Car Free Day ... ทุกๆวันที่ 22 กันยายน ทั่วโลก(โดยเฉพาะยุโรป)ต่างก็ยกวันนี้ให้เป็นวัน Car Free Day กัน เหตุก็เนื่องจากอยากให้ประชาชนเกิดความตื่นตัวในการหันมาใช้รูปแบบการเดินทางอื่นๆ ประเทศไทยบ้านเราก็ได้ร่วมรณรงค์วันคาร์ฟรีเดย์ โดยใช้ชื่อโครงการ "22 กันยา จอดรถไว้บ้าน ช่วยกันประหยัดน้ำมัน" มาตั้งแต่ปี พศ.2543 ตอนนั้น สพช.ได้มีการจัดพิมพ์เอกาสารขึ้นมาเผยแพร่ จำนวน 50,000 ฉบับ ให้กับผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมด้วย กิจกรรม คาร์ฟรีเดย์ นอกจากจัดที่กรุงเทพมหานครแล้ว ยังมี เชียงใหม่ นครราชสีมา ตรัง อยุธยา โดยเนื้อหาในเอกสารก็เป็นเรื่องการเดินทางด้วยคาร์พูล - ทางเดียวกันไปด้วยกัน (Car Pool) การเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะ จักรยาน หรือ เดิน หรือใช้วิธีอื่นๆ เช่น ดูแลรถยนต์ให้อยู่ในสภาพดี ขับรถอย่างระมัดระวังเพื่อการประหยัดน้ำมัน ใช้โทรศัพท์และโทรสารแทนการเดินทาง ตลอดจนวางแผนการเดินทางให้ดี เป็นต้น ครั้งนั้นถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย นับว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ โดยได้ผลใกล้เคียงกับเป้าหมายของการรณรงค์ จึงทำให้คุณภาพอากาศและการจราจรดีขึ้นนั้น จะเห็นได้จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศ ปริมาณและความคล่องตัวของการจราจร ปริมาณผู้ใช้บริการการทางพิเศษที่ลดลง ตลอดจนผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะที่ เพิ่มขึ้น ไม่รวมถึงความตื่นตัวของสื่อมวลชนและประชาชนทั่วไปที่มีต่อโครงการ ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างจิตสำนึกและทัศนคติที่ดี รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในอนาคตอีกด้วย . . . . . . . จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ปาเข้าไปจะสิบปีดีดักแล้ว ความรู้สึกส่วนตัวของผมๆว่ามันไม่ค่อยจะได้ผลเป็นที่น่าพอใจซักเท่าไหร่ ดูแล้วเหมือนไฟลามทุ่ง ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่ามันผิดพลาดตรงไหน เพราะทุกวันนี้ขนาด น้ำมันก็แพ๊งแพง รถยนต์ก้ยังคงเต็มท้องถนนอยู่ดี ขนาดว่าวันหยุด รถก็ยังติดเป็นตังเมเลย โดยเฉพาะหน้าห้างดังๆ ใครอยากใช้รถยนต์ก็ใช้ไป ข้าพเจ้าขอใช้จักรยานกับรถไฟฟ้าก็พอ ทั้งนี้ทั้งนั้นข้าพเจ้าก็ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง โดยการชักชวนคนใกล้ตัวให้หันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะไปทำงาน ทุกวันนี้คนใกล้ตัวผมยังบอกกับผมเองเลยว่า สะดวกสะบายดี แถมยังประหยัดกว่าเยอะ ร่วมทั้งไม่อารมณ์เสีย เหมือนตอนที่เคยนั่งหลังพวงมาลัย บ่นมาพอแล้ว ไม่ใช่อะไรหรอก จะมาเล่าให้ฟังว่า ก็เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน ที่ผ่านมา ทาง กทม.และหน่วยงานอื่นๆทั้งเอกชนและภาครัฐได้จัดกิจกรรม Car Free Day โดยมีการจัดให้มีการทำกิจกรรมของชาวจักรยานโดยการนำจักรยานมาจัดเรียงเป็นรูปธงชาติไทย และร้องเพลงชาติร่วมกับตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ ณ. สนามกีฬาของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จริงแล้วกิจกรรมการนำจักรยานมาเรียงกันเป็นรูปรูปธงชาติไทย จังหวัดอื่นๆถึง 60 จังหวัด ก็ได้ทำกิจกรรมนี้พร้อมเพียงกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาด้วย ข้าพเจ้าซึ่งหลายคนในนี้ก็รู้ว่าชื่นชอบการใช้จักรยานเป็นยานพาหนะในการเดินทาง ก็ได้มีโอกาสไปร่วมกิจกรรมที่ว่านี้กะเค้าด้วย ก็เลยเอามาบอกเล่าเก้าสิบ เผื่อว่าอาจจะโน้นน้าวหาแนวร่วมให้คนหันมาตระหนักถึงวิกฤติภาวะโลกร้อนได้บ้าง แบบว่าไม่จำเป็นต้องปั่นจักรยานหรอก แค่ให้ลดการใช้รถยนต์ลงซักหน่อยก็ยังดี มาดูรูปกันดีกว่าเน๊อะ! สนุกจะตายไป ในกทม. ปีนี้ชาวจักรยานใช้สนามกีฬาของ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นสถานที่ต่อแผนที่รูปประเทศไทยแต่เนื่องจากชาวจักรยานมีหลายกลุ่ม หลายจุด เรียกได้ว่าเป็นร้อยๆกลุ่มเลยละ แต่ละกลุ่มก็จะมีการนัดหมาย รวมพลกัน เพื่อจะปั่นไปยัง ม.เกษตร พร้อมๆกัน ผมโดยปกติแล้ว มักจะฉายเดี่ยว ไม่ค่อยมีใครให้เข้าก๊วน เช้านั้นปั่นไป ม.เกษตร คนเดียว พอผ่านปั๊ม ปตท.วิภา' เหลือบไปเห็นกลุ่มจักรยานพับ strida จอดอยู่ ก็เลยโฉบแว๊บเข้าไปซักหน่อย เข้าไปถึง ก็ไปยืนซัดมาดตาแดงๆอย่างที่เห็นในรูปน่านแหละ เดินสำรวจ ทักทายกันตามประสาคนปั่นจักรยานเหมือๆกัน เหลือบไปเห็นคนๆนี้ หน้าตาคุ้นๆ .. จำได้ไหมครับว่าผู้หญิงเสือแดงท่านนี้คือใคร? นึกตั้งนาน เธอก็ืืคืออดีตมิสไทยแลนด์เวิลดิ์ คุณเฮเลน ปทุมรัตน์ วรมาลี ส่วนเด็กผู้หญิงข้างหน้า เดาว่าน่าจะเป็นลูกสาว ของคุณเฮเลน อตีดมิสไทยแลนด์เวิลดิ์ ดูท่าจะเป็นขาปั่นตัวยง เพราะว่าช่วงขาของเธอ ดูใหญ่กว่าผมซ่ะอีก พอสมาชิกเค้ามากันครบ ก็เริ่มเดินทางโดยการปั่นมุ่งหน้าไปยัง ม.เกษตร ผมก็ทำเนีนนเข้ากลุ่มไปด้วยเลย แบบว่ากลุ่มนี้เค้ามี ตร.จักรยาน ปั่นนำหน้าด้วย ประมาณว่ามีรถ(ถีบ)นำขบวน ที่สำคัญเวลาถึงทางแยกหรือซอยใหญ่ ยังมีการกันทางแยกให้ขบวนจักรยานปั่นแบบไม่ต้องกังวลรถจากภายนอก พอมาถึงใน ม.เกษตร ก็แยกย้ายกันไปลงทะเบียน บางคน(ผม) ได้แสดงความจำนงในการร่ามเป็นส่วนหนึ่งของการต่อแผนที่ประเทศไทย ก็ลงชื่อพร้อมทั้งรับอุปกรณ์เข้าไปในสนามกีฬา ส่วนใครที่ไม่เข้าร่วมการต่อแผนที่ ก็ปั่นจักรยานพบปะพูดคุยทักทายเพื่อนๆ มีการแจกถุงอุปกรณ์การต่อแผนที่ (ประมาณคล้ายๆถึงยังชีพ) ภายในถุงก็ประกอบด้วย ร่ม ,น้ำดื่ม จากนั้นก็เดินเข้าแถวไปตามหมายเลขที่เค้ากำหนดไว้ ไปยืนตากแดด ทดสอบร่างกายกลางสนามกีฬาซักชั่วโมง ในการเก็บภาพการต่อแผนที่ประเทศไทยในมุมสูงนั้น มีการใช้ บอลลูน ลอยขึ้นไปเก็บภาพ แต่เนืองจากบอลลูนมีปัญหา ก็เลยต้องเปลี่ยนแผนกระทันหัน...สุดท้ายก็ได้ ฮ.ของหน่วยงานไหนไม่รู้ มาช่วยบินเก็บภาพให้... (ชาวจักรยานเส้นใหญ่เหมียล์กัลล์นิ) จากนั้นก็มีการกล่าวถึงความเป็นมาของกิจกรรม car free day พร้อมทั้งให้ทุกคนกางร่ม หุบร่ม เพื่อให้ ฮ.เก็บภาพแล้วก็ร้องเพลงชาติ... ไม่ได้ร้องเพลงชาติมานานมากแล้ว แต่แปลกแฮ่ะ ยังจำเนื้อร้องได้ทุกคำเลย เสร็จพิธี ก็ตามที่เห็นในรูป ยังกะผึ้งแตกรัง ..คงจะร้อนกันน่ะ ก็เล่ยให้ยืนตากแดดร่วม ชั่วโมง ภายในงานมีอาหารให้กินฟรีด้วยนะครับ ผมเลือกข้าวมันไก่ จากนั้นก็ไปมั่วๆเนีนนกับเค้า เลยได้ฟาดข้าวเหนียวหมูหวานมาอีกห่อ .. อร่อยเหาะโดยไม่ต้องพึ่งบอลลูนหรือ ฮ.เลยครับ ระหว่างเดินซัดมาดทักทาย คนโน้น คนนู้น คนนี้ ก็บังเอิญไปเจอ แบทแมน ... ก็เลยขอชักรูปกับซุปเปอร์ฮีโร่ซักหน่อย สองคนตรงกลางชายหญิงคู่นี้ คุณหมู-วรรณ นักปั่นจักรยานรอบโลกชาวไทย ส่วนท่านนี้ก็คือ ลุงเนตร ที่ขณะนี้กำลังปั่นจักรยานไปทั่วประเทศ เพื่อรงค์ณรงค์ให้คนหันมาใช้จักรยาน เจอลุงคนนี้ที่ไหน ก็เค้าไปทักทายพูดคุยถามไถ่ได้เลยนะครับ มั่วไปมั่วมา ก็มาเจอแก๊งค์เก่าที่เคยปั่นจักรยานรูดสะพานพระราม 8 แต่ละท่านนี่ ประมาณว่าปั่นสไตล์ไม่เกรงใจสังขารตัวเองเลย วัน car free day ทั้งทีต้องมีอะไรพิเศษๆหน่อย ขอปรบมือให้รถไฟลอยฟ้า BTS ด้วยครับ ที่อนุญาตให้คนที่ใช้จักรยาน โดยสารรถไฟฟ้าฟรี 3 วัน ทั้งคนทั้งจักรยาน (ตั้งแต่วันที่ 20-22 กย.) โดยปกติแล้วรถไฟฟ้า BTS ก็เปิดให้บริการกับคนปั่นจักรยานคือว่า.. เราสามารถเอาจักรยานขึ้นรถไฟฟ้าไปด้วยก็ได้ โดยจ่ายค่าโดยสารแค่ตัวคนเท่านั้น เวลาเราเอาจักรยานขึ้นสถานี เจ้าหน้าที่รวมทั้ง รปภ. ก็ให้การต้อนรับ ค่อยเปิดประตู พร้อมทั้งพาเราไปเข้ารถไฟฟ้าเป็นอย่างดี (แต่ควรหลีกเลี่ยง ชม.เร่งด่วนนะครับ) ผิดกับรถใต้ดิน MRT ซึ่งเค้าห้ามนำจักรยานลงไป ถ้าจะเอาลงไปก็ต้องพับเก็บใส่ถึงให้เรียบร้อยก่อน นี่แหละครับ หน่วยงานไหนคบได้ คบไม่ได้ ก็ดูกันตรงนี้แหละครับ เป็นไงบ้างครับ ดูรูปกันแล้ว อยากจะปั่นจักรยานลดโลกร้อนกันบ้างไหมครับ เชื่อเถอะครับ ว่าปั่นจักรยานมันสนุก ประหยัด และได้สุขภาพด้วย ผมทุกวันนี้ ใช้จักรยานเป็นยานพาหนะหลักเลยครับ การเดินทางรัศมีไม่เกิน 20 กม. นี่ ปั่นชิลๆ สบายๆเดี๋ยวก็ถึงครับ เอารูปภาพกิจกรรม Car Free Day ที่จังหวัดต่างๆจัดกัน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมามาให้ชมกันครับ รูปการต่อแผนที่ประเทศไทยเมื่อปี 2007 รูปการต่อแผนที่ประเทศไทยเมื่อปี 2008 รูปการต่อแผนที่ประเทศไทยเมื่อปีนี้ 2009 เมื่อกี้ออกไปเดินเล่นหน้าปากซอยมา ขึ้นสะพานลอยหยิบมือถือถ่ายรูปรถติดยาวเเหยียดตรงดินแดงมา ตอนแรกกะว่าจะเอามาโฟสต์ลงด้วย แต่ไม่ดีกว่า ... เห็นรูปแล้วก็ตลก (ไม่ออก) เพราะว่า รถติดยาวเหยียดในวัน Car Free Day น่ะครับ ปล. รูปที่นำมาลงในนี้ ส่วนใหญ่จะยืมรูปมาจาก //www.thaiMTB.com มาน่ะครับ สังเกตุง่ายๆ รูปไหนที่ภาพไม่ชัด ภาพแตก ดูแล้วพาลให้สงสัยว่า มันใช้มือ หรือใช้อวัยวะส่วนไหนถ่าย นั่นก็แสดงว่าเป็นรูปถ่ายโดยผมเองครับ ขอจบ blog แต่เพียงเท่านี้ครับ หวังว่าใครที่อ่าน blog นี้คงจะทำให้ท่านอยากถีบรถจักรยานมากกว่าถีบคนเขียน Blog นะครับ ...   Create Date : 22 กันยายน 2552 15 comments Last Update : 22 กันยายน 2552 12:15:44 น. Counter : 3622 Pageviews. Share Tweet

ถือว่าเป็นบล็อกที่ประสบผลสำเร็จนะค่ะ เพราะว่าอ่านบล็อกแล้ว ทำให้ "อยาก" ถีบจั๊กกะยานน่ะคะ ... แต่ว่าแค่อยากเฉยๆ นะคะ เพราะว่าตอนนี้ที่บ้านไม่มีจั๊กกะยาน สักคันเลย ตอนย้ายกลับมาก็ยกให้เพื่อนไปแล้ว ตอนนี้ ถ้าจะซื้อก็ต้องรอไปก่อน จริงๆ แล้วเราว่าน๊า บ้านเราเมืองเราถ้าจะให้ดี อยากให้คน ปั่นจักรยานกันเยอะๆ เพื่อลดภาวะหรืออะไรก็แล้วแต่ เราอยากให้เค้าให้ความสำคัญกับคนปั่นจักรยานให้มากกว่านี้หน่อยค่ะ โดยอยางแรกเลยก็คือ ทำ bike lane นี่ล่ะสำคัญเลย เพราะเดี๋ยวนี้คนหันมาปั่นจักรยานกันเยอะแต่ว่าดันไม่มีที่ทางให้เค้าปั่น แบบปลอดภัย ... อยากให้เค้าทำออกมาโดยเฉพาะล่ะคะ มันน่าจะ ดีกว่านี้นะคะว่าไม๊เอ่ย ....   โดย: JewNid 22 กันยายน 2552 12:29:02 น.

อยากถีบจักรยานครับ ที่แฟลตชั้น5 ก็มีผู้ชายอยู่คนหนึ่ง ถีบจักรยาน ลูกเขาว่ายน้ำ ไม่แน่ อนาคตผมอาจจะซื้อจักรยาน แล้วอาศัยไปปั่นออกกำลังกายตามเขาด้วย จะได้มีเพื่อน แต่คงไม่ใช่วันสองวันนี้หรอก เพราะยังอยากว่ายน้ำอยู่ เรื่องรวมพลคนจักรยาน เป็นกิจกรรมที่ดี รวมทั้งเรื่องให้นำจักรยานเข้าบีทีเอส เพราะจะทำให้สื่อมวลชนนำกิจกรรมมาออกข่าว รูปแผนที่สีสวยๆนั่น ผมเห็นในทีวีมาแล้ว ตอนที่กำลังชม ก็นึกถึงนิ๊ง นะ ว่าอยู่ตรงแถวไหน ร่มสีอะไร เสียดายไม่เห็นตอนหุบร่ม แล้วโชว์ประเทศไทยสีส้มตัดกับสนามสีเขียว ไม่เห็นครับ อ้อ เสื้อสีส้ม มีลายที่แขนด้วย ดีนะครับ หากเห็นเสื้อตัวนี้สวมไปเที่ยวที่ไหน ก็บอกว่า เป็นพวกออกกำลังกายประเภทเดียวกัน คุณเฮเลน สวยใช่มะ ดูรูปแล้วยังเห็นความสวย...   โดย: yyswim 22 กันยายน 2552 15:46:43 น.

ใช่ค่ะคุณเมิร์ฟ เลี้ยงหมาก็ต้องทำใจ ... เข้าใจและทำใจ สองคำ ... สำคัญเลยค่ะ 555+ แต่ว่าตอนนี้หมาเราไม่ขุดมา 2 วันแล้วล่ะคะ ไม่รู้เพราะว่ามันเครียดจริงๆ หรือเปล่าเพราะว่า ก่อนหน้านี้เราไม่ได้เล่นกับมันเลย แต่ว่าตอนนี้ มาเล่นกับมันทุกเย็น ปาบอล ดึงผ้า พาวิ่ง 2 วันมาแล้วที่ จน. หลุมที่ขุดเท่าเดิมค่ะ 5555+   โดย: JewNid 1 ตุลาคม 2552 18:06:08 น.

โห สวย เจ๋งอะ เจ้าแห่งกิจกรรมจริงแท้ พ่อคุณ ดีแล้วล่ะ ชีวิตมีความหมายในทุกๆวัน ดีมาก เพื่อนนิ้ง   โดย: โสมรัศมี 7 พฤศจิกายน 2552 18:07:04 น.

โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง 30 พฤศจิกายน 2552 14:40:26 น.

เข้ามาเยี่ยมนิ๊ง เป็นไง ตอนนี้อยู่แถวไหน? พัทยา หรือ?   โดย: yyswim 2 ธันวาคม 2552 23:11:55 น.

แวะมาเที่ยว ดูกิจกรรมเพื่อสังคม ดีจ๊ะ สู้ต่อไปนะ ทาเคชิ อิอิอิ   โดย: nan2nan 10 ธันวาคม 2552 13:01:53 น.

โอ๊ย จริงๆ ตะเข้ชอบมาก ขี่จักรยาน แต่ถ้าให้ขี่สมบุกสมบัน สงสัยหมดสิทธิ์แล้ว ก้นกบตะเข้หักอ่า แง ไม่มาทักทายนาน บายดีมั๊ยเจ้าคะ   โดย: Jakaey 19 ธันวาคม 2552 14:35:32 น.

คนไปร่วมกิจกรรมเยอะดีจริง ๆ ยังกะผึ้งแตกรังอย่างที่ว่าจริง ๆ ปีใหม่กำลังจะมาถึงแล้ว ขอเป็นปีดีมาก ๆ สำหรับคุณนิ้งนะคะ ทั้งเรื่องสุขภาพและการงานค่ะ Happy Holidays! ค่ะ ...   โดย: Tristy 27 ธันวาคม 2552 10:26:53 น.

คุณนิ้ง สวัสดีปีใหม่นะคะ ขอให้มีความสุขมาก ๆ ค่ะ   โดย: ชมพู่แก้มแหม่มของแม่ตุ๊กตา 3 มกราคม 2553 19:22:00 น.

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพรปีใหม่ 2553 ความว่า โลกจะมีสันติภาพเพราะเมตตายิ่ง ปีใหม่แล้ว ทุกคนขอให้เริ่มแก้ที่ตัวเองก่อน แก้ที่ใจวุ่นวาย เร่าร้อนด้วยอำนาจจิตของกิเลส ให้กลับเป็นใจที่สงบเย็นบางเบาจากกิเลส ที่เคยโลภมากก็ให้ลดลงเสียบ้าง ที่เคยโกรธแรงก็ขอให้โกรธเบาลง ที่เคยหลงจัดก็ขอให้พยายามใช้สติปัญญา ตนเองจะเป็นผู้สงบเย็นก่อน ซึ่งจะเป็นเหตุให้เกิดความสงบเย็น กว้างขวางออกไปอย่างไม่ต้องสงสัยเลย โลกเย็น เพราะเมตตายิ่ง โลกร้อน เมตตาหย่อน นี้เป็นความจริงที่ควรยอมรับและควรแก้ไข อันการแก้นั้นก็ต้องไม่ไปแก้ผู้อื่น ต้องแก้ที่ตัวเอง แก้ตัวเองให้ยิ่งด้วยเมตตา หรือให้มีเมตตายิ่งขึ้นนั่นเอง เมื่อมีเมตตาอย่างจริงใจแล้ว จะเป็นเหตุให้เกิดผลงานมากมาย เป็นคุณทั้งแก่ผู้รับ และเป็นคุณทั้งแก่ผู้ให้ ขออำนวยพร สวัสดีปีใหม่ค่ะ..   โดย: ป่ามืด 4 มกราคม 2553 10:05:59 น.

มาหวัดดีปีใหม่ น๊า มาทักทาย บายบายดีนะ   โดย: sivilize 4 มกราคม 2553 19:32:00 น.

ขอให้ปีนี้ ของนิ๊ง ทุกสิ่งทุกอย่างดีขึ้น สุขภาพดีขึ้น ความรักประทับใจ โชคทางการเงินหลั่งไหลเข้า ความสุขมีเต็มเปี่ยมนะครับ Happy New Year 2010   โดย: yyswim 6 มกราคม 2553 0:37:19 น.

คุณนิ้งไม่อัพบล๊อคแล้วเหรอเนี่ยะ... ปั่นจักรยานแทนขับรถบ้างก็ดีนะคะ ทอยจะพยายามทำบ้างคะเพื่อสิ่งแวดล้อมเนอะ..เมื่อวานเสิรชหาซื้อเสือภูเขาคันใหม่ให้ตัวเอง เจอยี่ห้ออินเทนส์ แล้วคิดถึงคุณนิ้งเรยอ่ะ...คุยเรื่องคุณนิ้งให้พี่โรตีฟังอีกละ อิอิ ตอนนี้คุณโหดของคุณนิ้งเป็นไงบ้าง ยังขี่ไปไหนต่อไหนอยู่เหมือนเดิมมั๊ยคะ แล้วเจ้าหมาน้อยตัวใหม่เป็นไงบ้าง ทอยไม่ได้ติดตามเลยค่ะ สองตัวของทอยก็สบายดีค่ะ หวังว่าคุณนิ้งจะสบายดีน๊า   โดย: ToY (tiny ) 8 มีนาคม 2553 1:46:28 น.

ขอบคุณคุณนิ้งมากๆ ที่แวะไปทักทายทอยน๊า...ไงก็ขอให้ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง มีเวลาก็มาอัพเดทบ้างนะคะ เอารูปเจ้าบ๊วยมาลงมั่งก็จะดีที่ซู๊ด อิอิ ไว้ไปเดินเจเจจะไปทักทายนะคะ (ไม่รู้วันไหน อิอิ) คิดถึงคุณนิ้งและเจ้าไข่นุ้ยเสมอ ไม่เคยลืมเลือน   โดย: ToY (tiny ) 23 เมษายน 2553 3:52:11 น.