Nick Dhapana's Blog
|
|||
ไพบูลย์ บุตรขัน ตอน 7 กลิ่นโคลนสาบควาย มีเรื่องเล่า และข้อสันนิษฐานกันมากมายหลายหลาก ว่าทำไมรัฐบาลในสมัยนั้นจึงห้ามไม่ให้มีการเผยแพร่เพลงกลิ่นโคลนสาบควายทางวิทยุกระจายเสียง มีทั้งข้อสันนิษฐานว่า ตาสี คงเป็นชื่อของบิดาของผู้มีอำนาจในสมัยน้ั้น ความเห็นนี้เป็นของ ชาญ เย็นแข ที่พูดหยอกๆ ทีเล่นทีจริง แต่มีคนเอามายึดถึงเป็นจริงเป็นจัง ข้อสันนิษฐานหนึ่งที่ผมเห็นว่าน่าจะพอฟังได้คือ เพลงนี้เป็นเพลงที่กองทัพปลดแอกประชาชนแห่งประเทศไทย ใช้เป็นเพลงนำรายการวิทยุกระจายเสียงของฝ่ายคอมมิวนิสม์มานาน ตั้งแต่ในยุคจอมพล ป. พิบูลย์สงคราม สมัยที่เพลงนี้ออกใหม่ๆ เพราะเป็นเพลงที่มีเนื้อหากินใจ ยิงตรงยัง target group ของกลุ่มกองทัพปลดแอกฯ จนกระทั่งสหายปรีชา หรือ จิตร ภูมิศักดิ์ ได้แต่งเพลงภูพานปฏิวัติให้ในปี พ.ศ. 2508 และใช้เป็นเพลงของกองทัพปลดแอกฯ ที่ภายหลังแปรสภาพมาเป็นพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยนั่นแหละ เพลงกลิ่นโคลนสาบควายถึงได้พ้นโทษแบนในสมัยจอมพลสฤษฎิ์ ธนะรัชต์ เพลงนี้เป็นเพลงที่มีเนื้อหาแบ่งแยกยกย่องชาวนา แฝงด้วยน้ำเสียงตำหนิผู้ที่มีฐานะทางสังคมดีกว่า ซึ่งกำลังเป็นประเด็นร้อนอยู่ในสังคม และเข้าทางฝ่ายคอมมิวนิสม์ ว่ากันในบริบทในสมัยนั้น ต่อให้เพลงนี้ไม่ถูกใช้เป็นเพลงนำรายการวิทยุฝ่ายซ้าย ก็ยังมีเนื้อหาที่วิพากษ์วิจารณ์การแบ่งชนชั้นทางสังคม มีแนวโน้มที่จะถูกเพ่งเล็งอยู่ดี แต่ตามปกติธรรมดาว่าเวลารัฐบาลปัญญาอ่อนโยนใช้วิธีห้ามโน่นห้ามนี่ เราก็ยิ่งอยากทำ ห้ามเปิดเพลงไหน เราก็ยิ่งอยากหาเพลงนั้นมาฟัง เพราะนอกจากหาฟังที่อื่นไม่ได้แล้ว เราก็ยังอยากรู้ว่าทำไมถึงห้าม (วะ) ทำเอาแผ่นเสียงเพลงกลิ่นโคลนสาบควายขายดีชนิดพิมพ์แผ่นกันไม่ทันเลยทีเดียว ขึ้นราคาจาก 17 บาท ไปเป็น 30-40 บาท ก็ยังขายได้ เป็นเพลงที่ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำให้ผู้เกี่ยวข้องทุกคน ถือได้ว่าโชคดีที่ถูกแบน แผ่นเสียงเพลงนี้ขายได้ไม่ต่ำกว่า 6 พันแผ่น ใน 15 วัน ในยุคที่เพลงโคตรดังอย่างค่าน้ำนม ขายได้แค่ 800 แผ่นเอง พูดได้ว่าในยุคนั้นใครมีเครื่องเล่นแผ่นเสียง ก็ต้องมีแผ่นนี้อยู่ในครอบครองอย่างแน่นอน เพลงกลิ่นโคลนสาบควายต้นฉบับ บันทึกเสียงในปี พ.ศ. 2496 โดยเสียงของ ชาญ เย็นแข เพลงนี้ยังไม่ต้องว่ากันถึงเนื้อเพลง หรือเรื่องราวของเพลงหรอกครับ แค่ชื่อเพลงก็เพราะแล้ว การเลือกคำที่เป็นชื่อเพลง นอกจากสื่อความหมายโดยการวาดภาพ (ประกอบกลิ่น) แล้ว ก็ยังใส่กลบท ของร้อยกรองกันตั้งแต่ชื่อเพลงเลยทีเดียว ในเพลงนี้ สิ่งที่โดนใจคือการวาดภาพชีวิตของชาวนาออกมาในเพลงได้อย่างชัดเจน ทำให้คนฟังเหมือนเข้าไปอยู่ร่วมในเหตุการณ์ และไม่ใช่แค่ภาเท่านั้น ยังมีการสะท้อนความคิด และอุดมการณ์ทางสังคมออกมาในเพลงด้วย นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เพลงนี้เป็นอมตะ เทคนิคในการเล่าเรื่อง และอุดมการณ์เบื้องหลัง ทำให้เพลงมีแก่นของเนื้อหาที่แข็งแรง เมื่อฟังที่ไร ไม่ว่าจะในสมัยนั้น หรือเมื่อห้าสิบปีผ่านมา ก็ยังสะท้อนภาพที่จริงอยุ่เสมอ ถึงแม้ในเพลงนี้จะไม่มีการใช้ภาษา ที่รุ่มรวยพิสดารเหมือนในเพลงอื่นๆ ของครูไพบูลย์ก็ตาม แต่ก็ยังมีลีลากวีที่งดงามไม่น้อยในการวาดภาพให้คนฟังได้เห็น ภาพชีวิตชาวนาในเพลงนี้ ไม่ใช่ภาพชีวิตชาวนาจากมุมมองของชาวกรุงที่ไม่ได้มีความรู้อะไร ได้แต่เห็นชาวนาแล้วก็คิดเอาเองว่า “…ข้างขึ้นเดือนหงาย เราขี่ควายชมจันทร์...” หรือ “…ไขว่ห้างนั่งเฉย เอ้อระเหยลอยชาย เป่าขลุ่ยเพลงหนังบนหลังควาย ชื่นพระพายโชยมา...” แต่ครูไพบูลย์ที่มาจากครอบครัวชาวนานั้นบอกให้เรารู้ว่าชาวนานั้น “…ชีวิตเอย ไม่เคยสบาย ฝ่าเปลวแดดแผดร้อนแทบตาย ไล่ควายไถนาป่าดอน เหงื่อรินหยดหลั่งลงรดแผ่นดินไทย จนผิวดำเกรียมไหม้ แดดเผามิได้อุธรณ์...” เมื่อสะท้อนจากปากคำของกวีชาวนา จึงไม่แปลกที่เพลงนี้จะสะท้อนชีวิตชาวนาได้ราวกับเป็นสารคดีเรื่องหนึ่ง ...อย่าดูหมิ่น ชาวนาเหมือนดั่งตาสี เอาผืนนาเป็นที่ พำนักพักพิงร่างกาย ชีวิตเอย ไม่เคยสบาย ฝ่าเปลวแดดแผดร้อนแทบตาย ไล่ควายไถนาป่าดอน เหงื่อรินหยด หลั่งลงรดแผ่นดินไทย จนผิวดำเกรียมไหม้ แดดเผามิได้อุธรณ์ เพิงพักกายมีควายเคียงนอน กลิ่นโคลนสาบ ควายเคล้าโชยอ่อน ยามนอนหลับแล้วใฝ่ฝัน กลิ่นโคลนสาบควายเคล้ากายหนุ่มสาว แห่งชาวบ้านนา ไม่ลอยเลิศฟ้าเหมือนชาวสวรรค์ หอมกลิ่นน้ำปรุงฟุ้งอยู่ทุกวัน กลิ่นกระแจะจันทร์ หอมเอยผิวพรรณนั้นต่างชาวนา อย่าดูถูก ชาวนาเห็นว่าอับเฉา มือถือเคียวชันเข่า เกี่ยวข้าวเลี้ยงเราผ่านมา ชีวิตคนนั้นมีราคา ต่างกันแต่ชีวิตชาวนา บูชากลิ่นโคลนสาบควาย ======================================== เข้ามาเยี่ยมชมครับ
โดย: BoonsermLover วันที่: 16 ตุลาคม 2554 เวลา:5:54:56 น.
|
อะธีลาส
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 44 คน [?] Photographer, photo educator, writer and more....... อนุญาตให้ ใช้ ดัดแปลง แก้ไข ตัดต่อ ทำสำเนา เผยแพร่ อ้างอิง จำหน่าย จ่ายแจก ภาพ และบทความในบล็อกนี้ ส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมด เพื่อสาธารณะประโยชน์ เพื่อการศึกษา เพื่อกิจส่วนตัว และเพื่อการค้าได้ โดยไม่ต้องขออนุญาต ตามสัญญาอนุญาตใช้งาน Creative Commons: Attribution. Website http://mister-gray.bloggang.com https://twitter.com/nickdhapana http://500px.com/NickDhapana https://plus.google.com/+NickDhapana http://nickdhapana.tumblr.com http://instagram.com/nickdhapana https://www.facebook.com/dhapana/about Skype & Email cmosmyp@gmail.com Line nickdhapana My Project's Page Public Telephone https://www.facebook.com/PublicTelephoneProject They didn't say that. https://www.facebook.com/pages/They-didnt-say-that/116827521834600 Exposure to the RIGHT https://www.facebook.com/pages/Exposure2the_RIGHT/538556252881951 Thailand Perspective Project https://www.facebook.com/ThailandPerspective Dead on Arrival https://www.facebook.com/pages/Dead-on-Arrival/666461363385961 Group Blog All Blog
Friends Blog |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |