ไพบูลย์ บุตรขัน ตอน 5 พระคุณแม่

ก่อนจะไปเรื่องของคำรณ สัมบุญณานนท์ ขอเพิ่มเติมเป็นภาคผนวกให้กับตอนที่แล้วเล็กน้อย เพราะมีเรื่องของเพลงพระคุณแม่ของไพบูลย์ บุตรขัน และเพลงชุดนั้นเพิ่มเติม

"เขาแต่งเพลงให้บริษัทนำไทยอัดแผ่นเสียงรวม 8 เพลงด้วยกัน นอกจากเพลงมนต์เมืองเหนือแล้ว ก็มีเพลงค่าน้ำนม ดอกไม้หน้าพระ ดอกไม้หน้าฝน คนจนคนจร และอีก 3 เพลงซึ่งเขาเองก็จำชื่อไม่ได้ เขาได้เงินจากการแต่งเพลงครั้งนี้ 640 บาท" (ลาวัณย์ โชตามะระ, ก.ค. 2508)

จากคำให้สัมภาษณ์สรุปเรื่องเพลงในชุดนี้ได้ว่า

1 มนต์เมืองเหนือ ขับร้องโดย สมยศ ทัศนพันธ์
2 ค่าน้ำนม ขับร้องโดย ชาญ เย็นแข
3 คนจนคนจร ขับร้องโดย ชาญ เย็นแข
4 ดอกไม้หน้าพระ ขับร้องโดย บุญช่วย หิรัญสุนทร ร้องคู่กับเฉลา ประสพศาสตร์
5 ดอกไม้หน้าฝน ขับร้องโดย เพ็ญศรี พุ่มชูศรี

ประเด็นคือเพลง คนจนคนจร อาจจะไม่ได้อยู่ในชุดนี้ น่าจะจะอยู่ในชุดหลัง เพราะมีข้อมูลจากหนังสือเพลง ‘ยอดนิยม ลูกทุ่งอมตะ’ว่าเพลงนี้บันทึกเสียงในปี พ.ศ. 2497
ถ้าไม่ใช่ครูไพบูลย์ ที่ให้สัมภาษณ์ ก็คุณลาวัณย์ผู้เขียน อาจจะจำผิด
เพลงที่อยู่ในชุด 8 เพลงแรกน่าจะเป็นเพลง แมกไม้ละเมอ ขับร้องโดย พรทิพย์ คีตะเสวี (เพ็ญศรี พุ่มชูศรี) มากกว่า
และอีก 3 เพลง เชื่อว่าคือเพลงเหล่านี้ครับ

6 อ้อมอกแม่ ขับร้องโดย บุญช่วย หิรัญสุนทร
7 สื่อเพลงสวรรค์ ขับร้องโดย ชาญ เย็นแข
8 แม่ศรีเรือน ขับร้องโดย สมจิต ตัดจินดา

ที่สำคัญ ทั้ง 8 เพลงที่ว่ามา เป็นแผ่นครั่ง HMV ตราสุนัข สลากสีเขียวทั้งสิ้น ในขณะที่คนจนคนจร เป็นสลากสีแดง

จากหลักฐานพบว่า ห้างแผ่นเสียงนำไทย ได้ซื้อเพลงของครูไพบูลย์ บุตรขัน ไปจำนวน 20 เพลง นอกจาก 8 เพลงในชุดแรกที่เป็นสลากสีเขียวแล้ว อีก 12 ที่ผลิตตามมาทีหลัง เป็นแผ่นครั่ง HMV ตราสุนัข สลากสีแดง เท่าที่ผมค้นข้อมูลดูเจอ 5 เพลงคือ ผู้ครองใจ กรรมกรรถราง ยลโฉมยุพิน บุรุษไปรณีย์ และ คนจนคนจร อย่างที่ว่าไป
ส่วนอีก 7 เพลงที่เหลือผมยังไม่สามารถค้นข้อมูลพบได้ครับ แต่ทางผู้ที่อยู่ในวงการลูกทุ่งน่าจะมีข้อมูลอยู่ ว่าคือเพลงอะไรบ้าง

-------------------------------------------------------------

สาเหตุหลักที่อดไม่ได้ต้องเขียนเรื่องเพลงพระคุณแม่เพิ่มอีกตอนหนึ่ง ก็เพราะเพลงนี้ครับ

ชั่วดีก็ลูกแม่ ขับร้องโดย วินัย จุลบุษปะ
เพลงนี้ไพเราะจับใจ เนื้อหากินใจมาก ใครไม่เคยได้ยิน โปรดกดฟังโดยด่วน




คำใดไม่ซึ้งตราตรึงหัวใจแน่แท้
โอ้คำนั้นคือว่าแม่พระในดวงแดจิตใจ
ชั่วดียากเข็ญก็เป็นลูกแม่เรื่อยไป
โอ้ความรักอันยิ่งใหญ่ หาใครเท่าแม่ไม่มี

จากอกแม่ร้างไปตามหนทางถิ่นไหน
แม่ยังทุกข์ครองหมองไหม้ หัวใจเต้นรัวชั่วปี
ขึ้นชื่อลูกตัวถึงเลวระยำชั่วดี
แม่ยังรักดังชีวี ชั่วดีก็ลูกแม่เอย

แม่คนเดียวเลี้ยงลูกได้ตั้งหลายคน
คิดไปเศร้าใจหมองหม่น ลูกหลายคนเลี้ยงแม่ไม่เคย
ลูกชั่วเลวทรามเคราะห์กรรมแม่ไม่เกลียดเลย
พี่น้องเพื่อนพ้องเหยียดเย้ยแม่เคยช่วยซับน้ำตา

ฝากกราบแม่ไว้จากใจของลูกที่ล้ม
ผ้ากาสาวพัสตร์ครองห่มแม่ชมตื้นตันอุรา
ลูกบวชยินดีเพราะมีน้ำใจศรัทธา
เพื่อแทนพระคุณมารดาเลี้ยงมาหวังพึ่งผ้าเหลือง

---------------------------------------

และอีกเพลง ที่ผมชอบเหมือนกันคือ
โอ้ชนกชนนี เสียงร้องโดย ชาญ เย็นแข



โอ้ความซาบซึ้งตรึงใจ
ไหนจะมีดังแม่อันแปรเปรียบสายนที
ล้ำค่ากว่าธรณี แม่นั้นยังเป็นที่ลูกนี้มีความอาวรณ์
แม่แผ่ความรักเมตตา แม้ยากจนฟันฝ่า
ยังมาอุ้มท้องอาทร ซ้ำกลับอดหลับอดนอน
เปรี้ยวหวานการกินผ่อนเดือดร้อนเพราะการอุ้มครรภ์
ยอมอดทนครบจนเก้าเดือน เกิดความปวดร้าวหนาวเยือน
เจ็บเตือนเหมือนใจแม่สั่น ทนเวทนาแรมวัน
สุดจะสรรเนื้อความปวดยามลูกเตือนเคลื่อนกาย
แม่อันสุดรักลูกเอย ทุกข์เพียงใดไม่เอ่ย
ชมเชยลูกน้อยกลอยตา เลี้ยงเห่ไกวเปลกล่อมมา
แม่นี้ยอมฟันฝ่า แม่จ๋าล้วนมีบุญคุณ
คุณพ่ออันเลี้ยงพลันลูกโต เปรียบไปก็คล้ายร่มโพธิ์
แผ่คลุมคุ้มบังให้อุ่น ยอมหลั่งหยดเหงื่อเจือจุน
พ่อคอยหนุนประคอง แม่มองด้วยความเมตตา
โอ้อันชนกชนนี เลี้ยงลูกนี้จนใหญ่
ต่อไปท่านนั้นชรา ทิ้งทอดบิดามารดา
ไม่เลี้ยงดูดังว่า บาปหนาเหมือนทรพี

-----------------------------------------


ตอนก่อนหน้านี้ ผมพูดถึง บุญช่วย หิรัญสุนทร ไว้เล็กน้อย ขอเอาเรื่องราวของท่านมาแทรกไว้ในภาคผนวกนี้สักหน่อย เพราะท่านไม่ค่อยได้ถูกกล่าวถึงมากนั้น ทั้งที่ฝีไม้ลายมือก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าใครในยุทธจักรลูกทุ่งเลย ขาดเพียงแต่ดวงเท่านั้น หากในวันนั้นท่านได้ร้องเพลงค่าน้ำนม ผมก็เชื่อว่าท่านก็ร้องได้ไพเราะไม่น้อยไปกว่า ชาญ เย็นแข ด้วยว่าเป็นศิษย์ครูเดียวกัน อยู่ในคณะละคร ศิวารมณ์ ของสง่า อารัมภีร เหมือนกัน
และถ้าว่ากันด้วยความคิดเห็นส่วนตัวของผมแล้ว ผมว่าอาจจะร้องได้ดีกว่าด้วยซ้ำไป และอาจจะโด่งดังไม่น้อยหน้าไปกว่ากันถ้าได้ร้อง

แต่ก็ไม่รู้สิ ถ้าจะพูดไป เรื่องดวง หรือเรื่องดัง นี่ พูดกันยากจริงๆ
เพราะในเพลงชุดนั้นท่านร้องเพลง ดอกไม้หน้าพระ คู่กับเฉลา ประสพศาสตร์ แต่เพลงก็ไม่ได้โด่งดังอะไร เพลงแทบไม่เป็นที่รู้จักในยุคนี้ด้วยซ้ำ และเพลงอื่นที่ท่านได้ร้องในยุคต่อมา ก็เป็นที่รู้จักในระดับหนึ่งเท่านั้น
ทั้งๆ ที่ในด้านฝีมือแล้ว บุญช่วย หิรัญสุนทร เคยเข้าประกวดนักร้องแห่งประเทศไทยในปี พ.ศ. 2492 ที่จัดโดยกรมโฆษณาการ ในนามตัวแทนของคณะพันตรีศิลป์ ได้รางวัลชนะเลิศฝ่ายชายมาครอง


อ้อมอกแม่ เป็นเพลงพระคุณแม่อีกเพลงหนึ่งของครูไพบูลย์ บุตรขัน ที่ บุญช่วย หิรัญสุนทรได้ร้องไว้




---------------------------------

แต่ผมขอปิดท้ายตอนนี้ด้วยของดี ของเด็ดครับ

นี่คือเพลงแจ้งเกิดของ บุญช่วย หิรัญสุนทร เนื้อร้องประพันธ์โดย ครูมารุต และครูเนรมิตร ทำนองโดย สง่า อารัมภีร ต้นฉบับของเพลงนี้ ใช้ประกอบละครเวทีเรื่อง พันท้ายนรสิงห์ (พ.ศ.2487) บทประพันธ์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล เสียงร้องต้นฉบับโดย สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ เป็นการร้องสดบนเวทีไม่ได้มีการบันทึกเสียงไว้

ต่อมาเพลงนี้ใช้ประกอบภาพยนต์พันท้ายนรสิงห์ ที่ออกฉายเมื่อเดือนเมษายน 2492 อีกครั้ง เป็นการบันทึกเสียงร้องโดย บุญช่วย หิรัญสุนทร

ประวัติที่มาของเพลงนี้น่าสนใจมาก ขอแนะนำให้ตามไปอ่านจากกระทู้นี้ครับ //topicstock.pantip.com/isolate/topicstock/2011/04/M10439864/M10439864.html


ผมได้ฟังเพลงนี้มาหลายเวอร์ชั่นแล้ว แต่เวอร์ชั่นนี้ยอมรับว่าฟังครั้งแรก อึ้ง… ตะลึง
ถ้าจะให้นิยาม ผมอยากจะเรียกว่า transparent คือไม่มีตัวตนของนักร้องอยู่ ไม่มีลูกเล่น ที่เป็นบุคลิกของนักร้อง แบบที่ได้ยินจากชรินทร์ นันทนาคร หรือได้ยินการออกเสียงของนักร้อง แบบเวอร์ชั่นของ ฉลอง สิมะเสถียร ในเวอร์ชั่นลุงบุญช่วย จะได้ยินแต่เนื้อหา และอารมณ์ของเพลง
(พอดีผมถนัดทาง visual language มากกว่าด้านเพลง ผมขอเปรียบเทียบเวอร์ชั่นนี้เหมือนฟอนต์ helvetica ที่สื่อสารข้อมูลไปให้ผู้อ่าน โดยไม่มีผลกระทบจากบุคลิกหน้าตาฟอนต์ที่จะพาให้ข้อมูลบิดเบือนไป)

น้ำตาแสงไต้เวอร์ชั่นนี้ เป็นเวอร์ชั่นที่หวาน และเศร้าที่สุดเท่าที่เคยได้ฟังมา ลุงบุญช่วย ร้องได้สมศักดิ์ศรีผู้ที่ได้รางวัลชนะเลิศนักร้องแห่งประเทศไทยจริงๆ
ลองฟังดูครับ

น้ำตาแสงไต้ - บุญช่วย หิรัญสุนทร

Create Date : 03 ตุลาคม 2554 Last Update : 3 ตุลาคม 2554 22:59:18 น. Counter : 1984 Pageviews.		1 comments
Share Tweet