Group Blog
All Blog
|
บทที่ 3 สิงคโปร์ 100% (ต่อ) เมื่อถึงสถานีรถไฟฟ้า Changi Airport ทางคณะกิจกรรมติดต่อรับบัตรโดยสาร EZ link ตรงเคาน์เตอร์ซึ่งจองไว้ล่วงหน้า คนนำคณะอธิบายถึงวิธีการใช้บัตรสารพัดประโยชน์ขณะอยู่ในสิงคโปร์ อาทิขึ้นรถไฟฟ้า MRT ขึ้นรถเมล์ แท็กซี่รวมถึงชำระสินค้าในรูปแบบเงินสดตามร้านสะดวกซื้อหรือร้านค้าที่มีสัญลักษณ์บัตร โดยทางคณะจัดการเติมเงินในบัตรให้ลูกทัวร์เรียบร้อยแล้วตลอดทริปการเดินทางนี้ เขาจะให้เราขึ้นรถไฟฟ้างั้นเหรอ มุกตาภาหันมองคนข้างๆ พลางนึกถึงความแออัดของรถไฟฟ้าในประเทศบ้านเกิด เกรงว่าการเดินทางเป็นกลุ่มคณะใหญ่กว่ายี่สิบคนจะไม่สะดวกกับการขึ้นลงอาจเกิดการพลัดหลงกันได้ คงให้พกติดตัวเผื่ออยากไปที่อื่นแบบไม่ต้องพึ่งทัวร์มั้งเพราะเท่าที่ผมอ่านรายละเอียดเห็นว่ามีรถบัสมารับที่สถานีนี้ไปส่งโรงแรม รติมาว่าขณะมองดูป้ายแผนที่ของเมืองสิงคโปร์ซึ่งปัจจุบันมีรถไฟฟ้าวิ่งให้บริการอยู่สี่สายและทุกสายจะเชื่อมกันยังจุดต่างๆ สายสีเขียว(East-WestLine : EW) ให้บริการจากสถานี Changi Airport ออกไปทิศตะวันตกของประเทศ สายสีแดง(North-SouthLine : NS) ให้บริการขึ้นไปทางเหนือ สายสีม่วง(North-EastLine : NE)ไปทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะสิงคโปร์และเป็นจุดเชื่อมต่ออีกหลายสถานที่ สายสีส้ม(CircleLine : CC) เป็นสายที่เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อปี2010 เป็นรถไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกับทั้งสามสายข้างต้นทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางได้สะดวกขึ้น เห็นแค่นี้ก็ตาลายแล้วถ้าฉันไปคนเดียวคงหลงแน่ๆ ยังไงฉันขอตามติดคุณดีกว่า มุกตาภายิ้มแป้นพลางยกโทรศัพท์ถ่ายรูปแผนที่ของสายรถไฟฟ้าเก็บไว้ ผู้นำทัวร์เรียกทุกคนให้รวมตัวระหว่างรอรถบัสมารับไปยังที่พักก่อนท่องเที่ยวยังจุดต่างๆ ชายหนุ่มที่คอยเพ่งเล็งรติมาออกมาอธิบายถึงประวัติของประเทศสิงคโปร์ เล่าตามประวัติศาสตร์ยุคเริ่มแรกไม่ค่อยแน่ชัด ดินแดนแห่งนี้รู้จักในนาม เทมาเช็ค(Temasek) หรือเมืองแห่งท้องทะเล จนกระทั่งศตวรรษที่ 14 เจ้าชายซาง นิลา อุตะมะแห่งปาเลมบัง เมืองหลวงของอาณาจักรศรีวิชัยเดิม ทรงออกล่าอาณานิคมจนมาถึงที่แห่งนี้ได้พบสัตว์แปลกประหลาดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน นั่นคือสิงโต จึงได้ก่อตั้งเมืองชื่อว่า สิงหปุระ หรือเมืองแห่งสิงโตบริเวณแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของการค้าทางทะเลที่รุ่งเรือง ในสมัยนั้นสิงคโปร์เป็นจุดยุทธศาสตร์ทางการค้าดึงดูดพ่อค้าจากนานาประเทศ ทั้งแถบเอเชีย อเมริกาและตะวันออกกลาง เกาะนี้จึงถูกช่วงชิงและยึดครองเรื่อยมากระทั่งรัฐบาลอังกฤษได้เข้ามาดูแล ในปี ค.ศ.1867สิงคโปร์จึงกลายเป็นอาณานิคมอย่างสมบูรณ์ ต่อมาสิงคโปร์ขอรวมชาติกับมลายูเพื่อไม่เป็นเมืองขึ้นของอังกฤษแต่เกิดความไม่พอใจที่มาเลเซียมีการเหยียดชนชาติทำให้พรรคกิจประชาชนของสิงคโปร์ประกาศเป็นเอกราชเมื่อปี ค.ศ. 1965 ตั้งแต่บัดนั้นในชื่อ สาธารณรัฐสิงคโปร์ มุกตาภานั่งฟังข้อมูลของเกาะสิงคโปร์กับเด็กสาวปันปันอย่างให้ความสนใจ ผิดกับรติมาซึ่งแวบไปที่อื่นไม่ใส่ใจรายละเอียดเมื่อเขาเคยศึกษาประวัติของประเทศนี้เมื่อนานมาแล้ว ทางคณะทัวร์เล่าต่อว่าสิงคโปร์เป็นประเทศที่เล็กที่สุดประเทศหนึ่งในโลกไม่มีทรัพยากรธรรมชาติมากเหมือนประเทศอื่นแต่มีฐานะเศรษฐกิจดีเพราะพัฒนาด้านการค้าทำให้มีการเงินที่มั่งคั่งที่สุดประเทศหนึ่งในโลก พี่มุกรู้ไหม อนาคตปันปันอาจมาหางานทำที่นี่ก็ได้ เพราะพี่ชายของปันปันบอกว่าเมืองนี้พึ่งพาแรงงานจากต่างชาติในทุกระดับเลยนะ ถ้าเงินดีอย่าลืมชวนพี่มุกด้วยนะ แล้วพี่เลิฟไปไหนแล้วละคะ ปันปันหันซ้ายหันขวาหาชายหนุ่มในดวงใจ ปันปันว่าพี่เลิฟต้องมาเที่ยวประเทศนี้บ่อยแน่เลยใช่ไหมคะ ดูพี่เขาไม่ค่อยตื่นเต้นอย่างพวกเราเลยเนอะ คำพูดของเด็กสาวพามุกตาภานิ่งไปอึดใจเพราะเธอไม่ใช่คนรักของเขา และไม่รู้จักเขาดีพอจึงตอบคำถามของปันปันไม่ได้สักข้อ เธอได้แต่ยิ้มแห้งๆ พลางมองหาเขาอีกคน รถบัสคันใหญ่จอดรับผู้โดยสารตรงหน้าสถานที่รถไฟฟ้าทุกคนทยอยขึ้นรถ ทว่ามุกตาภาชะเง้อมองหาคู่รักจอมปลอมอย่างกระวนกระวายเมื่อเขาหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย คุณมุกมีเบอร์อื่นติดต่อคุณเลิฟหรือเปล่าครับ เบอร์ที่เขาให้ผมมาติดต่อไม่ได้เลย คณะทัวร์เร่งเร้าเมื่อเสียเวลากับการรอคอยรติมาร่วมครึ่งชั่วโมงแล้วเข้าไปสำรวจในห้องน้ำก็แล้ว เดินตามหารอบบริเวณก็แล้ว ยังไม่พบเขาแม้แต่เงา เอ่อ...คือเลิฟก็มีแค่เบอร์เดียวนั่นละคะ สีหน้าเจื่อนรู้สึกผิดที่ต้องโกหก ลืมไปเสียสนิทกับการขอเบอร์โทรเขาเก็บไว้ยามฉุกเฉินเช่นนี้ พี่มุก!พี่เลิฟเดินมาโน่นแล้วค่ะ ปันปันกระโดดโลดเต้นเมื่อช่วยลุ้นให้ชายหนุ่มกลับมาก่อนคณะทัวร์จะพ่นไฟระบายความหงุดหงิด รติมาก้าวพรวดๆมองทุกคนที่จดจ้องเขาเป็นตาเดียว จับกระแสจากสายตาเหล่านั้นได้ว่า หายไปไหนมา ไปไหนมาครับ ทุกคนรอคุณอยู่คนเดียว ชายหนุ่มของคณะจัดกิจกรรมโพล่งถามทว่าเขาไม่ตอบ จับกระเป๋าเป้ของมุกตาภาลากให้ขึ้นรถบัสโดยที่มือของเธอจูงปันปันติดร่างแหไปด้วยอีกคน ปล่อยให้คนตั้งคำถามหงุดหงิดใจหนักอีกเท่าตัว ตอนนี้คณะของเราเดินทางมาถึงมารีน่าเบย์ แซนด์ส แล้วนะครับ โรงแรมขึ้นชื่อของประเทศสิงคโปร์ ตึกสูงเป็นรูปตัวเอ็มด้านบนที่เป็นคานคล้ายเรือขนาดใหญ่ เป็นจุดชมวิวที่สวยจุดหนึ่งของที่นี่ คนแนะนำผ่ายมือขึ้นสูงให้ทุกคนแหงนมองตามขณะรถบัสกำลังเคลื่อนเข้าอาณาเขตของสถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวกของที่นี่บอกเลยว่าเพียบครับ แถม... เขาป้องปากกระซิบ มีคาสิโนด้วยนะจะบอกให้ หากท่านใดสนใจรบกวนออกค่าใช้จ่ายเองนะครับ เสียงหัวเราะดังลั่นรถจนกระทั่งรถจอดสนิท ผู้โดยสารทยอยลงจากรถเพื่อรอเช็คอินเข้าห้องพัก แม้จะยังไม่ถึงกำหนดเวลา ทว่าคณะกิจกรรมได้ติดต่อกับโรงแรมไว้บริการลูกค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ความอลังการทำให้ทุกคนที่เดินเข้าภายในอาคารส่งเสียงฮือฮา ตื่นตาตื่นใจกับความสวยหรูของที่พัก ความโชคดีในการส่งรูปเข้าประกวดทำให้รู้สึกเปี่ยมสุขราวกับได้ขึ้นสวรรค์ ฝ่ายดูแลกิจกรรมนำคีย์การ์ดประจำห้องพักส่งให้คู่รักทั้งเก้าคู่ ทว่าคู่สุดท้ายกลับมีปัญหาที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่อได้ยินคำพูดที่ว่า... คุณมุกกับคุณเลิฟต้องนอนห้องเดียวกันนะครับ อะไรนะ! มุกตาภาโวยลั่น ส่วนรติมาได้แต่เลิกคิ้วค้างเมื่อเขาสังหรณ์ใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ตั้งแต่ตกปากรับคำร่วมเดินทางตามกติกา ทำไมเป็นแบบนี้ละคะ ในเมื่อคู่ของฉันไม่มา คู่ของเขาก็ไม่มาเพราะฉะนั้นพวกเราก็อยู่คนละห้องได้สิคะ เธอไม่ยอม อยากรั้นหัวชนฝาหากไม่อายฝรั่งและทำให้เสื่อมเสียชื่อประเทศไทยคงลงไปดิ้นพล่านๆ อยู่บนพื้น คุณมุกอย่าเพิ่งโมโหนะครับฟังก่อน ตั้งแต่พวกคุณบอกยกเลิกคู่ของคุณ และตกลงเดินทางร่วมกัน ทางบริษัทจำเป็นต้องส่งพนักงานมาเพิ่มอีกสองคนเพื่อไม่ให้เสียประโยชน์น่ะครับ คนอธิบายมองไปทางชายหนุ่มในคณะทำงานที่จ้องจับผิดรติมาตั้งแต่ขึ้นเครื่องบิน เขาคนนั้นกับเพื่อนอีกคนคือคนที่บริษัทส่งมาเพิ่มเติม เพื่อช่วยตรวจตราความเรียบร้อยและหาคัดสรรหาผู้ชนะเลิศกับกิจกรรมครั้งนี้ คุณก็รู้ว่าฉันกับเลิฟไม่ได้เป็นคู่กันจริงๆ ทำแบบนี้พวกฉันจะอยู่กันยังไงละคะ ทำไมไม่เห็นใจกันบ้าง ถ้ายกเลิกห้องไม่ได้งั้นคุณก็ให้ฉันนอนกับผู้หญิงคนไหนในทริปนี้ก็ได้ แล้วก็ให้เลิฟนอนกับผู้ชายด้วยกัน ไม่ได้หรอกครับอย่าลืมนะครับว่ากติกาและแผนนี้เรารู้กันแค่สามคน คือ คุณ คุณเลิฟและผม แต่... ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ ข้อศอกหนักๆ ก็กระทุ้งที่ชายโครงเบาๆ มุกตาภาหันมองคนด้านข้างตาเขียว กระแสความกรุ่นโกรธยังแผ่รังสีอยู่รอบบริเวณ ห้ามทำไม! ฉันกำลังทวงสิทธิ์ให้เราอยู่นะ มาเถอะน่า รติมาคว้าคีย์การ์ดมาถือไว้และลากกระเป๋าเป้ของคนโหวกเหวกให้เดินตาม ในเมื่อโวยวายไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา หนำซ้ำยังเป็นจุดสนใจให้คนอื่นมองจนเริ่มขายหน้าเขาจึงตัดปัญหาทำตามกติกาซึ่งยอมรับมาตั้งแต่แรก เก็บข้าวของเมื่อไรคงได้อธิบายให้หญิงสาวจอมโวยวายเข้าใจ To be... มารีน่า เบย์ แซนด์ส ภาพนี้มาโซถ่ายเองค่ะ |
มาโซคิส
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?] เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล Blood A_Blood Type Series เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
Link |