ธันวาคม 2557

 
1
3
6
7
8
10
11
13
14
15
16
17
18
20
21
22
23
24
25
26
28
29
30
31
 
 
บทที่ 5 โลกกลางคืน 70%


(ต่อ)


เมื่อถึงคิวสั่งซื้อรติมาหันมาถามคนข้างหลังว่าอยากได้อะไรบ้างจะได้บอกแม่ค้าไปทีเดียวเขาพูดกับคนขายเป็นภาษาอังกฤษว่าให้รอสักครู่ รอคอยหญิงสาวซึ่งสำรวจทุกเมนูภายในร้านก่อนชี้ไปที่รูป



“เอาไก่ผสมเป็ดจานนึง”คนขายซึ่งเป็นหญิงสูงวัยยิ้มและทวนเมนูที่เธอสั่งรติมาพยักหน้าและสั่งของตัวเองเพิ่มอีกจาน “คุณนี่เงินค่าข้าวของฉัน”มุกตาภาควักเงินสกุลดอลลาร์สิงคโปร์ยื่นส่งให้ชายหนุ่ม



ในช่วงเดินทางท่องเที่ยวค่าเงินดอลลาร์ของสิงคโปร์หนึ่งเหรียญประมาณยี่สิบห้าบาทของไทยมุกตาภาคำนวณค่าอาหารซึ่งมีหน้าตาคล้ายข้าวมันไก่อย่างรวดเร็วราคาของมันคือห้าเหรียญก็ตกราวๆ ร้อยยี่สิบห้าบาทไทย เธอบ่นพึมพำในใจหากนำเงินร้อยยี่สิบห้าบาทกลับไปซื้อข้าวมันไก่แถวกรุงเทพต่อให้แพงที่สุดคงไม่เกินสี่สิบบาท



รติมาหยิบถาดใส่ข้าวมันไก่หน้าตาน่ารับประทานสองจานส่วนมุกตาภาก็ช่วยหยิบช้อนส้อมและถ้วยพลาสติกเล็กๆ ตักน้ำจิ้มสีส้มและสีดำวางลงในถาดและพากันเดินไปยังโต๊ะนั่งสำหรับสองคน



มุกตาภาอาสาไปซื้อน้ำดื่มและเดินดูอาหารอื่นๆซึ่งเป็นเมนูแปลกประหลาดกว่าข้าวมันไก่ บางอย่างก็ไม่คุ้นตา บางอย่างก็คล้ายๆกับบะหมี่แต่สีสันน่ารับประทาน เธอนึกหากข้าวมันไก่จานนั้นไม่อิ่มคงเตรียมหาเมนูอื่นไว้สำรองและราคาทำให้เธอต้องคำนวณอย่างรอบคอบหากคิดจะซื้ออาหารอีกจานจริงๆ



เมื่อได้น้ำดื่มมาสองขวดมุกตาภาก็ยื่นส่งให้เพื่อนร่วมทาง “อะ ฉันซื้อมาฝาก”



รติมาพยักหน้าและรับน้ำเปล่าจากเธอ“เท่าไร” เขาเตรียมยื่นเงินให้



“ไม่เป็นไรหรอกแค่เหรียญสองเหรียญเองเมื่อกี้คุณยังออกค่าข้าวให้ฉันเลย”


“ผมรอรวบยอดแล้วเอาคืนทีหลังต่างหาก”รติมากล่าวด้วยใบหน้าเรียบเฉยทำคนได้ยินแอบบ่นในใจ นึกว่าจะใจดีเลี้ยงข้าวเธอเสียอีก“กินข้าวได้แล้ว เดี๋ยวต้องเดินทางต่อ อาจเหนื่อยกับการศึกษาเส้นทางอีก”



มุกตาภาทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้หยิบช้อนส้อมที่รติมาส่งให้ตักน้ำจิ้มราดข้าวและตักใส่ปากคำแรกรสชาติไม่แตกต่างจากข้าวมันไก่ดีๆ นี่เอง “สรุปเมนูนี้คือข้าวมันไก่จริงๆ ใช่ไหมทำไมต้องเป็นเมนูดังของที่สิงคโปร์ด้วยล่ะ”มุกตาภาเคี้ยวข้าวไปพร้อมกับการรับรู้รสเปรี้ยวของน้ำจิ้ม รสคล้ายๆน้ำส้มสายชูปั่นกับพริกเหลือง ส่วนน้ำจิ้มสีดำก็คือซีอิ๋วหวานนั่นเอง



“คงชื่อดังเพราะข้าวมันไม่ร้อนมั้ง”รติมาแกล้งแหย่เมื่ออาหารที่กินอย่างเอร็ดอร่อยเพราะความหิวไม่มีความร้อนเลยอย่างที่ว่า



ขณะกินข้าวมุกตาภาก็ชำเลืองมองบรรยากาศรอบๆ ลองดูเมนูอาหารน่าสนใจแต่เมื่อเห็นราคาเกินกว่าห้าเหรียญก็ทำให้คิดหนักก้มหน้าก้มตากินข้าวมันไก่ในจานให้หมดก่อนเผื่อจะช่วยลดทอนความอยากจนอาจเสียกำลังทรัพย์โดยใช่เหตุ



“เดี๋ยวผมจะไปซื้อน้ำเก็บไว้ระหว่างเดินทางจะเอาอะไรอีกหรือเปล่า”



มุกตาภาส่ายหน้าและรีบกินข้าวให้หมดเมื่อพบว่าคู่สนทนาจัดการข้าวในจานหมดแล้วแต่เธอยงเอ้อระเหยลอยชายเก็บความอร่อยไม่จบเสียที “รอก่อนสิ เดี๋ยวฉันไปด้วย”มุกตาภาร้อนรน เกรงว่าตนจะกลายเป็นคนถูกทิ้ง



“ผมแค่ไปซื้อน้ำจะได้ไม่เสียเวลา” ว่าแล้วเขาก็หมุนตัวเดินไปยังร้านค้าใกล้ๆทว่าอยู่ในสายตาของมุกตาภาตลอดเวลาทุกฝีก้าว




หลังเสร็จภารกิจกับอาหารกลางวันคู่รักจอมปลอมก็พากันเดินทางมุ่งหน้าถนนแม็กเวลเมื่อขึ้นรถไฟฟ้าสายสีเขียวไปบูกิสระหว่างเส้นทางเจอวัดขนาดใหญ่ใจกลางไชน่าทาวน์ซึ่งมีชื่อที่คนไทยรู้จักในนาม ‘วัดพระเขี้ยวแก้ว’เพราะมีพระบรมสารีริกธาตุที่เป็นพระทนต์ของพระพุทธเจ้าอยู่หัว



“วัดนี้สวยจังแวะหน่อยได้ไหม”



มุกตาภาทำสายตาเว้าวอนอยากเดินเข้าไปสำรวจด้านในใจแทบข้างทว่ารติมาก็สำรวจเธอตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าเช่นกัน ลำพังกางเกงยีนส์ขายาวคงไม่มีปัญหาทว่าเสื้อแขนกุดที่สวมใส่อาจไม่สุภาพกับการเข้าภายในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เขายืนชั่งใจคิดชั่วครู่ก่อนถอดเสื้อยีนส์แขนยาวซึ่งสวมทับเสื้อเชิ้ตออกและส่งให้เธอ



“ใส่เสื้อซะผมกลัวว่าใส่แขนกุดเข้าไปจะไม่เหมาะ อาจถูกคนดูแลของที่นี่ต่อว่าได้”



มุกตาภาละล่ำละลักลังเลแต่ก็หยิบเสื้อของเขามาสวมใส่ตามข้อเสนอ ความอบอุ่นของเสื้อทำให้หัวใจเต้นตึกตักกลิ่นหอมอ่อนๆ ส่งผลให้เธอหลบตาเขาโดยอัตโนมัติ



รติมาเดินนำเข้าในวัดพร้อมเก็บภาพถ่ายเป็นจุดๆอธิบายถึงข้อมูลที่ได้ศึกษาวัดนี้มาเช่นกัน มุกตาภาเดินตามฟังรายละเอียดวัดพระเขี้ยวแก้วเป็นวัดพุทธที่มีสถาปัตยกรรมจีนสมัยราชวงศ์อันงดงามถือเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั่วทั้งเกาะรวมถึงนักท่องเที่ยวที่มาสักการะบูชาไม่ขาดสาย



ที่ชั้นหนึ่งของวัดจะมีห้องโถงใหญ่อยู่สองห้องด้านโถงใหญ่เรียก 100Dragons Hall ประดิษฐานรูปปั้นพระศรีอริยเมตไตรยและที่ผนังห้องมีพระพุทธรูปเรียงรายซึ่งถือเป็นที่มาของชื่อห้องนี้เพราะทั้งหมดมีพระพุทธรูปเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้าในพระนามต่างๆ 100 องค์ นอกจากนี้ห้องโถงนี้ยังเป็นที่สวดมนต์อีกด้วย



“เขากั้นไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปดูการสวดมนต์ด้วยเหรอ”



“คงกลัวพวกเราไปรบกวนการสวดมนต์มั้ง”รติมาว่าและพยักพเยิดให้เธอเดินทางไปอีกทาง“ส่วนห้องโถงนี้เป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร”



“งดงามมากๆเลยนะ ฉันไม่เคยเห็นวัดสวยแบบนี้เลย”



รติมาแอบขบขันและนึกแซวเธอในใจ‘คงไม่ค่อยได้เดินทางไปเที่ยวไหนแน่ๆ’ เขามองหน้าเธอ“จริงๆ ที่เมืองไทยก็มีสวยๆ เยอะนะ ไว้ลองไปหาและเที่ยวดูนะ” เธอยิ้มๆ“ไปกันได้หรือยัง ยังมีที่อื่นอีก”มุกตาภาพยักหน้าและเดินตามเขาออกจากวัดสวยงามและยิ่งใหญ่อลังการตามความคิดของเธอ



ทั้งสองใช้เวลาเดินทางและเก็บภาพสถานที่ต่างๆตามเส้นทางจนถึงถนนแม็คเวล ผ่าน Red Dot Design Museum ซึ่งเป็นอาคารสีแดงสะดุดตาสถานที่แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงงานดีไซน์จากทั่วโลกรวมถึงงานที่ได้รับรางวัลการออกแบบยอดเยี่ยม โดยพิพิธภัณฑ์ Red Dot Design จะมีสองที่คือเยอรมันและสิงคโปร์ โดยของที่จัดแสดงจะมีตั้งแต่ของใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวันจนถึงนวัตกรรมใหม่ๆ



“อยากเข้าไปดูไหม”รติมาถามคนที่ทรุดกายนั่งกับขอบปูน เริ่มมีแววเมื่อยล้า “หรือรอมาพร้อมคณะทัวร์ไม่แน่อาจพาเข้าที่นี่วันพรุ่งนี้ตามลิสพาทัวร์” มุกตาภาพยักหน้าเนือยๆยกขวดน้ำดื่มและเดินตามคนตัวสูงต่อจนถึงสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว Tanjong Papar เพื่อเดินทางไปบูกิสตามที่ตั้งใจไว้แต่แรก



ระหว่างนั่งอยู่บนรถไฟฟ้ามุกตาภาเปิดเข้าเฟซบุ๊กเพื่อดูความเคลื่อนไหวของหน้าไทม์ไลน์เธอนึกสนุกเช็คอินสถานที่และลงรูปคู่ระหว่างรติมาลงในเฟสของตัวเอง ขณะรอเพื่อนๆทักทาย เธอเปิดเว็บเพจของกิจกรรมคู่รักหวานจี๊ดดูบรรยากาศของผู้ร่วมเดินทางคนอื่นๆโพสรูปร่วมเล่นกิจกรรมสนุกสนานเห็นชื่อของเรนนี่ซึ่งเป็นแฟนสาวของรติมามากดถูกใจหน้าเพจนั้นเธอจึงหยุดความคิดที่จะโพสรูปเพื่อทำคะแนนและชำเลืองมองชายหนุ่มข้างๆ



มุกตาภาครุ่นคิดอยู่นานต่อมความอยากรู้อยากเห็นเริ่มทำงานเธอจึงกดเข้าไปยังเฟสบุ๊กของเรนนี่และไล่ดูเรื่องราวต่างๆทว่าความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นก็แปรเปลี่ยนเป็นใจหวิวๆ แปลกๆเมื่อเจอรูปคู่ระหว่ารติมากับแฟนสาวของเขา ถ่ายรูปคู่หวานชื่นจนเผลออยากเป็นผู้หญิงคนนั้นชั่ววินาทีเธอชำเลืองมองรติมาอีกครั้ง สองจิตสองใจจะกดเป็นเพื่อนกับเขาในเฟซบุ๊กดีหรือไม่และจากที่สังเกตผู้ชายคนนี้ไม่ค่อยลงความคืบหน้าในโลกโซเซียลเท่าไรกดแอดเพื่อนไว้เล่นๆ คงไม่เสียหายอะไรในเมื่อก่อนเดินทางเธอก็แอดเป็นเพื่อนกับเพื่อนร่วมคณะคนอื่นหลายคน



สัญญาณแจ้งเตือนดังเบาๆมุกตาภารีบกลับไปหน้าเฟสบุ๊กของตัวเอง และเพื่อนสนิทของเธอก็ทักทายเข้ามา



[นี่แกไม่ได้โกหกฉันใช่ไหม?แกกลายเป็นคู่รักกับคนดังไปแล้ว]ยังไม่ทันได้ตอบก็มีข้อความโพสเข้ามาอีก



[พี่มุกอยู่ไหนคะ ตอนนี้คณะทัวร์มาถึงบูกิสแล้วนะ] ปันปัน



มุกตาภาเริ่มใจชื้นเมื่อสามารถติดต่อกับเพื่อนร่วมคณะได้แล้วเธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ไม่ตอบข้อความเหล่านั้นรอให้ถึงที่พักคงมีเวลาเล่นเฟสบุ๊กเต็มที่ กระทั่งสายตาเรียบเฉยมองมาเธอจึงหุบยิ้มและเก็บเครื่องมือสื่อสารลงในกระเป๋าและเตรียมลงจากรถไฟฟ้าเมื่อถึงสถานีบูกิส



บรรยากาศรอบๆ ของย่านบูกิสมีกลิ่นอายของความเป็นอาหรับผสมผสานมาเลและอินเดียอยู่มากผิดกับแถบไชน่าทาวน์อย่างสิ้นเชิง ผู้คนละแวกนี้จะเป็นพวกแขกอาหรับมากกว่าชาวจีน ราวกับยกอินเดียขนาดย่อมมาไว้ในสิงคโปร์และย่านนี้มีชื่อเรียกว่า กัมปงกีลาม (Kampong Glam) ไม่เพียงเป็นแหล่งวัฒนธรรมเท่านั้นแต่ในกลางบูกิสยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งอีกแหล่งเช่นกัน



เดินไปตามเส้นทางก็พบกับตึกรูปร่างแปลกๆซึ่งมีหลังคาเป็นโดมสีทองโดดเด่น รติมาอธิบายว่าสถานที่เห็นนี้เป็นมัสยิดสุลต่านมีประวัติยาวนานตั้งแต่ปี คศ. 1824 เป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ซึ่งโถงหลักที่ใช้ทำพิธีสามารถจุคนได้ถึงห้าพันคน



ทั้งสองเดินเก็บรูปภาพโดยรอบตามกำแพงมีการตกแต่งเป็นภาพต่างๆ สวยงามราวกับประติมากรรมฝาผนัง สีสันสดใสสองฝั่งทางเป็นร้านขายของ ส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อผ้าและของที่ระลึกผ่านศูนย์วัฒนธรรมมลายูซึ่งจัดแสดงวัฒนธรรมและมรดกของชาวมาเลเซียตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน



ระหว่างทางก็นั่งพักดื่มน้ำพร้อมดื่มด่ำกับวิธีการชงชาชักของสถานที่นั้นสร้างความตื่นตาและรอยยิ้มให้กับทั้งสองคู่รักจอมปลอมเพิ่มความสนิทสนมมาอีกระดับเมื่อมีการพูดคุยไปเรื่อยๆ ระหว่างเดินทาง



“ผมเคยคิดอยากมาที่นี่เพราะมีภาพฝาผนังเจ๋งๆตามที่เคยเห็นในทีวี มันคงอยู่แถวๆ นี้” รติมาเริ่มมองหาสถานที่หลังจากพักเหนื่อยมาสักระยะหนึ่งผิดกับมุกตาภาซึ่งเริ่มทุบแข้งขาไล่ความเมื่อยล้าที่เกาะกุมตามร่างกาย “เจอแล้วไปกันเถอะ” รติมามองป้ายถนน ‘Haji Lane & Ball Lane’ ซึ่งถนนสายนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวดื่มกิน และช้อปปิ้งซึ่งเต็มไปด้วยร้านรวง โดยเฉพาะแฟชั่นฮิปฮอปแบบไม่ติดแบรนด์ดังทว่าเก๋ไก๋



“ถ้ามาตอนกลางคืนคงสวยกว่านี้”รติมากล่าวลอยๆ ขณะเก็บภาพประติมากรรมตามฝาผนังภายในตรอกซอยนั้นระหว่างทางเดิน



“นี่ก็เย็นแล้วรอให้มืดดีไหมละเราก็หาที่นั่งพักแถวๆ นี้ไปก่อน” มุกตาภาเสนอความเห็นเมื่อเวลานี้เธอมองหาแต่ที่พักและอยากทิ้งตัวนั่งเต็มกลืนรู้สึกว่าสองขาหนักอึ้งราวกับถูกปูนโบกไว้ไม่ยอมให้ขยับไปไหน



“ไม่เป็นไรหรอกตอนนี้ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบเดี๋ยวมืดกว่านี้ผมจะพาไปดูน้ำพุ”



To be...

บรรยากาศภายในฟู้ดเซ็นเตอร์ค่ะ 


วัดพระเขี้ยวแก้วค่ะ 



ภายในโถงสวดมนต์ค่ะ 



Red dot ค่ะ แดงมากมายยยย



ที่บูกิส มัสยิดสุลต่าน



ประติมากรรมฝาผนัง



ถนน Haji Lane ค่ะ ตอนกลางคืนสวยงามมากๆ




ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ 




Create Date : 05 ธันวาคม 2557
Last Update : 5 ธันวาคม 2557 16:48:41 น.
Counter : 822 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มาโซคิส
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]



เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล

Blood A_Blood Type Series
เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม

ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
เ ว ล า คิ ด ถึ ง ใ ค ร บ า ง ค น ม า ก ๆ อ ย า ก ดึ ง เ ค้ า อ อ ก ม า จ า ก โ ล ก แ ห่ ง ค ว า ม ฝั น แ ล้ ว ก อ ด ซ ะ !! ใ ห้ ห า ย คิ ด ถึ ง





หากวันใด อ่อนแอ ท้อแท้ ผิดหวัง ให้ลองย้อนนึกถึงวันที่เคยตะเกียกตะกาย . .



ถ้าคนๆ หนึ่ง มีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้เรายิ้มออกมาได้โดยไม่ตั้งใจ.. มานก็ไม่แปลกเลยที่เขาสามารถทำให้เราน้ำตาไหลได้โดยไม่รู้ตัว..

Online Now




New Comments