พฤศจิกายน 2557

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
10
11
13
16
17
18
21
23
24
25
27
28
29
30
 
 
บทที่ 3 สิงคโปร์ 70%
(ต่อ)

ผู้โดยสารทยอยลงจากเครื่องมีเพียงรติมายังไม่คิดกระดิกไปไหนทำให้หญิงสาวผู้กระตือรือร้นมองเขาตาเขม็งสลับกับมองคนอื่น


“ทำไมไม่ลุกซะทีละ” มุกตาภาสะกิดไหล่รบเร้าคนขวางทาง กระสับกระส่ายเมื่อเห็นหลายคนทยอยเรียงแถวเดินออกจากเครื่องบิน


“จะรีบไปไหนรอให้คนอื่นลงหมดก่อนก็ได้” รติมาสวนกลับเบาๆ สีหน้าของเขาดูซีดเซียวจนผิดสังเกต


“รอลงหมดก็ตามคณะเราไม่ทันนะสิ”


“เขาไม่ทิ้งเธอหรอกน่า” คนแย้งยังคงนั่งนิ่งไม่สะทกสะท้านต่อแววตาหงุดหงิดของคู่รักกำมะลอโดยไม่ทราบว่ามีสายตาของทีมงานคณะทัวร์จดจ้องไม่วางตา


เมื่อผู้โดยสารบนเครื่องเริ่มเบาบางจนเหลือรั้งท้ายสองสามคน มุกตาภาสะกิดคนนั่งนิ่งอีกครั้งคราวนี้เขาลุกขึ้นยืนพลางเอื้อมหยิบกระเป๋าเป้ตรงช่องใส่สัมภาระเหนือศีรษะหางตาเหลือบเห็นชายหนุ่มซึ่งจำได้ว่าเคยนั่งข้างกัน และชายคนนั้นก็จดจ้องเขากับมุกตาภาแทบจะตลอดเวลาราวกับจับตามองพฤติกรรมคู่รักตามกติกา ทีแรกรติมาคิดจะเดินนำมุกตาภาไปก่อน ในเมื่อถูกเพ่งเล็งอย่างนี้คงต้องพลิกสถานการณ์


รติมาขยับไปยืนช่องทางเดินและรอให้หญิงสาวตะแคงตัวออกมา เขาจับกระเป๋าเป้ที่ด้านหลังของเธอและดันให้เดินนำไปก่อนแอร์โฮสเตสสาวสองคนยืนดักตรงทางออก วาดยิ้มหวานราวกับฝึกมารยาทมาเป็นอย่างดี ยกมือกรีดกรายพนมพร้อมกล่าวขอบคุณ มุกตาภาผงกหัวและยิ้มแฉ่ง ก้าวเดินไปตามทางเชื่อมต่อจนถึงอาคารผู้โดยสารขาเข้ากระทั่งถึงทางออกและพบคณะทัวร์คู่รักยืนรวมกลุ่มเพื่อนับจำนวนสมาชิก


“พี่มุกทำไมออกมาช้าจังคะ”


ปันปันปรี่เข้ามาหาเด็กสาวพยายามเดินช้าๆ ตอนลงจากเครื่องเพื่อรอพี่สาวกับแฟนหนุ่มสุดหล่อของเธอ ทว่าถูกมารดาจูงให้มารอภายในอาคาร มุกตาภาฉีกยิ้มและหันมองตัวการที่ทำให้ลงจากเครื่องเกือบคนสุดท้าย รติมาเดินลิ่วไปยังเก้าอี้นั่งพักริมทางเดิน เขาถอดแว่นตาดำจนเห็นสีหน้าเนือยชัดเจน คนตัวสูงปลดกระเป๋าเป้วางตรงเก้าอี้และทิ้งตัวนั่ง ไม่ใส่ใจเพื่อนร่วมเดินทางที่กำลังเช็คชื่อสมาชิก


จากจุดลงเครื่องบินเดินตามเส้นทางไปยังด่านตรวจคนเข้าเมือง ผู้คนต่อคิวเข้าตามช่องหมายเลขซึ่งมีเจ้าหน้าที่ประจำจุดคอยบริการและจัดระเบียบ


“เป็นอะไรหรือเปล่าทำไมหน้าซีดๆ” มุกตาภาสังเกตเห็นใบหน้าคมคายดูแปลกไปขณะเดินเข้าไปยืนตรงเคาน์เตอร์กรอกข้อมูลส่วนตัวลงในใบตม.หรือใบตรวจคนเข้าเมืองก่อนเข้าคิวตรวจพาสปอร์ต เธอแอบห่วงตั้งแต่เห็นเขาไปนั่งพักตรงเก้าอี้ราวๆ สิบนาทีจึงเดินเข้ามารวมกลุ่มกับคณะแต่ยังไม่นึกเอะใจ จนกระทั่งเขาถอดแว่นเมื่อข้อบังคับของสนามบินเตือนให้ถอดแว่นและหมวกออก


“แค่เวียนหัวพอดีผมไม่ชอบที่สูง” รติมาเขียนเอกสารโดยไม่มองหน้าคู่สนทนาที่ค้นหายาดมยาหม่องให้ทันทีเมื่อรู้สาเหตุ


มุกตาภาเคยได้ยินเพื่อนร่วมงานหลายคนพูดคุยเกี่ยวกับอาการแปลกๆ ตอนอยู่บนเครื่องบิน บ้างก็หูอื้อปวดหู บ้างก็วิงเวียนศีรษะ ก่อนเดินทางมาสิงคโปร์เธอจึงศึกษาสาเหตุเหล่านั้นเกรงจะเกิดกับตนเอง


ตามข้อมูลที่ค้นเจอจากโลกอินเตอร์เน็ต นายแพทย์บางท่านระบุว่าร่างกายคนเราจะมีท่อยูสเตเชี่ยนปรับความดันของหูชั้นกลางให้เท่ากับบรรยากาศภายนอก เมื่อใดที่ท่อนี้ทำงานผิดปกติจะทำให้เกิดอาการหูอื้อ ปวดหู มีเสียงดังในหูหรือเวียนศีรษะ ดังนั้นเวลาเดินทางไกลโดยนั่งเครื่องบินควรป้องกันตัวเองไม่ให้เป็นหวัดไม่เครียด พักผ่อนให้เพียงพอ หรือการป้องกันอาการดังกล่าวด้วยการเคี้ยวหมากฝรั่งเพื่อให้มีการกลืนน้ำลายบ่อยๆ


เธอจึงเตรียมทุกสิ่งไว้ในกระเป๋าเผื่อคราวฉุกเฉิน มีติดกระเป๋าแล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่าต้องการใช้แล้วไม่มี และทางเลือกที่น่าจะดีอีกอย่างหนึ่งคงไม่พ้นการนอนหลับเพราะช่วงเวลานั้นไม่ต้องรับรู้สิ่งใด อาการแปลกประหลาดต่างๆ คงไม่กล้ำกลายเข้ามา นั่นคือความเชื่อส่วนตัวของเธอ


“เอายาดมไหม” เธอยื่นยาดมหลอดเล็กจิ๋วให้เขาที่ปรายตามองและส่ายหน้าเบาๆ “เอาไปเถอะน่า ฉันยังไม่ได้ใช้ ซื้อพกติดตัวไว้เฉยๆ”


รติมาชั่งใจคิด อันที่จริงเขาไม่ได้รังเกียจหากเธอจะใช้ยาดมหลอดนั้นแล้ว แต่เพราะไม่ชอบเรื่องจุกจิกต่างหากจึงไม่อยากรับไว้ ตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยพกเครื่องช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนสักครั้ง จนยาดมหลอดนั้นถูกยื่นมาใกล้ เขาจึงรับไว้ในที่สุด “ขอบใจ”


มุกตาภาตื่นเต้นเมื่อมายืนต่อแถวเข้าด่านตรวจ เธอชะเง้อมองคนก่อนหน้าด้วยอาการใจเต้นตึกตัก รติมาลอบมองท่าทางประหม่าของเธอจนหางตาเหลือบเห็นเด็กสาวที่จำได้ว่าชื่อปันปันกำลังมองเขาอยู่ และเด็กคนนั้นก็หลบตาแสร้งกอดมารดาและยิ้มเขินๆ


“ไม่ไปยืนกับเพื่อนใหม่เหรอ” รติมาโน้มกายมากระซิบหญิงสาวด้านหน้าซึ่งหันมองเขาด้วยท่าทางเลิ่กลักและมองตามสายตาชี้ชวนไปทางเด็กสาวปันปัน


“เมื่อกี้ฉันเดินไปหาปันปันไม่ทันมีฝรั่งสามคนคั่นซะก่อน” การชวนคุยของรติมาเป็นผลเมื่ออาการประหม่าของเธอสงบลงชั่วคราว


มุกตาภาเดินเข้าด่านตรวจเมื่อถึงคิวโดยเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบสีกรมท่าหน้าตาคล้ายคนโซนอาหรับโบกมือหย่อยๆให้เดินเข้าไปยืนตรงหน้าเคาน์เตอร์ ชายวัยกลางคนน่าตาดุดันจ้องเธอตาเขม็งขอหนังสือเดินทาง เขากล่าวสวัสดีพร้อมกับกรอกข้อมูลบางอย่างลงคอมพิวเตอร์ และถามชื่อนามสุกลของเธอเพื่อทวนความถูกต้องจนกระทั่งผ่านพ้นอย่างราบรื่นพาคนตื่นเต้นหายใจทั่วท้อง นึกระแวงว่าจะถูกกักตัวตามที่เคยได้ยินประสบการณ์ของเพื่อนร่วมงานหลายคน


เมื่อทุกคนผ่านด่านตรวจ คณะกิจกรรมก็นำลูกทัวร์ทั้งหมดเดินไปยังจุดรับกระเป๋าเพื่อหยิบสัมภาระของตนและมารวมตัวตรงประตูทางออกและเดินทางไปยังจุดต่อรถไฟฟ้า มุกตาภาสังเกตป้ายบอกทางภาษาอังกฤษเป็นระยะ ตั้งแต่ลงจากเครื่องบินตรง Terminal 1 เดินตามป้าย Skytrain to T2 ไปยัง Terminal 2 ต่อรถไฟฟ้า sMRT เข้าเมือง


สัญลักษณ์ในสนามบินชัดเจนและเข้าใจง่าย หากนักท่องเที่ยวศึกษาข้อมูลมาคร่าวๆ จึงไม่แปลกใจที่เพื่อนร่วมงานหลายคนท่องเที่ยวสิงคโปร์เองแบบ Backpacker ไม่ต้องพึ่งทัวร์ท่องเที่ยว ระหว่างทางคนนำทัวร์จะส่งสัญญาณเตือนให้ลูกคณะเดินกันเป็นคู่เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่คอยเก็บภาพเป็นระยะเพื่อเก็บคะแนนให้กับกิจกรรมครั้งนี้ ขณะหยุดถ่ายภาพมุกตาภาสังเกตสีหน้าของชายหนุ่มข้างๆ เวลานี้เริ่มออกอาการเบื่อโลกนี้เต็มกลืน


บนรถไฟฟ้ารับส่งระหว่างเทอร์มินัลมีชาวต่างชาติมากมายยืนนิ่งๆ เงียบสงบ บางคนก็กดโทรศัพท์มือถือจนเธอนึกขึ้นได้ถึงของฟรีตามข้อมูลที่ได้รับจากเพื่อน เมื่อมาถึงสนามบินให้ตรงดิ่งไปหาประชาสัมพันธ์เพื่อขอใช้ wifi ฟรีเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายหากต้องใช้โปรโมชันจากเครือข่ายโทรศัพท์ ทว่านึกได้ก็สายเสียแล้วจึงรีบเปลี่ยนโหมดตามเครือข่ายเพื่อใช้งานอินเตอร์และเช็คอินบนสถานะเฟซบุ้ก ว่าขณะนี้เดินทางถึงประเทศสิงคโปร์เรียบร้อยแล้ว



To be...






ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ 




Create Date : 20 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2557 2:42:03 น.
Counter : 647 Pageviews.

2 comments
  
น่ารักดีครับ^_^...
โดย: PSYCHO G IP: 1.10.130.123 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2557 เวลา:14:09:37 น.
  
เนอะ อิอิ
โดย: มาโซคิส IP: 115.87.5.57 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2557 เวลา:21:30:35 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มาโซคิส
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]



เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล

Blood A_Blood Type Series
เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม

ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
เ ว ล า คิ ด ถึ ง ใ ค ร บ า ง ค น ม า ก ๆ อ ย า ก ดึ ง เ ค้ า อ อ ก ม า จ า ก โ ล ก แ ห่ ง ค ว า ม ฝั น แ ล้ ว ก อ ด ซ ะ !! ใ ห้ ห า ย คิ ด ถึ ง





หากวันใด อ่อนแอ ท้อแท้ ผิดหวัง ให้ลองย้อนนึกถึงวันที่เคยตะเกียกตะกาย . .



ถ้าคนๆ หนึ่ง มีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้เรายิ้มออกมาได้โดยไม่ตั้งใจ.. มานก็ไม่แปลกเลยที่เขาสามารถทำให้เราน้ำตาไหลได้โดยไม่รู้ตัว..

Online Now




New Comments