ได้แชร์ประสบการณ์ย่อมดีกว่าการเก็บไว้คนเดียว
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2562
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
29 กรกฏาคม 2562
 
All Blogs
 

ความหมาย ทำวัตรเช้า อ่านแล้วจึงจะเข้าใจ

ทำวัตร หมายถึง การทำกิจที่พึงทำตามหน้าที่ หรือตามธรรมเนียม เป็นคำย่อมาจากคำว่าทำกิจวัตรประจำอันเป็นธรรมเนียมปกติ เรียกการไหว้พระสวดมนต์ของพระตามปกติในตอนเช้าและตอนเย็นหรือตอนค่ำว่า ทำวัตรเช้า และ ทำวัตรเย็น


 

(เฉพาะ)บทคำแปลทำวัตรเช้า ไม่มีภาษาบาลี เน้นอ่านและเข้าใจง่าย เพราะบทสวดมนต์พร้อมคำแปลคงจะมีมากอยู่แล้ว กล่าวง่ายๆคือ ตัดภาษาบาลีออก
คงไว้อ่านเพื่อง่ายต่อความเข้าใจ 

“เพื่อคนรักการอ่าน”

วันนี้เราจะมาอ่านคำแปลง่ายๆแบบเข้าใจโดยภาษาไทย ที่แปลจาก บาลีมาแล้ว โดยส่วนตัว เราเข้าถึง(ความหมายของคำว่าเข้าถึง ก็คือ เข้าใจ)
คำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า โดย ภาษาที่แปลมาแล้ว
จึงอยากจะบันทึกไว้อ่าน อาจมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย
สำหรับคนชอบอ่านเช่นเดียวกัน แต่ก็มิได้ละทิ้ง ภาษาบาลี
หรือละทิ้งการสวดมนต์แต่อย่างใด แต่เพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น
หากผิดพลาดทางความคิดและการนำเสนอ ขอกราบอภัยมา ณ ที่นี้ 

 “ทำวัตรเช้าพร้อมบทแผ่เมตตา ฉบับแปลมาเพื่ออ่าน”

คำบูชาพระรัตนตรัย

พระพุทธ

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น พระองค์ใด,เป็นพระอรหันต์,ดับเพลิงกิเลส เพลิงทุกข์สิ้นเชิง,
ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง

พระธรรม

พระธรรม เป็นธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์ใด, ตรัสไว้ดีแล้ว

พระสงฆ์

พระสงฆ์สาวก,ของพระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์ใด, ปฏิบัติดีแล้ว

ข้าพเจ้าทั้งหลาย, ขอบูชาอย่างยิ่ง, ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น พร้อมทั้งพระธรรมและพระสงฆ์  ด้วยเครื่องสักการะทั้งหลายเหล่านี้,
อันยกขึ้นตามสมควรแล้ว  อย่างไร

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ, พระผู้มีพระภาคเจ้า  แม้ปรินิพพานนานแล้ว,
ทรงสร้างคุณอันสำเร็จประโยชน์  ไว้แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย.
ทรงมีพระหฤทัยอนุเคราะห์แก่พวกข้าพเจ้า อันเป็นชนรุ่นหลัง

ขอพระผู้มีพระภาคเจ้า จงรับเครื่องสักการะ อันเป็นบรรณาการ 
ของคนยาก-ทั้งหลายเหล่านี้

เพื่อประโยชน์และความสุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ตลอดกาลนาน เทอญฯ
 

พระผู้มีพระภาคเจ้า, เป็นพระอรหันต์, ดับเพลิงกิเลส  เพลิงทุกข์สิ้นเชิง, 

ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง

พระพุทธ

ข้าพเจ้าอภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้า, ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน (กราบ)

พระธรรม

พระธรรมเป็นธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้า, ตรัสไว้ดีแล้ว 

ข้าพเจ้านมัสการพระธรรม (กราบ)

พระสงฆ์

พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า, ปฏิบัติดีแล้ว

ข้าพเจ้านอบน้อมพระสงฆ์ (กราบ)

 

พระพุทธ

เชิญเถิด เราทั้งหลาย ทำความนอบน้อมอันเป็นส่วนเบื้องต้น
แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าเถิด

ความหมายของ :  นะโม ตัสสะ   ภะคะวะโต   อะระหะโต,สัมมาสัมพุทธัสสะ

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น

ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส

ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง.

พระตถาคตเจ้านั้น  พระองค์ใด

เป็นผู้ไกลจากกิเลส

เป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง

เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ

เป็นผู้ไปแล้วด้วยดี

เป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง

เป็นผู้สามารถฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้

อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า

เป็นครูผู้สอน  ของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย

เป็นผู้รู้  ผู้ตื่น  ผู้เบิกบานด้วยธรรม

เป็นผู้มีความจำเริญจำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์

พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ใด ,
ได้ทรงทำความดับทุกข์ให้แจ้งด้วยพระปัญญาอันยิ่งเองแล้ว ,
ทรงสอนโลกนี้พร้อมทั้งเทวดา , มาร , พรหม  และหมู่สัตว์ 
พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ ,
พร้อมทั้งเทวดาและมนุษย์ให้รู้ตาม

พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ใด , ทรงแสดงธรรมแล้ว

ไพเราะในเบื้องต้น ,ไพเราะในท่ามกลาง,ไพเราะในที่สุด

ทรงประกาศพรหมจรรย์  , คือแบบแห่งการปฏิบัติ  ,
อันประเสริฐบริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง ,
พร้อมทั้งอรรถ (คำอธิบาย)  , พร้อมทั้งพยัญชนะ (หัวข้อ)

ข้าพเจ้าบูชาอย่างยิ่ง  เฉพาะพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น

ข้าพเจ้านอบน้อมพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  ด้วยเศียรเกล้า

(กราบระลึกพระพุทธคุณ)

พระธรรม

เชิญเถิด เราทั้งหลาย ทำความชมเชยเฉพาะพระธรรมเถิด

พระธรรมนั้นใด, เป็นสิ่งที่พระผู้มี  พระภาคเจ้า  ได้ตรัสไว้ดีแล้ว

เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติ,พึงเห็นได้ด้วยตนเอง

เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ และให้ผลได้  ไม่จำกัดกาล

เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกะผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด

เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว

เป็นสิ่งที่ผู้รู้  ก็รู้ได้เฉพาะตน

ข้าพเจ้าบูชาอย่างยิ่ง เฉพาะพระธรรมนั้น

ข้าพเจ้านอบน้อมพระธรรมนั้น ด้วยเศียรเกล้า

  (กราบระลึกพระธรรม)    

พระสงฆ์

เชิญเถิด เราทั้งหลาย ทำความชมเชยเฉพาะพระสงฆ์เถิด

สงฆ์สาวก,ของพระผู้มีพระ ภาคเจ้านั้นหมู่ใด ปฏิบัติดีแล้ว

สงฆ์สาวก,ของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด ปฏิบัติตรงแล้ว

สงฆ์สาวก,ของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด, ปฏิบัติเพื่อรู้ธรรม 
เป็นเครื่องออกจากทุกข์แล้ว

สงฆ์สาวก,ของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด, ปฏิบัติสมควรแล้ว

ได้แก่บุคคลเหล่านี้คือ คู่แห่งบุรุษ ๔ คู่, นับเรียงตัวบุรุษได้ ๘ บุรุษ

นั่นแหละสงฆ์สาวก ของพระผู้มีพระภาคเจ้า
เป็นสงฆ์ควรแก่สักการะ ที่เขานำมาบูชา

เป็นสงฆ์ควรแก่สักการะ  ที่เขาจัดไว้ต้อนรับ เป็นผู้ควรรับทักษิณาทาน

เป็นผู้ที่บุคคลทั่วไป  ควรทำอัญชลี เป็นเนื้อนาบุญของโลก, ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า

ข้าพเจ้าบูชาอย่างยิ่ง เฉพาะพระสงฆ์หมู่นั้น
ข้าพเจ้านอบน้อมพระสงฆ์หมู่นั้น  ด้วยเศียรเกล้า

(กราบระลึกพระสังฆคุณ)

พระรัตนตรัย

เชิญเถิด เราทั้งหลาย กล่าวคำนอบน้อมพระรัตนตรัยและบาลี
ที่กำหนดวัตถุเครื่องแสดงความสังเวชเถิด

 

พระพุทธเจ้าผู้บริสุทธิ์ มีพระกรุณา  ดุจห้วงมหรรณพ พระองค์ใด
มีตาคือญาณอันประเสริฐหมดจดถึงที่สุด เป็นผู้ฆ่าเสียซึ่งบาป 
และอุปกิเลสของโลก ข้าพเจ้าไหว้พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น โดยใจเคารพเอื้อเฟื้อ พระธรรมของพระศาสดา สว่างรุ่งเรืองเปรียบดวงประทีป จำแนกประเภท คือ มรรค ผล นิพพาน, ส่วนใด ซึ่งเป็นตัวโลกุตตระ,
และส่วนใดที่ชี้แนวแห่งโลกุตตระนั้น ข้าพเจ้าไหว้พระธรรมนั้น
โดยใจเคารพเอื้อเฟื้อ พระสงฆ์เป็นนาบุญอันยิ่งใหญ่  กว่านาบุญอันดีทั้งหลาย เป็นผู้เห็นพระนิพพาน, ตรัสรู้ตามพระสุคต, หมู่ใด
เป็นผู้ละกิเลสเครื่องโลเล เป็นพระอริยเจ้า มีปัญญาดี 

ข้าพเจ้าไหว้พระสงฆ์หมู่นั้นโดยใจเคารพเอื้อเฟื้อ
บุญใดที่ข้าพเจ้าผู้ไหว้อยู่ซึ่งวัตถุสาม, คือพระรัตนตรัย 
อันควรบูชายิ่งโดยส่วนเดียว,ได้กระทำแล้วเป็นอย่างยิ่งเช่นนี้,
ขออุปัทวะ(ความชั่ว) ทั้งหลาย,จงอย่ามีแก่ข้าพเจ้าเลย,
ด้วยอำนาจความสำเร็จอันเกิดจากบุญนั้น

 

พระตถาคตเจ้า  เกิดขึ้นแล้วในโลกนี้ เป็นผู้ไกลจากกิเลส
ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง 

และพระธรรมที่ทรงแสดง  เป็นธรรมเครื่องออกจากทุกข์ เป็นเครื่องสงบกิเลส, เป็นไปเพื่อปรินิพพาน เป็นไปเพื่อความรู้พร้อม, เป็นธรรมที่พระสุคตประกาศ
พวกเราเมื่อได้ฟังธรรมนั้นแล้ว, จึงได้รู้อย่างนี้ว่า แม้ความเกิดก็เป็นทุกข์ ,
แม้ความแก่ก็เป็นทุกข์,แม้ความตายก็เป็นทุกข์,แม้ความโศก ความร่ำไรรำพัน ความไม่สบายกาย   ความไม่สบายใจ ความคับแค้นใจ ก็เป็นทุกข์ ,
ความประสบกับสิ่งไม่เป็นที่รัก  ที่พอใจ ก็เป็นทุกข์,
ความพลัดพรากจากสิ่งเป็นที่รัก ที่พอใจ ก็เป็นทุกข์,

มีความปรารถนาสิ่งใด  ไม่ได้สิ่งนั้น  นั่นก็เป็นทุกข์,

ว่าโดยย่อ อุปาทานขันธ์ทั้ง ๕ เป็นตัวทุกข์ 

ได้แก่สิ่งเหล่านี้คือ 

ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่น คือรูป

ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่น คือเวทนา

ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่น คือสัญญา

ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่น คือสังขาร

ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่น คือวิญญาณ
 

เพื่อให้สาวกกำหนดรอบรู้ อุปาทานขันธ์เหล่านี้เอง จึงพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น
เมื่อยังทรงพระชนม์อยู่ ย่อมทรงแนะนำสาวกทั้งหลาย, เช่นนี้เป็นส่วนมาก

อนึ่งคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น  ย่อมเป็นไปในสาวกทั้งหลาย,
ส่วนมาก  มีส่วน  คือ

การจำแนกอย่างนี้ว่า รูปไม่เที่ยง,เวทนาไม่เที่ยง,สัญญาไม่เที่ยง,
สังขารไม่เที่ยง,วิญญาณไม่เที่ยง,รูปไม่ใช่ตัวตน,เวทนาไม่ใช่ตัวตน,
สัญญาไม่ใช่ตัวตน,สังขารไม่ใช่ตัวตน,วิญญาณไม่ใช่ตัวตน,
สังขารทั้งหลายทั้งปวง ไม่เที่ยง,ธรรมทั้งหลายทั้งปวง ไม่ใช่ตัวตน, ดังนี้

พวกเราทั้งหลายเป็นผู้ถูกครอบงำแล้ว โดยความเกิด,
โดยความแก่และความตาย,โดยความโศก ความร่ำไรรำพัน
ความไม่สบายกาย  ความไม่สบายใจ ความคับแค้นใจทั้งหลาย,
เป็นผู้ถูกความทุกข์หยั่งเอาแล้ว,เป็นผู้มีความทุกข์เป็นเบื้องหน้าแล้ว,
ทำไฉนการทำที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้, จะพึงปรากฏชัดแก่เราได้ 

 

สำหรับ พระภิกษุ – สามเณรสวด

 

เราทั้งหลาย อุทิศเฉพาะพระผู้มีพระภาคเจ้า, ผู้ไกลจากกิเลส 
ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง, แม้ปรินิพพานนานแล้ว,
พระองค์นั้น เป็นผู้มีศรัทธา ออกบวชจากเรือน ไม่เกี่ยวข้องด้วยเรือนแล้ว

ประพฤติอยู่ซึ่งพรหมจรรย์ ในพระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้น
ถึงพร้อมด้วยสิกขาและธรรมเป็นเครื่องเลี้ยงชีวิตของภิกษุทั้งหลาย
ขอให้พรหมจรรย์ของเราทั้งหลายนั้น,
จงเป็นไปเพื่อการทำที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ เทอญ

 

สำหรับอุบาสก, อุบาสิกา

 

เราทั้งหลาย ผู้ถึงแล้วซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้า
แม้ปรินิพพานนานแล้วพระองค์นั้น เป็นสรณะ

ถึงพระธรรมด้วย ถึงพระสงฆ์ด้วย ,จักทำในใจอยู่ ปฏิบัติตามอยู่
ซึ่งคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ตามสติกำลัง,
ขอให้ความปฏิบัตินั้นๆ ของเราทั้งหลาย,
จงเป็นไปเพื่อการทำที่สุด แห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ เทอญ

(จบคำทำวัตรเช้า)

วันคืนล่วงไป....ล่วงไป
เรากำลังทำอะไรอยู่

 

บทแผ่เมตตาให้แก่ตนเอง

   ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข
   ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากความทุกข์
  ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากเวร
  ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง
  ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากความทุกข์กายทุกใจ
  ขอให้ข้าพเจ้าจงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด

 

บทแผ่เมตตาให้ผู้อื่น  

ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงถึงความสุข ปราศจากความทุกข์ ไม่มีเวร ไม่มีภัย
ไม่มีความคับแค้นใจ จงมีความสุขกายสุขใจ
รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งปวงเถิดฯ    


บทแผ่เมตตาทั่วไป

 สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
  จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
 จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
จงมีแต่ความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด



สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีกรรมเป็นของของตน มีกรรมเป็นผู้ให้ผล
มีกรรมเป็นผู้ติดตาม มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย
จักทำอันใดไว้ เป็นบุญหรือเป็นบาป จักต้องเป็นผู้ได้รับผลของกรรมนั้นๆสืบไป

จงเตือนตนด้วยตนเอง


ด้วยกิเลสตัณหาบังตาบังใจ
มนุษย์ส่วนใหญ่ ไม่รู้ตัวเองทำผิดทำชั่ว
ถ้าคนอื่นไม่เตือนก็ไม่มีวันรู้ตัว 
เมื่อเสพกิเลสตัณหานานวันเข้า ยิ่งถล่ำจมปลักโคลนแห่งกิเลสจนยากที่จะถอนตัวขึ้น
เหมือนมด ตอมน้ำตาลปึกหลงรสหวานของมัน ในที่สุดขาติดความหนือของน้ำตาลขึ้นไม่ได้
จึงตายอยู่ตรงนั้นเอง 
ผู้หลักผู้ใหญ่หรือผู้เป็นหัวหน้าก็เช่นกัน ทำอะไรแล้วแม่เป็นเรื่องผิดเรื่องพลาด 
ลูกน้องหรือคนอื่นไหนเลยจะบังอาจกล้าตักเตือน ได้แต่กล้ำกลืนฝืนข่มอยู่ร่วมกันไป

ปล่อยให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามกฎแห่งกรรม

ดังน้ันแล้ว.........

ตนเตือนตนของตนให้พ้นผิด
ตนเตือนจิตตนได้ใครจะเหมือน
ตนเตือนตนไม่ได้ใครจะเตือน
อย่าแชเชือนเตือนตนให้พ้นภัย

ด้วยความระลึกถึง : คุณย่า นวลจันร์ พันธ์ปรีชา 
29 กรกฎาคม 2555 ถึง 29 กรกฎาคม 2562




 

Create Date : 29 กรกฎาคม 2562
0 comments
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2562 16:36:25 น.
Counter : 1157 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สมาชิกหมายเลข 5236191
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เข้าใจว่าการเขียนบล็อก ก็คงเป็นการแชร์ประสบการณ์ รวมไปจนถึงความสนใจของแต่ละคน กระมัง? ประสบการณ์เล็กๆ ของฉัน บนโลกใบใหญ่ๆ
ยังมีเรื่องราวอีกมากมายบนโลกใบใหญ่ๆใบนี้ ซึ่งเราสามารถรู้ได้เพียงแค่เรารู้จัก "Google" แต่ทว่า "Google" ไม่สามารถบอกความรู้สึกของมันได้
เรื่องราวบางเรื่องถึงแม้ว่าเราไม่ได้ประสบมาเอง หรือ อาจไม่ได้เป็นสิ่งที่เราสนใจ
มาก่อน แต่เมื่อเราบังเอิญได้สัมผัสผ่านการบอกเล่าของแต่ละท่าน มันเปิดโลกทัศน์ของเราได้อย่างดีเลยทีเดียว และมันดีตรงที่ เราไม่ต้องสร้างภาพ และ เราไม่สามารถรู้จักทุกๆคนบนโลก แต่เราสามารถรู้ตัวตนของแต่ละคนตามเรื่องราวในแต่ละ Blog เราไม่ต้องรู้จักกัน แต่เราสามารถท่องโลกอินเตอร์เน็ตอย่างสนุกและเพลินไปได้ในประสบการณ์ของคนอื่น และ บางครั้งที่เราได้เข้าไปอ่านบล็อคของท่านอื่นๆ มันก็เป็นการเปิดประสบการณ์ของเราอย่างดียิ่งเลยทีเดียว และเผื่อว่า ประสบการณ์และความสนใจของเราเอง อาจจะมีประโยชน์บ้างเล็กๆน้อยๆของใครบางคนที่ได้ผ่านเข้ามาอ่านเช่นกัน”มองโลกผ่านเลนส์ บันทึกความทรงจำผ่านตัวอักษร"
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 5236191's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.