" เรื่องราวต่างๆเป็นดั่งทองคำในเทพนิยาย เมื่อคุณแจกจ่ายไปมากขึ้น คุณก็ได้รับกลับมามากขึ้น " พอลลี แมคไกวร์
Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
7 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
021. หัวใจแห่งความสำเร็จ : บทที่ 3.การเสริมสร้างบุคลิกต้องตาต้องใจ




บทที่ 3. การเสริมสร้างบุคลิกต้องตาต้องใจ





ในการสร้างความสำเร็จที่มั่นคง ก็คือ การสร้างบุคลิกต้องตาต้องใจ
บุคลิกที่ต้องตาต้องใจ ก็คือ ความดีพร้อมของคนเรา รวมแล้วเป็นบุคลิกที่ดียี่สิบห้าประการ ที่ท่านจะต้องปรับปรุงให้ดีขึ้น


1. ทัศนคติในทางสร้างสรรค์






ทัศนคติในทางสร้างสรรค์ เป็นทัศนคติที่ถูกต้องในทุกๆสถานการณ์ และ บ่อยครั้งจะประกอบด้วยสัญลักษณ์ทางอุปนิสัยบางอย่างของคำว่า ศรัทธา ความซื่อตรง ความหวัง การมองโลกในแง่ดี ความกล้าหาญ ความคิดริเริ่ม ความใจกว้าง ความอดทน การรู้จักกาละเทศะ ความเมตตากรุณา และ สามัญสำนึกที่ดี.

ทัศนคติในทางสร้างสรรค์เป็นลักษณะที่สำคัญของบุคลิกต้องตาต้องใจจริงๆแล้ว คือ หัวใจของหลักการแห่งความสำเร็จสิบเจ็ดประการ ทัศนคติในทางสร้างสรรค์มีอิทธิพลต่อน้ำเสียงของท่าน ลักษณะท่าทางของท่าน และ สีหน้าของท่าน มันจะขยายคำพูดทุกๆคำของท่าน และ กำหนดอารมณ์ความรู้สึกทุกอย่างของท่านด้วย มันมีผลต่อความคิดทุกอย่างของท่าน และ ต่อผลที่ความคิดที่ทำให้เกิดขึ้นกับท่าน







2. ความสามารถในการปรับตัว







ความสามารถในการปรับตัวของท่าน ให้เข้ากับสถานการณ์ หรือ วิกฤตการณ์ที่ผันแปรไปตลอดเวลา โดยปราศจากความสับสน หรือ ขาดการควบคุมตนเอง เป็นคุณสมบัติที่สำคัญในการต่อสู้เพื่อบรรลุความสำเร็จของท่าน

การเป็นคนที่มีความสามารถในการปรับตัวได้ดี หมายถึงว่า ท่านจะต้องทำตัวเหมือนกิ่งก่าปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมได้อย่างรวดเร็ว






แต่ มิได้หมายถึง การละทิ้งหลักการ หรือ เป้าหมายของท่านเสีย กิ้งก่านั้นยังคงเป็นกิ้งก่าอยู่วันยังค่ำ ไม่ว่าตัวของมันจะมีสีเขียว หรือ สีน้ำตาล

ความสามารถในการปรับตัวนั้น หมายถึง ท่านรักษาทัศนคติของท่านต่อสถานการณ์เอาไว้ได้ ไม่ว่ามันจะเลวร้ายหรือรุ่งโรจน์

ถ้าหากผลงานของท่านล้มเหลวในครั้งแรก อะไรที่ผิดพลาด? ถ้าหากท่านมีความสามารถในการปรับตัวนั่นแหละยิ่งใหญ่ เพราะท่านมีโอกาสที่จะเห็นข้อผิดพลาดที่จะปรับปรุงผลงาน หรือ การตลาดเสียแต่เนิ่นๆ และ เมื่อท่านมีทัศนคติในทางสร้างสรรค์อยู่ด้วย ท่านย่อมอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าด้วยซ้ำที่จะฉวยโอกาสนี้


ความสามารถในการปรับตัว ยังหมายถึง ในการทำธุรกิจทุกครั้งนั้น ท่านเข้าใจความต้องการ หรือ ข้อเรียกร้องของอีกฝ่ายหนึ่งว่าเป็นวิธีที่ท่านจะสามารถให้บริการที่ดีกว่าเป็นการตอบแทน ถ้าหากว่ามีใครบางคนต้องการให้ท่านส่งมอบสินค้าให้ก่อนกำหนดที่ท่านได้วางแผนไว้ ท่านย่อมสามารถเข้าใจได้ว่า เขาคือคนพิเศษที่จะต้องได้เช่นนั้น นี่แหละ คือ โอกาสที่ท่านจะได้ค้นพบว่า ท่านจะสามารถผลิตสินค้าได้เร็วขึ้น และ ดีขึ้นได้อย่างไร




3. ความจริงใจต่อเป้าหมาย







ไม่มีอะไรที่สามารถใช้แทนความรับผิดชอบที่แท้จริงต่อเป้าหมายสำคัญที่แน่นอนของท่านได้ ความจริงใจ หรือ ความไม่จริงใจต่อเป้าหมายของท่าน ย่อมแสดงออกให้เห็นอย่างเด่นชัดอยู่ในคำพูด และ การกระทำของท่านจนกระทั่งใครๆก็สามารถเห็นได้ ความไม่จริงใจย่อมปรากฏอยู่ในสีหน้าของท่าน ในแนวทางการสนทนา ในทุกสิ่งที่ท่านทำ ไม่ว่าท่านจะเสแสร้ง หรือ แสดงละครได้เก่งสักแค่ไหนก็ตาม



4. การตัดสินใจอย่างทันทีทันใด







ความอืดอาดเชื่องช้าไม่อาจจะกระตุ้นความนิยมได้ ในโลกที่เคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็วนี้ ใครที่มิได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วย่อมไม่สามารถตามขบวนพาเหรดได้ทัน

คนที่ประสพความสำเร็จย่อมตัดสินใจได้อย่างชัดเจนและรวดเร็ว และ เขาจะรู้สึกรำคาญและอึดอัดกับคนที่ไม่เป็นเช่นนั้น การตัดสินใจอย่างทันทีทีนใดเป็นนิสัยอย่างหนึ่ง และมันได้รับการส่งเสริมจากทัศนคติในทางสร้างสรรค์ของท่านซึ่งทำให้ท่านมีความเชื่อมั่น

มันผูกพันอย่างใกล้ชิดกับความจริงใจต่อเป้าหมายของท่าน ยิ่งท่านมีความมั่นใจในคุณค่าของเป้าหมายสำคัญที่แน่นอนของท่านมากเท่าใด ท่านก็ยิ่งตัดทางเลือกที่รบกวนจิตใจ และ เลือกเอาทางที่จะนำท่านตรงไปสู่จดหมายของท่านได้เร็วเท่านั้น







ถ้าหากทางเลือกของท่านอยู่ระหว่างกำไรเฉพาะหน้ากับสัมพันธภาพที่ดีกับลูกค้าของท่านในระยะยาวแล้ว ความจริงใจต่อเป้าหมายของท่านย่อมยอมให้ท่านทำการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว

โอกาสย่อมมีอยู่ในทุกหนทุกแห่งแต่มันมักจะหนีไปได้เร็ว แม้ว่าท่านจะตาคมพอที่จะมองเห็นมันได้ หากท่านปราศจากการตัดสินใจที่รวดเร็ว มันย่อมหลุดมือไป



5. ความมีมารยาท





คุณสมบัติที่ถูกที่สุด และ ให้กำไรได้มากที่สุดในโลกก็คือ ความมีมารยาท มันไม่ต้องลงทุนอะไรเลย นอกจากในชั่วขณะที่จะต้องแสดงออกมาเท่านั้น โชคไม่ดีเลยที่มันหาได้ยากยิ่งนักในปัจจุบัน

ดังนั้น มันจึงมีค่ามากมายเมื่อแสดงมันออกมา

ความมีมารยาท ก็ มิใช่อะไรมากไปกว่า "นิสัย" ให้ความเคารพต่อความรู้ของผู้อื่นในทุกๆสถานการณ์






นิสัย ก้าวออกไปนอกทางเพื่อที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ด้อยกว่า

นิสัย ควบคุมความเห็นแก่ตัวในทุกๆรูปแบบ จงอย่าได้กระทำผิดต่อกิริยามายาทที่เป็นข้อบังคับ

การรู้จักใช้ช้อนส้อมถูกวิธีบนโต๊ะอาหาร ย่อมไม่อาจที่จะชดเชยความผิดต่อประธานบริษัทที่ท่านสบประมาทเขาเข้าในระหว่างการสนทนาได้

ความมีมารยาทย่อมแสดงให้เห็นแววทัศนคติในทางสร้างสรรค์ของท่าน และ แสดงให้เห็นคุณค่าของจุดหมาย และ ความตั้งใจของท่าน


:มารยาท (มาระยาด) n.mannes, courtesy, politeness






6. การรู้จัก กาละ เทศะ






มันมีเวลาที่ถูกต้อง และ ไม่ถูกต้องสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง

การรู้จักกาละเทศะ ก็คือ นิสัยทำและพูดในสิ่งที่ถูกต้องในเวลาที่ถูกต้องสมควร

การรู้จักกาละเทศะ ใกล้ชิดกันกับความมีมารยาทจนแยกกันไม่ออก
มันเป็นทักษะที่หาค่ามิได้ สังเกตเห็นได้ง่าย ถ้าหากมันขาดไป เท่าๆกับที่มันมีอยู่


กาล (กาน, กาละ) n.time, used poetically or in literary contexts; an opportune moment, period, season

กาลเทศะ (กาละ เทศะ) (out of) place and season


ต่อไปนี้เป็นเรื่องพื้นๆ ที่คนเราแสดงให้เห็นถึงการไม่รู้จักกาละเทศะของตน

(1). การไม่ระวังน้ำเสียงของตน มักจะพูดเสียงห้าว ก่อกวนความรู้สึก

(2). การพูดอย่างไม่ยั้งคิด ในขณะที่น่าจะเงียบไว้ดีกว่า

(3). การพูดสอดแทรกขณะที่คนอื่นกำลังพูดอยู่

(4). การพูดถึงตัวเอง มากเกินไป

(5). ถามคำถามแบบอวดดี มักจะเน้นความสำคัญของตนเองต่อผู้อื่น

(6). ยกเรื่องที่ตนเองสนใจเข้าสอดเรื่องที่กำลังสนทนากันอยู่ทั้งที่เรื่องนั้นทำให้คนอื่นๆ กระอักกระอ่วน

(7). ไปในที่มิได้รับเชิญ

(8). คุยโตโอ้อวด

(9). เยาะเย้ย ค่านิยมของสังคมในเรื่อง เสื้อผ้า

(10). โทรศัพท์ไปหาผู้อื่นในเวลาที่ไม่สมควร

(11). การพูดคุยโทรศัพท์ที่เยิ่นเย้อในเรื่องที่ไม่สำคัญ

(12). เขียนจดหมายแสดงความสนิทสนมคุ้นเคยกับคนที่รู้จักเพียงแค่ผิวเผิน

(13). อวดรู้ไปเสียทุกเรื่อง โดยไม่รู้จักดูภูมิตนเอง

(14). ถามคำถามผู้อื่นแบบลองภูมิ

(15). บอกปัดการขอร้องของผู้อื่นด้วยท่าทางหยิ่งยะโส

(16). ดูหมิ่นผู้อื่นต่อหน้าเพื่อนฝูงของเขา

(17). ตำหนิติเตียน คนที่ไม่เห็นด้วยกับตน

(18). วิพากษ์วิจารณ์ความบกพร่องของผู้อื่น

(19). ต่อว่าลูกน้อง หรือ เพื่อนร่วมงาน ต่อหน้าผู้อื่น

(20). บ่นว่า เมื่อถูกปฏิเสธให้ความช่วยเหลือ

(21). อ้างความสนิทสนม เมื่อต้องการความช่วยเหลือ

(22). พูดหยาบคาย และ ก้าวร้าว

(23). แสดงความไม่พอใจในเรื่องเล็กๆน้อยๆ

(24). ปล่อยตัวให้จมอยู่กับความเจ็บป่วย หรือ โชคร้าย

(25). แสดงความสนิทสนมจนเกินขอบเขต



7. การควบคุมน้ำเสียง






Finding Your Voice

คำพูดเป็นวิธีที่เราใช้มากที่สุดในการแสดงให้เห็นบุคลิกลักษณะของเรา
จงควบคุมน้ำเสียงของท่านเพื่อให้คำพูดของท่านมีความหมายสมกับความตั้งใจ
คำพูดประโยคเดียวกัน เมื่อพูดด้วยน้ำเสียงที่ต่างกันย่อมมีความหมายผิดกันได้

จงฝึกการควบคุมน้ำเสียงของท่าน และ ฟังน้ำเสียงของท่าน
เมื่อท่านพูดด้วยความเชื่อมั่น ทัศนคติในทางสร้างสรรค์ และ ความจริงใจต่อเป้าหมายของท่าน ก็ควรจะแสดงออกมาให้เห็นด้วย



8. นิสัยยิ้มแย้มแจ่มใส





จงอย่ามองข้ามความสำคัญของการยิ้มง่าย และ ยิ้มด้วยความจริงใจที่แสดงความมีเสน่ห์ของท่านต่อผู้อื่น และ ต่อตัวท่านเอง

จงพยายามยิ้มเมื่อท่านโกรธครั้งต่อไป การกระทำอย่างง่ายๆ นี้จะทำให้ท่านสงบลงได้ และ มันเตือนให้ท่านระลึกถึงความจดจ่ออยู่กับการสร้างสรรค์ที่ท่านต้องการให้เป็นทัศนคติของท่าน

ใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ย่อมทำลายความเป็นปฏิปักษ์ที่ชะงักที่สุด เพราะว่ามันยากที่จะโต้เถียงกับคนที่ยิ้มไปด้วย พูดไปด้วย






Her bright smile at Torino winter ...

จงฝึกยิ้มต่อหน้ากระจก ยิ่งดีกว่า ถ้าฝึกควบคุมน้ำเสียงไปด้วย
สองอย่างนี้เกี่ยวข้องกัน ทั้งต่อผู้อื่นที่จะเข้าใจท่าน และ ผลกระทบแก่การกระทำของท่านเอง



9. การแสดงสีหน้า





นี่คือ
ลักษณะอย่างหนึ่งของบุคลิกภาพที่มีเสน่ห์ที่เกี่ยวข้องอยู่กับน้ำเสียง และ การยิ้มของท่าน
ท่านจะสามารถบอกได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในจิตใจของคนด้วยสิ่งที่ปรากฏทางสีหน้าของเขา
พวกเราต่างก็ตัดสินกันด้วยสิ่งนี้เป็นพื้นฐานอยู่ตลอดเวลา

ยิ่งท่านเรียนรู้ที่จะระมัดระวัง และ ควบคุมการแสดงสีหน้าของท่านได้มากเท่าไร ท่านก็ยิ่งจะสามารถอ่านสีหน้าของคนได้ดียิ่งขึ้น

และ ในเมื่อท่าน ได้ฝึกน้ำเสียง และ การยิ้มต่อหน้ากระจกมาแล้ว ท่านยิ่งมีโอกาสที่ดีเยี่ยมในการฝึกการแสดงสีหน้านี้ไปด้วย






สีหน้า n.face, countenance, visage


10. ความใจกว้าง





ความใจกว้าง คือ การปฏิบัติด้วยความอดทน และ ยุติธรรม ต่อคนที่มีความคิดเห็น การกระทำ และ ความเชื่อที่แตกต่างไปจากท่าน

การรักษาจิตใจของท่านให้เปิดกว้างต่อแนวความคิดใหม่ๆ และ ข่าวสาส์นใหม่ๆ มิใช่วิธีที่ง่ายในการทำให้ท่านเป็นที่ต้อนรับทุกหนทุกแห่ง แม้ว่ามันใกล้ชิดกันมากกับมารยาทในทางสังคม ความใจกว้างทำให้ท่านมีความสามารถดีขึ้นต่อการวิเคราะห์ และ ฉวยโอกาส

ท่านอาจจะไม่สามารถใช้แนวความคิดใหม่ๆ ทุกอย่างให้เป็นประโยชน์ต่อตนเอง แต่ท่านก็จะต้องตรวจสอบ และ พยายามที่จะเข้าใจมัน

ความใจแคบ กลับนำไปสู่การสูญเสียประโยชน์หลายๆอย่าง เช่น

(1) มันก่อศัตรูแก่ผู้ที่ควรจะเป็นมิตร

(2) มันยับยั้งความเติบโตทางจิตใจ ด้วยการจำกัดการแสวงหาความสุข

(3) มันขัดขวางการใช้จินตนาการ

(4) มันต่อต้านการบังคับตนเอง

(5) มันกีดกันความถูกต้องในความคิด และ การใช้เหตุผล

ยิ่งท่านมีความใจแคบสักเพียงไร ท่านก็ยิ่งปิดกั้นตนเองจากความหลายหลายของโลก และ ต่อพลังด้าน วิญญาณของจิตใจ ซึ่งจะสามารถเพิ่มพูนขั้นมาได้ ก็ด้วยความพร้อมที่ระรับรู้แนวความคิดใหม่ๆ เท่านั้น





อดทน vi.to endure

ยุติธรรม (ยุดติทำ) n. adj.justice, fair play, fairness, impartiality; just, fair, impartial S. เป็นธรรม,ถูกต้อง


11. อารมณ์ขันที่ดี






อารมณ์ขันที่มีวุฒิภาวะ ทำให้ท่านมีความอ่อนตัวและปรับตัวได้ดีต่อทุกสถานการณ์ของชีวิต มันยอมให้ท่านพักผ่อน และ คงมนุษยธรรมเอาไว้ได้ในท่ามกลางความกดดัน แทนที่จะเยือกเย็น เสียขวัญ โกรธ หรือ ขมขื่นใจ มันช่วยไม่ให้ท่านจริงจังกับชีวิตจนเกินไป

คนที่ไม่สามารถหัวเราะออกมาได้ในเวลาที่ควรจะต้องหัวเราะ ก็คือ คนที่ไม่ยอมรับเครื่องชูกำลังใจที่วิเศษที่สุด

ถ้า ท่านค้นพบข้อบกพร่องในสินค้า หรือ แผนการของท่าน จงนึกถึงเป็นเรื่องขันของสถานการณ์ที่ยอมให้ท่านกลับไปแก้ตัวเสียใหม่ได้ มิฉะนั้นแล้วท่านก็คงจะถูกล้อมกรอบด้วยความเสียหาย


อารมณ์ n.(in the) mood, (bad) temper, (high) spirits, (cool) disposition

อารมณ์ขัน n.humor



12. ศรัทธาในอนันตปัญญา





ศรัทธา เป็นหัวใจของหลักการทุกข้อในปรัชญาแห่งความสำเร็จ

ศรัทธา เป็น หัวใจของความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ทุกอย่าง ไม่ว่าจะมีลักษณะ หรือ เป้าหมายใดก็ตาม
การเพิกเฉยต่อศรัทธาของท่านขณะมุ่งสู่เป้าหมายสำคัญที่แน่นอน ย่อมเปรียบได้กับการศึกษาดาราศาสตร์โดยไม่สนใจดาวฤกษ์
ศรัทธามีความสำคัญเป็นหลักการหนึ่งในสิบเจ็ดหลักการแห่งความสำเร็จ


ศรัทธา (สัดทา) n. vt.faith, trust; to believe in (a religion) = ศรัทธาเลื่อมใส S. เลื่อมใส,นับถือ






ศรัทธา ใน อนันตปัญญา ย่อมกระตุ้นศรัทธาในมนุษย์ไปด้วย
ความเชื่อมั่น ย่อม ก่อให้เกิดความเชื่อมั่น
คนที่มีศรัทธาต่ออนันตปัญญา ย่อมมี ศรัทธาต่อตนเอง และ ศรัทธาต่อผู้อื่น
ศรัทธา ต่อ ผู้อื่น ย่อมกระตุ้นให้ ผู้อื่นมี ศรัทธา ต่อ ตัวเราด้วย

ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่แสดงให้เห็น ความคิดริเริ่ม จินตนาการ ความกระตือรือร้น การบังคับตนเอง และ เป้าหมายที่แน่นอน ก็คือ "ศรัทธา"






" เมื่อมีศรัทธานำทาง มนุษย์จะไม่มีวันหลงทาง"



13. สำนึกในความยุติธรรม






ท่านย่อมไม่สามารถที่จะหวัง ทั้งความมีเสน่ห์ และ ความสำเร็จ ในเป้าหมายที่สำคัยที่แน่นอนของท่านได้

เว้นเสียแต่ว่า ท่านจะมีความยุติธรรมต่อคนอื่นๆ ส่วนประกอบที่สำคัญของสำนึกในความยุติธรรมก็คือ การอุทิศตัวให้แก่ความซื่อสัตย์อย่างตั้งใจ



14. การรู้จักใช้คำพูดอย่างเหมาะสม







คนที่ประสพความสำเร็จ มักจะพูดด้วยความระมัดระวัง และ เอาใจใส่ การใช้ภาษาของท่าน จะต้องสะท้อนให้เห็นคุณสมบัตินี้ อย่างมีชั้นเชิงเท่าๆกับแผนการตลาดทีเดียว






ความสามารถเชี่ยวชาญด้านนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะว่าผู้คนย่อมตีค่าท่าน ด้วยวิธีที่ท่านพูดและเขียนเสมอ...

ถ้าปราศจากการใช้ภาษาอย่างถูกต้องเสียแล้ว ความสามัคคีกลมเกลียวของกลุ่มอภิจิตย่อมจะถูกรบกวน ด้วยความสับสนในจุดหมาย และ วิธีการเพื่อบรรลุความสำเร็จ



15. การพูดอย่างมีประสิทธิผล





การพูดอย่างมีประสิทธิผล เป็นมากกว่า การเลือกใช้คำอย่างเหมาะสมชัดเจน การผสมผสานของความจริงใจ การเลือกใช้คำ และ คุณสมบัติประการอื่นๆของบุคลิกต้องตาต้องใจ จะทำให้ท่านเป็นนักสื่อสารที่มีความสามารถ ทั้งทำให้เชื่อและจูงใจ ไม่ว่าท่านจะพูดในที่ประชุม เป็นกลุ่ม หรือ ตัวต่อตัวก็ตาม






คำพูดที่สละสลวยเร้าใจมีอิทธิพลอย่างไม่น่าเชื่อในสังคมยุคใหม่ ชะตากรรมของประเทศถูกเปลี่ยนแปลง และ ท้าทายด้วยอำนาจของคนที่รู้จักพูดอย่างมีประสิทธิผล และ คนเหล่านี้ มักจะปรากฏอยู่ในประวัติศาสตร์อย่างถาวร ความทะเยอทะยานของท่านอาจจะไม่ใหญ่หลวงถึงขนาดนั้น แต่ทำไมจึงไม่น่าจะเป็นล่ะ ?






ไม่มีเทคนิคการพูดที่ดีเยี่ยมอันใด ที่จะดึงผู้ฟังกลับขึ้นมาจาก "หลุมฝังศพ" ได้

สุภาษิตมีว่า

"จงรู้ว่า ท่านต้องการพูดอะไร พูดด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่ท่านมี แล้วจงนั่งลงเสีย"



16. การควบคุมอารมณ์






การกระทำของคนเราส่วนใหญ่แล้ว ถูกกำหนดด้วยความรู้สึกของเรา
เนื่องจากความรู้สึกของเราสามารถยกระดับเราขึ้นไปสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ หรือ ถ่วงเราลงสู่ความพ่ายแพ้

ความรู้สึกที่ให้แรงผลักดังต่อเรา อารมณ์สร้างสรรค์ และ ทำลายต่างก็มีอยู่เจ็ประการด้วยกัน

อารมณ์ทำลาย 7 ประการ ได้แก่

(1). ความกลัว
(2). ความเกลียดชัง
(3). ความโกรธ
(4). ความโลภ
(5). ความอิจฉา ริษยา
(6). ความพยาบาท
(7). ความงมงาย

อารมณ์สร้างสรรค์ 7 ประการ ได้แก่

(1). ความรัก
(2). กามารมณ์
(3). ความหวัง
(4). ศรัทธา
(5). ความเห็นอกเห็นใจ
(6). การมองโลกในแง่ดี
(7). ความจงรักภักดี

อารมณ์ทั้งสิบสี่ประการนี้ เป็นอักขระที่ท่านสามารถใช้เขียนแผนการเพื่อความสำเร็จ หรือ ความล้มเหลวของท่าน


17. ความพร้อมต่อโอกาส





ท่านจะต้องสามารถรักษาความสนใจของท่านต่อผู้อื่น สถานที่ หรือ สิ่งต่างๆเอาไว้ได้นานเท่าที่สถานการณ์เรียกร้อง ถ้าท่านไม่สามารถทำได้บุคลิกที่ต้องตาต้องใจของท่านประการอื่นๆ ย่อมไม่มีประโยชน์ ท่านย่อมไม่สามารถที่จะให้ความสำคัญต่อคนผู้ใด ได้มากยิ่งไปกว่าด้วยการให้ความสนใจอย่างจริงๆ จังๆ ต่อเขาเมื่อเขาต้องการ การเป็นนักฟังที่ดีมักจะประสพความสำเร็จได้ยิ่งใหญ่กว่าการเป็นนักพูดที่ดี


18. ความรอบรู้ในเรื่องทั่วไป






จงทำให้ตัวท่านเองทันต่อเหตุการณ์ปัจจุบันเอาไว้เสมอ และ ให้ความสนใจต่อบางสิ่งบางอย่างที่นอกเหนือกว่าธุรกิจของท่าน

มันย่อมจะส่งเสริมอุปนิสัยของท่าน และ ทำให้ท่านรู้จักตนเองได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นด้วย

ถ้าท่านเข้าใจตัวของท่านเอง ท่านย่อมสามารถเข้าใจผู้อื่นได้ดีขึ้น และ พวกเขาย่อมชื่นชมท่านยิ่งขึ้นด้วย



20. ความรักในผู้คน

อย่างเดียวกับที่สุนัขสามารถสัมผัสได้ว่า ใครชอบ ใครไม่ชอบสุนัข

คนเราสามารถบอกได้อย่างรวดเร็วว่า เขากำลังติดต่ออยู่กับคนที่ชอบคนอื่นๆอยู่ หรือ ไม่






เรามักจะไม่ชอบคนที่มีนิสัยไม่ชอบเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน และ มักอยากจะเข้าไปหาคนที่มีความกระตือรือร้นอย่างแท้จริงเสมอ

ความหงุดหงิดเมื่ออยู่กับคนอื่นๆ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความเห็นแก่ตัว และ การขาดระเบียบวินัยในตนเอง ดังนั้น มันจึงเป็นการแสดงให้เห็นถึงลัทธินิยมการยอมแพ้ ท่านไม่ต้องทำอะไรให้ใครเลย ด้วยการคร่ำครวญอยู่กับความโชคร้ายที่ผ่านมา หรือ ความรู้สึกไม่มีจุดหมายของท่าน

ผู้คนย่อมจะให้อภัยแก่คนที่ตั้งความหวังไว้สูงแต่ก็พลาด



21. ความถ่อมตัว






ความหยิ่งยะโส ความถือตัว และ ความเห็นแก่ตัวจัด ไม่เคยถูกพบในคนที่มีบุคลิกดี

จงอย่าได้เข้าใจว่า ความถ่อมตัวเป็นนิสัยขี้อาย





ความถ่อมตัวที่แท้จริงนั้น เป็นคุณสมบัติของคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจะต้องมี

แม้ในวิถีแห่งมนุษยชาติแล้ว พวกเขาจะเป็นคนส่วนที่น้อยเสียเหลือเกิน



22. การแสดงตัวอย่างมีประสิทธิผล






คุณสมบัติหลายประการของบุคลิกที่มีเสน่ห์ การแสดงสีหน้า น้ำเสียง การใช้คำพูดที่เหมาะสม การพูดอย่างมีประสิทธิผล ความรอบรู้ในเรื่องทั่วไป ทัศนคติ อารมณ์ขันที่ดี และ การรู้จักกาละเทศะ เมื่อรวมกันแล้วมันจะทำให้ท่านได้รับความสนใจที่พึงปรารถนา เมื่อใดที่จำเป็น



23. ความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา

จงชนะโดยไม่ต้องโอ้อวด จงแพ้โดยไม่โวยวาย แล้วคนอื่นๆจะยอมรับท่านในไม่ช้า






กีฬาทำให้เกิดนิสัยเช่นนี้ในหลายๆคน แต่ถึงแม้ว่าท่านจะไม่เคยย่างเท้าเข้าไปในสนามแข่งขัน หรือ สังเวียนมาก่อน ท่านก็สามารถที่จะกระตุ้นให้คนอื่นๆ ให้ร่วมมือกับท่านได้ ถ้าหากเขารู้ว่าเมื่อสิ้นสุดเกมแล้ว ท่านจะไม่ทำอะไรที่น่าเกลียดออกมาให้เห็น


24. การสัมผัสมือได้ดี






จริงๆแล้ว นี่เป็นความชำนาญพื้นๆ แต่ มันเป็นความประทับในแรกสุดที่หาค่ามิได้ และ บ่อยครั้งการติดต่อได้รับการรื้อฟื้นขึ้นมาอีก

จงให้การสัมผัสมือที่มั่นคง และ เป็นมิตร

จงทักทายด้วยความตรงไปตรงมา และ แน่วแน่



25. ความมีเสน่ห์






อุปนิสัยสุดท้ายนี้
เป็นการอธิบาย พลังทางกามารมณ์ อย่างสุภาพ จากคุณสมบัติทั้งหมดของบุคลิกที่มีเสน่ห์





พลังทางกามารมณ์ เป็นอำนาจผลักดันที่ไม่มีขอบเขต

ถ้าท่านนำมันออกมาใช้ มันจะช่วยให้ท่านได้ก็เฉพาะเมื่อท่านใช้มันอย่างเหมาะสมเท่านั้น

จงใช้พลังทางกามารมณ์ของท่าน ในการสร้าง "ความกระตือรือร้น" เพื่อแสดงความชื่นชมของท่านต่อเพื่อนมนุษย์ เพื่อขัดเกลา กิริยา มรรยาท และ น้ำเสียงของท่านให้นุ่มนวล ท่าทาง และ การแต่งตัวของท่าน ก็จะสะท้อนคุณสมบัตินี้ด้วยเช่นกัน

พลังทางกามารมณ์ เป็นองค์ประกอบที่มีน้ำหนักต่อบุคลิกที่มีเสน่ห์ แต่มันจะช่วยท่านก็ต่อเมื่อท่านมีความบริสุทธิ์ใจต่ออุปนิสัยอื่นๆ ทุกประการด้วยเท่านั้น

จงวิเคราะห์บุคลิกลักษณะของท่านอยางละเอียด และ ซื่อตรงเพื่อให้แน่ใจว่า มันมิได้แฝงไว้ด้วยอุปนิสัยที่น่ารังเกียจ ... ที่อาจจะดึงดูดเคราะห์ร้าย ศัตรู และ ความพ่ายแพ้

เวลาที่ใช้ในการวิเคราะห์อันยาวนานนี้ ย่อมจะตอบแทนท่านอย่างมหาศาล เพราะไม่เพียงแต่มันจะทำให้ท่านรู้จักตนเองอย่างชัดเจนเท่านั้น แต่มันยังจะช่วยให้ท่านวิเคราะห์และเข้าใจคนอื่นๆอีกด้วย






Source:





ภาพประกอบ : ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง จาก //www.







Create Date : 07 เมษายน 2551
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2551 8:16:17 น. 2 comments
Counter : 5083 Pageviews.

 
ขอบคุณครับ


โดย: ซาเบ้ง วันที่: 4 กันยายน 2551 เวลา:19:53:04 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


สวัสดียามเช้าค่ะ


โดย: Opey วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:8:09:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

moonfleet
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]




ไม่มีสิ่งใดจะเกิดขึ้นมาได้ หากไม่เคยเป็นความฝันมาก่อน
New Comments
Friends' blogs
[Add moonfleet's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.