ไพบูลย์ บุตรขัน ตอน 9 โลกนี้คือละคร ชีวิตคือละคร
ถ้าพูดถึงเพลงน้ำตาเทียนแล้ว อีกเพลงหนึ่งที่ควรจะพูดคู่กันไปด้วยคือ สาส์นรักฉบับล่า เพราะเป็นเพลงที่ใช้สถานการณ์คล้ายๆ กัน ในฉาก และอารมณ์ที่ต่างไป
ที่มาของเพลง สาส์นรักฉบับล่า ผมตัดต่อ แต่งเติมเรียบเรียงใหม่เป็นสำนวนของผมเองจากคำบอกเล่าของ แดน บุรีรัมย์ (แดน สี่ดาว) ลูกศิษย์คนหนึ่งของครูไพบูลย์ หากผิดพลาดพลั้งอย่างไร ยกให้เป็นความผิดในการถ่ายทอดของผมก็แล้วกัน

------------------------------

เรื่องนี้เกิดขึ้นในราว ปี พ.ศ. 2506 ครูไพบูลย์ บุตรขัน ได้รับเชิญไปให้สัมภาษณ์ที่สถานีวิทยุเสียงอดิศร ๖๘๕ จังหวัดสระบุรี เป็นรายการเพลงของ พรณรงค์ พิมลนภา
ตอนนั้นเพลง น้ำตาเทียน กำลังดัง สถานีวิทยุประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าว่า ผู้ประพันธ์เพลงจะมาปรากฏตัวให้สัมภาษณ์ที่สถานี
แดน บุรีรัมย์ เล่าว่า

"คนแห่กันมาเต็มสถานี ครูต้องรอถึง 4 โมงเย็นถึงจะออกจากสถานีมาได้ มีเด็กสาวคนหนึ่งชื่อฝน เข้ามาหาครูพร้อมด้วยสมุดเขียนกลอน ใช้นามแฝงว่าหยาดฝน เธอเพิ่งเรียนจบมัธยม 6 อายุราว 16-17 ส่วนครูไพบูลย์เป็นหนุ่มใหญ่สี่สิบกว่าแล้ว"

"เด็กก็เอาผลงานมาให้ดู ครูตรวจให้หนูหน่อย คุยไปคุยมาเด็กขอตามเข้ากรุงเทพฯ ครูบอกปัดทำอย่างนั้นไม่ได้ เธอเป็นสาวเป็นแส้ แต่เด็กไม่ยอม ครูเลยแกล้งหลอกให้ไปขออนุญาตพ่อแม่เสียก่อน เด็กเลยสวนกลับถ้าขอได้จะให้ไปตามครูได้ที่ไหน"

แดน บุรีรัมย์ กล่าวต่อว่า
ขณะนั้นครูไพบูลย์ทำงานอยู่ที่โรงพิมพ์บรรลือสาส์น ผ่านฟ้า คิดว่าบอกไปยังไงเด็กคงไม่มีปัญญาตามไป กาลกลับตาลปัตร ถึงบ่ายรุ่งขึ้นอีกวัน เด็กสาวไปถึงที่นัดหมาย

"ครูเลยต้องมาเช่าโรงแรมให้พักแถวผ่านฟ้า ซื้อเสื้อผ้าให้ ผม (แดน บุรีรัมย์) นี่แหละ เป็นคนเอาเงินจากครูไปหาซื้อเสื้อผ้า และหาเช่าโรงแรมให้ ทีนี้จะปล่อยเด็กผู้หญิงนอนโรงแรมตามลำพังก็ไม่ได้ โรงแรมมี 2 เตียง เด็กนอนเตียงนึง ผมกับครูต้องนอนเบียดกันอีกเตียงนึง 
หัวเตียงเป็นโต๊ะเขียนหนังสือ มีไฟ หลอดห้อยลงมา ครูนั่งสอนวิธีเขียนเพลงให้เด็ก สอนไปสอนมาก็สนิทสนม เด็กออกอาการรักครู ฝนเป็นคนสวย ผมรู้ว่าใจครูน่ะอ่อนไหวชอบเด็กเช่นกัน ก็เลยขอเผ่นไปนอนที่อื่น ปรากฏว่า ครูไม่ทำ ครูบอกว่า ไอ้แดน เราจะทำเขาได้ยังไงสังขารอย่างนี้ ทำไปเด็กเสียอนาคต"

ผ่านไปสักเดือนเด็กสาวก็กลับสระบุรี

"ครูกับเด็กติดต่อกันทางจดหมาย วันหนึ่งครูคิดถึงฝนมาก ก็เลยเอาลังไม้ฉำฉา เดิมเขาใช้ใส่ถ่านหุงข้าวมาคว่ำลง ก็กลายเป็นโต๊ะ เอากระดาษปูรองกันเปื้อน ครูใช้กระดาษสมุดฟุลสแก๊ปแบบถอดออกมาได้เป็นคู่ เขียนจดหมายถึงน้องฝน เขียนไปๆ ปากกาหมึกน้ำเงินหมด ก็เอาหมึกแดงเขียนต่อ เขียนไปครูก็นั่งบ่น ‘คนบ้าอะไรใช้สีแดงเขียนจดหมาย แล้วใครเขาจะอยากอ่าน’ ครูก็เลยเปลี่ยนเป็นเขียนเพลงแทน"

ด้วยเหตุนี้ท่อนที่ 2 ของเพลง "สาส์นรักฉบับล่า" เนื้อเพลงจึงเป็น "สีน้ำหมึกที่ฉันผนึกอักษร ถ้าบางตอนเห็นเธอจะต้องสงสัย เขียนด้วยสีแดงแม้นเธอแคลงว่าเขียน ทำไม ฉันขอบอกให้ สีเลือดจากใจฉันจารึกมา"

แดน บุรีรัมย์ ยังได้กล่าวว่า ส่วนวรรคสุดท้ายในท่อนท้ายสุด "ขมขื่น ดวงใจก็เพราะฉันจน" ความจริงครูไพบูลย์ บุตรขัน ต้องการสื่อว่า "ขมขื่นดวงใจก็เพราะฉัน (ทำอะไรเธอไม่ได้)" แต่ครูไพบูลย์ก็หันมาพูดหยอกๆ ว่า “..ขมขื่นดวงใจ ก็เพราะฉันหงิก..” .




------------------------------------------

ไพบูลย์ บุตรขัน น้อยใจในโชคชะตา เรื่องอาการป่วยของเขาอยู่มาก หากจะลองจับเอาเพลงต่างๆ ของเขามาถอดดูเนื้อความดีๆ จะเห็นความนัยที่ซ่อนอยู่ เป็นการบ่นรำพัน คร่ำครวญ ตัดพ้อต่อว่าถึงโชคชะตา และรูปร่างหน้าตา แสดงถึงความท้อแท้ น้อยใจในโชควาสนา อยู่หลายเพลง


ยกตัวอย่างเพลง ฝนซาฟ้าใส ต้นฉบับโดย ยุพิน แพรทอง ในขณะที่ร้องเพลงนี้นั้น ยุพิน แพรทอง ยังอายุเพิ่ง 20 เศษๆ การตีความเพลงยังไม่ค่อยดีนัก ผมขอเสนอเวอร์ชั่นของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ที่ตีความเพลงนี้ได้ดีมาก ลำพังแต่เนื้อเพลงนี้ก็เศร้าอยู่แล้ว พอได้เสียงร้องเศร้าๆ ปนเสียงสะอื้น ของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ทำเอาคนฟังแทบจะน้ำตาไหลตามไปด้วย





มองกระจกเงา เห็นใบหน้าเรา ใจสะอื้น
คิดยิ่งขมขื่น กล้ำกลืนแต่น้ำตา
ขี้ริ้วขี้เหร่ ไม่เรี่ยมเร้โสภา
อยากมีผิวขาวเหมือนงา ไฉนเกิดมาเป็นคนผิวดำ

มองดอกลั่นทม หัวใจยิ่งตรมมิวาย เว้นว่าง
หันมองหน้าต่าง มืดมนเพราะฝนพรำ
ฟ้ายังร้องไห้ คร่ำครวญคล้ายระกำ
โอ้ใครหนอใครช่างทำ ให้ฟ้าระกำช้ำจนร้องไห้

ฝนตกลงมาน้ำบ่าทั่วไป ไหลเจิ่งบึงหนอง
กบเขียดก็ร้อง ดังระงมไพร
ฝนซาฟ้าสร่าง กระจ่างสดใส
ฉันคงจะได้ ชื่นใจเหมือนกัน

มองลอดชายคา น้ำฝนหยดมาแสนเศร้า กำโศก
เหมือนน้ำตาหยด ราดรดอยู่ทุกวัน
น้อยใจคนที่ บ่ายเบนหนีสัมพันธ์
ก่อนเคยสัญญารักกัน เดี๋ยวนี้สัมพันธ์นั้นไกลลิบลิ่ว



บอกแล้ว ว่าเนื้อเพลงเพลงนี้เศร้ามาก ลองนึกภาพครูไพบูลย์ ที่ร่างกายยับเยินเพราะโรคเรื้อนกำลังแต่งเพลงนี้ดู แล้วจะเข้าใจว่า เพลงนี้ไม่ใช่อะไรอื่น นอกจากเป็นเพลงระบายความในใจของผู้ประพันธ์นั่นเอง

เรื่องเชิงกวีคงไม่ต้องพูดแล้ว เพราะพูดไปหลายรอบแล้ว แต่ที่น่าสนใจในเพลงนี้คือการลำดับเรื่องราว
การสร้างเนื้อเรื่องของเพลงนี้ ชวนให้นึกถึงบทกวีไฮกุไม่น้อย ท่อนแรกเล่าเรื่องหนึ่ง ท่อนสองเล่าเรื่องอื่น แล้วเล่าท่อน 3 อีกเรื่องหนึ่ง แต่เป็นการสรุปสองท่อนแรกเข้าด้วยกัน

----------------------------

ไหนๆ ก็ว่ากันด้วยเพลงของ ยุพิน แพรทอง แล้ว ขอต่อด้วยเพลงที่ทำให้ ยุพิน แพรทอง ได้รับรางวัลเสาอากาศทองคำพระราชทาน ในปี พ.ศ. 2521 คือเพลง เจ้าน้ำตา
แต่ก็เหมือนเดิม ผมไม่ได้เอาเสียงของยุพิน แพรทองมาให้ฟัง เพลงนี้ผมฟังหลายเวอร์ชั่น ผมชอบเวอร์ชั่นของ อรวี สัจจานนท์ มากที่สุด ทางเพลงแบบนี้ อรวี สัจจานนท์ ร้องได้เลิศมาก ผมเข้าใจว่าประสบการณ์ร้ายๆ ในชีวิต มีส่วนอย่างมากในการตีความเพลงให้ออกมากินใจแบบนี้
ผมชอบเวลาที่ ยุพิน แพรทอง ร้องเพลงแก่นๆ อย่าง ลูกสาวกำนัน หรือ เพลงแขกสนุกๆ ที่ร้องคู่กับ สุมิตร สัจจเทพ หรือเพลงดังที่ร้องคู่กับ ชาตรี ศรีชล อย่าง ธรณีชีวิต หรือ มนต์เสียงเพลง มากกว่าเพลงช้าๆ เจ็บๆ แบบนี้


เจ้าน้ำตา

เสียงร้อง อรวี สัจจานนท์
อัลบั้ม ค่าควรเมือง ชุด 2 ฝนหนาวสาวครวญ




ชีวิตคนนี้ไม่มีแน่นอน เกิดมาเป็นตัวละคร แสดงละครของโลก
พระพรหมเท่านั้น ขีดเขียนประพันธ์สรรค์สร้างเรื่องโศก
กำหนดบทบาทให้ฉันวิโยค เกิดมาในโลกเป็นคนพิการ

โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน โลกเราคือโรงละคร มีไฟกองฟอนเหมือนม่าน
ร่างกายของเรา ตายแล้วก็เผาเป็นเถ้าเป็นถ่าน
เมื่อจบบทบาทชาติเวรสงสาร ปิดม่านแสดงละครหนี้กรรม

ละครชีวิตคิดคิดก็น่าอนาถ มีทั้งบทบาท หัวเราะร้องไห้ประจำ
หันมองคนอื่น เห็นเขาชื่นฉันกลับต้องช้ำ
ฉากชีวิตฉันมีสีดำ โศกาน้ำตาเปียกหมอน

โลกสรรค์สร้างฉันขึ้นนั้นเหตุใด สร้างเนื้อเลือดเจือลงไป
จนเต็มดวงใจทั้งก้อน สรรค์สร้างความรักมาให้กัดกินใจฉันจนกร่อน
ต้องใส่หน้ากากออกฉากหลอกหลอน เล่นเป็นละครบทเจ้าน้ำตา



เพลงเจ้าน้ำตา เป็นตอนต่อของเพลง โลกนี้คือละคร ผลงานก่อนหน้านี้ของครูไพบูลย์ ที่ ปรีชา บุณยเกียรติ ขับร้องไว้ จนได้รางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทานเนื้อร้องเพลงไทยสากลประเภท ข.ในปี พ.ศ. 2514 (บันทึกเสียงครั้งแรกปี พ.ศ. 2496)
ปรีชา บุณยเกียรติ ร้องเพลงนี้ได้ดีมาก ร้องได้เหมือนกับคนที่ผ่านประสบการณ์ในชีวิตมามากมาย กำลังมาเล่าคติธรรมให้ฟัง
ส่วนเวอร์ชั่นที่คนอื่นร้อง ถ้าฟังดูจะรู้สึกว่าเป็นตัดพ้อรำพัน มากกว่าจะเป็นการเล่าประสบการณ์ชีวิต เหมือนเวอร์ชั่นของ ปรีชา บุณยเกียรติ
ผมเลือกเสียงของ ปรีชา บุณยะเกียรติ ให้ฟังครับ

ลักษณะที่ควรสังเกตของเพลงนี้อย่างหนึ่งคือ เป็นเพลงที่ลงด้วยคำเป็น สามารถลากหางเสียงได้ยาว ประกอบกับเสียงขึ้นจมูกหน่อยๆ ของ ปรีชาบุณยะเกียรติ ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เพลงนี้มีความน่าสนใจเพิ่มขึ้นอีกมาก ลองฟังดูครับ


โลกนี้คือละคร





โลกนี้นี่ดูยิ่งดูยอกย้อน เปรียบเหมือนละคร ถึงบทเมื่อตอนเร้าใจ
บทบาทลีลาแตกต่างกันไป ถึงสูงเพียงใด ต่างจบลงไปเหมือนกัน
เกิดมาต้องตายร่างกายผุพัง ผู้คนเขาชัง คิดยิ่งระวังไหวหวั่น
ต่างเกิดกันมาร่วมโลกเดียวกัน ถือผิวชังพรรณ บ้างเหยียดหยามกันเหลือเกิน

โลกนี้คือละคร บทบาทบางตอน ชีวิตยอกย้อนยับเยิน
ชีวิตบางคนรุ่งเรืองจำเริญ แสนเพลิน เหมือนเดินอยู่บนหนทางวิมาน
โลกนี้นี่ดูยิ่งดูเศร้าใจ ชั่วชีวิตวัย หมุนเปลี่ยนผันไปเหมือนม่าน
ปิดฉากเรืองรองผุดผ่องตระการ ครั้นแล้วไม่นาน เปิดม่านเป็นความเศร้าใจ



ตรงประโยคสุดท้าย หลังจากตรวจสอบหลายแหล่ง เนื้อร้องที่ถูกต้องคือ ‘เปิดม่าน’ ครับไม่ใช่ ‘เปิดผ่าน’ เหมือนที่บันทึกเสียงไว้

---------------------------------



รูปแร้งดูร่างร้าย รุงรัง
ภายนอกเพียงพึงชัง ชั่วช้า
เสพสัตว์ที่มรณัง นฤโทษ
ดั่งจิตสาธุชนกล้า กลั่นสร้างทางผล

โคลงโลกนิติ






Create Date : 16 ตุลาคม 2554
Last Update : 16 ตุลาคม 2554 16:40:00 น.
Counter : 3887 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

อะธีลาส
Location :
Sydney  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 44 คน [?]



Photographer, photo educator, writer and more.......

อนุญาตให้ ใช้ ดัดแปลง แก้ไข ตัดต่อ ทำสำเนา เผยแพร่ อ้างอิง จำหน่าย จ่ายแจก ภาพ และบทความในบล็อกนี้ ส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมด เพื่อสาธารณะประโยชน์ เพื่อการศึกษา เพื่อกิจส่วนตัว และเพื่อการค้าได้ โดยไม่ต้องขออนุญาต ตามสัญญาอนุญาตใช้งาน Creative Commons: Attribution.


Website
http://mister-gray.bloggang.com
https://twitter.com/nickdhapana
http://500px.com/NickDhapana
https://plus.google.com/+NickDhapana
http://nickdhapana.tumblr.com
http://instagram.com/nickdhapana
https://www.facebook.com/dhapana/about


Skype & Email
cmosmyp@gmail.com


Line
nickdhapana


My Project's Page

Public Telephone
https://www.facebook.com/PublicTelephoneProject

They didn't say that.
https://www.facebook.com/pages/They-didnt-say-that/116827521834600

Exposure to the RIGHT
https://www.facebook.com/pages/Exposure2the_RIGHT/538556252881951

Thailand Perspective Project
https://www.facebook.com/ThailandPerspective

Dead on Arrival
https://www.facebook.com/pages/Dead-on-Arrival/666461363385961
ตุลาคม 2554

 
 
 
 
 
 
2
4
6
7
8
9
10
12
13
14
15
20
22
23
24
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog