welcome to my world
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
6 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 

Maria-sama ga Miteru:Volume1 (ตอนที่ 2 ส่วนที่ 2)

Maria-sama ga Miteru:Volume1 (ตอนที่ 2 ส่วนที่ 2)

จากบทสนทนาเมื่อก่อนหน้านั้น คราวนี้ยูมิจึงพยายามที่จะไม่เหยียบลูกแปะก๊วย

แต่ก่อนยูมิไม่ได้ใส่ใจกับทางเดินมากนัก แต่เมื่อลองมองดูดีๆแล้ว ลูกแปะก๊วยที่ร่วงหล่นนั้นก็ดูคล้ายกับลูกพลัมสุก

"ในกรณีของซาจิโกะซามะแล้ว ฉันคิดว่าเธอคงจะช๊อคตอนที่ยูมิซังปฏิเสธเธอ มากกว่าตอนของฉันนะจ๊ะ"

"ทำไมล่ะ?"

"สำหรับฉันแล้ว ซาจิโกะซามะคงรู้อยู่แล้วล่ะเพราะเราลองเป็นพี่น้องกันอยู่ช่วงหนึ่ง ฉันแน่ใจว่าเธอคงสังเกตแล้วล่ะว่าเราไม่เหมาะสมกัน"

แต่ในกรณีของยูมิ ดูเธอจะมั่นใจอย่างมาก

"แต่ดูท่าทางเธอจะไม่ตกใจอะไรเลยนี่จ๊ะ?"

"เธอเป็นคนที่เกลียดความพ่ายแพ้น่ะจ้ะ เพราะอย่างนั้นแล้ว ถึงเธอจะรู้สึกอย่างไร เธอก็ไม่แสดงออกมาให้เห็นหรอก"

ทั้งคู่เดินตามกันขึ้นบันไดที่ไม่มีคน พวกเธอมาถึงก่อนที่เหล่าอาจารย์จะเข้ามาสอน ยังมีเวลาเหลืออีกหนึ่งนาที

อย่างที่ชิมาโกะซังคาดไว้ ชมรมหนังสือพิมพ์และนักเรียนคนอื่นๆไม่อยู่ตามทางเดินแล้ว

ชิมาโกะซังพูดขึ้นขณะเปิดประตูหลัง

"บางทียูมิซังกับซาจิโกะซามะ อาจจะเข้ากันได้ดีก็ได้นะจ๊ะ"

ยูมิพึมพำ"พูดอะไรของเธอน่ะ" แล้วก็ก้าวเข้าไปในห้อง มองไปที่ด้านหลังของเพื่อนนักเรียนที่เข้ามาก่อนแล้ว

ยูมิจะเข้ากันได้ดีกับซาจิโกะซามะผู้ที่ชิมาโกะซังบอกว่าเป็นคนหัวรั้นและเกลียดความพ่ายแพ้ได้อย่างไรกัน

โธ่ ชิมาโกะซังนี่ก็แปลกจริงๆนั่นแหล่ะ

...................................

ดูเหมือนว่าญี่ปุ่นจะเป็นประเทศเดียวที่มีระบบ"เวรทำความสะอาด"ในโรงเรียน (note:ไทยก็มีจ้ะ) ในอเมริกาและยุโรปนั้นโรงเรียนจัดว่าเป็น"สถานที่สำหรับเรียน" ถึงจะจดจำรายละเอียดไม่ได้แล้ว แต่จำได้ลางๆว่า ผู้บรรยายชาวต่างชาติในโทรทัศน์บอกว่าอย่างนั้น

(จะว่าไปแล้ว)

มันเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาด ขณะที่ยูมิกำลังทำความสะอาดพื้นโรงเรียน แต่คุณแม่กลับต้องทำความสะอาดห้องนอนของเธอแทน ถึงจะมีการสอนในชั่วโมงการเรือน แต่กระบวนการทำความสะอาดที่โรงเรียนกับที่บ้านก็ต่างกันเหลือเกิน

บางที่นี่อาจจะเป็นเหตุผลทางด้านจิตใจ เป็นการตอบแทนสิ่งที่นำมาใช้ด้วยการทำความสะอาดให้

อย่างไรก็ตาม ยูมิก็เหมือนกับเด็กทั่วไปที่ไม่ชอบทำความสะอาดนัก แต่ก็คงต้องยกเว้นการทำความสะอาดห้องดนตรีไว้ซักหน่อย

เนื่องจากห้องนั้นถูกเก็บเสียง พื้นจึงปูด้วยวัสดุที่เหมือนขนสัตว์ นั่นหมายความว่า ไม่จำเป็นต้องถูพื้นด้วยผ้าชุบน้ำหรือขัดน้ำมัน กำแพงนั้นก็ทำด้วยวัสดุเก็บเสียงแค่ปัดฝุ่นก็พอ อีกทั้งโต๊ะและเก้าอี้ก็เป็นแบบยึดติด จึงไม่จำเป็นต้องย้ายมันไปมา

ก็เพียงแค่ลากเครื่องดูดฝุ่นมาดูด เช็ดโต๊ะ ทำความสะอาดกระดานดำและกรอบหน้าต่าง รูปของโมสาร์ทและบีโทเฟนก็เอาไปเก็บไว้ในห้องของอาจารย์ผู้รับผิดชอบ

"ยูมิซัง ฝากนั่นหน่อยได้ไหมจ๊ะ?"

เพื่อนร่วมห้องที่เป็นเวรเดียวกันถามขณะปิดหน้าต่าง

"ได้จ้ะ"

ปกติแล้วยูมิจะรีบเผ่นไปทันทีที่เวรเสร็จ แต่วันนี้เธอรู้สึกอยากจะรออยู่อีกสักพักหนึ่ง

"ทุกคนไปก่อนได้เลยจ้ะ เดี๋ยวฉันจะลงบันทึกประจำวันเอง"

ถ้าออกจากโรงเรียนตอนนี้คงมีแต่คนมองแน่ๆ ยูมิไม่ได้กลัวว่ารถจะมีคนเยอะหรอก แต่ถ้าต้องตกเป็นเป้าของข่าวลือแล้วล่ะก็ เธอยังไม่กล้าพอที่จะเปิดเผยตัวเอง แต่เธอก็ไม่มีที่อื่นให้รอฆ่าเวลาอีกแล้ว

"งั้นเดี๋ยวเราจะรอจนกว่าจะเขียนเสร็จนะจ๊ะ ทิ้งให้ยูมิซังอยู่คนเดียวคงไม่เหมาะเท่าไหร่"

เพื่อนผู้ใจดีของยูมิเสนอความช่วยเหลือ

"แต่พวกเธอมีกิจกรรมชมรมไม่ใช่เหรอจ๊ะ เสร็จจากนี้ฉันก็ตรงกลับบ้านแค่นั้นเอง เมื่อวานฉันก็เป็นคนเอาบันทึกไปส่งอยู่แล้ว เดี๋ยววันนี้ก็จะเอาไปส่งให้เองจ้ะ"

ยูมิเสนอ แล้วเพื่อนอีกสามคนก็ตกลงกันเองว่า"งั้นพวกเราก็ไปกันเถอะนะ" แล้วพวกเธอก็เดินจากห้องดนตรีไป

"ลาก่อนนะจ๊ะ"

"เจอกันพรุ่งนี้นะ"

ตึกๆๆๆ เสียงฝีเท้าก้าวไวๆเดินจากไป

ระวังอย่าให้จีบกระโปรงนั้นยับ และระวังอย่าให้ผ้าพันคอนั้นยุ่ง ดูท่าพวกเธอจะรีบจริงๆจนลืมเรื่องพื้นฐานเหล่านี้ไปแล้ว

"อ๊า เบื่อจัง"

เมื่อไม่มีชมรมให้เข้าร่วม และไม่มีงานให้ประชุม จึงทำให้ยูมิว่างอยู่คนเดียวในเวลานี้

การแสดงของห้องคือการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับ"เส้นทางแห่งกางเขน" พวกเธอตั้งใจจะแสดงรูป 14 ใบ ของการประกาศคำสั่งประหารพระคริสต์ การเดินขึ้นเขาโกลกอททาของพระองค์ ไปจนถึงการฝังพระศพหลังถูกตรึงไม่กางเขน แล้วก็เขียนคำบรรยายไว้ใต้ภาพ

อย่างไรก็ตาม สำหรับนักเรียนโรงเรียนสตรีลิลเลี่ยนแล้ว พวกเธอเตรียมงานพวกนี้เสร็จหมดแล้วตั้งแต่ช่วงฤดูร้อน บางทีอาจจะเป็นเพราะพวกเธอนั้นทราบอยู่แล้วว่า จะต้องยุ่งอยู่กับงานชมรมของตัวเอง อีกทั้งงานเทศกาลโรงเรียนก็ใกล้เขามาแล้วด้วย การเตรียมตัวไว้ก่อนจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเมื่อถึงเวลานั้นแล้ว พวกเธอคงไม่มีเวลามากนักที่จะช่วยจัดนิทรรศการของห้องได้

"จะต้องรอไปถึงเมื่อไหร่กันนะ"

คงต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะกลับบ้านให้ไม่ตรงกับนักเรียนที่ทำกิจกรรมชมรม

"อ้อ ต้องเอาบันทึกไปส่งด้วยนี่นา"

อย่างไรก็ตาม ยูมิก็ยังไม่อยากออกไป เพราะเธอยังคงได้ยินเสียงของนักเรียนที่เดินออกจากห้องเรียนหรือชมรมหลังโรง เรียน ผ่านทางประตูที่เปิดแง้มไว้ครึ่งหนึ่ง

ยูมิเปิดฝาครอบเปียโนอย่างใจลอย ไม่มีอะไรที่ต้องกลัวแม้ว่าจะอยู่คนเดียวในห้องแบบนี้

พระแม่มารีปกป้องโรงเรียนนี้ไว้อยู่แล้ว

และเพราะเหตุนี้ จึงไม่มีเรื่องสยองขวัญจำพวกเสียงเปียโนตอนเที่ยงคืนหรือดวงตาที่ขยับได้ของบีโทเฟนที่โรงเรียนสตรีลิลเลียนแห่งนี้

มี---

ยูมิกดแป้นเสียงสูงด้วยนิ้วชี้ของมือขวา ใช่แล้ว เริ่มจากเสียงนี้ล่ะ ยูมิลากเก้าอี้มานั่งอยู่หน้าเปียโน

เธอไม่ได้แตะเปียโนมาระยะหนึ่งแล้ว ในตอนประถม เธอเข้าเรียนเปียโนสัปดาห์ละหนึ่งวันตลอดหกปี แต่เพราะว่ามันไม่ได้เป็นสิ่งที่เธอพึงใจนัก เธอจึงเลิกเรียนตอนขึ้นชั้นมัธยมต้น

มี---

ยูมิเล่นเสียงเดิมอีกครั้ง คราวนี้เธอพยายามเล่นเพลงที่ได้ยินเมื่อครึ่งปีก่อนจากความทรงจำ ทำนองนั้นน่าจะเป็นแบบนี้

ฟา---

ซอล เร มี---

เพลง กูโน อาเว มารีอา

ครึ่งปีที่แล้ว โอกาซาวาระ ซาจิโกะซามะ ในฐานะโรซา ชินองซี อองบูตอง เล่นเพลงนี้เพื่อน้องๆในงานต้อนรับน้องใหม่ของยามายูริไค นั่นเป็นครั้งแรกที่ยูมิได้พบกับซาจิโกะซามะ

เพลงที่เล่นด้วยออร์แกนในโบสถ์นั้นก้องกังวานและสะท้อนเข้าไปจนถึงจิตวิญญาณ ซาจิโกะซามะซึ่งเล่นเพลงนี้ดูราวกับว่าเป็นอาเว มารีอาเอง

แม้เพลงจะเล่นจบแล้ว แต่ยูมิก็ไม่อาจจะละสายตาไปจากซาจิโกะซามะได้ ไม่ใช่เพียงเพราะรูปลักษณ์ที่งดงาม แต่ท่วงท่าที่งามสง่าทุกอิริยาบทและโทนเสียงที่เป็นผู้ใหญ่นั้น ทำให้เธองามหมดจดจริงๆ

ยูมิอยากจะเป็นอย่างซาจิโกะซามะ

เธออยากจะเป็นอย่างซาจิโกะซามะให้ได้ แม้เพียงนิดเดียว

เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อครึ่งปีที่แล้ว เธอไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องมันจะมาได้ถึงขนาดนี้ ไม่...ไม่ใช่แค่เมื่อวาน แต่จนบัดนี้เธอก็ไม่เคยคิด

ชีวิตนักเรียนของเธอเปลี่ยนแบบหน้ามือเป็นหลังมือ ยูมิคิดขณะที่เธอก้มหน้าเข้าหาเปียโน แล้วเธอก็เห็นบางสิ่งบางอย่างที่ปลายหางตา

"??????????!?"

ก่อนที่จะรู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร เสียงประหลาดที่ไม่อาจจะบรรยายได้ก็ดังออกมาจากลำคอของเธอ

นั่นก็เพราะมือของใครคนหนึ่งเอื้อมมาจากด้านหลัง แตะเข้าที่คีย์บอร์ด จึงช่วยไม่ได้ที่หัวใจของยูมินั้นแทบจะกระเด็นออกมาจากอก

"ทำเสียงอะไรของเธอน่ะ ทำอย่างกับพี่จะทำอะไรเธองั้นแหล่ะ"

ยูมิสะดุ้งอีกครั้ง เมื่อเห็นเจ้าของมือนั่น

"เป็นใครก็กรี๊ดทั้งนั้นแหล่ะค่ะ ซาจิโกะซามะ ถ้าจู่ๆก็มีคนเข้ามาข้างหลังเงียบๆแบบนี้น่ะ"

ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเป็นคนที่กำลังคิดถึงอยู่ด้วยล่ะก็ ยิ่งน่าตระหนกเข้าไปใหญ่

"ก็พี่เกรงว่า จะเข้ามารบกวนการเล่นเปียโนของเธอน่ะสิ"

ซาจิโกะซามะกดแป้นเสียงโดด้วยมือซ้ายที่ยื่นค้างไว้ เมื่อเริ่มเรียนเปียโน แป้นนี้จะเป็นแป้นที่ถูกสอนให้กดโดยใช้นิ้วโป้งของมือขวา

"เล่นสิ"

"เอ๋!?"

"เล่นเพลงที่เธอเล่นเมื่อกี้อีกครั้งหนึ่งสิ"

"เอ๋?"

ยูมิจะผละออกจากเก้าอี้ แต่ซาจิโกะซามะกลับกดไหล่เธอไว้ด้วยมือขวาที่ว่างอยู่

"จังหวะคือ หนึ่ง สอง สาม สี่ สอง สอง สาม สี่"

"เอ่อ..คือ..."

ซาจิโกะซามะให้จังหวะโดยแตะลงตรงไหล่ของยูมิราวกับเป็นเครื่องเคาะจังหวะ และให้สัญญาณ "เริ่ม" ตอนนับสาม

เมื่อคนเราถูกบอกให้"เริ่ม" ก็เหมือนจะเป็นสัญชาติญาณที่ต้องทำอะไรซักอย่าง แล้วยูมิก็เริ่มเล่นไปตามนั้น

เสียงโน๊ตตัวที่สองแทรกเข้ามาประสานไปกับเสียงโน๊ตของยูมิ

โดมีซอลโดโดมีซอลโด

ซาจิโกะซามะกำลังเล่นในส่วนของมือซ้ายและใช้แป้นเหยียบที่เท้าด้วย เสียงนั้นจึงออกมาดังก้อง

(นี่คือการเล่นเปียโนสี่มือ)

เสียงโน๊ตของยูมิประสานเข้ากับอีกเสียงสะท้อนกลับเข้ามาในหูอย่างน่ารื่นรมย์

อย่างไรก็ตาม ความสนุกนั้นสั้นเพียงนิดเดียว เมื่อเธอระลึกขึ้นมาได้ว่าซาจิโกะซามะนั้นอยู่ใกล้ๆ แล้วความตื่นเต้นก็เปลี่ยนเป็นความกลัว

เพลงนั้นไม่ได้ถูกประพันธ์ขึ้นมาเพื่อเล่น 4 มือ และเนื่องจากมันถูกเล่นด้วยมือขวาของยูมิและมือซ้ายของซาจิโกะซามะ จึงทำให้คนใดคนหนึ่งต้องขยับเข้ามาใกล้อีกคน หน้าอกของซาจิโกะซามะเบียดเข้ากับแขนซ้ายของยูมิ ผมตรงมันเงานั้นปกคลุมลงตรงไหล่ กลิ่นหอมรัญจวนใจนั้นทำให้ยูมิรู้สึกเหมือนกำลังล่องลอยไปไกล

แม้กระนั้น เพลงก็ยังดำเนินต่อไป บางที่ซาจิโกะซามะคงไม่คิดที่จะหยุด ตราบใดที่มือขวาของยูมิยังคงเล่นเพลงอยู่

ในใจหนึ่งนั้นยูมิอยากให้มันเป็นแบบนี้ตลอดไป แต่อีกใจหนึ่งนั้นกลับอยากให้มันจบลงทันที สองความรู้สึกขัดแย้งกันนี้กำลังต่อสู้กันอยู่ในตัวเธอ

ลมหายใจแผ่วๆของซาจิโกะซามะ ทำให้ผมของยูมิไหวน้อยๆ อย่างไรก็ตามลมนั้นก็ยังสงบและเป็นจังหวะ ซาจิโกะซามะคงไม่รู้สึกวุ่นวายใจอะไรอย่างที่ยูมิกำลังเป็น

เสียงประสานที่ไพเราะนั้นหยุดลง

ยูมิปล่อยมือจากแป้นกด

"ขอโทษค่ะ หนูคงเล่นตามซาจิโกะซามะไม่ไหวหรอกค่ะ"

ยูมิหัวเราะแหะๆแล้วก็ลุกออกจากที่นั่ง หันหลังให้

"งั้นเหรอจ๊ะ? แต่พี่ว่าเธอเล่นได้ดีแล้วนะ"

ซาจิโกะปิดฝาลงช้าๆ มีเสียงคลิ๊กดังออกมาเบาๆ แต่เสียงนั้นดังแปลกๆในห้องที่มีพวกเธออยู่ตามลำพัง

ยูมิรู้สึกว่าซาจิโกะซามะกำลังเดินมาหา พื้นนุ่มๆนั้นดูดซับเสียงของร้องเท้าที่ใช้ในอาคารเอาไว้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเธอจึงไม่สังเกตเห็นซาจิโกะซามะ ตอนที่เธอเข้ามาในห้อง

"งั้นเราจะไปกันรึยังจ๊ะ?"

"คะ!?"

"หมายความว่าไง"คะ"น่ะ เธอคิดว่าพี่มาที่นี่ทำไมเหรอ?"

"ซาจิโกะซามะมาทำไมที่นี่?"

"แน่นอนอยู่แล้ว มารับเธอน่ะสิ"

ซาจิโกะซามะเลิกคิ้ว ราวกับจะถามว่า "แปลกรึไง?"

ยูมิกำลังจะถามว่าไปที่ไหนกันคะ แต่ซาจิโกะซามะก็ชิงอธิบายขึ้นมาก่อน

"ก็ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงช่วงงานเทศกาล เธอต้องไปซ้อมบทกับคนอื่นๆด้วย นั่นเป็นข้อตกลงของเธอนะ"

เรื่องที่ซาจิโกะซามะกล่าวมานั้นมีดังนี้

ด้วยเหตุที่ข้อตกลงที่ซาจิโกะซามะจะต้องขอยูมิเป็นน้องสาวให้ได้ก่อนงานเทศก าลโรงเรียนนั้นมีเวลาเพียงสั้นๆ เพื่อความยุติธรรม ยูมิผู้ซึ่งไม่มีกิจกรรมหลังเลิกเรียนจึงต้องมาช่วยงานของยามายูริไคด้วย

"ไม่มีเหตุผลเลยค่ะ"

"หมายความว่าไงที่เธอว่าไม่มีเหตุผลน่ะ พี่ๆกุหลาบก็รับรู้เรื่องนี้แล้วด้วย"

ซาจิโกะซามะใช้นิ้วชี้จิ้มไปที่แก้มของยูมิและจ้องไปที่ตาของเธอ

"ลองคิดดูดีๆสิ เธอเป็นตัวสำรองที่จะรับบทเป็นซินเดอเรลล่า แน่นอนว่าเธอก็ต้องไปซ้อมไว้"

"ตัวสำรอง...แต่นั่นก็ต่อเมื่อหนูรับสร้อยกางเขน..."

"เธอตั้งใจจะไม่ไปซ้อม เพราะเธอมั่นใจว่าจะไม่ยอมรับงั้นเหรอ? ถ้าเป็นอย่างนั้น พี่ก็คงไม่ไปซ้อมได้เหมือนกัน"

"แต่ว่า..."

ซาจิโกะซามะกล่าวกับยูมิด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

"อย่างไรก็ตามพี่ก็จะไปซ้อม ในโลกนี้มีไม่กี่สิ่งที่เธอจะเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบหรอกนะ อย่างการเดิมพันกับพวกท่านพี่ก็เหมือนกัน ถึงตัดเรื่องความมั่นใจและความเป็นไปได้ออกไปแล้ว ก็ยังมีผลลัพท์อีกสองสามอย่างรออยู่ในภายภาคหน้า บทของซินเดอเรลล่านั้นจะตกเป็นของพี่หรือไม่ก็เธอเพราะฉนั้นแล้วพี่ก็จะไปซ้ อม ถึงมันจะขัดแย้งกับความมั่นใจของพี่เองก็เถอะ แต่มันคงจะดีกว่าที่จะต้องเสี่ยงทำเรื่องน่าขายหน้าในการแสดงจริง"

ซาจิโกะซามะหัวเราะหึๆ ม้วนปอยผมของยูมิเล่นไว้รอบหู

"ซาจิโกะซามะ..."

ยูมิพูดอะไรไม่ออก แม้ว่าเธออยากจะปฏิเสธ แต่ซาจิโกะซามะก็มีเหตุผล ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ในใจของเธอนั้น ความรู้สึกถูกผิดกำลังผสมปนเปกันราวกับขยะรีไซเคิลกับขยะธรรมดา

ในใจของยูมินั้นรู้สึกเศร้าหมอง นี่เราทำให้เธอไม่พอใจหรือเปล่านะ? มันเป็นความรู้สึกเหมือนตอนที่เล่นเปียโน ความรู้สึกที่แตกต่างจากความตื่นเต้นหรือหวาดกลัว เธอกำลังรู้สึกแปลกๆราวกับว่าถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวจนอยากจะร้องไห้ เป็นความรู้สึกที่เหมือนกับเด็กที่พลัดหลงจากแม่อยู่ท่ามกลางฝูงชน

ถ้าซาจิโกะซามะไม่เงยหน้าขึ้นตอนนั้น ยูมิคงจะเข้าไปกอดและร้องไห้ขอโทษเธอไปแล้ว

"แน่นอนว่า..."

ซาจิโกะซามะพูดขึ้นมาเหมือนกับว่ากำลังคิดอะไรอยู่

"เธอคงมีความคิดของเธอเอง งั้นพี่จะไม่บังคับเธอ แต่อย่างน้อยช่วยมาดูพี่ซ้อมจะได้ไหม?"

"ค่ะ"

"งั้นก็ไปเอากระเป๋ามาสิ"

Maria-sama ga Miteru:Volume1 (ตอนที่ 2 จบส่วนที่ 2)




 

Create Date : 06 ธันวาคม 2551
3 comments
Last Update : 6 ธันวาคม 2551 22:50:52 น.
Counter : 1079 Pageviews.

 

แปลกใจที่ไม่มีใครเม้นท์เลย ส่วนเราเพิ่งไล่อ่านตั้งแต่ตอนแรกมาจนถึงตอนนี้ ยังคงติดตามและเป็นกำลังใจให้อยู่เน่อ

 

โดย: ส้มซ่าน้อยตัวใหญ่ IP: 119.42.64.254 7 มกราคม 2552 0:46:43 น.  

 

เราชอบเรื่องนี้มากเลยอ่ะ หาอ่านที่แปลไทยอยู่เหมือนกัน ดีใจมากที่เจอที่นี่ ยังไงเราก็เป็นกำลังใจให้นะ
แล้วเอามาลงอีกนะคะ จะคอยติดตามต่อไปจ๊า

 

โดย: miki IP: 58.9.116.24 7 มกราคม 2552 1:57:08 น.  

 

แปลได้ดีมากๆค่ะ อ่านแล้วไม่ติดขัดเลย สนุกมากๆค่ะ เพิ่งมาเปิดเจออ่านครั้งแรก เป็นกำลังใจให้นะคะ

 

โดย: austen IP: 110.164.107.3 4 มกราคม 2553 22:07:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


คนรักมิวฟิล
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add คนรักมิวฟิล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.