welcome to my world
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
15 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 

Maria-sama ga Miteru:Volume1 (ตอนที่ 2 ส่วนที่ 1)

ข่าวลือแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว

ในตอนเที่ยงของวันต่อมา นักเรียนม.ปลายทุกคนก็รู้เรื่องที่ยูมิปฎิเสธซาจิโกะซามะไปแล้ว

"ซึทาโกะซัง เธอเป็นคนบอกเหรอ?"

"ไม่อยู่แล้ว เรื่องแบบนี้คอยดูอยู่ห่างๆสนุกกว่าเข้าไปร่วมด้วยนะ"

ถ้าเป็นเช่นนั้น บางทีอาจจะเป็นเหล่ากุหลาบที่เผยแพร่ข่าวลือเพื่อเติมเชื้อไฟด้วยอารมณ์ขันข องพวกเธอ แน่นอนว่าคงเป็นเพราะต้นตอคือซาจิโกะซามะเองด้วย

ไม่ใช่ว่าอยากจะตามหาคนปล่อยข่าวลือเพื่อจะต่อว่าหรอกนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราไม่ได้ทำเรื่องนี้ให้เป็นความลับซะหน่อย แต่ในเมื่อมันเป็นอุปสรรคสำหรับความต้องการชีวิตที่สงบสุขคืนมา ดังนั้นแล้วคงต้องขอบ่นหน่อยล่ะ

เริ่มจากการถูกจ้องมองจากเพื่อนร่วมห้อง และเมื่อพวกนั้นสบตากับยูมิ พวกเธอก็จะทำเป็นเมินหนีไป ไม่มีใครเข้ามาพูดกับเธอตรงๆเลยสักคน

"มีข่าวลือแปลกๆเกี่ยวกับตัวเธอล่ะ แต่ไม่ต้องไปใส่ใจหรอกนะ"

คัตสึระซังสรุประหว่างเรียน

นักเรียนในห้องเดียวกันนั้นรู้จักยูมิอยู่แล้ว แต่เพราะว่าพวกนั้นไม่ทราบถึงความแตกต่างระหว่างเรื่องจริงกับเรื่องแต่ง พวกเธอจึงยังสับสนอยู่ แล้วก็ยอมรับว่า บางทีมันอาจจะเป็นข่าวลือที่ไม่มีมูลก็ได้

อย่างไรก็ตาม เสียงสะท้อนระหว่างนักเรียนที่ไม่รู้จักยูมิ(ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่)นั้นดังก้องไปทั่ว

คนที่เลิศเลอแบบไหนกันนะ ที่ทำให้ซาจิโกะซามะเบนเข็มมาหาหลังจากถูกปฏิเสธจากโทโด ชิมาโกะได้ ข่าวลือเริ่มทำงาน มีคนจำนวนมากมายืนออกันอยู่หน้าห้องนักเรียนปีหนึ่งห้องลูกท้อในตอนพักกลางว ัน

"น่าจะมีใครบอกพวกนั้นนะว่า คนที่เป็นหัวข้อของข่าวลือน่ะ มีทั้งเคราะห์ดีและร้ายในเวลาเดียวกัน"

ซึทาโกะซังพึมพำขณะกำลังเก็บหนังสือเรียนหลังจบคาบสี่

"จริงด้วย ฉันก็รู้สึกขัดแย้งกันแบบนั้นจริงๆนะ"

ยูมิหัวเราะแห้งๆ อย่างที่ซึทาโกะซังพูด ยูมิมีภาพลักษณ์ที่ธรรมดาอย่างที่สุด ดังนั้นแล้ว คนที่มองหาคนที่มีความเด่นเช่นเดียวกับชิมาโกะซังจึงมองข้ามเธอไปหมด

เพื่อนร่วมชั้นก็ช่วยได้มาก พวกเธอคอยปกป้องยูมิด้วยคำพูดที่ว่า "ตอนนี้ยูมิซังไม่อยู่ค่ะ" ด้วยเหตุนี้ เธอจึงสามารถเดินผ่านทุกคนไปได้สบายหรือแม้แต่จะไปล้างมือก็ทำได้

"เอาล่ะ ฉันขอแนะนำนะว่า เธอไม่ควรจะอยู่ในห้องเรียนช่วงพักกลางวัน"

ซึทาโกะซังพูดเร็วๆและยิ้มให้ ทำท่าเหมือนกับว่าพวกเธอกำลังคุยเรื่องทั่วไปกัน

"ทำไมล่ะ?"

"ฉันได้ยินข่าวว่าชมรมหนังสือพิมพ์ตั้งใจจะสัมภาษณ์ยูมิซังน่ะสิ พวกนั้นน่ะรั้นจะตาย แถมยังมีปาปาราสซี่คอยเจาะข่าวเรื่องรักโดยเฉพาะอีกด้วย"

"หา?"

ยูมิหน้าซีด ปาปาราสซี่คงจะเป็นคนจำพวกที่คอยถามว่า"คุณแต่งงานแล้วจริงไหมคะ?"หรือ "คุณหย่าแล้วจริงหรือคะ?" หรืออะไรทำนองนั้น ซาจิโกะซามะนั้นน่าหวั่นเกรงเกินไป ดังนั้นแล้วชมรมหนังสือพิมพ์จึงพุ่งเป้ามาที่เธอ

"เข้าใจรึยังล่ะจ๊ะ เอ้า เอากล่องข้าวของเธอไปได้แล้ว"

ซึทาโกะซังดึงเอากล่องข้าวของยูมิออกจากกระเป๋าที่แขวนไว้ข้างโต๊ะ ยัดมันใส่มือของยูมิ และผลักเธอออกไป

"อ้าว ยูมิซัง จะไปไหนน่ะ?"

คัตสึระซังถามด้วยความสงสัย เพราะปกติแล้วเธอจะทานข้าวด้วยกัน

"ขอยืมตัวยูมิซังซักแป๊บนึงนะจ๊ะ"

ซึทาโกะซังตอบแทนยูมิ แล้วเธอก็คว้าเอากล่องข้าวของเธอขึ้นมาพร้อมกับกระซิบเร่ง"เร็วๆเข้า" ราวกับจะบอกว่า"เร็วเข้า ไม่งั้นชมรมหนังสือพิมพ์จะมาก่อนนะ"

"หว๋า"

เมื่อทั้งคู่มาถึงทางเดิน ก็พบกับนักเรียนสามคนที่ท่าทางเห็นได้ชัดๆเลยว่ามาจาก"ชมรมหนังสือพิมพ์"กำลังยืนคอยอยู่แล้ว

"...ไม่ทันแล้วสิ"

เสียงเศร้าๆของซึทาโกะซัง มีเพียงยูมิเท่านั้นที่ได้ยิน

กล้องถ่ายรูป เทปบันทึกเสียง สมุดจด แน่นอนว่า แม้จะเรียกพวกเธอว่าปาปาราสซี่ แต่ก็ไม่มีไมโครโฟน กล้องสะพายบ่า หรืออะไรทำนองนั้นหรอกนะ

"อ้าว สวัสดีจ้ะ เธออยู่ชั้นนี้ด้วยเหรอ?"

คนที่ดูท่าทางเป็นหัวหน้า สังเกตเห็นซึทาโกะซังจึงพูดคุยด้วย อย่างที่คิดไว้เลย ชมรมหนังสือพิมพ์กับชมรมถ่ายภาพคงมีความสัมพันธ์ที่ดีกันอยู่แล้ว

"สวัสดีจ้ะ แล้วชมรมหนังสือพิมพ์มาทำอะไรที่นี่เหรอจ๊ะ?"

แม้ว่าจะรู้ทุกอย่างดีอยู่แล้ว แต่ซึทาโกะซังก็ยังยิ้มและทำท่าทางเหมือนกับว่าไม่รู้อะไรเลย

"เรามาขอสัมภาษณ์ฟุคุยาม่า ยูมิซังน่ะจ้ะ พอดีเลย รบกวนช่วยไปตามเธอมาให้หน่อยได้ไหมจ๊ะ?"

"เอ...ยูมิซัง ยูมิซังตอนนี้...."

ซึทาโกะซังทำท่าคิด หันกลับไปมองในห้องเรียนโดยไม่สบตายูมิเลยสักแว๊บเดียว เธอมองกราดเข้าไปในห้องลูกท้อที่พึ่งจะออกมา

ในห้องนั้นกำลังเตรียมรับประทานอาหารกลางวัน นักเรียนบางคนเอาโต๊ะมาต่อกันแล้วเอาผ้ามาคลุม บางคนก็เตรียมนมและขนมปัง บางคนก็สั่งอาหาร มีนักเรียนต่างห้องมาร่วมรับประทานด้วย...ทั้งห้องนั้นกำลังวุ่นวาย

"อ้อ ยูมิซังน่าจะอยู่นั่นล่ะมั้ง?"

ซึทาโกะซังทำท่าว่าหาเจอแล้ว เธอชี้มือไปยังโต๊ะตัวที่ไกลที่สุดในห้อง

"จะไปตามมาให้นะจ๊ะ รอแป๊บนึง"

ยูมิกำลังสงสัยว่าซึทาโกะซังตั้งใจจะทำอะไร เธอก้าวเข้าไปในห้องแล้วก็หยุด หันกลับมา ทำท่าเหมือนกับว่าลืมอะไรไป

"นัทซึเมะซังกำลังรีบใช่ไหม? ไม่ต้องรอฉันหรอกนะ ไปก่อนก็ได้"

"หา? อ้อ...ได้สิ"

ซึทาโกะซังจ้องตรงมายังยูมิและขยิบตาให้ หมายถึงเธอนั่นไง

"งั้นฉันไปก่อนนะ"

ยูมิโค้งเร็วๆให้ซึทาโกะซังและชมรมหนังสือพิมพ์ แล้วก็รีบเดินจากไป ระหว่างเดินมาตามทาง เธอคิดถึงชื่อนัตซึเมะ โซเซกิ---ฟุคุซาว่า ยูกิชิ----ฟุคุซาว่า ยูมิ แล้วจึงปรบมือด้วยความเข้าใจ นั่นเป็นชื่อของบุคคลที่อยู่บนธนบัตรนั่นเอง

แต่อย่างไรก็ตาม ยูมิยังคงสงสัยอยู่ว่าซึทาโกะซังจะทำยังไงต่อ เพราะถ้าเป็นเธอ คงจะทำท่าทางเป็นว่า "ขอโทษที ฉันจำคนผิดน่ะ" ซึ่งถ้าพูดแบบนั้นมันก็เสี่ยงต่อการถูกจับได้เหมือนกัน เธอต้องระวังตัวให้มากกว่านี้แล้วล่ะ

เมื่อซึทาโกะซังไม่อยู่แล้ว ยูมิก็ไม่รู้จะไปไหน เธอคิดระหว่างเดินลงมาตามขั้นบันได แล้วก็มีเสียงเรียก

"ยูมิซัง ทางนี้"

ยูมิมองลอดราวบันได แล้วก็เห็นมือขาวๆกำลังโบกอยู่ เมื่อเธอชะโงกไปดู ก็เห็นหน้าของชิมาโกะซัง

ยูมิรีบก้าวข้ามลงไป โล่งอกที่เห็นใบหน้าอันงดงามนั้น

ชิมาโกะซังเขยิบที่ให้ยูมินั่ง

"เธอมาทานข้าวที่นี่ทุกวันเลยเหรอ?"

ที่แห่งนี้อยู่หลังหอประชุม มีต้นซากุระต้นหนึ่งยืนตระหง่านอยู่ท่ามกลางต้นแปะก๊วยที่ปกคลุมไปทั่วบริเว ณ ทั้งคู่นั่งลงและเปิดกล่องข้าว

"ก็บางครั้งน่ะจ้ะ อย่างตอนอากาศดีๆในฤดูใบไม้ผลิกับใบไม้ร่วง"

"แล้วฤดูร้อนล่ะจ๊ะ?"

"ต้นซากุระต้นนี้จะมีตัวบุ้งเยอะไปหมดเลย ฉันเลยไม่ชอบเท่าไหร่ แต่หลังจากนั้นลูกแปะก๊วยก็จะเริ่มร่วงลงมา เพราะงั้นฉันก็เลยตั้งใจมารอให้มันหล่นลงมาบ้างนี่แหล่ะจ้ะ"

ชิมาโกะซังมองต้นแปะก๊วยอย่างมีความหวังขณะที่คีบเผือกขึ้นมาจากกล่องข้าวทร งสี่เหลี่ยมที่ขึ้นเงา มันดูตรงข้ามเป็นอย่างมากกับรูปลักษณ์ของเธอที่ดูคล้ายกับตุ๊กตาตะวันตก การพูดถึงต้นแปะก๊วย,กล่องข้าวกลางวันที่ใช้ อ้อ แล้วก็มันฝรั่งต้มในนั้นด้วย

"ชิมาโกะซังนี่แปลกดีนะ"

"งั้นเหรอจ๊ะ? ถ้าเปลือกแปะก๊วยไม่แตก กลิ่นของมันก็ไม่ได้เหม็นหรอกนะ เพราะงั้นแล้วถนนที่มีต้นแปะก๊วยจึงดูลึกลับดีไง"

"ชิมาโกะซัง งั้นก็หมายความว่าเธอกลับบ้านโดยไม่เหยียบลูกแปะก๊วยเลยงั้นสิ"

"ถูกต้องนะคะ"

ชิมาโกะซังหัวเราะอย่างมีความสุข

"ทำไมถึงชอบแปะก๊วยล่ะจ๊ะ?"

"แล้วยูมิซังไม่ชอบงั้นเหรอ?"

เมื่อโดนย้อนถาม ยูมิจึงคิด อืมม ปกติแล้วเขารับประทานมันด้วยเหรอ

แต่ก่อนนั้น เธอคิดว่ามันก็เหมือนกับใบของต้นชิโซะที่มีไว้ใช้ประดับจานซาชิมิหรือไข่หวานเท่านั้นเอง

"ฉันชอบของอย่างแปะก๊วย ต้นลิลลี่ แล้วก็ถั่วเหลือง พ่อบอกเสมอว่าไม่เหมือนกับที่เด็กวัยรุ่นเขาชอบกัน แต่ฉันคิดว่ารสนิยมของคนเรา น่าจะเกิดจากสภาพแวดล้อม จริงไหมจ๊ะ? เพราะว่าฉันเติบโตมากับสิ่งเหล่านี้ ก็เลยชอบอะไรที่มันขมๆมากกว่า"

แล้วยูมิจึงได้รู้ว่าบ้านของชิมาโกะซังนั้นเป็นแบบญี่ปุ่นขนานแท้โดยที่ไม่ม ีห้องแบบตะวันตกเลย ยูมิคิดว่าคฤหาสน์สีขาวที่มีแกรนด์เปียนโนตั้งอยู่กลางห้องโถง อาหารกลางวันก็เป็นพวกแซนด์วิชหรือไก่ทอดน่าจะเข้ากันกับชิมาโกะซังมากกว่า

"เห็นเป็นอย่างนั้นเหรอจ๊ะ?"

ชิมาโกะซังถาม เธอจ้องมองใบหน้าของยูมิ

"อืม...ก็ทำนองนั้น แต่เป็นแบบนี้มันก็น่าสนใจดีเหมือนกันนะจ๊ะ"

ยูมิตอบตรงๆ ชิมาโกะซังหัวเราะคิ๊กๆแล้วตอบว่า "ยูมิซังก็เหมือนกันนั่นแหล่ะจ้ะ"

"ฉันดีใจจริงๆนะที่เราได้รู้จักกันแบบนี้"

ทั้งคู่มองขึ้นไปบนฟ้า

เมฆล่องลอยบนฟ้าใสอย่างช้าๆ

ฟ้าสีฟ้า เมฆสีขาว ข้างล่างนั้นแสงแดดส่องสะท้อนต้นแปะก๊วยสีเหลือง ส่งประกายสีทองทาบทับลงบนพื้นดิน ถ้าฉันเป็นจิตรกรก็คงวาดภาพนี้ลงบนผืนผ้าใบขนาดใหญ่ และถ้าเป็นนักดนตรีก็จะเขียนมันออกมาเป็นเพลงเพื่อเก็บมันไว้ชั่วนิรันดร์

"ชิมาโกะซัง ทำไมถึงปฏิเสธซาจิโกะซามะล่ะจ๊ะ?"

อยู่ๆยูมิก็ถามขึ้นมา ชิมาโกะซังจึงตอบว่า "แล้วขอถามแบบนั้นกับยูมิซังบ้างได้ไหมล่ะจ๊ะ?"

"ได้สิ ก็เราทำเหมือนกันนี่นา"

แต่กระนั้นแล้ว ยูมิก็ยังคิดว่าประเด็นของเธอกับชิมาโกะซังในเรื่องของซาจิโกะซามะนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง

"ในกรณีของฉัน.."

ชิมาโกะซังเหม่อมอง ทบทวนความคิด

"ฉันไม่เหมาะกับซาจิโกะซามะ ในทางกลับกัน ซาจิโกะซามะก็ไม่เหมาะกับฉันเหมือนกัน"

"ยังไงเหรอจ๊ะ?"

"ฉันชอบซาจิโกะซามะนะ แต่เรามีมุมมองด้านการเป็นคู่ที่ต่างกัน พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ สิ่งที่เรามอบให้กันได้นั้น มันไม่เข้ากัน"

"ฟังดูซับซ้อนจังเลยนะ"

"ซาจิโกะซามะก็พูดแบบนั้นเหมือนกัน เธอเข้าใจว่าฉันหมายความว่าอะไร แต่มันก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยาก ฉันยอมรับว่ามันเป็นความรู้สึกที่บอกได้ยากจริงๆ"

สิ่งที่มอบให้ฝ่ายตรงข้ามและสิ่งที่ต้องการจากคนๆนั้น เนื่องจากมันเป็นความสัมพันธ์แบบสองต่อสอง จึงพอเข้าใจได้ว่า การเข้ากันได้ของทั้งคู่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด แต่ว่า...

"ถ้าขนาดชิมาโกะซังยังไม่ดีพอ งั้นก็หมายความว่าไม่มีใครเหมาะกับซาจิโกะซามะเลยสิจ๊ะ?"

"ก็ไม่รู้เหมือนกันจ้ะ บางทีคนๆนั้นอาจจะหาได้ยากยิ่ง และซาจิโกะซามะเองก็อาจจะไม่มีน้องสาวตลอดไป แต่ว่านะ อย่างโรซา ชินองซีกับซาจิโกะซามะยังเจอกันได้ มันก็น่าจะมีโอกาสที่เป็นไปได้เหมือนกันนะจ๊ะ"

"เข้าใจแล้วล่ะ"

ถ้าอย่างนั้นก็หมายความ ชิมาโกะซังกับโรซา จิกองเตก็คงเข้ากันได้ดีสินะ ยูมิคิด นอกจากนั้นแล้ว การตัดสินใจในเรื่องนี้ย่อมต้องเกิดจากความต้องการการดูแลซึ่งกันและกันของท ั้งสองฝ่ายอีกด้วย

"จะกลับห้องกันรึยังจ๊ะ?"

ชิมาโกะซังลุกขึ้น คาบที่ห้ากำลังจะเริ่มในอีก 5 นาที

"ชมรมหนังสือพิมพ์ก็มีเรียนเหมือนกัน คงปลอดภัยแล้วล่ะ"

Maria-sama ga Miteru:Volume1 (ตอนที่ 2 จบส่วนที่ 1)




 

Create Date : 15 พฤศจิกายน 2551
0 comments
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2551 23:40:37 น.
Counter : 827 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


คนรักมิวฟิล
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add คนรักมิวฟิล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.