|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
...New year trip @ Kyoto...
...เกียวโต (Kyoto)...
...ได้ฤกษ์อัพบล๊อคซะที...หลังจากที่หายไปนานสองเดือน...หุหุ...เราจะพากันไปเที่ยวแถบคันไซ...เกียวโต...โกเบ...โอซาก้า...นาราและฮิเมจิ...เริ่มท่องเที่ยวกันตั้งแต่วันที่ 28 - 31 ธ.ค. 2552 ไปทีต้องเที่ยวให้คุ้ม...ว่าแล้วก็ไปดูที่แรกกันเลยเจ้าค่ะ...
...เดินทางโดยรสบัส...จากนาโงย่า...ถึงเกียวโต....ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง...และนี่คือสถานีเกียวโต...มิวนัดเจอกับเพื่อนด้วย...เป็นเพื่อนสมัยเรียนม.ปลายด้วยกัน...เค้าได้ทุนมาเรียนต่อที่นี่..เลยได้มีโอกาสเจอกัน....ในรูปเป็นพายหน้าต่างๆ...แต่เป็นของปลอม...ถึงจะเป็นของปลอมก็ทำให้น้ำลายไหลได้เหมือนกันเนาะ...
...เพื่อนที่น่ารักก็ทำตัวเป็นไกด์ที่แสนดี..พาเราเที่ยวกรุงเกียวโตยามราตรี...เพื่อนก็พาไปเดินย่าน...นิโจ..ชิโจและซังโจ...ศาลเจ้าเทมมังกวือ...อยู่ในย่านซังโจ...เราเลยเข้าไปนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์และขอพรกันหน่อย...
...ย่านชิโจ...เป็นแหล่งช๊อปปิ้ง...มีสินค้าต่าง ๆ มากมาย...หลากหลายรูปแบบ..ทั้งของกิน..ของใช้...มิวเลยสอยพวงกุญแจโดนัทมาซะหนึ่งอัน...น่ากินดี...เหมือนของกินมากๆ...
...เช้าวันที่ 29 ธ.ค. 52 ก็ประเดิมที่แรกเลย...นั่งบัสในเกียวโต...โดยเราซื้อตั๋ววัน...500 เยนเอง..ขึ้นได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง...แต่ว่าต้องดูให้ดี...มีบางสายที่บัตรนี้ใช้ไม่ได้...นั่งจากเกียวโตเอคิ..มาลงป้าย kiyomizu-michi แล้วเดินต่ออีกหน่อย...ก็จะถึง...วัดคิโยมิสึเดระ (Kiyomizudera Tample)
...เดินจากป้ายมาประมาณ 10 - 15 นาที...ก็จะถึงด้านหน้าวัด..เดินขึ้นไปอีกหน่อย..จะเห็นเจดีย์ 3 ชั้นหลังใหญ่ที่ตั้งตะหง่านอยู่...ชื่อว่า ...เจดีย์ซันจุโนโตะ...แล้วเราก็เดินไปซื้อตั๋วเข้าชมภายในวัดกัน...
...ระเบียงของศาลาหลังใหญ่นี้จะเป็นที่ที่ขึ้นชื่อของที่นี่...ด้านหลังของศาลาหลังใหญ่นี้มีศาจเจ้าของวัดอยู่ด้วย...ชื่อ...ศาลเจ้าจิชู...เป็นศาลเจ้าแห่งความรักและความราบรื่นในชีวิตแต่งงาน...
...ด้านล่าง...มีแม่น้ำสามสาย...เป็นน้ำซับธรรมชาติไหลลงมาจากยอดเขานานนับพันปี...โดยมีความเชื่อกันว่า น้ำสายที่ 1 ถ้าใครได้ดื่มจะประสบความสำเร็จด้านการศึกษา...สายที่ 2 จะสมหวันในความรัก...สายที่ 3 จะมีสุขภาพแข็งแรง...มิวและคุณแฟนก็ดื่มทั้งสามสายเลย...หุหุ...หลังจากนั้นก็เดินทางต่อ...
...สถานที่ต่อไปคือ...วัดกินคะคุจิ(Ginkakuji Temple) หรือวัดพลับพลาเงิน..หรือวัดเงิน..แค่ทางเข้าก็สวยแล้ว...เป็นต้นไม้ตัดตกแต่งประดับสองข้างทางเดิน...เข้าไปก็เห็นกองกรวดสีขาว...
...วัดกินคะคุจิ(ginkakuji Temple) วัดพลับพลาเงิน..หรือวัดเงิน...สร้างโดยโชกุนโยชิมาเสะ อาชิคางะ..เมื่อปี พ.ศ. 2025 ตั้งใจจะห่อตัวพลับพลาด้วยเงินทั้งหลัง...ให้คู่กับวัดพลับพลาทองคินคะคุจิ(Kinkakuji Temple) แต่ท่านก็มาเสียชีวิตไปซะก่อน...ก็เลยยังไม่ทันหุ้มเลย...บนหลังคามีรูปนกฟินิกซ์ทาจากสำริด...บรรยากาศภายในร่มรื่นมาก...จัดสวยได้สวยงาม...มีพื้นทรายกับกองกรวดสีขาวกองอยู่หน้าพลับพลา...เขาว่าเอาไว้ให้แสงจันทร์ได้ส่องสะท้อน...ให้สว่างกระจายไปทั่วบริเวณ...
...แต่วันที่ไป...ตัวพลับพลา..ทำการปิดปรับปรุงอยู่...ก็เลยได้แต่ถ่ายไกลๆ...หุหุ...หลังจากนั้นเราก็เดินทางต่อ..ไปสถานที่ต่อไป...
...สถานที่ต่อไปคือ...วัดคินคะคุจิ(Kinkakuji Temple) วัดพลับพลาทอง..หรือวัดทอง...ตอนที่เราไปถึงเป็นช่วงเวลาบ่ายแก่ๆ..แสงอาทิตย์กำลังส่องตัวเรือน...ทำให้ตัวพลับพลาเปล่งประกายสวยงามมากๆ...ยิ่งสะท้อนกับน้ำในสระเรียวโกะ(ซึ่งแปลว่าสระสะท้อน)ด้วยแล้ว..ยิ่งสวยขึ้นไปอีก...ผู้คนก็เยอะแยะมากมาย...มิวและพี่เน็ทต้องหามุมเหมาะ ๆที่จะเก็บภาพเป็นที่ระลึกกัน...
...เรื่องราวในภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง "อิคคิวซัง"เณรน้อยเจ้าปัญญา..ก็จำลองเรื่องราวเหตุการณ์ของศาลาทองในวัดนี้นี่แหละ...ตัวศาลามีทั้งหมด 3 ชั้น..แต่ละชั้นก็ใช้ศิลปะการก่อสร้างและตกแต่งที่แตกต่างกัน...นั่นคือ..ชั้นบนสุด..ชั้นที่ 3 (Shinden Zukuri) สร้างตามแบบพระราชวัง..เป็นที่อยู่ของท่านโชกุน...ชั้นที่ 2 (Buke Zukuri) สร้างตามแบบบ้านซามูไร...เป็นที่พักของซามูไรผู้อารักขาท่านโชกุน และชั้นล่าง สร้างตามแบบวัดพุทธในนิกายเซน...
...ภายในวัดก็ตกแต่งสวนแบบญี่ปุ่น...มีรูปปั้นคล้ายพระ..เห็นมีแต่คนพยายามโยนเหรียญให้ลงขัน...มิวกับพี่เน็ทก็โยนด้วย..แต่ไม่รู้ว่าโยนลงแล้วจะเป็นอย่างไร...เข้าสุภาษิต "เข้าเมืองตาหลิ่ว...ต้องหลิ่วตาตาม"...อิอิ...แล้วเราก็เดินทางต่อ
...สถานที่ต่อไป...ตอนนั่งบนรถบัสก็ตัดสินใจระหว่างไปปราสาทนิโจ(Nijo Castle)หรือว่าจะไปวัดเท็นเรียวจิ(Tenryuji Temple) กันดี..ตัดสินใจไปวัดเท็นเรียวจิละกัน...อยากไปถ่ายรูปกับดงไผ่...ก็เลยนั่งบัสไปย่นอาราชิยาม่า(Arashiyama) ..แต่ตอนไปดันหลงทิศ..เดินข้ามสะพานโทเง็ตสึเคียว(Togetsukyo) ไปอีกฝาก...กว่าจะเดินกลับมา...วัดก็ปิดไปซะแล้ว...แงๆๆ...อดไปถ่ายรูปกับดงไผ่เลย...แต่ไม่เป็นไร...เรามีเป้าหมายสุดท้าย...
...สถานที่สุดท้ายสำหรับวันนี้ก็คือ...ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Taisha Shrine) หรือศาลเจ้าพ่อจิ้งจอกขาว...สร้างขึ้นโดยชาวนาเพื่อบูชาสุนัขจิ้งจอกที่เชื่อกันว่าเป็นฑูตส่งสารของเทพเจ้าแห่งการเก็บเกี่ยว....มาถึงก็มืดซะแล้ว...ต้องเปิด ISO เยอะๆ...ดีนะที่เอาขาตั้งกล้องไปด้วย...หุหุ
...ที่มาที่นี่ก็เพื่อที่จะมาดูเสาโทริอินี่แหละ...ที่นี่มีเสาโทริอินับหมื่นคู่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา..ตั้งเรียงกันจนกลายเป็นอุโมงค์เสาโทริอิ...หลากหลายขนาดและรูปทรง...ตั้งอยู่กันเป็นแนวเป็นกลุ่มหลายเส้นทาง...รวมกันแล้วได้ความยาวของอุโมงค์ที่ว่า ราว 4 กิโลเมตร...มิวกับพี่เน็ทเดินเข้าไปแค่นิดหน่อย...ไม่กล้าเข้าไปลึกมาก..มันมืดแล้ว...น่ากลัว...ถ้าจะเดินให้ครบเส้นทางจริงๆ เห็นว่าต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว....
...จบภารกิจวันแรก...เล่นเอาเราทั้งคู่เหนื่อยเลย...เดินมาก...แต่ก็สนุกมากเหมือนกัน...วันต่อไป..จะพาไปตะลุยกับอีกสี่เมืองเลยทีเดียว...มิวว่าวันนี้เที่ยวเยอะแล้วนะ...วันรุ่งขึ้น...ไปเยอะยิ่งกว่า....แต่ก็มันดีค่ะ....
Create Date : 02 มีนาคม 2553 |
|
13 comments |
Last Update : 4 มีนาคม 2553 16:45:57 น. |
Counter : 1976 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: พี่นก (Kukas ) 5 มีนาคม 2553 9:13:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: fahtsuki 10 มีนาคม 2553 20:01:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: Yamaka 13 มีนาคม 2553 9:56:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: พี่นก (Kukas ) 17 มีนาคม 2553 17:47:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: Yamaka 29 มีนาคม 2553 17:14:24 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ต้องมาอ่านบล็อคของมิวสิคเลยนะเนี่ย
เรายังไม่เคยไปเกียวโตเลยอ่ะ
ตอนนี้ก็ได้แต่ส่งฝาโออิชิไปชิงโชคเผื่อฟลุ๊ค
เราก็หายไปนานเหมือนกัน
เพราะเพิ่งเปลี่ยนที่ทำงานใหม่
ยังไงก็คิดถึงเหมือนเดิมน๊า