|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เจ้าเมืองอุบลคนแรก พระประทุมวรราชสุริยวงษ์ (เจ้าคำผง) ณ วัดหลวง อุบลราชธานี
เจ้าพระประทุมวรราชสุริยวงษ์
เจ้าพระประทุมวรราชสุริยวงศ์ (เจ้าคำผง) หรือ พระปทุมวรราชสุริยวงษ
ในจารึกพระเจ้าอินแปงออกนามว่า เจ้าพระปทุม
ดำรงตำแหน่งเจ้าประเทศราชครองเมืองอุบลราชธานีศรีวนาลัยประเทศราช
คนแรก (ปัจจุบันคือจังหวัดอุบลราชธานีในภาคอีสานของประเทศไทย)
นามเดิมว่า เจ้าคำผง หรือ ท้าวคำผง

ด้วยการที่พระประทุมราชวงศา(เจ้าคำผง)
ร่วมมือกับเจ้าฝ่ายหน้าผู้อนุชาซึ่งไปตั้งกองนอกเก็บส่วย
อยู่ที่บ้านสิงห์โคกสิงห์ท่า(เมืองยโสธร)
และถูกบังคับให้ช่วยเหลือกองทัพเมืองนครราชสีปราบปรามกบฏอ้ายเชียงแก้ว
ได้พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชจึงโปรดเกล้าฯ
ให้พระประทุมราชวงศาเป็นที่พระปทุมวรราชสุริยวงษทรงยกเมืองอุบล
ขึ้นเป็นอุบลราชธานีศรีวนาลัยประเทศราช
ยกฐานะเมืองอุบลราชธานีเป็นเมืองประเทศราช

และสถาปนาพระปทุมราชวงศาเป็นเจ้าเมืองอุบลองค์แรกเมื่อพ.ศ. 2321

พระปรมาภิไธย
เจ้าพระประทุมวรราชสุริยวงษ์
พระอิสริยยศ
เจ้าประเทศราช
ราชวงศ์สุวรรณปางคำ
รัชกาลถัดไป
เจ้าพระพรหมวรราชสุริยวงศ์(เจ้าทิดพรหม)

พระประทุมวรราชสุริยวงศ์
ครองเมืองอุบลราชธานีเป็นเวลารวมได้17 ปี
จนถึงพ.ศ. 2338 จึงถึงแก่ พิราลัย สิริรวมชนมายุได้ 85 ปี
มีการประกอบพระราชทานเพลิงศพด้วยเมรุนกสักกะไดลิงก์
ณ ทุ่งศรีเมือง
แล้วเก็บอัฐิธาตุบรรจุในพระธาตุเจดีย์ไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง
ณ บริเวณที่เป็นธนาคารออมสินสาขาอุบลราชธานีทุกวันนี้
ต่อมาภายหลังเมื่อมีการสร้างเรือนจำขึ้นในบริเวณดังกล่าวจึงย้ายอัฐิ
ไปประดิษฐาน ณ วัดหลวง เมืองอุบลราชธานีจนทุกวันนี้
ปัจจุบันมีอนุสาวรีย์ของพระปทุมวรราชสุริยวงศ์(เจ้าคำผง)
ประดิษฐาน2 ที่หนึ่ง
คือวัดหลวงโดยมีพระเจ้าใหญ่องค์หลวงเป็นพระประธานนานมานับแต่สร้างเมือง

และเพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาสืบไปได้มีการจัดสร้างพิธีเททองหล่อพระ
อันมีชื่อว่า หลวงพ่อปากดำ องค์จำลองจากองค์จริงที่มีอายุนับร้อยปีขึ้น
เพื่อประดิษฐานณพระอุโบสถหลังใหม่เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา
และเพื่ออุทิศบุญทั้งหมดอันเกิดจากการสร้างพระประธาน
หลวงพ่อปากดำ
องค์นี้ให้แด่เจ้าเมืองทุกๆพระองค์ผู้ซึ่งล่วงลับและผู้ที่เสียสละเลือดเนื้อและชีวิต
เพื่อแลกกับผืนแผ่นดินจนมีปัจจุบันทุกวันนี้




และอีกที่หนึ่ง ณ ทุ่งศรีเมือง กลางเมืองอุบลราชธานี
สกุลที่สืบเชื้อสาย
เจ้าพระประทุมวรราชสุริยวงศ์เป็นต้นกำเนิดของสายสกุลต่างๆ
ในเมืองอุบลราชธานีหลายสกุลเช่น
ณอุบล สกุลนี้สืบเชื้อสายเจ้าพระประทุมวรราชสุริยวงศ์
ผู้ขอรับพระราชทานนามสกุลสายนี้คือพระอุบลเดชประชารักษ์(เสือณอุบล)
กรมการเมืองพิเศษเมืองอุบลราชธานีในสมัยรัชกาลที่5
สุวรรณกูฏ สกุลนี้สืบเชื้อสายผ่านทางพระพรหมราชวงศา(กุทองสุวรรณกูฏ)
เจ้าเมืองอุบลราชธานีลำดับที่3 พระราชโอรสในเจ้าพระประทุมวรราชสุริยวงศา
สิงหัษฐิตสกุลสายนี้สืบเชื้อสายมาจากพระเกษโกมลสิงห์ขัตติยะพระนัดดา
ในเจ้าเมืองอุบลราชธานีองค์ที่3
ผู้ขอรับพระราชทานนามสกุลคือพระวิภาคย์พจนกิจบิดาของ
นายเติมวิภาคย์พจนกิจผู้เขียนหนังสือประวัติศาสตร์อีสาน
ทองพิทักษ์ สกุลนี้สืบเชื้อสายผ่านทางเจ้าอุปฮาด(สุดตา)
เป็นผู้ขอรับพระราชทานนามสกุล
อมรดลใจสกุลนี้สืบเชื้อสายผ่านทางพระอมรดลใจอดีตบรรดาศักดิ์
ที่ท้าวสุริยวงศ์เจ้าเมืองตระการพืชผลองค์แรกท่านนี้
เป็นบุตรในพระพรหมราชวงศาเจ้าเมืองอุบลราชธานีองค์ที่3
โทนุบล สกุลนี้สืบเชื้อสายผ่านทางเจ้าเมืองมหาชนะชัยหรือท้าวคำพูนสุวรรณกูฏ
ผู้เป็นบุตรในพระพรหมราชวงศาเจ้าเมืองอุบลราชธานีองค์ที่3
โดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานนามท้าวคำพูนว่า
พระเรืองชัยชนะเจ้าเมืองมหาชนะชัยขึ้นตรงต่อเมืองอุบลราชธานี
ต่อมาภายหลังเมืองมหาชนะชัยได้ถูกลดฐานะเป็นอำเภอภายใต้การปกครอง
ของเมืองอุบลราชธานี
บุตโรบล สายนี้สืบมาจากเจ้าราชบุตร(สุ่ย)และเจ้าราชบุตร(คำ)
โอรสในเจ้าสีหาราชทั้งสองพระองค์เป็นพระราชอนุชา
ในเจ้าพระปทุมวรราชสุริยวงศ์
ผู้รับพระราชทานสกุลคือพระอุบลกิจประชากรสายสกุลนี้เป็นสายสกุลของอัญญา
นางเจียงคำบุตโรบล(หม่อมเจียงคำชุมพลณอยุธยา)
ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าชุมพลสมโภชกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์
"อนึ่งทายาทบุตรหลานสายใดก็ดีหรือสกุลใดก็ดีหรือมิได้สืบเชื้อสายก็ดีมิได้มีราชสกุลหรือนามสกุลโดยตรงกับท่านก็ดีชาวอุบลราชธานีทุกๆคน ที่ระลึกถึงท่าน ก็ถือเป็นลูกหลานของท่านมิผิดแท้"




ด้วยการนี้การนี้จึงขอเผยแพร่ชื่อเสียงของท่านโดยสังเขป
ให้เป็นที่ประจักษ์แก่บุคคลผู้ต่างบ้านต่างเมืองหรือผู้อาจยังมิเคยล่วงรู้มาก่อนว่า
ชื่อเจ้าพระประทุมวรราชสุริยวงษ์คือผู้ใดกัน
ทั้งนี้มิได้มีการกล่าวถึงประวัติของท่านโดยละเอียด
หากแต่เพียงแค่เป็นเกร็ดความรู้เล็กๆที่เราในฐานะลูกหลานชาวอุบลฯ
ได้ถูกบอกเล่ากล่าวมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยจนพลอยทราบซึ้งเคารพ
และระลึกถึงบุญคุณของท่านที่ทำให้มีจังหวัดอุบลราชธานีมาจนจวบทุกวันนี้

และในการนี้ หลวงพ่อ(โดยศักดิ์เราต้องเรียกท่านว่าหลวงปู่)
ท่านได้เมตตา มอบรูปหล่อองค์จำลอง
เจ้าพระประทุมวรราชสุริยวงษ์
มาเพื่อเป็นที่เคารพ เป็นสิริมงคล และเพื่อสักการะ ระลึกถึงท่าน
จากนี้ไป
ให้เรียกองค์ท่านว่า “พ่อใหญ่”

[พ่อ-ใหญ่] ในภาษาอีสาน แปลว่า คุณตา/คุณปู่/คำเรียกขานผู้ชายอาวุโส

วัดหลวง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
ตั้งอยู่ที่ถนนพรหมเทพ ด้านหน้า ติดถนน ด้านหลัง ติด ริมฝั่งแม่น้ำมูล
ระหว่างท่ากวางตุ้นกับท่าจวน (ตลาดใหญ่)สมัยนี้ที่เรียกกัน
Create Date : 05 กรกฎาคม 2562 |
Last Update : 15 สิงหาคม 2563 18:00:43 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2902 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

|
เข้าใจว่าการเขียนบล็อก ก็คงเป็นการแชร์ประสบการณ์ รวมไปจนถึงความสนใจของแต่ละคน กระมัง? ประสบการณ์เล็กๆ ของฉัน บนโลกใบใหญ่ๆ ยังมีเรื่องราวอีกมากมายบนโลกใบใหญ่ๆใบนี้ ซึ่งเราสามารถรู้ได้เพียงแค่เรารู้จัก "Google" แต่ทว่า "Google" ไม่สามารถบอกความรู้สึกของมันได้ เรื่องราวบางเรื่องถึงแม้ว่าเราไม่ได้ประสบมาเอง หรือ อาจไม่ได้เป็นสิ่งที่เราสนใจ มาก่อน แต่เมื่อเราบังเอิญได้สัมผัสผ่านการบอกเล่าของแต่ละท่าน มันเปิดโลกทัศน์ของเราได้อย่างดีเลยทีเดียว และมันดีตรงที่ เราไม่ต้องสร้างภาพ และ เราไม่สามารถรู้จักทุกๆคนบนโลก แต่เราสามารถรู้ตัวตนของแต่ละคนตามเรื่องราวในแต่ละ Blog เราไม่ต้องรู้จักกัน แต่เราสามารถท่องโลกอินเตอร์เน็ตอย่างสนุกและเพลินไปได้ในประสบการณ์ของคนอื่น และ บางครั้งที่เราได้เข้าไปอ่านบล็อคของท่านอื่นๆ มันก็เป็นการเปิดประสบการณ์ของเราอย่างดียิ่งเลยทีเดียว และเผื่อว่า ประสบการณ์และความสนใจของเราเอง อาจจะมีประโยชน์บ้างเล็กๆน้อยๆของใครบางคนที่ได้ผ่านเข้ามาอ่านเช่นกันมองโลกผ่านเลนส์ บันทึกความทรงจำผ่านตัวอักษร"
|
|
|
|
|
|