ควรเลือกซื้อจักรยานจากที่ใด?
blog ที่แล้ว เลือกจักรยานแบบไหนดี ที่จะปั่นไปทำงาน ผมได้เขียนถึงการเลือกประเภทของจักรยาน มา blog นี้ผมจะเขียนถึงการเลือกซื้อจักรยานว่าเราควรซื้อจากที่ใด และอย่างไร นะครับ
เท่าที่คลุกคลีตีวงกับตามเว๊บบอร์ดต่างๆ ถามผู้รู้บ้าง ถามคนซื้อบ้าง ถามเจ้าของร้านบ้าง ผมสรุปได้เป็นข้อๆดังนี้นะครับ
1. จากรานค้าที่มีจักรยานให้เลือกหลายชนิด หลายรุ่น หลายยี่ห้อ หลายขนาด ก็เพื่อที่จะได้มีตัวเลือกเยอะๆ บางร้านมีให้เลือกน้อย เมื่อท่านเข้าร้านไปแล้ว ทางร้านอาจจะยัดเยียดจักรยานที่ไม่เหมาะสมกับสรีสระหรือวัตถุประสงค์ของท่านได้
2. ร้านที่ให้คำแนะนำในการเลือกใช้จักรยานที่เหมาะสมกับสรีระของลูกค้า รวมทั้งทางร้านนั้นสามารถปรับตำแหน่งอุปกรณ์ต่างให้ลงตัวกับผู้ปั่น เช่น คอแฮนด์ ,หลักอาน ได้ในตอนนั้นเลย
3. ร้านที่มีอุปกรณ์หรืออะไหล่ที่จำเป็นสำหรับการปั่นจักรยานขายอยู่ครบครัน เช่น หมวกกันกระแทก,ชุดไฟหน้า/หลัง , เสื้อ/กางเกง,ถุงมือ,แว่นตา,รองเท้า ฯลฯ ก็เพื่อที่ไม่ต้องเสียเวลาไปหาซื้อที่อื่นอีก
4. ร้านที่มีผู้ชำนาญและมีประสบการณ์สูง เพื่อช่วยคอยแนะนำในการใช้จักรยาน เนื่องจากว่าจักรยานทุกวันนี้มีความสับซ้อนในการใช้งานอยู่พอควร ผู้ใช้จึงจำเป็นต้องเรียนรู้การใช้งาน และดูแลรักษาเบื้องต้น
5. ร้านที่มีจักรยานให้ลูกค้าทดลองขึ้นคร่อมหรือได้ลองขี่จักรยาน ก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะว่าจักรยานบางรุ่นบางแบบบางค่าย มีการออกแบบมาหลายมิติ บางยี่ห้อ มีขนาด(ไซด์) เท่ากัน แต่องศาหรือระยะของท่อต่างๆนั้นต่างกัน ดังนั้นทางที่ดีที่สุด ก่อนซื้อจักรยานนั้น วิธีที่ลองปั่นคือวิธีที่ดีที่สุดในการตัดสินใจ
6. ร้านที่มีการรับประกันสินค้า และมีการดูแลหลังการขาย จักรยานบางคันนั้นไม่ใช่ราคาถูกๆ ทุกวันนี้ส่วนใหญ่แล้วจักรยานมักจะมีการรับประกันในระดับหนึ่ง อีกทั้งจักรยานเมื่อใช้ไปนานๆ ก็ย่อมมีการสึกหรอ หรือผิดเพี้ยนในการใช้งาน (ส่วนใหญ่จะเป็นระบบเกียร์) ทางที่ดีที่สุด ควรซื้อจักรยานจากร้านค้าของบริษัทฯ หรือไม่ก็ตัวแทนจำหน่าย ที่ได้รับการรับรอง
7.ข้อสุดท้ายเท่าที่นึกออกเลยก็คือ ควรศึกษาหรือทำการบ้านเรื่องราคามาซักเล็กน้อย ก่อนจะเข้าไปเลือกซื้อจักรยาน เพราะพ่อค้าก็คือพ่อค้าน่ะครับ นโยบายพ่อค้าก็คือค้าขายให้ได้กำไรมากที่สุด จริงๆแล้วจักรยานมันก็มีราคากลางที่ทางผู้นำเข้าเค้าจั้งราคาไว้อยู่แล้ว แต่เนื่องจากว่าร้านค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่าย ไม่ได้มีแค่ร้านเดียว ดังนั้นการแข่งขันทางด้านราคาค่อนข้างจะมีอยู่สูง จึงทำให้มีส่วนลดเปอร์เซ็นต์จากราคาป้ายอีก 5-20 % ขึ้นอยู่กับว่าร้านไหนใจปล้ำครับ บางทีของปีเก่ายังค้างอยู่ในร้าน แต่ของปีใหม่จ่อคิวเข้าร้าน กรณีอย่างนี้ก็อาจจะได้ราคาลดมากขึ้นอีกครับ
***จำไว้นะครับ อย่าซื้อจักรยานด้วยความจำยอม เพราะนั่นจะทำให้ท่านต้องเสียเงินอีกในวันข้างหน้า หรือโชคร้ายหน่อย ท่านอาจะไม่อยากปั่นจักรยานอีกเลย***
ตัวแทนจำหน่ายจักรยานในบ้านเราที่ผมพอจะค้นหามาได้ ก็มี
รถพับStrida เป็นรถพับสัญชาติ อังกฤษ คันเล็กพับเก็บสะดวก เหมาะกับนำไปขึ้นรถไฟฟ้า LA-bicycle เป็นจักรยานสัญชาติไทย ราคาเพื่อคนไทย แต่ส่งไปขายเมืองนอกก็เยอะ TCABike มีทั้งเสือหมอบ, เสือภูเขา, รวมทั้งอุปกรณ์อะไหล่ probike มีทั้งเสือหมอบ, เสือภูเขา,Down Hill และรถพับ Dahon รวมทั้งอุปกรณ์อะไหล่ worldwidebike หนักไปทางเสือภูเขา ยี่ห้อที่คุ้นตาหน่อยก็คือ GT worldbikeมีทั้งเสือหมอบ, เสือภูเขา รวมทั้งอุปกรณ์อะไหล่ piriya-internationa ค่อนข้างจะเป็นจักรยาน ไฮ-เอ็นด์ เช่น จักรยานนามว่า Rocky Mountain bix3 วินสิตาเว็บนี้เกี่ยวกับกระเป๋าสำหรับจักรยานหลายรูปแบบ ผลิตโดยคนไทย แต่ส่งไปขายเมืองนอก
ตัวแทนนำเข้าจักรยานตาม link ข้างบนนั้น โดยมากแล้วก็จะมีร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่ายอีกทีนะครับ ซึ่งมีทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด (เข้าไปดูได้จากเว็บข้างบน แล้วดูในหมวด Deale) ซึ่งบ้างร้านก็สามารถจำหน่ายจักรยานได้หลายค่าย ร้านที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายของแต่ละค่ายนั้น โดยมากแล้วก็จะต้องได้รับการอบรม การใช้งานรวมทั้งการซ่อมแซมและติดตั้ง ของจักรยานแต่ละค่ายแต่ละยี่ห้อมาเป็นอย่างดี
การซื้อจักรยานจึงควรซื้อจากร้านที่ได้รับการแต่งตั้งจากตัวแทนที่นำเข้าจักรยานครับ
ส่วนการเลือกขนาดจักรยานให้เหมาะสมกับตัวเรานั้น ถ้าเป็นคนที่คิดจะปั่นจริงๆจังๆ หรือเพื่อการแข่งขันนั้น ค่อนข้างจะเป็นเรื่องยุงยากพอสมควรครับ ไหนจะเลือกแบบท่อบนสั้น หรือท่อบนยาว เพราะจักรยานแต่ละค่าย ออกแบบมาไม่เหมือนกัน บางค่ายเน้นเพื่อการแข่งขัน บางค่ายเน้นปั่นออกกำลังกาย หรือปั่นเล่นๆ ชิลๆ
การจัดขนาดของจักรยานโดยทั่วไปแล้วจะอยู่ที่ตัวเฟรมของจักรยาน ซึ่งจะมีขนาด XS , S , M , L , XL โดยที่สัดส่วนของท่อจักรยานแต่ละชิ้นนั้น จะผกผันไปตามขนาดของจักรยาน (ดูรูปข้างล่าง)
อ่านๆแล้วซักจะงงใช่ไหม จะซื้อจักรยานขี่ซักคันทำไมมันยุ่งยากขนาดนี้เชียวเหรอ? เอาเป็นว่า อย่างๆง่ายๆเลยถ้าจะซื้อจักรยาน ผมแนะนำว่าให้เราทดลองไปยืนคร่อมจักรยานคันที่จะซื้อเลยดีที่สุด แล้วลองดูระยะห่างจากท่อบนของจักรยานถึงเป้ากางเกงของท่าน โดยให้มันมีระยะห่งกันประมาณ 1-2 นิ้ว ก็เป็นใช้ได้
เมื่อได้ขนาดเฟรมจักรยานที่ใกล้เคียงกับตัวเราแล้ว เราก็ค่อยมาปรับหลักอานและคอแฮนด์ให้เข้ากับช่วงขาและช่วงแขนของเรา แค่นี้ท่านก็จะได้จักรยานที่ใกล้เคียงกับสรีระของท่านแล้วครับ
เว็บในบ้านเราที่ชาวจักรยานเข้าบ่อยๆก็มี www.ThaiMTB.com เว็บนี้นับว่ามีคนเข้าไปใช้มากที่สุด โดยเฉพาะหน้าซื้อ-ขายจักรยานและอะไหล่มือสอง www.bikeloves.com เว็บนี้เป็นเว๊บที่ให้ความรู้ทางด้านเทคนิคการปรับแต่งจักรยาน โดยเฉพาะคนที่นิยมปั่นแบบ XC (แบบท่องเที่ยวเข้าป่าลุยดง) www.thaicycling.com เว็บนี้เป็นเว็บของชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย
***เดี๋ยวสายๆวันนี้ (15 มิย.)ผมก็ต้องเอาจักรยานลงเรือไปเกาะช้างแล้วล่ะครับ พอดีเค้ามีการแข่งขันจักรยานเสือภูเขากัน 2 ปีแล้วครับที่ไม่ได้ไปทดสอบตัวเอง เห็นว่ามันใกล้ๆบ้าน อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการเดินทางแทบจะไม่มี (นักกีฬานำจักรยานลงเรือฟรี) จะมีก็แค่ค่าสมัคร 200 บาท งานนี้เรื่องถงเรื่องถ้วยไม่ต้องห่วงครับ ฝีเท้าชั้นนี้แล้ว ไม่ได้แน่ๆ (ฮา) เอาแค่ว่าปั่นให้ครบรอบที่เค้ากำหนด แบบไม่มีหมูแดงกลับบ้านก็เก่งแล้วครับ แล้ว blog หน้าจะมาเล่าให้ฟังกันนะครับ***
Create Date : 15 มิถุนายน 2551 |
|
19 comments |
Last Update : 15 มิถุนายน 2551 5:01:42 น. |
Counter : 9867 Pageviews. |
|
|
|
ตอนเก่ายังไม่ได้อ่าน ตอนใหม่ มาแว้ว แหะๆ
แวะมาทักทายแล้วขอแปะ ไปดูบอลก่อนนะครับ
ช่วงนี้ เชียร์สเปน เต็มที่ครับ เพราะมีเด็กหงส์ในคราบกระทิง 4 ชีวิต
ที่เด่นๆ เห็นจะเป็น เจ้าหนูแก้มแดง ตอร์เรส ละครับ