตรสำเร็จ เราอาจเห็นคนญี่ปุ่นในกลุ่มเดียวกันแต่งตัวเหมือนกันทั้งกลุ่มได้ แต่เมื่อเรามองหลายๆ กลุ่มมันจะมีรูปแบบที่หลากหลาย ผมมองว่ามันสื่อถึงการมีความคิดที่หลากหลาย ซึ่งตรงนี้ผมมองว่ามันต่างจากคนไทยหรือฝรั่ง ฝรั่งถึงแม้จะบอกว่าให้อิสระ ทุกคนแต่งตามที่ตัวเองชอบ แต่สุดท้ายแล้วทุกคนก็ยังใส่แบบตามๆ กันไปในทางเดียวกันตามเทรนด์ในช่วงนั้นๆ ส่วนคนไทยนี่บอกตรงๆ ครับว่าไม่ต้องพูดอะไรมาก แทบจะเหมือนกันทั้งเมือง แต่ปัจจุบันนี่ดีขึ้นแล้วนะครับ เมื่อก่อนหนักกว่านี้

ทั้งหมดนี้ผมไม่ได้บอกว่าญี่ปุ่นจะไม่มีกรอบทางความคิดเลยนะครับ แต่ผมมองว่าโดยรวมแล้วเขามีกรอบที่กว้างกว่าของฝรั่ง ไทย จีน เกาหลีครับ


......นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ผมชอบ และก็ยังมีส่วนที่ผมไม่ชอบอยู่ด้วยเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าผมจะชอบญี่ปุ่นไปซะหมด เช่น.....

ระบบอาวุโสของญี่ปุ่นแรงมาก....ส่วนตัวผมไม่ชอบพวกระบบอาวุโสสักเท่าไหร่ คือจริงๆ แล้วผมไม่มีปัญหากับตัวระบบนะ แต่ผมไม่ชอบคนที่เอาระบบไปใช้ เพราะส่วนใหญ่ในคนชอบใช้กันแบบไม่มีขอบเขต เห็นได้ชัดในคนไทย คนจีนก็เป็น ใช้ระบบนี้มาเอาเปรียบคนอายุน้อยกว่าสารพัด ซึ่งลองคิดดูว่าเรื่องแบบนี้เองก็เกิดในคนญี่ปุ่นได้ไม่ยากหรอกครับ เมื่อระบบอาวุโสเขาแรงมากผลที่ออกมาคงไม่ต่างกับไทยหรือจีนเท่าไหร่นัก แค่ในสายงานก็เห็นได้แล้วครับว่าเสียงของหัวหน้าดังกว่า

ผมไม่ชอบพวกแม่บ้านขาเมาท์ แต่คนพวกนี้ก็มีส่วนในการควบคุมความประพฤติคนไปด้วยในขณะเดียวกันซึ่งส่วนหลังก็เป็นข้อดีไป...แต่ผมก็ไม่ชอบพวกซุบซิบนินทาเอาซะเลย

คนญี่ปุ่นสูบบุหรี่เยอะ.....พอดีผมเป็นคนไม่สูบ แล้วก็ไม่ได้ชอบดมกลิ่นบุหรี่ด้วย จุดนี้ก็เลยเป็นอีกจุดที่ผมไม่ชอบ

ด้วยเพราะหลายๆ อย่างในสังคมทำให้สังคมคนญี่ปุ่นเครียดมาก และหลายครั้งผมก็รู้สึกว่ามันเครียดเกินไป ซึ่งผมก็ไม่ชอบตรงเรื่องความเครียดนี้ แต่ในขณะเดียวกันบางครั้งมันก็เกิดจากข้อดีที่ผมพูดไปนั่นเองที่เป็นตัวที่ทำให้เกิดความเครียด เพราะเขาไม่ค่อยผ่อนให้กับเรื่องพวกนี้มันเลยกลายเป็นความเครียดไปครับ

และยังมีข้อเสียอื่นๆ อีก


ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ก็คงจะพอจับได้บ้างใช่มั้ยว่าผมชอบญี่ปุ่นเพราะมันตอบโจทย์ของผมได้ ไม่ใช่เพราะผมเชิดชูเทิดทูนญี่ปุ่นจนกลายเป็นพวก "บ้าญี่ปุ่น" หรือ "ทาสญี่ปุ่น" อย่างที่หลายคนชอบว่าผม.....คือถ้าอะไรๆ ของฝรั่งมันตอบโจทย์ของผมได้ผมก็ไม่เกี่ยง


การแต่งตัวแบบฝรั่งอเมริกันที่เป็นไปในทางเดียวกัน....ใส่ยีนส์เหมือนกันหมดยังกะนัดกันมา (ภาพจากวิดีโอโดย Yamada Taro)

เอาจริงๆ ผมชอบอะไรที่หลากหลาย ไม่ชอบอะไรที่มันเป็นสูตรสำเร็จ จำเจ เป็นพิมพ์เดียวกัน เป็นบล๊อคไปหมด เพราะงั้นการที่ในไทยทุกวันนี้มีแต่คนเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นกันเต็มไปหมดแบบนี้ผมก็ไม่ชอบหรอก ผมว่ามันเกลื่อนเกินไป เหมือนว่าทำตามๆ กันไปหมด แม้ว่าผมจะชอบกินอาหารญี่ปุ่นก็ตาม


ทีนี้จุดสังเกตุก็คือคนที่ชอบว่าผมว่าบ้าญี่ปุ่นนั้น เมื่อเจอคนที่มีลักษณะ.....

- ชอบกินอาหารฝรั่งและยกย่องอาหารฝรั่งเต็มที่
- สนใจที่จะรู้แต่เรื่องเกี่ยวกับฝรั่งและอาหารแบบฝรั่ง
- ดูและชื่นชมแต่หนังฮอลลีวู้ดเท่านั้น แทบไม่ดูหรือชื่นชมหนังของชาติอื่นเลย
- ฟังเพลงฝรั่ง (ภาษาอังกฤษ) เท่านั้น อาจมีเพลงไทยบ้าง
- ใช้แต่สินค้าแบรนด์ฝรั่ง
- แต่งตัวตามเทรนด์แฟชั่นและรูปแบบของฝรั่ง
- แสดงออก ทำท่าทาง และพยายามมีบุคคลิกแบบฝรั่ง
- สนใจแต่ภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกัน มุ่งไปทางสำเนียงอเมริกันเท่านั้น
- ใช้ชีวิตและมีไลฟ์สไตล์แบบฝรั่ง โดยเฉพาะแบบอเมริกัน
- รับเอาวัฒนธรรมของฝรั่งอย่างไม่มีการคัดกรอง
- ยกย่องความเป็นฝรั่งหลายๆ อย่าง (อาจเรียกได้ว่าเกือบทุกอย่าง) โดยเฉพาะแบบอเมริกัน

คนแบบนี้คุณผู้อ่านคิดว่าเป็นอย่างไรบ้างล่ะครับ ต้องเรียกว่า "บ้าฝรั่ง" หรือ "ทาสฝรั่ง" เลยใช่มั้ยล่ะครับ หรืออาจระบุกลุ่มย่อยลงไปอีกเป็นพวก "คลั่งอเมริกา" เลยก็ได้จริงมั้ยครับคนแบบที่ชอบว่าผมเมื่อเจอคนแบบที่ผมว่ามานี้กลับเงียบ ไม่ว่าอะไรเลยด้วยซ้ำเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา คนกลุ่มที่ชอบอะไรๆ ก็ฝรั่ง เอะอะก็ฝรั่ง จนดูแล้วก็เรียกได้ว่าเป็นพวก บ้าฝรั่ง คลั่งอเมริกา แต่คนกลุ่มนี้มักไม่ถูกว่าอะไร


แม้แต่คนที่บอกว่าชอบของไทย ชอบแบบไทย ไม่น้อยก็ยังทำตัวแบบคนบ้าฝรั่งที่เพิ่งจะพูดถึงไปนี่ด้วย หลายคนก็ทำตัวแบบฝรั่งหรือเหมือนพวกบ้าฝรั่งโดยไม่รู้ตัว และคนกลุ่มนี้ก็ไม่ถูกใครว่าอะไรอีกเหมือนกัน

.....ฟังดูตลกดีมั้ยล่ะครับ



บางคนก็อาจจะคิดว่า ก็ญี่ปุ่นมันไม่ได้ดีอะไรนี่นา แต่ฝรั่งมีดีจริงๆ นี่ ไม่แปลกที่จะชอบ.....ผมอยากบอกว่าจริงๆ แล้วพวกฝรั่งก็ไม่ได้ดีไปซะหมดอย่างที่หลายคนคิด.....

- ฝรั่งไม่ได้เปิดกว้างทางความคิดจริง มองลึกๆ แล้วจะเห็นกรอบความคิดของพวกเขาอยู่ดี

- อเมริกันไม่ได้ให้ความเท่าเทียมกันกับทุกคน อย่างที่ชอบพูด คนพวกนั้นก็เหยียดคนดำและเอเซีย เช่นคนไทยเหมือนกัน......คนดำอเมริกันถูกฝรั่งเหยียดมา เจอคนไทยพวกก็มาเหยียดคนไทยต่ออีกทอด....พ่อผม เพื่อนผมโดนกันมาแล้ว

- อเมริกันก็มีเล่นพักเล่นพวก รวมหัวกับหัวหน้าแกล้งและกีดกันคนไทยที่ทำงานที่อเมริกาด้วย

- ฝรั่งก็มีความคิดบางอย่างที่เหมือนฝังหัวอยู่เหมือนกัน เป็นรูปแบบความคิดที่ยังไงก็จะคิดแบบนั้น ไม่ยอมเปลี่ยน ไม่ยอมทำความเข้าใจ

- อเมริกันไม่ได้เปิดกว้างให้กับวัฒนธรรมที่แตกต่างทั้งหมด หลายคนก็ไม่ยอมที่จะยอมรับหรือทำความเข้าใจ เอาแต่ใช้ความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ ไม่รู้จักการปฏิบัติแบบ "เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม"

- อเมริกันบางคนก็ไม่ได้มีน้ำใจมากนัก แค่น้ำดื่มยังไม่มีการให้กันเลย

- อเมริกันไม่ได้เป็นมิตรกับคนไทยไปหมดซะทุกคน บางคนก็ทำท่าเชิดๆ ใส่ ออกจะดูเหมือนเหยียดๆ ด้วยซ้ำ....เห็นจากลูกค้าผม

- คนอเมริกันเองบางคนก็ยังพูดถึงอเมริกันเองว่า "friendly but not sincerely".....ขนาดนี้ก็คงบอกได้ว่าคนอเมริกันก็ไม่ได้จริงใจเหมือนกัน

- คนอเมริกันมักใช้แนวคิดแบบเอาเงินฟาดหัวมากกว่าที่จะเป็นแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย

- ฝรั่งยุโรปก็มีที่ยังเหยียดคนไทยอยู่ไม่น้อยนะครับ ตั้งแต่แม่ผมมาจนถึงยุคเพื่อนผมเรียนที่อังกฤษก็โดนเหยียด

- ลูกค้าผมเป็นคนเยอรมัน คุยกับเราอย่างเป็นมิตรดี แต่ว่าเขาก็บอกผมว่าคนเยอรมันก็ยังมีคนที่ "conservative" หรือเรียกว่าหัวโบราณ ซึ่งก็คือเหยียดคนเอเซียอยู่

- จริงๆ ฝรั่งก็มีการเหยียดกันเองด้วย ฝรั่งประเทศนึงเหยียดฝรั่งอีกประเทศนึงอะไรแบบนี้

- ฝรั่งก็มีระบบอาวุโสนะครับ เพียงแต่อาจไม่ได้แสดงออกชัดเท่าของไทย ของเขามักใช้ในสายงาน ในครอบครัว อาจเรียกได้ว่าไม่ได้ใช้พร่ำเพรื่อเท่าของไทยแต่ก็เรียกได้ว่ามีนะครับ ไม่ใช่ไม่มี

- ฝรั่งที่ไม่ทำตามกฏกฏิกาก็มีเยอะแยะ เช่น ข้ามถนนไม่รอสัญญาณไฟ จอดรถในที่ห้ามจอด

เห็นมั้ยครับว่าฝรั่งก็มีที่ไม่ดีเหมือนกัน แต่ทำไมคนไม่น้อยถึงไม่เคยคิดถึงข้อเสียพวกนี้ บางคนที่ผมเคยเจอก็รู้อยู่แต่ไม่ยอมรับว่าฝรั่งมีข้อเสียแบบนี้จริง บางคนถึงกับไม่ยอมรับรู้เลย แล้วเอาแต่บอกว่าฝรั่งดี ญี่ปุ่นไม่ดี.....ที่ผมอยากบอกคือไม่ว่าเป็นคนชาติไหนก็มีทั้งดีและไม่ดีทั้งนั้น แม้กระทั่งคนไทยที่เรามักจะพูดถึงตัวเองว่า คนไทยเป็นมิตรและยิ้มเก่ง คนไทยมีน้ำใจ คนไทยเปิดรับชาวต่างชาติ มันก็ไม่ใช่แบบนั้นไปทั้งหมด หลายครั้งเราก็เป็นแบบนั้นเฉพาะกับชาวต่างชาติหรือกับฝรั่งเท่านั้นเหมือนกัน



ถึงตรงนี้แล้วสังเกตุอะไรได้บ้างมั้ยครับ? (ขอบคุณครับ ที่อ่านมาถึงตรงนี้)
.....คนที่ชอบมาว่าผมนั้น ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกที่ชอบฝรั่งแล้วก็ทำตัวแบบที่ผมอธิบายไว้ข้างบน ส่วนข้อเสียผมสังเกตุว่าคนเหล่านั้นมักจะเพิกเฉยหรือไม่สนใจ เรียกได้ว่าชอบแบบไม่ดูข้อเสีย ซึ่งก็สามารถเรียกได้ว่าคนพวกนั้นก็เป็นพวก "บ้าฝรั่ง" หรือ "ทาสฝรั่ง" เหมือนกันนั่นเอง เพราะถ้าเจอคนที่คลั่งฝรั่ง (อาการหนักกว่าที่ผมชอบญี่ปุ่นซะอีก) คนพวกนั้นจะทำเหมือนไม่เห็นหรือไม่มีอะไรผิดปกติ

แค่นี้เราก็มองออกได้อย่างไม่ยากแล้วว่าทำไมหลายๆ คนถึงชอบว่าผมอย่างนั้น เพราะว่าคนเหล่านั้นจัดอยู่ในพวกที่คลั่งฝรั่ง เอียงไปทางฝรั่งซะ +8 (ต้องขออธิบายแบบเป็นค่าตัวเลขสักนิดนะครับจะได้เห็นภาพ) แล้วเขาก็เอาตัวเองเป็นมาตรฐานคิดว่าตรงที่ตัวเองอยู่คือ 0 แต่พอผมเอียงไปทางญี่ปุ่นสัก -3 หมายความว่าผมเอียงจาก 0 ไปแค่ 3 เองแต่อีกฝ่ายเอียงไปตั้ง 8 เมื่อดูส่วนต่างแล้วมันต่างกัน 11 คนอื่นก็เลยมองว่าผมเอียงไปทางญี่ปุ่นตั้ง 11 ทั้งที่จริงๆ แล้วเมื่อเรามองอย่างเป็นกลางโดยยึดจุดอ้างอิงคือ 0 จะเห็นว่าผมเอียงไปแค่ 3 ซึ่งน้อยกว่า แต่ปัญหาจริงๆ อยู่ที่พวกเขานั่นแหละที่เอียงไปตั้ง 8

ผมอยากให้ลองคิดตามดูสักหน่อยว่าใครกันแน่ที่ "บ้า" หรือ "คลั่ง" หรือเป็น "ทาส"


มาถึงจุดนี้ก็สรุปได้ว่า ปัญหาอยู่ที่คนที่มาว่าผมต่างหาก ไม่ใช่ที่ตัวผม พวกเขาต่างหากที่บ้าฝรั่ง ไม่ใช่ผมบ้าญี่ปุ่น




ผมไม่เถียงเลยว่าผมชอบญี่ปุ่นและไม่ชอบอเมริกา แต่ผมรู้จักแยกแยะนะ ผมไม่ชอบก็คือผมไม่ชอบ ไม่ได้หมายความว่ามันจะต้องแย่ไปหมดทุกอย่าง บางอย่างมันเป็นข้อดีจริงๆ ผมก็ยอมรับว่าจุดนี้มันดีจริงนะ ไม่ได้ห้ามคนอื่นชอบไม่ได้ห้ามคนอื่นพูดเรื่องอเมริกากับผม ใครมีเรื่องอะไรที่ดีหรือน่าสนใจเกี่ยวกับอเมริกาอยากจะบอกผม อยากจะเล่าให้ผมฟัง ก็เล่าได้เลยผมไม่ว่า เพียงแต่ในทางกลับกันผมก็อาจจะมีเรื่องอะไรที่เป็นจุดน่าสนใจเกี่ยวกับญี่ปุ่นเล่ากลับไป ก็หวังว่าอีกฝ่ายจะแฟร์พอที่จะเปิดใจฟังเรื่องญี่ปุ่นจากผมด้วย ซึ่งตรงนี้ผมมองว่ามันจะทำให้เรามองอะไรได้กว้างขึ้น

แต่ส่วนใหญ่คนที่มีปัญหากับผมจะไม่เป็นอย่างนั้น พออะไรที่เกี่ยวกับญี่ปุ่นจะไม่สนใจถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับฝรั่งไม่ว่าจะอเมริกาหรือที่ไหนก็จะพยามมาพูดมาเล่าให้ผมฟัง หลายครั้งพยามโจมตีญี่ปุ่นด้วย เหมือนกับว่าพยายามจะให้ผมเกลียดญี่ปุ่นแล้วหันไปชอบฝรั่งให้ได้ยังไงยังงั้น



สุดท้ายครับ.....คำถามที่หลายคนมักจะไม่เคยมาถามผมตรงๆ หรือไม่เคยที่แม้แต่จะฟังความเห็นของผม แต่มักจะคิดเอาเอง

บางคนอาจมีคำถามว่า ถ้าผมไม่ได้บ้าญี่ปุ่นแล้วทำไมถึงชอบแต่ญี่ปุ่น ผมชอบประเทศอื่นบ้างหรือเปล่า?.....มีสิครับ ผมอาจจะสนใจญี่ปุ่นเป็นอันดับแรกๆ แต่ผมก็ยังสนใจเยอรมัน ด้วย และผมยังสนใจหลายๆ สิ่งของไทยด้วย แม้ผมจะชี้ข้อเสียของคนไทยหรือประเทศไทยอยู่บ่อยครั้ง แต่นั่นก็เพราะว่าสนใจไงครับ ถึงได้อยากให้มันดีขึ้น



สินค้าแบรนด์ฝรั่งที่ผมใช้หรือสนใจจะใช้

แล้วผมใช้สินค้าของที่อื่นบ้างมั้ยนอกจากญี่ปุ่น?.....ใช้ครับ ผมอาจจะชอบของญี่ปุ่นเพราะมันมีสไตล์ที่ผมใช้มากกว่าของที่อื่น แต่สินค้าของเยอรมัน อังกฤษ เบลเยี่ยม ฝรั่งเศส สวีเดน ก็มีสไตล์ผม แม้แต่ของอเมริกาก็ยังพอมีสไตล์ผมอยู่ เพียงแต่แบรนด์ยุโรปมันหาได้ยากกว่าแบรนด์ญี่ปุ่นและถ้าสั่งเข้ามาก็แพงกว่าสั่งมาจากญี่ปุ่น....ปัจจุบันผมใช้เสื้อแจ็คเก็ตของ Montbell ซึ่งเป็นแบรนด์ญี่ปุ่นอยู่ ถ้าผมอยู่อังกฤษผมก็คงไม่พยายามซื้อของ Montbell มาหรอกครับ ผมคงซื้อ Craghoppers ซึ่งเป็นแบรนด์อังกฤษใช้.....ในทางกลับกันคนอีกกลุ่มแทบจะไม่มีการใช้สินค้าของญี่ปุ่นเลย (ที่ไม่ใช่เครื่องไฟฟ้ากับรถหรือนาฬิกา) จะเมินเอาด้วยซ้ำ จะใช้ก็เมื่อมันเป็นเทรนด์ตามยุคนั้นๆ แต่สินค้าฝรั่งจะใช้กันอยู่ตลอด

ถ้าไม่บ้าญี่ปุ่นแล้วทำไมถึงพูดถึงแต่ญี่ปุ่น?......ก็ของฝรั่งมีคนพูดกันไปเยอะแล้ว และส่วนใหญ่ก็รู้กันอยู่แล้ว แต่ญี่ปุ่นยังมีจุดที่คนไทยยังไม่เห็นหรือไม่ได้มองอยู่อีกเยอะและไม่ค่อยถูกพูดถึง ทำให้คนอีกไม่น้อยยังไม่รู้ ผมเลยพูดถึงเพื่อให้มันเป็นอีกทางเลือก เพราะโลกนี้ไม่ได้มีแค่ไทยกับอเมริกานี่นา จริงมั้ยล่ะครับ

ทำไมต้องคอยแก้ตัวแทนถ้าไม่ได้บ้าญี่ปุ่น?......อันนี้เป็นสิ่งที่คนมักจะคอยหาว่าผมแก้ตัวแทนญี่ปุ่น แต่จริงๆ แล้วผมมองว่าผมก็แค่เอาความจริงมาพูดกัน มองกันอย่างเป็นกลาง บางกรณีผมก็รู้สึกว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีอะไรสวนทางกับประเทศอื่นอยู่หลายอย่าง สังคม ความคิด ธรรมเนียมปฏิบัติ มารยาททางสังคม มันสวนทางกับความคิดหรือความรู้สึกของคนประเทศอื่นๆ รวมถึงไทยด้วย ทำให้เราไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงเป็นอย่างนั้นและอาจมองว่าไม่ดี ผมไม่ได้พยามแก้ตัวเลย ก็แค่อธิบายสิ่งที่ผมรู้มาให้ฟังและบางอย่างเราก็ต้องเข้าใจและยอมรับมันทั้งอย่างนั้นไม่ว่าเราจะเห็นด้วยกับสิ่งนั้นหรือไม่ ของฝรั่งเรายังเข้าใจและยอมรับได้เลยนี่

เรื่องของวัฒนธรรมหรือธรรมเนียมปฏิบัตินี้ ญี่ปุ่นก็อาจมีหลายอย่างของเขาที่เราไม่เข้าใจ (รวมถึงผมด้วย บางอย่างผมก็ไม่เข้าใจเขาเหมือนกัน) ซึ่งตรงนี้ผมมองว่ามันก็เป็นสิ่งที่เหมือนกันกับของฝรั่งหลายๆ อย่างที่เราก็ต้องยอมรับไปโดยที่ไม่ได้เข้าใจอะไรมากมายเช่น การใช้เท้า, มารยาทบนโต๊ะอาหารต่างๆ, การเรอที่ต้องขอโทษแต่ลดแรงดันในท้องไม่ต้องขอโทษ (บอกว่าเรอมันมีกลิ่นอาหาร เออแล้วเปิดวาวล์ล่างนั่นมันกลิ่นอะไรบ้างฮึ?),การพูดตรงๆ, การให้ความสำคัญกับการอาบน้ำเช้า, การใส่รองเท้าสำหรับนอกบ้านเดินเข้าไปในบ้าน (เดินขึ้นไปยันห้องนอนเลยทีเดียว) และอื่นๆ อีกมากมายที่เราทำความเข้าใจและยอมรับมันไปอย่างนั้น ในเมื่อของฝรั่งเรายังเข้าใจได้แล้วทำไมของญี่ปุ่นเราจะเข้าใจบ้างไม่ได้ล่ะ



เอาล่ะครับ
ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้ก็คงจะเข้าใจอะไรมากขึ้น (ขอบคุณมากเลยครับที่อ่านมาถึงตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็นการทนอ่านหรือตั้งใจอ่านมันจริงๆ) สิ่งที่เราเห็นได้จากเรื่องทั้งหมดนี้ว่า ไม่มีใครสมบูรณ์แบบหรือดีเต็ม 100 คนทุกชาติมีข้อดีและข้อเสีย บางอย่างมันก็มองว่าดีก็ได้มองว่าเสียก็ได้แล้วแต่คนจะมองหรือมันจะถูกจริตตรงใจใครแค่ไหน

และไม่ว่าอย่างไรก็ตามการที่เราจะชอบอะไร ประเทศไหน ชนชาติไหน เราก็ควรรับรู้ในข้อดีข้อเสียของสิ่งนั้นๆ ประเทศหรือชนชาตินั้นๆ ด้วย ข้อดีเราก็เอาอย่างเพื่อปรับปรุงพัฒนาเราเอง ข้อเสียก็รับรู้เพื่อให้รับมือกับมันได้ และไม่หลงไปกับสิ่งนั้นๆ แต่ไม่ต้องเอาอย่าง ถึงจะเป็นการชอบอย่างมีสติ ไม่ใช่ชอบทุกอย่างโดยไม่แยกแยะข้อดีข้อเสียมองว่าดีไปหมดนั่นก็กลายเป็นการชอบอย่างขาดสติไปครับ



ขอบคุณมากที่อ่านจนจบครับ

ภาพประกอบเนื้อหาจากอินเตอร์เน็ต



Create Date : 11 ธันวาคม 2558
Last Update : 14 เมษายน 2560 8:38:52 น. 0 comments
Counter : 2209 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nyo
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]




สงวนลิขสิทธิ์ ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ 2539 ห้ามผู้ใดทำการคัดลอก ส่วนใดส่วนหนึ่งของบล๊อกนี้ไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อค


ติดต่อผมได้ที่
naai.nyo@gmail.com

____________________

บล๊อกนี้ผมเขียนขึ้นมาจากสิ่งที่ผมไปรู้ไปเห็นมาก็เลยเอามาเล่าต่อเพื่อเป็นการแชร์ความรู้กัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นบ้างไม่มากก็น้อยครับ


กรูณาใช้ภาษาให้เหมาะสมในการแสดงความคิดเห็นด้วยนะครับ
Friends' blogs
[Add nyo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.