### Mamy Poko ยิ้มง่าย ไม่ซึมเปื้อน ###

 
กรกฏาคม 2550
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
6 กรกฏาคม 2550
 

การบำรุงผิวจากภายนอก: วิตามิน A B C E และ K

วันนี้อู้งาน (2วัน เหอๆๆ) แปลสรุปบทความอันนึงมาให้อ่านประดับความรู้ ในการเลือกซื้อ skin care นะครับ ไม่ได้แปลละเอียดนะครับ ขี้เกียจพิมพ์อ่ะครับ เหอๆๆ เลยเอาแบบสรุปใจความเอาแล้วกันนะครับ ส่วนคนที่สนใจจะอ่านเต็มๆ ก็ตามไปอ่านได้ที่นี่ครับ //www.findarticles.com/p/articles/mi_m0NAH/is_10_34/ai_n6261118?pi=cal

เชื่อว่าหลายๆ คน คงต้องการที่จะมีผิวสุขภาพดี ดูอ่อนเยาว์ไปตลอดเท่าที่จะทำได้ใช่มั้ยครับ ทีนี้เราจะทำอย่างไรหล่ะครับที่จะบรรลุ "ความฝันอันสูงสุด" 555+ ว่าไปนั้น

จริงๆ แล้วการพักผ่อนให้เพียงพอ และการได้กินของดีมีประโยชน์เป็นทางหนึ่งในการบำรุงสุขภาพจากภายในไม่เฉพาะผิวพรรณเท่านั้น แต่ทั้งๆรู้ก็ใช่ว่าใครทุกคนจะทำสิ่งเหล่านั้นได้ดีใช่มั้ยครับ ฉะนั้นการบำรุงจากนอกก็เป็นอีกทางนึงที่จำเป็นและดูจะตรงจุดกว่า คือจะบำรุงอะไรตรงไหนก็ทามันไปตรงนั้น แล้วอีกอย่างการกินวิตามินเข้าโดยตรงก้ยังไม่มีการศึกษาใดมายืนยันได้ว่าสิ่งที่เรากินเข้าไปจะไปถึงผิวพรรรสิ่งที่เราต้องการบำรุง เพราะมันอาจจะถูกใช้ไปโดยอวัยวะต่างๆในร่างกายไปซะเยอะแล้ว กว่าจะส่งผลถึงผิวพรรรณเป้าหมายของเรา

???? แล้วอะไรหล่ะครับ ที่เราจะเอามาทามาบำรุง เพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่ต้องการ หลักๆ มีวิตามินอยู่ 5 อย่าง ครับ A B C E และ K

*** วิตามิน A***

หน้าที่ของวิตามิน A ----ฟื้นฟูผิวที่โดนทำร้ายจากแสงแดดและจากการที่ร่วงโรยไปตามวัย

ด้วยอายุที่เพิ่มขึ้น และจากการทำร้ายจากรังสี UV คอลลาเจนในผิวของเราก็ลดและถูกทำลายไปด้วย ส่งผลให้เกิดริ้วรอย ความหย่อนยานต่างๆ ของผิวพรรณ
Retiniods อนุพันธ์หนึ่งของ วิตามิน A เป็นสารตัวหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูงมากที่สุด ในการช่วยยับยั้งการถูกทำลายของคอลลาเจนได้ แต่ด้วยที่อนุพันธ์ของ วิตามิน A ชนิดนี้มีความ "แรง" มาก ใช้ไม่ดีพาลจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี จึงต้องสั่งและอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ผิวหนัง เราจึงไม่พบสารนี้เป้นตัวประกอบในผลิตภัณฑ์ที่มีวางจำหน่ายทั่วไป

Retinol เป็นอีกอนุพันธ์หนึ่งของ วิตามิน A และมีความอ่อนโยนกว่า Retiniods และพบได้ในผลิตภัณฑ์ตามท้องตลาด (อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ที่มี Retinol ในปริมาณที่สูงมากพอที่จะส่งผลอย่างชัดเจนต่อผิวของเราก็มักจะมีจำหน่ายหรือใช้ภายในคลิคนิคผิวหนังต่างๆเท่านั้น)

ข้อควรระวังในการใช้ วิตามิน A: เนื่องจากทั้ง Retiniods และRetinol สามารถต่อให้เกิดระคายเคืองได้ง่าย ในการใช้ครั้งแรกๆควรใช้ปริมาณนิดหน่อย แล้วค่อยๆเพิ่มปริมาณขึ้นเมื่อผิวของเราสามารถรับได้ และควรใช้ควบคุ๋กับmoisturizer ที่มีประสิทธิภาพด้วย

แนะนำผลิตภัณฑ์กันหน่อย.... (อันนี้ไม่ใช่หน้าม้าแต่อย่างใดนะครับ เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีแนะนำไว้ในบทความครับ)
Retiniods ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายก็คือ Tretinoin (ใช้ชื่อทางการค้าว่า Retin-A และ Renova)
Tazarotene (ใช้ชื่อทางการค้าว่า Tazorac)
Adapalene (ใช้ชื่อทางการค้าว่า Differin)
ส่วนผลิตภัณฑ์ ที่มี retinol ที่น่าลอง ก็อย่างเช่น
- Dr. Brandt "A" cream เป็นไนท์ครีมที่มีretinol และสารให้ความชุมชื่นจาก shea butter และสารสกัดจากส้มและลาเวนเดอร์
- Roc Retinol Correxion Deep Wrinkle Night Cream ครีมตัวนี้มีผลทดสอบจากห้องทดลองว่าสามารถลดริ้วรอยได้ภายใน 12 สัปดาห์ จากการใช้เป็นประจำทุกคืนติดต่อกัน (ตัวนี้ผมเพิ่งซื้อมาลองใช้ดูครับ ได้ผลยังไงจะมารายงานนะครับ)
- Neutrogena Advanced Solutions Nightly Renewal Cream ครีมตัวนี้ก็มีผลทดสอบจากห้องทดลองว่าสามารถลดริ้วรอยใต้ดวงตาได้ภายใน 4 สัปดาห์ และลดริ้วรอยบนหน้าผากได้ภายใน 1 สัปดาห์

Tip ส่งท้าย....แม้ว่ายังไม่มีรายงานทางวิชาการใดๆสามารถพิสูจน์ได้ว่าการใช้วิตามิน A จะทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น แต่ผู้ใช้ควรอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่ "กันได้ครบ" และมีค่า SPF 30 เป็นอย่างน้อย (และจากประสบการณ์ส่วนตัวของผมนะครับ จะด้วยความงก (ก็ซื้อมาแพงง่ะ) หรือความไม่รู้ก็แล้วแต่ เราๆ มักจะไม่ทาครีมกันแดดในปริมาณที่มากพอที่จะได้รับการปกป้องถึงระดับที่ระบุไว้ข้างขวด ฉะนั้นเราก็ควรจะหาที่มีspf สูงกว่านี้ซักหน่อยก็ดีครับ...เอ่อ เพื่อนๆสามารถหาความรู้เรื่องครีมกันแดดเพิ่มเติมได้ที่เวบคุณรำเพยนะคร้าบบบ)


*** วิตามิน B***

หน้าที่ของวิตามิน B ----ช่วยลดอาการระคายเคือง ทำให้ผิวชุ่มชื่น รวมทั้งช่วยลดริ้วรอยเล็กๆ และฝ้ากระ

วิตามิน B ที่ใช้กันอยู่ก็คือ Niacinamide หรือ Nicotinamide ซึ่งเจ้าตัวนี้จะช่วยกระตุ้นเพิ่มความชุมชื่นตามธรรมชาติของผิวให้มีมากขึ้น และเมื่อผิวชุ่มชื่นก็จะไปช่วยลดอาการระคายเคือง รอยแดงต่างๆรวมทั้งริ้วรอยเล็กที่เกิดจากการที่ผิวแห้งขาดความชุ่มชื่น มีรายงานการวิจัยหนึ่งพบว่าคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide มีริ้วรอยเล็กๆจางลงเล็กน้อยแต่มีนัยสำคัญ (small but significant) หลังจากการใช้ผลิตภัณฑ์ วันละ2 ครั้งนาน 8 สัปดาห์ ซึ่งอาจเกิดจากการที่ vitamin B ไปมีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนด้วย

ถึงแม้ว่าผลในการไปช่วยลดริ้วรอยของ วิตามิน B จะไม่เห็นผลเร็วและชัดเจนอย่างการใช้ retinoid แต่มันก็ไม่ก่อให้เกิดอาการข้างเคียงอย่างเช่น รอยแดง คันยิบๆ และผิวลอก เหมือนการใช้ retinoid ฉะนั้นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide จึงเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย และไม่สามารถใช้วิตามิน A ได้

แนะนำผลิตภัณฑ์กันหน่อย....
( Remind กันนิดนึงครับว่า ผลิตภัณฑ์ต่อไปนี้เป็นตัวที่มีเขียนไว้ในบทความนะครับ ไม่ได้ผ่านการใช้และแนะนำโดยผมเอง )
- Olay Total Effects Eye Transforming Cream อายครีมตัวนี้จะมี Niacinamide เป็นส่วนผสม แล้วก็มี aloe vera และสารสกัดจากแตงกวา ช่วยเรื่องตาบวมๆ ได้ดี

Tip ส่งท้าย....การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี Niacinamide ร่วมกับ retinoid จะช่วยลดอาการระคายเคืองและจะส่งเสริมกันในเรื่อง anti-aging ให้ดีขึ้นด้วยครับ


*** วิตามิน C***

หน้าที่ของวิตามิน C ----ปกป้องและฟื้นฟูผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดด

วิตามินตัวนี้คงคุ้นเคยกันดีนะครับ (แนะนำให้อ่านกระทู้คุณ Phoebe Buffay ร่วมด้วยจะได้ความรู้มากยิ่งขึ้นครับ) วิตามินตัวนี้ถือได้ว่าเป็นตัวสารพัดประโยขน์เลยก็ว่าได้ครับ เพราะมันสามารถช่วยกำจัดอนุมูลอิสระซึ่งเป็นผลมาจาก การสูบบุหรี่ แสงแดด สภาพแวดล้อมอื่นๆ และแม้แต่กระบวนการสังเคราะสารเคมีบางตัวในร่างกายเรา ก็ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระได้เหมือนกันครับ และนอกจากนี้ให้สมกับที่เป็น "วิตามินสารพัดประโยชน์" วิตามินซีก็สามารถกระตู้นการสร้างคอลลาเจนได้เป็นอย่างดี ซึ่งคนที่ใช้วิตามินซีก็จะพบได้ว่าผิวพรรณ ดูเนียนเรียบ กระชับ และมีสีผิวสม่ำเสมอครับ อีกอย่างวิตามินซีเองก็ถูกใช้เป็นตัวลดการอักเสบของผิว รวมทั้งปัญหาของสิว และที่สำคัญวิตามินซีก็ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองน้อยกว่าวิตามิน เอ ด้วยครับ

แนะนำผลิตภัณฑ์กันหน่อย....
- SkinCeuticals C+E ตัวนี้เป็นเซรั่มทีมีส่วนผสมของ L-Ascorbic acid 15% (เป็นอนุพันธ์ของวิตามินซีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดและซึมเข้าสู่ผิวได้ดีที่สุดด้วย) ส่วนผสมหลักอีกตัวก็เป็น วิตามินอี 1% ครับ (ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ผมซื้อมาใช้แล้วครับ แต่เกิดข้อข้องใจนิดหน่อยว่าตัวที่ซื้อมามันเสื่อมไปหรือยัง ตอนนี้ก็หยุดใช้รอไปเปลี่ยนตัวใหม่มาครับ เลยยังบอกผลลัพท์ไม่ได้ อีกอย่างนึงการใช้พวกเหล่านี้ใช่ว่าจะเห็นผลเร็วทันใจ ต้องใช้เวลาครับ ไว้คืบหน้ายังไงจะมารีวิวให้ฟังนะครับ)
- Renee Rouleau Vitamin CE Complex ตัวนี้ก็มีส่วนผสมทั้งวิตามินเอและซีเหมือนกันครับ
- Murad Essential C Daily Renewal Complex ตัวนี้ก็อีกเช่นกันเป็นเซรั่มที่มี วิตามินซีและอีบริสุทธิ์

Tip ส่งท้าย....ถ้าสังเกตุผลิตภัณฑ์ที่แนะนำดีๆ เพื่อนๆจะพบว่าทุกตัวจะผสมวิตามินอีลงไปด้วยทั้งหมด ทั้งนี้ก็เพราะมีงานวิจัยออกมาแล้วว่าวิตามินซีจะมีประสิทธิภาพสูงสุดในการปกป้องผิวจากกการถูกทำร้ายจากแสงแแด เมื่อใช้ร่วมกับวิตามินอีครับ และอีกอย่างนึงวิตามินซีก็สามารถกระตุ้นการสร้างใหม่ของวิตามินอีได้ด้วย อย่างไรก็ตามวิตมินทั้ง 2 ตัวนี้ไม่ได้ทำหน้าที่ดูดซับรังสีUV นะครับ เราจึงต้องใช้รวมกับครีมกันแดดด้วย จะได้ครบสูตรทั้งปกป้องและซ่อมแซมครับ


*** วิตามิน E***

หน้าที่ของวิตามิน E ----ช่วยป้องกันการทำร้ายผิวจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่นในร่างกาย (ซึ่งก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ) ช่วยลดอาการอักเสบของผิวรวมทั้งความแห้งกร้าน

วิตามินอีได้ชื่อว่าเป็นตัวปกป้องผิวที่ดีตัวนึง เพราะมันสามารถปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระและช่วยยับยั้งกับอักเสบของผิวอีกด้วย มีงานวิจัยอันนึงพบว่ามันสามารถช่วยลดอนุมูลอิสระที่เกิดจากการสูบบุหรี่ได้เกือบครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว (ยังไงซะ ไม่สูบเป็นดีที่สุดนะคร้าบบ) นอกจากนี้ยังมีรายงานการวิจับพบว่าการใช้วิตามินอีก่อนออกแดดจะช่วยลดอาการแสบร้อน และการถูกทำลายของเซลล์ผิวด้วย และอีกอย่างนึง เนื่องจากวิตามินอีเป็น oily material มันจึงช่วยป้องปารการเสียความชุมชื่นของผิวซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาความแห้งกร้านและการระคายเคืงด้วยครับ

แนะนำผลิตภัณฑ์กันหน่อย....
- Aveeno Positively Radiant Anti-Wrinkle Cream ครีมตัวนี้มีส่วนผสมของวิตามิน E วิตามิน B5 และsoy complex ซึ่งจะช่วยทำให้ผิวนุ่มและชุ่มชื่นได้ดีครับ
- Chanel Hydra Serum Vitamin Moisture Boost ตัวนี้เป็นครีมเจลที่ช่วยชุ่มชื่นได้ดีครับ มีส่วนผสมของ วิตามิน E และวิตามิน B5 เหมือนตัวบน (อันนี้ผมไปเดินดูที่เคาน์เตอร์ ไม่แน่ใจว่าเป็นตัวเดียวกับ Hydramax หรือเปล่า เพราะถาม BA ก็บอกไม่มีชื่อนี้อ่ะครับ ใครรู้ช่วยบอกหน่อย)

Tip ส่งท้าย...วิตามนอีที่ใช้จะเป็น tocopheryl acetate นะครับ (อนุพันธ์ตัวนี้จะเสถียรและถูกเปลี่ยนไปเป็น alphatocopherol ได้ดีกว่าวิตามินอีอนุพัธ์อื่นๆนะครับ) ยังไงสังเกตุชื่อนี้ไว้ใน list of ingredients เวลาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์นะครับ และมีคำแนะนำจากแพทย์ผิวหนังท่านนึงว่าควรเลือกใช้พลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินอี ตั้งแต่ 2 % ขึ้นไปจึงจะเห็นผลนะครับ (ถ้าข้างกล่องไม่บอกว่ากี่เปอร์เซนต์ ก็รู้คร่าวๆได้โดยดูว่ามีชื่อtocopheryl acetate อยู่ในลำดับที่ไม่เกิน 5 นะครับ)


*** วิตามิน K***

หน้าที่ของวิตามิน K ----ช่วยลดริ้วรอยและรอยคล้ำใต้ตา

มีงานศึกษานึงรายงานว่าการใช้วิตามิน K จะช่วยย่นเวลาในการลดริ้วรอยรอยใต้ตาในผู้ป่วยบางราย แต่มันจะไม่ส่งผลในการป้องกันการเกิดริ้วรอย และมีอีกรายงานนึงบอกว่าการใช้วิตามินK หลังจากทำการรักษาด้วยเลเซอร์จะช่วยลดริ้วรอยใต้ตาได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าใช้ทันทีในวันหลังจากการที่ไปทำทรีทเมนต์มา อย่างไรก็ตามยังไม่มีงานวิจัยใดรายงานถึงผลข้างเคียงของการใช้วิตามินเค และยังไม่มีการยืนยันผลที่ได้ ฉะนั้นผลการใช้อ่าจแตกต่างไปในแต่ละบุคคล

แนะนำผลิตภัณฑ์กันหน่อย....
- Peter Thomas Roth Power K Eye Rescue ตัวนี้จะมีวิตามินเคซึ่งช่วยลดรอยคล้ำใต้ตา นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของสารสกัดจากชาเขียวและวิตามินซีด้วย
- Quintessence Skin Science Clarifying Under-Eye Serum ตัวนี้มีส่วนผสมทั้งวิตามิน K Retinol รวมทั้ง วิตามิน ซีและอีด้วยครับ

Tip ส่งท้าย...ถ้าจะหาครีมรอบดวงตาที่ช่วยลดแพนด่หล่ะก็ แนะนำให้หาครีมที่มีวิตามินเคและเรตินอลนะครับ เพราะมีรายงานทางวิชาการออกมาว่า ถ้าใช่ติดต่อกัน 16 สัปดาห์ จะช่วยลดรอยคล้ำอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ ด้วยที่ว่า retinol อาจจะไปช่วยทำให้การซึมของวิตามิน เค ได้ดียิ่งขึ้น



จบแล้วคร้าบบบบบบ หวังว่าคงได้ความรู้ไปเยอะนะครับ เอาไว้ประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อครีมนะครับ แนะนำให้หันมาดูส่วนประกอบเป็นปัจจัยนึงในการเลือกซื้อนะครับ เพราะผมเชื่อว่า ใช้ของที่มีส่วนผสมที่ดีก้มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วหล่ะครับ



Create Date : 06 กรกฎาคม 2550
Last Update : 6 กรกฎาคม 2550 14:26:53 น. 4 comments
Counter : 993 Pageviews.  
 
 
 
 
 
 

โดย: มณีไตรรงค์ วันที่: 6 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:44:37 น.  

 
 
 
ได้ปักหมุดคนแรกเรยย.....
 
 

โดย: มณีไตรรงค์ วันที่: 6 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:45:11 น.  

 
 
 
ขอบคุณมากมายสำหรับข้อมูลดี ๆ คะ
 
 

โดย: ตติตา วันที่: 6 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:48:10 น.  

 
 
 
ขอบคุณสำหรับความรู้นะคะ
 
 

โดย: aump (aump_stupid ) วันที่: 16 สิงหาคม 2550 เวลา:11:58:53 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

MyLoveMyBabe
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add MyLoveMyBabe's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com