Why looking for true love, when it never exists in this cruel world.
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
27 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
ดูหนัง ดูละคร แล้วย้อนมาดู ทำไมกรูเหงาจังวะ

อ่ะนะ อ่ะนะ ช่วงนี้ว่างมากมาย เพื่อรอการเปลี่ยนแปลงเข้ามาในชีวิต พอว่างก็เลยเปิดโอกาสให้ทำอะไรหลายๆอย่าง ได้พัก ได้เคลียร์ตัวเอง ได้เปิดโอกาสให้ตัวเอง ได้ดูหนังมากๆ ได้ออกกำลังกายเต็มที่ ได้ทำอะไรหลายๆอย่าง ได้มีความสุข และเวลาทำให้ผมได้คิด

จะเขียนเรื่องนี้มานานแล้วอ่ะครับ แต่อ่ะนะจังหวะไม่เหมาะซักที พอมาถึงวันนี้นอกจากจะว่างเขียน แล้วยังมีอะไรหลายๆอย่างมาเติมเต็มในสมองและหัวใจให้รู้สึกว่าคงเขียนได้ดีกว่าถ้าเขียนก่อนหน้านี้แน่ๆ

ผมเป็นคนเหงาครับ แล้วไอ้ความเหงามันเป็นยังไง แล้วทำไมคนเราต้องเหงาด้วย ผมไม่ใช่นักปรัญชาที่ลุ่มลึกพอที่จะให้นิยามความเหงาได้อย่างตรงและครอบคลุม แต่ผมก็คิดว่าผมรู้จักความเหงาดีพอที่จะกล่าวถึงมัน ทำไมน่ะเหรอ เพราะไอ้ความเหงาเหมือนเพื่อนซักคนที่เราไม่ได้อยากรู้จักและอยากเจอซักเท่าไหร่ แต่เค้าก็ช่างสม่ำเสมอกับเราเหลือเกิน จนวันนึงเราผูกพันจนรู้สึกถึงอีกด้าน ความเหงาก็มีความสวยงามในรูปแบบของเค้า

ก็คงเหมือนที่เรารู้ๆกันอยู่มนุษย์เป็นสัตว์สังคม มนุษย์ไม่สามารถอยู่อย่างโดดเดี่ยวได้ ถ้าเราจะดูตามหลักความต้องการ 5 ขั้นของมนุษย์ในทฤษฎีของมาสโลว์แล้วจะเห็นได้ว่าพอมนุษย์เติมเต็มความต้องการขั้นพื้นฐานในการดำรงชีวิตแล้ว มนุษย์ก็ต้องการความรัก และการยอมรับจากคนอื่นๆ

ดังนั้นเป็นที่แน่นอนว่าถ้าเราต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว เราจะเกิดความรู้สึกไม่มั่นคงในการใช้ชีวิต นั่นแหละคือความเหงา แต่ความเหงามันคือความรู้สึกภายในจิตใจ ถึงแม้ว่ารอบข้างเราจะเต็มไปด้วยคนมากมาย แต่เราก็ยังรู้สึกเหงาได้ ถ้าภายในใจเรามันโดดเดี่ยว ในขณะที่แม้ว่าในบางครั้งเราจะอยู่ตามลำพัง แต่ถ้าในหัวใจมันอัดแน่นไปด้วยผู้คนมากมาย ก็ยากเหลือเกินที่ความเหงาจะมาเยี่ยมเยียน

เคยมั้ยครับที่จะรู้สึกว่าคนบนโลกมีกว่าหกพันล้านแต่ทำไมไม่มีใครเลยซักคนที่เป็นคนนั้นของเรา
เคยมั้ยครับที่โลกกว้างใหญ่ใบนี้ แต่กลับเหมือนกับว่าไม่มีที่ไหนเลยที่เหมาะกับเรา
แล้วอะไรจะแย่ไปกว่า เวลาที่เราต้องการใครซักคน ใครก็ได้แค่ซักคน แต่ไม่มีใครเลยจะพร้อมอยู่กับเราในตอนนั้น

นั่นหล่ะความเหงาสำหรับผม ประโยค 3 ประโยคนั้นอยู่ๆมันก็ดังก้องขึ้นมาในหัวผม ในเย็นวันศุกร์วันนึง ความรู้สึกตอนนั้นมันช่างโดดเดี่ยวและเหงาจับใจจริงๆครับ

มันก็คงเหมือนที่ เจเรมี่ ตัวละครของจูด ลอว์บอกไว้ใน my blueberry nights ที่ว่า
"There's nothing wrong with the Blueberry Pie, just people make other choices. You can't blame the Blueberry Pie, it's just... no one wants it."

พายบลูเบอร์รี่ไม่ผิดอะไรเลยที่ไม่มีใครเลือกแล้วต้องเหลือทิ้งทุกวัน แค่คนเราเลือกจะสั่งอย่างอื่นแค่นั้นเอง แล้วทำไมเค้าถึงยังทำพายบลูเบอร์รี่ไว้ทุกวัน ไม่เลิกทำไปล่ะ ก็เหมือนที่บอกพายบลูเบอร์รี่ไม่ผิด มันก็แค่รอวันที่จะมีใครซักคนเห็นค่ามัน แล้วก็สั่งมันซักชิ้นก็แค่นั้น

ผมมันก็คงเหมือนพายบลูเบอร์รี่ที่ไม่มีใครสั่งมานานแล้ว แต่ก็ยังรอ รอว่าซักวันคงมีใครเห็นค่า

แต่น่าแปลกนะ ที่เวลามีใครมาสั่งพายบลูเบอร์รี่ชิ้นนี้ แทนที่จะกระโจนเข้าหาคนที่เห็นค่า ผมกลับรู้สึกไม่มั่นใจ พายบลูเบอร์รี่ถูกวางทิ้งมานานเกินไป จนไม่แน่ใจว่าคนที่สั่งต้องการที่จะกินมันไปตลอด หรือแค่กัดเพียงคำเดียวแล้วก็โยนลงถังขยะ

ก็อย่างนี้แหละนะ เพราะมันเหงาไง เลยต้องถามตัวเอง คำถามที่ผมเชื่อว่าคนเหงา คนขาดความอบอุ่น คนที่เคยสูญเสียความรักทุกคนเคยถามตัวเอง และเป็นคำถามที่มิวถามตัวเองเหมือนกันในรักแห่งสยาม

ระหว่างการเลือกที่จะไม่รักใครเลยอยู่อย่างโดดเดี่ยว กับรักแต่ก็รู้ว่าวันนึงต้องลาจาก ต้องพลัดพราก และแน่นอนต้องเจ็บ คนเราจะเลือกอะไร

ถ้าไม่รัก ก็ไม่ต้องเจ็บ
แต่ถ้าไม่รัก แน่นอนก็ไม่มีโอกาสให้รับรู้ความรู้สึกพิเศษที่รู้สึกดีดีในหัวใจ

หัวใจดวงนี้มันเปราะบาง และไม่พร้อมเจ็บ เพราะมันเคยเจ็บมาแล้ว จนต้องสร้างเกราะป้องกันตัวเอง ปิดหัวใจตัวเองจากคนอื่นๆ สร้างกำแพงที่สูงลิบแล้วขังตัวเองไว้ข้างใน

เมื่อหัวใจมันโดดเดี่ยว ความเหงาก็เลยมาอยู่เป็นเพื่อน ยิ่งเหงายิ่งโดดเดี่ยว ก็ยิ่งปิดตัวเอง พายบลูเบอร์รี่ชิ้นนี้ก็ค่อยๆชืดลงเรื่อยๆ

นี่แหละความเหงาของผม



ปล พร่ามจังเลย หุหุหุ อ่ะนะ วันนี้มาโหมดนักมานุษยวิทยาที่ลุงหว่อง กา ไวมาลงประทับร่าง แล้วมีคนมาเซ่นด้วย CD ของ Damien Rice ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นนะครับ แค่อยากพร่าม ม่ะได้เป็นอะไร ไม่ต้องเป็นห่วงกันนะ

enjoy your day


Create Date : 27 มีนาคม 2551
Last Update : 27 มีนาคม 2551 18:07:16 น. 8 comments
Counter : 532 Pageviews.

 
.
ทำไมอ่านแล้ว
เหงาขึ้นมาอีกหลายโลเลยง่ะ


โดย: ซซ วันที่: 27 มีนาคม 2551 เวลา:19:11:37 น.  

 
You know,I once got the same feeling.'..

..While I was walking along the Rhine river in Germany with ten friends of mind. of course,I was not alone..actually a bit crowned..but i feel so lonely..really hate that kind of feeling....


โดย: Blue as Danube IP: 202.91.19.192 วันที่: 27 มีนาคม 2551 เวลา:20:19:46 น.  

 
เหงาไปมั๊ย
มีความรักสนุกนะ
แต่ข้อเสียของความรัก คือบางทีก็อดคิดถึงอารมณ์เหงาๆ แบบนี้ไม่ได้น่ะ



โดย: ก้วย IP: 202.5.95.205 วันที่: 30 มีนาคม 2551 เวลา:0:15:17 น.  

 
เห็นเอแน็งตกรอบ ชั้นก็คิดถึงแก

ไม่นึกว่าจะเข้ามาเห็นข้อความแสดงความเหงาของแก...อีกครั้ง

เด้ง..เอ๋ย

ความเหงามันไม่ใช่สิ่งเลวร้าย ชั้นว่าเป็นธรรมชาติอย่างนึงด้วยซ้ำไป ศิลปินหลายคนใช้มันสร้างงานดีๆ นักกีฬาหลายคนเปลี่ยนมันเป็นความมุ่งมั่น

ชั้นก็เหงา แต่ไม่เคยเอาความเหงามาปนความเศร้า หรืออีกที ความเหงาของชั้นมันไม่เคยเกี่ยวข้องกับความที่,..ไม่มีใครรู้ค่า เหมือน..บลูเบอรีพายชิ้นนั้น

ดู เอแน็งไว้แล้วสร้างตัวตนที่เข้มแข็งขึ้นมานะ โฮเด้ง

แองจีเอาใจช่วย


โดย: angy_11 วันที่: 2 เมษายน 2551 เวลา:15:45:28 น.  

 
^
^
ม่ะได้เป็นไรคร้าบบบบบ ก็เอาความเหงามาสร้างงานเขียนดีดีไง ไม่ได้เป็นไรจริงๆ เลิกเหงาแล้ว หุหุหุ

และอีกอย่าง
ตอนนี้พึ่งเริ่มงานใหม่นะครับ เลยม่ะมีเวลาแวะมาซักเท่าไหร่ ขอโทษที่ทำให้ทุกท่านเป็นห่วง เดี๋ยวจัดโต๊ะเสร็จ เข้าใจงาน กลับมาแน่ครับ รอนิดนะครับ

enjoy your day


โดย: Holden Caulfield IP: 124.120.199.213 วันที่: 2 เมษายน 2551 เวลา:20:47:16 น.  

 
แวะมาทักทาย เป็นเพื่อนแก้เหงา อิๆ


โดย: fedexfc วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:17:28:37 น.  

 
ว่าง มันก็ฟุ้งซ่านงี้แหละพี่เอ๊ย

ที่บริษัทตอนนี้ PD งานยุ่งไม่รู้จะพูดเป็นภาษาคนอย่างไรแล้ว สงสาร WT ไปเจอฤทธิ์คุณ TD เรื่องงานเลี้ยงประจำปี เซ็งเป็ดไปเลย มีเรื่องให้เม้าธ์มากมายอ่ะ

คิดถึงๆๆๆ


โดย: เนียนอ๋อง วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:0:14:02 น.  

 
แวะมาทักทายจ้ะ
ตามประสาคนไม่ค่อยเหงา
เพราะมันยุ่งอยู่ทั้งปีทั้งชาติ
เลยไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่
ว่าความเหงามันเป็นยังไง


โดย: เวสาตรี วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:46:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Holden Caulfield
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




There's nothing wrong with the Blueberry Pie,
just people make other choices.
You can't blame the Blueberry Pie,
it's just... no one wants it.

Friends' blogs
[Add Holden Caulfield's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.