ผม นายเอเต้หัวหน้าบริษัททัวร์ที่มีชื่อว่า หนึ่งหญิงสองชายทัวร์ กลับมาวงการ bloggang แล้วคร๊าบบบบบ ขอมาโม้เรื่องไปเที่ยวก่อนนะฮะ
ช่วงที่ผ่านมา ผมได้พาพนักงานและผู้ร่วมหุ้นชีวิตไปเที่ยวประจำปีกัน คิดอยู่ว่าจะพาไปไหนดีน้อ
ได้ยินว่าแม่อยากไปยุโรป (ได้ยินทุกวันจริงๆ) เพราะ"เพลงกล่อมนอน"ผมช่วงนั้นจะร้องแต่ "ยุโรป ทิศใต้ติดน้ำ เหนือก็ติดน้ำ เว้นทิศเดียวตะวันออกติดเอเซีย ยุโรป หนาวมากกว่าร้อน ประชากรมากมาย เหนือใต้กลางออกตก หกร้อยกว่าล้าน....." แม่ร้องวนอยู่แบบนี้ฮะ เพราะว่าตอนเพลงนี้ดังๆ สมัยหนังวัยระเริง แม่เค้ายังเด็กมากๆ
ผมเองก็อยากจะให้โบนัสความขยันขันแข็งของแม่ เป็นทั้งแม่ทั้งพี่เลี้ยงที่อดทนทำงานให้ผมมาขวบปีนึงแล้ว อยากพาแม่ไปเที่ยวอย่างที่แม่อยากไป - ดูกตัญญูไม๊ฮะ สร้างภาพนิดส์ (ไม่งั้นผมคงต้องทนฟังเพลงยุโรปไปอีกนานแน่ๆ ฟังแล้วมันหลับไม่ลงจริงๆฮะแม่)
แต่ผมน่ะ ไม่มีเงินซื้อตั๋วเครื่องบินไปได้ไกลถึงยุโรปหรอกนะฮะ เลยไปหลอกล่อพ่อ ให้ซื้อตั๋วเครื่องบินให้แม่เป็นของขวัญวันครบรอบแต่งงาน โชคดี หลอกพ่อสำเร็จ อิอิ (จริงๆอ่ะ เพราะแม่เป็นภรรยาที่แสนดีมาตลอด 6 ปีตะหาก) เพราะช่วงนั้นมีโปรโมชั่นของ Lufthansa พอดี ตั๋วผู้ใหญ่ คนละ 12000 บาท + ภาษี 11165 บาท = 23165 บาทต่อคน เลยไปลงที่ Frankfurt เยอรมันนี ถูกสุดแล้ว (ก่อนหน้านี้มีลดราคากว่านี้อีกฮะ แต่พ่อไม่ได้จอง รวมคนละ 16000 เองแหล่ะฮะ เสียดายจัง)
แม่ดีใจม๊ากมาก แต่ก็ไม่ไว้ใจพ่อ รีบเช็คว่า เป็นตั๋วเที่ยวเดียว ไม่ได้กลับรึเปล่า เพราะแม่คิดว่าพ่ออาจจะมีแผนกำจัดแม่แบบง่ายๆ อาศัยความอยากไปเที่ยวแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ แล้วเอาแม่ไปทิ้ง
แต่พ่อผมเค้าเป็นคนดีฮะ ไม่กล้าปล่อยแม่ไปคนเดียวหรอก เพราะเค้าก็อยากเที่ยวเหมือนกัน แต่ว่าแอบคิดจะไปทิ้งไว้ที่เยอรมัน แต่ก็คอยดูพฤติกรรมแม่ก่อน ว่าควรถูกทิ้งอ่ะป่าว
ส่วนตั๋วของผมเอง ราคา 1200 บาทเท่านั้นฮะ ค่าภาษีอะไรก็ไม่เสีย สายการบินนี้ดีจริงๆ อายุต่ำกว่า 2 ขวบ เสีย 10% ของราคา Promotion ซะด้วย
สรุป ได้ตั๋วแล้ว ตั๋วผู้ใหญ่สองใบชั้นอีโคโนมันนี่ (Eco no money) กะตั๋วเด็กชั้นบิสซี่แน่ (Busy-nae)
ต่อไปก็ไปทำวีซ่า
ทำวีซ่าที่สถานทูตเยอรมันไม่ยาก แต่คิวยาว ต้องโทรไปจองคิวล่วงหน้า (เบอร์ 1900 222 343) อย่างพวกเรา โทรไปวันที่ 22 มีนา ได้คิววันที่ 21 เมษา โทรไปเนี่ย นาทีละ 9 บาทนะฮะ เค้าจะถามชื่อ-นามสกุล หมายเลขหนังสือเดินทาง ทางสถานทูต ถึงกะ shock พอรู้ข้อมูลผม เค้าบอกว่า ระดับผม ไม่ต้องไปขอด้วยตัวเองก็ได้ มันก็แน่ล่ะ ระดับเจ้าของบริษัททัวร์อย่างนายเอเต้แล้วอ่ะนะ
ระหว่างนี้ก็เตรียมเอกสารกันไป เอกสารที่ต้องเตรียมก็มี 1. แบบฟอร์มคำร้องวีซ่าเชงเก็น - โหลดเอาจาก //www.bangkok.diplo.de/ 2. รูปถ่าย 2 ใบ (ฉากหลังของรูปเป็นสีขาว) - เอารุปที่เคยใช้ตอนไปญี่ปุ่นซะเลย ไม่เปลือง 3. Passport 4. หลักฐานการทำงานในประเทศไทย เช่นหนังสือรับรองจากนายจ้างที่ระบุจำนวนปีทำงาน ตำแหน่งและเงินเดือน กรณีที่เป็นเจ้าของกิจการ ต้องแสดงหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท - อันนี้ให้พ่อจัดการเป็นตัวแทนบริษัท 5. หลักฐานการเงิน ได้แก่ หนังสือรับรองจากธนาคารพร้อมสมุดบัญชี ที่แสดงว่าสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยตนเอง - อันนี้ให้พ่อกะแม่ไปขอที่ Bank เสียเงินออกจดหมาย 100 บาท 6. หลักฐานแสดงเส้นทางการเดินทาง คือ ใบจองเที่ยวบินโดยสารทั้งขาไป-ขากลับ 7. หลักฐานที่พักอาศัย คือ ใบจองที่พักจากโรงแรม - เราก็มั่วรีบวางแผน รีบจองโรงแรม ใช้ //www.booking.com ราคาก็พอได้ แถมไม่ต้องเสียค่าจองก่อน ไปจ่ายเงินเอาที่โรงแรมได้เลย จะยกเลิกก็ยังได้ ในกรณีวีซ่าไม่ผ่าน 8. หลักฐานการประกันสุขภาพและอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง ที่มีวงเงินประกันสูงเพียงพอ (ไม่ต่ำกว่า 30,000.-- ยูโร หรือ 1.5 ล้านบาท) - ซื้อแบบครอบครัว ถูกกว่าเยอะเลยฮะ
วันที่ไปขอวีซ่า สองคนนั่นก็ไปกันแต่เช้า เพราะจองไว้คิวแรก 7.30 am ไปถึงก็คิวยาวเหยียดเพราะต้องตรวจอาวุธก่อนเข้าสถานทูต
แม่ผมน่าสงสาร กว่าจะได้เข้าสถานทูต ยากมาก เดินเข้าไปก็มีเสียงเตือน ติ๊ดๆๆๆ ว่ามีอาวุธตลอด เจ้าหน้าที่ก็จะมาเช็คอยู่น่านล่ะว่ามีอะไรผิดปกติ
ที่แท้ แม่ผมเค้ามีหน้าตาเป็นอาวุธนั่นเอง แหม สวยขนาดนี้ น่าจะสังเกตเห็นได้ง่ายๆ
พอถึงเวลา 7.30 am ข้างในสถานทูตก็เปิด ก็ตามลำดับคิวที่จองมาฮะ พ่อกะแม่ก็ได้เข้าไปเป็นคิวแรก ตรวจเอกสารเสร็จ ก็ไปจ่ายค่าวีซ่า สถานทูตพวกเชงเก้นนี่ จ่ายเงินก่อน วีซ่าจะผ่านหรือไม่ผ่านก็ไม่สน ไม่คืนเงิน ค่าวีซ่า ราคาจะไม่เท่ากันในแต่ละวัน ขึ้นอยู่กับค่าเงิน เค้าจะคำนวณจากค่าเงินยูโร ณ วันนั้นๆ ค่าทำวีซ่าอยู่ที่ 60 ยูโร
เสียเงินค่าวีซ่าไปคนละ สองพันกว่าบาท อีกล่ะ ระดับผมอ่ะ ไม่เสียเงินค่าวีซ่าฮะ เส้นหย่าย
อีก 2 วันทำการก็ค่อยไปเอาวีซ่า
ได้วีซ่ามาเป็นงี้ฮะ
วางแผนเที่ยวกัน
ทีแรก ตั้งใจจะไป amsterdam belgium prague แต่มานั่งคิดดู เวลามีไม่เยอะ ค่ารถไฟ EuroRail Pass ก็แพง เที่ยวได้ประเทศละนิดละหน่อย ไปเยอรมันมันอย่างเดียวเนี่ยล่ะ แอบแว่บไปออสเตรียแว๊บนึงพอ
พวกเราตัดสินใจขับรถเที่ยว ให้พ่อทำหน้าที่เป็นคนขับรถตามปกติ พ่อไปทำใบขับขี่สากล 505 บาท แม่ก็ทำหน้าที่พี่เลี้ยง ปรนเปรอผมระหว่างนั่งรถ แถมเกิดผมกรี๊ด ผมอึ ผมหิว ผมเมื่อยได้ แวะระหว่างทางได้
จองรถ เลือกดูระหว่าง //www.weekrent.com กะ //www.sixt.com
ในราคาพอๆกัน ที่ Sixt รถรุ่นเล็กกว่า มีเกียร์ automatic แต่ไม่ confirm ว่าจะได้เกียรออโต้ (ที่บริษัทนี้ ราคาเกียร์ manual กะ auto เท่ากัน) ที่ weekrent รถรุ่นใหญ่กว่า แต่เกียร์ manual (ถ้าเอา auto ต้องบวกอีก 5000 โดยประมาณ)
พ่อไม่อยากเสี่ยงที่ Sixt เพราะท่าทางที่เยอรมัน เค้าไม่ค่อยขับเกียร์ออโต้กัน คงหารถได้ยาก จะกลายเป็นได้รถเล็กกว่าแถมเกียร์ธรรมดาอีก ไปเสี่ยงขับเกียร์ manual ที่ไม่คุ้น ชีวิตจะได้มีลุ้นกันไป
เราเดินทางไปวันที่ 21 กลางคืน ออกจากนั่น 29 กลับถึงเมืองไทย 30 พฤษภา มีเวลาอยู่ที่นั่น 8 วันเต็มๆ ไม่เยอะมากฮะ แต่พ่อลางานได้แค่นี้เองฮะ
.....
ตามไปดูกัน เราไปไหนกันบ้าง ในเวลาสั้นๆแค่นี้ฮะ งานนี้เรียกว่าไปมั่วกันเอามันส์ ตามชื่อประเทศเยอรมันไงฮะ
......
Create Date : 08 มิถุนายน 2553 |
|
15 comments |
Last Update : 21 มิถุนายน 2553 11:23:28 น. |
Counter : 1618 Pageviews. |
|
|
|
ไปเมืองนอกเมืองนา ก็ไม่ชวนกันบ้างเลย