ธันวาคม 2557

 
1
3
6
7
8
10
11
13
14
15
16
17
18
20
21
22
23
24
25
26
28
29
30
31
 
 
บทที่ 5 โลกกลางคืน 100%


(ต่อ)


ราวหนึ่งทุ่มเศษบนรถไฟฟ้าสายสีส้มแออัดไปด้วยผู้คนมากมาย คงเป็นช่วงเวลาที่มนุษย์เงินเดือนทั้งหลายเลิกงานมุกตาภาเริ่มยืนไม่เป็นสุขถูกร่างกายประท้วงเมื่อปวดระบมไปทั้งตัวขณะนี้เธอนึกถึงแต่เตียงนอนนุ่มกว้างอยากทิ้งตัวแผ่หราและหลับใหลไม่ต้องตื่นจนกว่าจะเช้า


รติมานำแผ่นหลังพิงเสาเหล็กภายในรถไฟฟ้าเขาชำเลืองมองเพื่อนร่วมทางซึ่งเธอเงยหน้าขึ้นมาพอดี


“เหนื่อยเหรอ”


มุกตาภาฝืนยิ้ม“นิดหน่อย แต่ดูคุณเหมือนไม่เหนื่อยเลยนะ”


“ก็เหนื่อยนะแต่ทนไหว ไงคุณก็ทนอีกหน่อยแล้วกัน ใกล้จะถึงแล้ว”เขาพูดพลางมองสัญญาณไฟตรงป้ายสถานี จากบูกิสย้อนเส้นทางกลับมาไม่นานก็ถึงสถานี Esplanade ซึ่งเป็นสถานที่ปลายทาง รติมาขยับกายเตรียมเดิน


“ถึงแล้วเหรอ”


“อืมตามมาติดๆ ละ บนรถคนเยอะ เดี๋ยวจะหลงกัน”


มุกตาภาพยายามมองแต่แผ่นหลังกว้างตลอดเวลาไม่อยากคาดจากเขา หากไม่เกรงใจคงคว้าชายเสื้อเชิ้ตของเขาดึงไว้ไม่ปล่อยป้องกันการสูญหาย


เมื่อหลุดออกจากรถแน่นขนัดรติมาก็สาวเท้าเดินไปตามเส้นทางมุ่งหน้าสู่น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง ตามแผ่นที่ระบุไว้หลายเส้นทาง แต่เขาเลือกเดินเข้าภายในตึก Suntec City ซึ่งเป็นทั้งอาคารสำนักงานและห้างสรรพสินค้ารวมกันถึงห้าตึก


รติมาชะลอฝีเท้าคอยหญิงสาวด้านหลังให้เดินทันกัน สีหน้าเจือความอ่อนล้าของเธอทำให้รติมาลอบยิ้มนี่แหละผู้หญิงเพศที่อ่อนแอ เดินๆ พักๆ ก็เหนื่อยง่ายดายแต่มุกตาภาเก่งตรงที่ไม่บ่นหรือโวยวายให้ได้ยินหากเรนนี่มาเดินอยู่แบบนี้มีหวังคงบ่นเขาหูชา หรือไม่ก็คงล้มเลิกเที่ยวตามสถานที่ต่างๆและขอนอนพักอยู่แต่ในโรงแรมแน่ๆ


“จะพักเหนื่อยก่อนไหม”รติมาดึงความสนใจให้เธอละทิ้งความปวดเมื่อยตามร่างกายชั่วคราว


มุกตาภาตอบเพียงส่ายหน้าแม้แต่สุ่มเสียงก็ไม่อยากพูดให้เสียงพลังงานเธอโบกมือให้เขารีบเดินต่อก่อนเธอจะเผลอทิ้งตัวนั่งกลางทางเดินเสียเดี๋ยวนี้


รติมาไม่มัวเสียเวลาเดินตามหาน้ำพุเขาตรงเข้าหาผู้คนละแวกนั้นและถามถึง Fountain of Wealth ทั้งสองชี้มือชี้ไม้ถึงเส้นทางเมื่อทราบที่ตั้งแล้วเขาก็เดินมาหามุกตาภาและนำเธอเดินต่อ


จากอาคารจะมีบันไดวนสูงชันพอกับตึกสองชั้นเป็นทางเชื่อมต่อขึ้นสู่ลานโล่งกว้างโดยรอบเป็นพื้นที่วงกลม ตรงจุดกลางของพื้นที่มีเสาทรงกลมขนาดใหญ่ตั้งเป็นฐานสี่ต้นด้านบนเป็นเสาแบบเดียวกับแต่เป็นวงแหวน ลักษณะคล้ายกับยานอวกาศซึ่งยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ผู้คนละแวกนั้นนั่งกันพอประปรายและส่วนใหญ่คงมานั่งรับลมมากกว่าจะสนใจน้ำพุและไฟหลากสีสัน


สายน้ำพุพุ่งขึ้นจากพื้นด้านล่างเป็นจังหวะกับเสียงเพลงที่ได้ยินเพียงแผ่วเบาและสีสันต่างๆ เพิ่มความตื่นตาพาคนเดินทางหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งมุกตาภาปลดกระเป๋าเป้ลงจากบ่าและเดินเข้าไปอิงกับขอบรั้วกระจกมองน้ำพุแห่งความมั่งคั่งหลากหลายสีสันตระการตาโดยรติกายกกล้องเก็บภาพความงดงามและตั้งบันทึกภาพในโหมดวีดีโอ


“สถานที่นี้มีความหมายอะไรหรือเปล่า”มุกตาภาถามทั้งยังจดจ้องน้ำพุที่กำลังเริ่มแสดงลีลาสลับทิศทางสายลมแผ่วพลิ้วทำให้เส้นผมยาวปะบ่าปลิวไสว


“น้ำพุแห่งความมั่งคั่งถูกบันทึกโดยกินเนสบุ๊กให้เป็นน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดของโลกตั้งแต่ปีค.ศ. 1998 เพราะประเทศสิงคโปร์ค่อนข้างเชื่อถือในเรื่องฮวงจุ้ยเรียกได้ว่าเชื่อมากเลยมั้ง เกือบทุกอย่างต้องสร้างตามฮวงจุ้ย”เขาหยุดพูดนิดหนึ่งและหันมองรอบบริเวณ “ดูอย่างตึกที่เราเดินมาก็ถูกออกแบบตามฮวงจุ้ยที่ดีมาก คนจีนเรียกว่า เฮงยกกำลังสาม”


“ยกกำลังสามยังไง”มุกตาภาออกอาการงง


“ก็เฮง เฮง เฮง ไง” ทั้งสองหัวเราะกันคิกคักก่อนฟังรติมาพูดต่อ“เห็นตึกที่รายล้อมน้ำพุไหม” ว่าพลางชี้ชวนให้ดูตาม“มันเหมือนนิ้วมือทั้งห้าข้างซ้ายและมีน้ำพุตรงกลางฝ่ามือถือเป็นตัวแทนของความมั่งคั่ง เป็นสัญลักษณ์แทนจักรวาลในศาสนาฮินดูและเป็นตัวแทนของความเป็นหนึ่งเดียวหากอยากมีโชคลาภต้องเดินวนในส่วนฐานของน้ำพุ ตั้งใจอธิษฐานใช้มือสัมผัสน้ำและเดินวนตามเข็มนาฬิการอบน้ำพุ 3 รอบจะสมหวัง”


“จริงเหรอ!”คนที่รับฟังนิ่งๆ มาตลอดถึงกับเบิกตากว้างและชะโงกมองลงเบื้องล่างหาทางเข้าไปด้านใน“ทำไมไม่มีใครลงไปเดินอธิษฐานเลยละ”


“ตอนนี้ปิดมั้งอยากรู้ก็ลองเดินหาทางเข้าดูสิเดี๋ยวผมรออยู่แถวนี้”รติมากล่าวพลางมองหาที่นั่งเพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศเย็นฉ่ำของสายลมท่ามกลางน้ำพุหลากสีสัน


มุกตาภาเดินวนและสำรวจรอบบริเวณก้มๆ เงยๆ มองหาทางเข้าจนผู้คนละแวกนั้นมองตาม เมื่อหางตาเป็นป้าย ‘Close’ แขวนต่องแต่งอยู่ตรงประตูบานหนึ่งเธอจึงเลิกตามหาทางเข้าและกลับมาทรุดกายนั่งลงใกล้ๆรติมา


“เจอไหม”


หญิงสาวชำเลืองมองคนถามและส่ายหน้า“มันปิด”


ทั้งสองนั่งมองน้ำพุแห่งความมั่งคั่งเงียบๆโดยมุกตาภาลอบมองคนด้านข้างเป็นระยะ เครื่องหน้าของเขาหวานคล้ายผู้หญิงปลายจมูกโด่งเชิดราวกับเป็นคนหัวดื้อไม่ค่อยยอมใครแววตาคมเข้มเป็นประกายระยับจดจ้องแสงไฟ ริมฝีปากบางน่าสัมผัสและประทับรอยจูบนึกได้อย่างนั้นความชื่นชมต่างๆ ก็หลุดลอยและต่อว่าตนเองเป็นสาวเป็นนางไม่รู้จักอาย คิดเลยเถิดถึงขนาดอยากจูบผู้ชายมุกตาภาสะบัดศีรษะไล่ความคิดฟุ้งซ่านออก


ฉุกคิดถึงหญิงสาวอีกคนซึ่งเป็นเจ้าของเขาคนนี้ขึ้นมา...


“นี่คุณ...ได้ติดต่อแฟนคุณบ้างหรือยัง”ตั้งแต่เห็นเขาเทียวกดโทรศัพท์ภายในสนามบินก่อนออกเดินทางมาสิงคโปร์ก็ยังไม่เห็นเขาแตะโทรศัพท์อีกเลยแม้จะกดเบอร์เธอยิงเข้าไปในเครื่องเขาก็ยังไม่จับโทรศัพท์เพื่อบันทึกเธอไว้เช่นกัน


รติมาไม่ตอบแต่สีหน้าวูบลงเล็กน้อย


“ขอโทษนะที่ละลาบละล้วงพอพูดถึงแฟนคุณแล้วฉันก็รู้สึกแย่ รู้สึกเหมือนตัวเองวุ่นวายดึงคุณมาเที่ยวทั้งที่น่าไปตามง้อเธอมากกว่า”


“เรนนี่ก็เป็นแบบนั้นละเจ้าอารมณ์ ไม่มีเหตุผล เอาแต่ใจตัวเอง”


คำบอกเล่าของรติมาพามุกตาภานึกถึงสาวสวยผู้เลอโฉมจนเพื่อนๆมักเรียกหล่อนว่าเจ้าหญิงแห่งโลกไซเบอร์ และฉากที่เขาคนนี้โดนตบฉาด“ไม่รู้จะยุ่งมากไปหรือเปล่า แต่คุณทะเลาะอะไรกันเหรอถึงถูกแฟนตบแบบนั้น”มุกตาภาถามออกไปทั้งที่เก็บความอยากรู้ไว้ตั้งแต่ก่อนเดินทาง


เขาชำเลืองมองเธอแว้บหนึ่งและหันไปให้ความสนใจยังน้ำพุต่อไม่แปลกใจที่เธอถามคำถามนี้เมื่อเขาก็เห็นว่าเธอเดินอยู่ตรงนั้นพอดีตอนเกิดเรื่องวิวาท“ผมแค่ชมผู้หญิงคนหนึ่งว่าน่ารักดี” พูดพลางถอนใจและขยับเอนกายเหยียดขาพร้อมท้าวแขนไปด้านหลัง“แค่นั้นเรนนี่ก็ตบผมและขอเลิก”


มุกตาภานึกในใจ‘แบบนี้ก็สมควรถูกตบ เที่ยวชมผู้หญิงอื่นต่อหน้าต่อตา’


รติมาระบายยิ้ม“ผู้หญิงนี่ตลกดีนะ แค่ชมก็ผิดด้วย”


“มันแหง๋อยู่แล้วละเป็นฉันก็โกรธ เดินอยู่กับแฟนสวยๆ อยู่ดีๆ ดันชมคนอื่น” เธอหยุดพูดไปนิดหนึ่ง หากเธอเป็นแฟนของเขาตอนนั้นอาจออกอาการเหวี่ยงและแง่งอนคงไม่ถึงกับลงไม้ลงมือตบหน้ากลางที่สาธารณชน“แล้วไม่คิดง้อเธอหรือไง ฉันแอบเห็นชื่อเธอในเฟซบุ๊กคงแอบมาดูรูปในเว็บเพจที่ร่วมกิจกรรม”


“ผมโทรหาแต่เธอปิดเครื่องไว้อารมณ์ดีคงโทรกลับมาเอง หรือถ้าอาการหนักก็คงเลิกกันจริงจัง”


“เฮ้ๆเรื่องชมสาวอื่นมันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ”


“สำหรับเรนนี่คงหนักมากมั้ง”รติมาผ่อนลมหายใจยาวและลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “กลับกันดีกว่าดึกมากแล้วผมว่าเลิกสนใจเรื่องผมแล้วหาคำแก้ตัวกับคณะทัวร์ดีกว่า”


ความกดดันถาโถมราวกับพายุโหมกระหน่ำเมื่อนึกถึงใบหน้าดุดันซึ่งจับจ้องตาเขม็งกับน้ำเสียงเหี้ยมเกรียมต่อว่าและอาจข่มขู่ถึงค่าใช้จ่ายที่เธอกับเขาต้องชดใช้หากทำผิดกติกาของการเดินทางในครั้งนี้มุกตาภานึกสยอง รีบคว้ากระเป๋าเป้ขึ้นพาดไหล่และเดินตามหลังคู่รักจอมปลอมไปติดๆ

To be... 


น้ำพุแห่งความมั่งคั่งค่ะ 





Create Date : 09 ธันวาคม 2557
Last Update : 10 ธันวาคม 2557 22:01:05 น.
Counter : 1135 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มาโซคิส
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]



เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล

Blood A_Blood Type Series
เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม

ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
เ ว ล า คิ ด ถึ ง ใ ค ร บ า ง ค น ม า ก ๆ อ ย า ก ดึ ง เ ค้ า อ อ ก ม า จ า ก โ ล ก แ ห่ ง ค ว า ม ฝั น แ ล้ ว ก อ ด ซ ะ !! ใ ห้ ห า ย คิ ด ถึ ง





หากวันใด อ่อนแอ ท้อแท้ ผิดหวัง ให้ลองย้อนนึกถึงวันที่เคยตะเกียกตะกาย . .



ถ้าคนๆ หนึ่ง มีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้เรายิ้มออกมาได้โดยไม่ตั้งใจ.. มานก็ไม่แปลกเลยที่เขาสามารถทำให้เราน้ำตาไหลได้โดยไม่รู้ตัว..

Online Now




New Comments