Why looking for true love, when it never exists in this cruel world.
Group Blog
 
<<
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
12 เมษายน 2552
 
All Blogs
 
หมดเวลาคร่ำครวญ ได้เวลา "I Will Survive" พร้อมปฏิบัติการณ์กลับมาดูดีให้ได้ใน 1 เดือน

ไม่ว่าจะยาวขนาดไหน แต่หนังสือทุกเล่มมีตอนจบ และไม่ว่าตอนจบจะสุขหรือทุกข์ก็ตาม ตอนจบก็คือตอนจบ เราทุกคนต้องยอมรับมัน ผมต้องยอมรับมัน และก้าวต่อไป

แม้จะรู้สึกหวิวๆ แม้จะยังเจ็บ แต่ในเมื่อเค้ายังใช้ชีวิตปกติได้ แล้วทำไมผมจะทำมั่งไม่ได้ พอ เชิดใส่ให้กับเรื่องแย่ๆ ใขณะเดียวกันก็ได้ไปเจอที่เค้าแปลเพลง I wil survive แบบขำๆ แต่เออ มันโดนอ่ะ ไม่เคยเลยที่จะฟังเพลงนี้แล้วอินเท่านี้ ฟังแล้วอ่านแล้ว มันใช่เลย I wil survive

At first I was afraid, I was petrified
เบื้องต้น กูก็กลัว กูก็เกร็ง

Kept thinkin' I could never live without you by my side
นอยแดรก ว่าถ้ามรึงไป ชีวิตต้องหาไม่ต้องตายแหงๆ

But then I spent so many nights thinkin' how you did me wrong
แต่พอมาทบทวนอยู่หลายคืน......... ถึงวีรกรรมทั้งหลายของมรึง

And I grew strong and I learned how to get along
กูก็บรรลุ ว่าจะอยู่ต่อไปยังไง .............. แร้วพอกูกะลังจะไปได้

And so you're back from outer space
มรึงก็เสือกกลับมา

I just walked in to find you here with that sad look upon your face
แมร่ง มาตีหน้าเศร้าหลอนกันถึงบ้านเลย

I should have changed that stupid lock, I should have made you leave your key
เชี่ยเอ๊ย..รู้งี้น่าเปลี่ยนกุญแจไปนานแร้ว หรือไม่ยึดกุญแจมรึงคืนมาให้:-)จบจบ

If I'd have known for just one second you'd back to bother me
' ไมกู:แมร่งไม่เฉลียวสักนิดว่ามรึงจะคัมแบ็ค มามั่งวะ

Go on now, go walk out the door
ชิ่ว ไปเลยไอ้เวร

Just turn around now ‘cause you're not welcome anymore
ไปเลยไป มาทางไหนไปทางนั้น ไม่ต้องเสือกกะโหลกมาอีก

Weren't you the one who tried to hurt me with goodbye
ไมใช่มรึงเหรอ ที่เป็นคนบอกลา ให้น้ำตากูต้องเช็ดหัวเข่า

Did you think I'd crumble, did you think I'd lay down and die
นึกอะเด่ะ ว่ากูต้องคร่ำครวญหวนไห้อาลัยหา ว่ากูจะด่าวดิ้นสิ้นชีวาตายห่าตายโหง ถ้าไม่มีมรึง



** Oh, no, not I-I will survive
โอโนโอไม่ โทดที กูไม่ตาย

Oh, as long as I know how to love I know I'll stay alive
กูมั่นใจว่ากูยังรักเป็น ใจกูยังเต้น กูไม่ตายหรอก

I've got all my life to live and I've got all my love to give
ชีวิตยังต้องเดินไป หัวใจยังต้องรักอีก


And I'll survive, I will survive, hey, hey
กูไม่ตายหรอก กูไม่ตายเว้ย เฮ่ย เฮ่ย

It took all the strength I had not to fall apart
ใช้แรงทั้งหมด ทรงกายไม่ให้ล้ม

Kept tryin' hard to mend the pieces of my broken heart
หัวใจแมร่งโคตรยับเยิน จนเกือบเกินจะซ่อม

And I spent, oh, so many nights just feeling sorry for myself
กี่คืนต่อกี่คืนที่กูต้องทนระทมทุกข์

I used to cry, but now I hold my head up high
เออ กูต้องร้องไห้ แต่ตอนนี้สบาย กูเชิด กูเริด

And you see me, somebody new
ช่วยเบิกเนตรพินิจดูที่กูนี่ กูเป็นคนใหม่

I'm not that chained up little person still in love with you
ไม่ใช่อีของตาย อีทาสสวาทในเรือนใจ อีจำเลยรัก

And so you feel like droppin' in and just expect me to be free
ที่มรึงนึกจะมาทิ่มมาแทงมาแยงเมื่อไร ยังไงก็ได้ แล้วว่ะ

But now I'm savin' all my lovin' for someone who's lovin' me
กูเก็บรักไว้ให้คนที่รักกูดีกว่า


แล้วในเมื่อผมต้องอยู่ให้ได้ ต้องอยู่ให้ได้อย่างดีด้วย โอกาสเปิดแล้วนิ ช่วงที่ผ่านมาที่ไม่เคยเลยจะสนใจให้ความสำคัญ ให้เวลากับตัวเอง ไม่เคยให้ความสุขกับตัวเอง ตัวผมเองต้องมาทีหลังเสมอ ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ผมจะกลับมาดูแลร่างกายและจิตใจตัวผมเองอย่างเต็มที่ มีเวลาเป็นของตัวเองแล้วนี่

ตั้งเป้าไว้แล้วครับว่า 1 เดือนนี้เป็นเวลาที่ทุ่มเทให้กับตัวเอง ปฏิบัติการณ์โมตัวเอง เริ่มจากสลัดตัวขี้เกียจ แล้วไปออกกำลังกายทุกวัน ตอนที่วิ่งนะครับ ไม่เคยเลยที่จะมีความุ่งมั่นขนาดนี้ ปกติวิ่ง 10 นาทีก็เหนื่อยแล้ว แต่นี่วิ่ง 40 นาทียังสบายๆ หลังจากนั้นก็เล่นเวทให้ครบเซ็ต อก ไหล่ หลัง อก ไหล่ หลัง รู้สึกดีมากๆอ่ะครับ

จากที่เคยนอนดึก ก็พยายามนอนให้เร็วขึ้น นอนคืนละ 8 ชั่วโมง นอนให้เต็มที่ ไอ้อาการซ๊กม๊ก แบบว่าเนื่อยจัด กลับมาขี้เกียจแล้วขึ้นเตียงเลยยังไงก็ต้องเลิก ยังไงก็ต้องอาบน้ำล้างหน้าก่อนนอน

กินน้ำให้เยอะๆ กินจนกว่าจะฉี่ใส่ ไม่สีเหลือง จากที่ไม่ค่อยกินผักผลไม้เท่าไหร่ ก็พยายามกินให้มากขึ้น

เข้าไปหาข้อมูลที่โต๊ะเครื่องแป้ง เรื่องการดูแลตัวเองเก็บข้อมูลมาเยอะเลยอ่ะครับ หุหุหุ

หมดเวลาแล้วครับจะมาคร่ำครวญ ถึงเวลากลับมาเชิดหน้าสู้โลกได้อีกครั้งอย่างมั่นใจ

ปล ขอบคุณทุกกำลังใจนะครับ



enjoy your day



Create Date : 12 เมษายน 2552
Last Update : 12 เมษายน 2552 11:47:45 น. 8 comments
Counter : 531 Pageviews.

 
?????? At site
ขอบคุณสำหรับมทความดีดีครับวันผมมีเว็บไซค์เปิดตัวใหม่ มีชื่อว่า Diggเอาไว้ให้เพื่อนๆที่ต้องการคนเข้าิิblogเพิ่มขึ้น(พึ่งเปิดตัว)มีอะไรติชมได้นะครับ


โดย: prempcc วันที่: 12 เมษายน 2552 เวลา:12:21:52 น.  

 
เป็นกำลังใจให้ค่า แหมอยากทำได้มั่งจัง ทำตัวให้ดูดีเนี่ย

สู้สู้นะค้า


โดย: ดวงตาสวรรค์ วันที่: 12 เมษายน 2552 เวลา:12:23:43 น.  

 
สู้ๆนะคะ

ทำให้ได้นะ


โดย: โยเกิตมะนาว วันที่: 12 เมษายน 2552 เวลา:13:06:46 น.  

 
หุหุ
ภาวะเดียวกันเลยค่ะ
แต่ผ่านมาจะครึ่งปีแล้ว
ตอนนี้สบายหายห่วงทุกอย่างดีขึ้น

ยินดีด้วยนะคะ

ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ
แม้ว่าตอนที่อยู่กลางสายฝนเราจะนึกไม่ออกเลยว่ามันจะสวยงามได้อย่างไร

สู้ๆค่ะ
เป็นกำลังใจให้


โดย: yadadeeda12 วันที่: 12 เมษายน 2552 เวลา:13:47:56 น.  

 
เห็นด้วยทุกประการ อ่านแล้วขำมากมาย ตรงใจที่สุด แ_ร่งจะกลับมาทำไม สงสัย
ต้องกลับไปเปลี่ยนกุญแจใหม่ ชอบมากตรงที่บอกว่า ไม่ใช่อีของตาย อีทาสสวาทในเรือนใจ อีจำเลยรัก น่าร๊ากก ที่สุดคนเขียนเนี่ย


โดย: proud IP: 124.120.183.219 วันที่: 12 เมษายน 2552 เวลา:19:09:04 น.  

 
แปลได้ขำจริง ๆ ด้วยค่ะ


แถมเพลงนี้ยังเป็นกำลังใจได้ดีด้วย
สู้ ๆ นะคะ


โดย: โสดในซอย วันที่: 12 เมษายน 2552 เวลา:20:36:17 น.  

 
Welcome back to be the same one as you were!


โดย: zardamonoxication (zardamon ) วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:10:25:54 น.  

 
น้องเด้งจ๋าาาาาาา...

มาแนะนำให้ไปดู A Frozen Flower ครับ
มีดีมากกว่าฉาก ฉ. ที่หลายๆ คนฮือฮา...

ไปดูมาแล้ว... ชอบมาก


โดย: zardamonoxication (zardamon ) วันที่: 19 เมษายน 2552 เวลา:22:45:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Holden Caulfield
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




There's nothing wrong with the Blueberry Pie,
just people make other choices.
You can't blame the Blueberry Pie,
it's just... no one wants it.

Friends' blogs
[Add Holden Caulfield's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.