ตื่นเช้าขึ้นมา เราก็เตรียมชิ่งหนีค่าห้อง
เอ้ย ม่ายช่าย
คือ เรากะจะรีบออกไปก่อนจะถึงเวลาอาหารเช้า
เพราะว่าวันนี้เรามี plan ยาวต้องข้ามไป Austria ตอนบ่ายๆด้วย

แต่หนีไม่พ้น พอดีเค้ากำลังตั้งอาหารอยู่
เค้าเลยชวนเรากินก่อนเวลา

อาหารเช้าก็เดิมๆ ชีส แฮม ขนมปัง กาแฟ
แต่ก็ยังเป็นอาหารที่ถูกปากสำหรับแม่และผมอยู่ดี



เราก็ขับรถจากโรงแรมไปนิดนึง ก็ถึงทะเลสาบ Königssee

ทะเลสาบ Königssee ว่ากันว่าน้ำใสและสะอาดที่สุดของเยอรมัน

เรามาถึงกันแต่เช้า เจ็ดโมงกว่า ที่จอดรถว่างมากๆ



จริงๆก็อาจจะมาเช้าไปนิดนึง เพราะว่าเรือเที่ยวแรกของช่วงเดือนนี้
คือ แปดโมงครึ่ง

ร้านต่างๆเลยยังไม่เปิด แต่อากาศดีฮะ



เราก็มาเดินถ่ายรูปดูวิวซะก่อนล่ะกัน





ไปพ่อ ไปดูเป็ดกัน







เดินไปเดินมา พ่อก็เกิดอาการอยากจะไปสำรวจห้องน้ำ
ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันของพ่อ



ส่วนผมก็อยู่กะแม่

อยากจะเอาไอติมไปฝากสาวๆที่เมืองไทย
แต่แม่ว่า มันจะละลายในปากซะก่อน สาวๆเลยอดนะฮะ



ได้เวลาเปิดขายตั๋ว ก็ไปซื้อตั๋ว
ต่อคิวกันยาวเลยเหมือนกันนะฮะ

เราจะนั่งเรือกันไปลงสุดสายเลย ที่ Salet
จะผ่านป้ายยอดนิยมที่ St. Bartholomä ไปก่อน

ค่าตั๋วเลยอยู่ที่คนละ 15.80 ยูโร



ขึ้นเรือแล้ว เรือที่นี่จะเป็นเรือไฟฟ้า
เพราะด้วยความที่เค้าจะอนุรักษ์น้ำสะอาดไว้
ทะเลสาบนี้เลยอนุญาติให้ เฉพาะเรือไฟฟ้ากะเรือพายแล่นเท่านั้นเองฮะ

นี่ลุงคนขับเรือ มาดเค้าเท่ห์ไม่เบา





ผมก็ร่าเริง ทักทายผู้โดยสารตามธรรมเนียม



นั่งเรือไปซักพัก ตาคนขับก็จะไปทำหน้าที่เป่าทรัมเป็ต
ตรงนี้มันเป็นจุด Echo point คือ เป่าทรัมเป็ตไป ก็จะมีเสียงสะท้อนกลับมา
แสดงถึงความสะอาด ความเคลียร์ของสถานที่
เป่าจนจบเพลง ผู้โดยสารก็เชียร์ให้เป่าอีก ก็เป่ากันสองรอบ
แล้วผู้โดยสารก็จะทิปให้ตาลุงคนเป่าแตรนี้

พ่อแม่ผมก็ทำนิ่งๆ ตอนที่คนอื่นเค้าให้เงินตาลุงนี้

ผมก็ไม่รู้จะทำไง แกล้งทำหลับดีกว่า



ใครจะชมวิวก็ชมไป
(จริงๆวิวสวยกว่าในรูปนี้มาก แต่ฝีมือคนถ่ายหรือกล้องก็ไม่รู้ ทำให้รูปออกมาได้แค่นี้)



ผ่านโบสถ์ St. Bartholomä ไปก่อน
เดี๋ยวกลับมาแวะฮะ



วิวหลังจากป้ายนี้ก็ยังคงสวยอยู่





ใกล้จะถึงป้ายสุดท้ายแล้ว



เหลือไม่กี่คนในเรือเองฮะ ที่มาลงป้ายนี้



ถามคนขับว่า แถวนี้มีอะไรไม๊
คนขับก็แนะนำนักหนา ว่าเดินไป 10 นาที จะมีทะเลสาบข้างใน สวยมาก



เดินไปเรื่อยๆ เฮ้ย ชักเหนื่อย (ผมไม่เหนื่อย เท่าไหร่)
ได้ยินเสียงแม่บ่นว่า ถ้าไม่สวย คนขับสวยแน่

นี่ลำธารน้ำ



โอว มาถึงทะเลสาบแล้ว เดินล่อไปเกิน 20 นาที
แต่หายเหนื่อยเลยฮะ



ต้องมีถ่ายรูปเก็บภาพไว้หน่อย



เดินกลับก็เจอวัวมากวน



เราก็รอเรือลำต่อไป ย้อนกลับไปที่ St. Bartholomä



ขอถ่ายรูปครอบครัวซะหน่อย



เจ้าหมากะเจ้าของ
เห็นแล้วอิจฉาหมาที่นี่จังฮะ ได้ไปเที่ยวตลอดเลย



ดูรูปแม่ผมกันหน่อย จะได้ปลงก่อนไปโบสถ์



อ่ะ รูปโบสถ์หัวหอมแดง St. Bartholomä ฮะ
เป็นโบสถ์สไตล์บาร๊อค เชื่อว่า คุ้มครองชาวบ้าน ชาวนากะคนรีดนมแถวนี้
จะออกแนวดีไซน์ออสเตรีย เพราะว่าตรงนี้ มันจะติดชายแดนออสเตรียแล้ว
คนออกแบบโบสถ์ ก็เป็นชาวออสเตรีย





กลับกันดีกว่า
แหะ แหะ ตื่นแล้วฮะ



ฟ้ามืดจัง



ถ่ายรูปกันบนเรือ เหมือนจะ happy
ก็หิวนะฮะ แม่ดันลืมเอาหลอดมาอีก ดูดนมไม่ได้ ต้องดื่มจากขวด
ไม่เจ๋งทำไม่ได้นะฮะ



ไปเติมพลังกันที่แมคโดนัลด์แบบสิ้นคิด

แล้วไม่ลืมเติมพลังรถด้วย

พ่อต้องกลายเป็นเด็กปั้ม ที่นี่เติมกันเอง แล้วไปจ่ายเงินในร้าน
รอบแรก 60 ยูโรฮะ



เราจะข้ามแดนไปออสเตรีย
พ่อก็ไม่ลืมที่จะซื้อ Sticker Vignette (Road Tax) 7.60 euro/10 days
มันเป็นเหมือนเราต้องจ่ายภาษีค่าใช้ทางของออสเตรีย
ไม่งั้น ถ้าโดนปรับ จะแพงมาก ก็ซื้อกันเหนียวไว้

ลืมถ่ายรูปไว้ให้ดู แล้วก็ลืมแกะออกจากรถตอนคืนรถด้วย
น่าจะเก็บไว้เป็นที่ระลึกซะหน่อย

วิวข้างทางก็สวยอีกฮะ
ผมว่า มันสวยขึ้นทุกวันๆ (เหมือนแม่)






มาถึงแล้ว Hallstatt เป็นที่ๆพ่อกะแม่เค้าคาใจ
ไม่ได้มา ตอนเที่ยวออสเตรีย เยอรมัน(มิวนิค) อิตาลี เมื่อหลายปีก่อน
เพราะตอนนั้นเหมืองเกลือปิด



ที่นี่ร้อนมาก ดูซิฮะ ว่าเค้าร้อนกันขนาดไหน



ผมก็ไม่ใส่ใจอะไรกะสาวแห้งๆพวกนั้น
ชอบแบบล่ำๆมีเอว มีสะโพกแบบแม่มากกว่า (ใช่ไม๊ฮะพ่อ )

ว่าแล้วชวนแม่ไปดูเป็ดให้หายเซ็งกันฮะ





มันร้อนจังเลยฮะ เดินเข้าไปในเมืองกัน
ร้อนจนหมดแรง



ไอ้ Beinhaus หรือ Bone house ไม่ไปแล้ว ร้อน
วิวยอดนิยมอะไร ไม่สนกัน ร้อนๆๆๆ
ทีแรกจะพากันนั่งเรือไปสถานีรถไป แล้วนั่งกลับ
ตอนนี้ ไม่ไหวจะเคลียร์

ไปเหมืองเกลือดีกว่า

ขึ้นรถรางไปกัน ค่ารถรวมค่าเข้าเหมือง คนละ 24 euro



แล้วเจ้าข้าเอ้ย ต้องเดินขึ้นเขาต่อไปอีก
โอเคอากาศดี แต่ก็เหนื่อยๆๆๆๆฮะ



พอขึ้นมาถึงรู้ได้ว่า เด็กต่ำกว่า 4 ปี ห้ามเข้าเหมืองเกลือ
ทีนี้ ซื้อตั๋วมาแล้ว แพงด้วย
พ่อเลยเสียสละ (รึเปล่า) ให้แม่เข้าเหมืองไปคนเดียว

เข้าเหมืองนี่ก็ต้องเปลี่ยนชุดเป็นชุดคนงานในเหมืองก่อน

ทางเข้าเหมือง



แม่เข้าใจมาตลอดว่า จะมีรถไฟพาเข้าเหมือง แล้วก็บรรยายโน่นนี่
แบบว่าครึ่งชั่วโมงคงจะจบ

คือว่ามันก็เบื่อๆด้วย ไปคนเดียว กว่าจะบรรยายเสร็จแต่ละภาษา
ไม่มีคนถ่ายรูปให้แม่ด้วย
ยิ่งมืดๆ คนคงมองเห็นแม่ได้ยากมาก สีกลืนกันมาก



จุดที่ทำให้แม่เซ็งที่สุดก็คงเป็น การเล่นสไลเดอร์ที่ไม่คาดฝันว่าจะมีกิจกรรมส่วนนี้ด้วย

มันเป็นเหมือนกระดานลื่น ที่เราต้องขี่แล้วปล่อยไหลลงไป
ลึกมากนะพระเจ้า

แต่ทุกคนเค้าก็ลงกันหมด ไม่งั้นต้องเดินคอตกลงบันไดไปแบบผู้แพ้



ยัยไกด์บรรยาย ก็สุดโหด แถมมีกลุ่มคนไทยด้วยนะ แม่เสียหน้าไม่ได้
แม่ก็เลยใช้ช่วงเวลาที่คนเค้าเกี่ยงกันลง แม่ก็ลงไปเลย

ลงไปแบบหัวทิ่ม เพราะความที่กลัว เลยเอาเท้าถ่าง เลยสะดุดราง เบรคหัวทิ่ม

มันก็ไม่เท่าไหร่ ถ้ายัยไกด์ไม่มาด่าแม่หลังจากนั้น
มาบ่นใหญ่เลยว่า บอกแล้วว่าอย่าเบรค อย่ากางมือกางเท้า

ก็ช่างมัน ผ่านไปแล้ว

แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆ

มันมีอีกอันนึงค่าาาาาาา

ชันกว่าเดิม สูงกว่าเดิม โอ้ว อยากจะถอนตัว
แต่ยอมแพ้ไม่ได้!!!

คราวนี้มันมีถ่ายรูปเอาไว้ขาย ห้ายูโรก็ต้องซื้อ
แม่ก็ซื้อกลับมา เพราะว่าไม่มีรูปตัวเองในเหมืองเกลือเลย
ดูหน้าแม่ดิ แย่ได้อีกนะเนี่ย ทำรูปเล็กหน่อยล่ะกัน อายแทนแม่ฮะ



กว่าจะจบสิ้นการแสดงโชว์ ชั่วโมงกว่า

แม่ก็ได้ออกมาสู่โลกภายนอก
วิวที่สวยงามที่สุดที่แม่เจอคือน้ำตกนี่
ระหว่างทางที่เดินซมซานมาหาพ่อกะผม



ผมกะพ่อรอเยาะเย้ยแม่อยู่ข้างนอก ฮ่าฮ่า

ป่ะ ห้าโมงกว่าแล้ว กลับกันดีกว่า
ที่สำคัญ ผมอึไว้ ไม่ได้พก poko มา ต้องไปเปลี่ยนในรถ

ระหว่างลงรถรางมา วิวก็สวยมาก (แต่กลิ่นหึ่งไปทั้งรถราง 55)



อ๋อ เราตัดสินใจลองไปคืนตั๋วเข้าเหมืองที่จุดซื้อตั๋ว
เผื่อจะได้เงินคืน เพราะพ่อไม่ได้เข้าไป
ยัยเจ๊แกก็บ่นๆนิดหน่อย แล้วก็คืนเงินมา เย้ๆๆๆ
(รู้งี้แม่ไม่เข้าดีกว่า)

เราจอดรถไม่ไกลจากเหมืองเกลือมาก
ระหว่างทางก็มีใบไม้แดง (ได้ยังไง ในฤดูนี้)



เปลี่ยน poko กลางที่จอดรถกันเลย เห็นปิกาจูผมเลยฮะ

บ๊าย บาย Hallstatt



ต้องขับไปอีก 3 ชั่วโมงครึ่ง ถึงจะถึงที่พักฮะ
เราจะไปกันที่ Mittenwald เยอรมัน

ขับผ่าน Innsbruck ก็น่าสนนะฮะ
แม่เคยอยากมาเมืองนี้มากๆ ชวนพ่อเที่ยวยิกๆ
แต่ดูๆแล้ว คงไม่ต่างจากเมืองที่เรากำลังจะไปกันมาก

ดูวิวยามค่ำ สองทุ่มกว่าๆ ยังไม่มืดเลย








ไปถึงโรงแรมก็เกือบสี่ทุ่มแล้ว
โรงแรมนี้หน้าบ้านไม่งาม แต่ข้างในตะติ๊งโหน่ง
มีห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำก็เลิศ ระเบียงก็กว้าง



เสียดายมากก็เริ่มมืดแล้ว
อยู่ได้คืนเดียวอีกตะหาก ตอนจองจะขอต่อเป็นสองคืน
เพราะพรุ่งนี้เราก็เที่ยวแถวๆนี้กัน กลับมานอนที่นี่ได้
ดันไม่ว่างซะนี่ ไม่เป็นไร เดี๋ยวรีบตื่นมาเล่นต่อนะฮะ

วันนี้ลาด้วยวิวนอกโรงแรมตอนสี่ทุ่มกว่า



พรุ่งนี้ไปพิชิตยอดเขา Zugspitze ยอดเขาที่สูงที่สุดของเยอรมันกันนะคร๊าบบบ

Create Date : 16 มิถุนายน 2553		8 comments
Last Update : 21 มิถุนายน 2553 11:25:01 น.
Counter : 1844 Pageviews.
Share Tweet