พฤศจิกายน 2557

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
10
11
13
16
17
18
21
23
24
25
27
28
29
30
 
 
บทที่ 3 สิงคโปร์ 100%

(ต่อ)

เมื่อถึงสถานีรถไฟฟ้า Changi Airport ทางคณะกิจกรรมติดต่อรับบัตรโดยสาร EZ link ตรงเคาน์เตอร์ซึ่งจองไว้ล่วงหน้า คนนำคณะอธิบายถึงวิธีการใช้บัตรสารพัดประโยชน์ขณะอยู่ในสิงคโปร์ อาทิขึ้นรถไฟฟ้า MRT ขึ้นรถเมล์ แท็กซี่รวมถึงชำระสินค้าในรูปแบบเงินสดตามร้านสะดวกซื้อหรือร้านค้าที่มีสัญลักษณ์บัตร โดยทางคณะจัดการเติมเงินในบัตรให้ลูกทัวร์เรียบร้อยแล้วตลอดทริปการเดินทางนี้


“เขาจะให้เราขึ้นรถไฟฟ้างั้นเหรอ”


มุกตาภาหันมองคนข้างๆ พลางนึกถึงความแออัดของรถไฟฟ้าในประเทศบ้านเกิด เกรงว่าการเดินทางเป็นกลุ่มคณะใหญ่กว่ายี่สิบคนจะไม่สะดวกกับการขึ้นลงอาจเกิดการพลัดหลงกันได้


“คงให้พกติดตัวเผื่ออยากไปที่อื่นแบบไม่ต้องพึ่งทัวร์มั้งเพราะเท่าที่ผมอ่านรายละเอียดเห็นว่ามีรถบัสมารับที่สถานีนี้ไปส่งโรงแรม” รติมาว่าขณะมองดูป้ายแผนที่ของเมืองสิงคโปร์ซึ่งปัจจุบันมีรถไฟฟ้าวิ่งให้บริการอยู่สี่สายและทุกสายจะเชื่อมกันยังจุดต่างๆ


สายสีเขียว(East-WestLine : EW) ให้บริการจากสถานี Changi Airport ออกไปทิศตะวันตกของประเทศ

สายสีแดง(North-SouthLine : NS) ให้บริการขึ้นไปทางเหนือ

สายสีม่วง(North-EastLine : NE)ไปทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะสิงคโปร์และเป็นจุดเชื่อมต่ออีกหลายสถานที่

                สายสีส้ม(CircleLine : CC) เป็นสายที่เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อปี2010 เป็นรถไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกับทั้งสามสายข้างต้นทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางได้สะดวกขึ้น


“เห็นแค่นี้ก็ตาลายแล้วถ้าฉันไปคนเดียวคงหลงแน่ๆ ยังไงฉันขอตามติดคุณดีกว่า” มุกตาภายิ้มแป้นพลางยกโทรศัพท์ถ่ายรูปแผนที่ของสายรถไฟฟ้าเก็บไว้


ผู้นำทัวร์เรียกทุกคนให้รวมตัวระหว่างรอรถบัสมารับไปยังที่พักก่อนท่องเที่ยวยังจุดต่างๆ ชายหนุ่มที่คอยเพ่งเล็งรติมาออกมาอธิบายถึงประวัติของประเทศสิงคโปร์ เล่าตามประวัติศาสตร์ยุคเริ่มแรกไม่ค่อยแน่ชัด ดินแดนแห่งนี้รู้จักในนาม เทมาเช็ค(Temasek) หรือเมืองแห่งท้องทะเล จนกระทั่งศตวรรษที่ 14 เจ้าชายซาง นิลา อุตะมะแห่งปาเลมบัง เมืองหลวงของอาณาจักรศรีวิชัยเดิม ทรงออกล่าอาณานิคมจนมาถึงที่แห่งนี้ได้พบสัตว์แปลกประหลาดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน นั่นคือสิงโต จึงได้ก่อตั้งเมืองชื่อว่า “สิงหปุระ” หรือเมืองแห่งสิงโตบริเวณแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของการค้าทางทะเลที่รุ่งเรือง


ในสมัยนั้นสิงคโปร์เป็นจุดยุทธศาสตร์ทางการค้าดึงดูดพ่อค้าจากนานาประเทศ ทั้งแถบเอเชีย อเมริกาและตะวันออกกลาง เกาะนี้จึงถูกช่วงชิงและยึดครองเรื่อยมากระทั่งรัฐบาลอังกฤษได้เข้ามาดูแล ในปี ค.ศ.1867สิงคโปร์จึงกลายเป็นอาณานิคมอย่างสมบูรณ์


ต่อมาสิงคโปร์ขอรวมชาติกับมลายูเพื่อไม่เป็นเมืองขึ้นของอังกฤษแต่เกิดความไม่พอใจที่มาเลเซียมีการเหยียดชนชาติทำให้พรรคกิจประชาชนของสิงคโปร์ประกาศเป็นเอกราชเมื่อปี ค.ศ. 1965 ตั้งแต่บัดนั้นในชื่อ สาธารณรัฐสิงคโปร์


มุกตาภานั่งฟังข้อมูลของเกาะสิงคโปร์กับเด็กสาวปันปันอย่างให้ความสนใจ ผิดกับรติมาซึ่งแวบไปที่อื่นไม่ใส่ใจรายละเอียดเมื่อเขาเคยศึกษาประวัติของประเทศนี้เมื่อนานมาแล้ว ทางคณะทัวร์เล่าต่อว่าสิงคโปร์เป็นประเทศที่เล็กที่สุดประเทศหนึ่งในโลกไม่มีทรัพยากรธรรมชาติมากเหมือนประเทศอื่นแต่มีฐานะเศรษฐกิจดีเพราะพัฒนาด้านการค้าทำให้มีการเงินที่มั่งคั่งที่สุดประเทศหนึ่งในโลก


“พี่มุกรู้ไหม อนาคตปันปันอาจมาหางานทำที่นี่ก็ได้ เพราะพี่ชายของปันปันบอกว่าเมืองนี้พึ่งพาแรงงานจากต่างชาติในทุกระดับเลยนะ”


“ถ้าเงินดีอย่าลืมชวนพี่มุกด้วยนะ”


“แล้วพี่เลิฟไปไหนแล้วละคะ” ปันปันหันซ้ายหันขวาหาชายหนุ่มในดวงใจ “ปันปันว่าพี่เลิฟต้องมาเที่ยวประเทศนี้บ่อยแน่เลยใช่ไหมคะ ดูพี่เขาไม่ค่อยตื่นเต้นอย่างพวกเราเลยเนอะ”


คำพูดของเด็กสาวพามุกตาภานิ่งไปอึดใจเพราะเธอไม่ใช่คนรักของเขา และไม่รู้จักเขาดีพอจึงตอบคำถามของปันปันไม่ได้สักข้อ เธอได้แต่ยิ้มแห้งๆ พลางมองหาเขาอีกคน


รถบัสคันใหญ่จอดรับผู้โดยสารตรงหน้าสถานที่รถไฟฟ้าทุกคนทยอยขึ้นรถ ทว่ามุกตาภาชะเง้อมองหาคู่รักจอมปลอมอย่างกระวนกระวายเมื่อเขาหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย


“คุณมุกมีเบอร์อื่นติดต่อคุณเลิฟหรือเปล่าครับ เบอร์ที่เขาให้ผมมาติดต่อไม่ได้เลย” คณะทัวร์เร่งเร้าเมื่อเสียเวลากับการรอคอยรติมาร่วมครึ่งชั่วโมงแล้วเข้าไปสำรวจในห้องน้ำก็แล้ว เดินตามหารอบบริเวณก็แล้ว ยังไม่พบเขาแม้แต่เงา


“เอ่อ...คือเลิฟก็มีแค่เบอร์เดียวนั่นละคะ” สีหน้าเจื่อนรู้สึกผิดที่ต้องโกหก ลืมไปเสียสนิทกับการขอเบอร์โทรเขาเก็บไว้ยามฉุกเฉินเช่นนี้


“พี่มุก!พี่เลิฟเดินมาโน่นแล้วค่ะ” ปันปันกระโดดโลดเต้นเมื่อช่วยลุ้นให้ชายหนุ่มกลับมาก่อนคณะทัวร์จะพ่นไฟระบายความหงุดหงิด


รติมาก้าวพรวดๆมองทุกคนที่จดจ้องเขาเป็นตาเดียว จับกระแสจากสายตาเหล่านั้นได้ว่า ‘หายไปไหนมา’


“ไปไหนมาครับ ทุกคนรอคุณอยู่คนเดียว” ชายหนุ่มของคณะจัดกิจกรรมโพล่งถามทว่าเขาไม่ตอบ จับกระเป๋าเป้ของมุกตาภาลากให้ขึ้นรถบัสโดยที่มือของเธอจูงปันปันติดร่างแหไปด้วยอีกคน ปล่อยให้คนตั้งคำถามหงุดหงิดใจหนักอีกเท่าตัว



“ตอนนี้คณะของเราเดินทางมาถึงมารีน่าเบย์ แซนด์ส แล้วนะครับ โรงแรมขึ้นชื่อของประเทศสิงคโปร์ ตึกสูงเป็นรูปตัวเอ็มด้านบนที่เป็นคานคล้ายเรือขนาดใหญ่ เป็นจุดชมวิวที่สวยจุดหนึ่งของที่นี่” คนแนะนำผ่ายมือขึ้นสูงให้ทุกคนแหงนมองตามขณะรถบัสกำลังเคลื่อนเข้าอาณาเขตของสถานที่ “สิ่งอำนวยความสะดวกของที่นี่บอกเลยว่าเพียบครับ แถม...” เขาป้องปากกระซิบ “มีคาสิโนด้วยนะจะบอกให้ หากท่านใดสนใจรบกวนออกค่าใช้จ่ายเองนะครับ” เสียงหัวเราะดังลั่นรถจนกระทั่งรถจอดสนิท


ผู้โดยสารทยอยลงจากรถเพื่อรอเช็คอินเข้าห้องพัก แม้จะยังไม่ถึงกำหนดเวลา ทว่าคณะกิจกรรมได้ติดต่อกับโรงแรมไว้บริการลูกค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ความอลังการทำให้ทุกคนที่เดินเข้าภายในอาคารส่งเสียงฮือฮา ตื่นตาตื่นใจกับความสวยหรูของที่พัก ความโชคดีในการส่งรูปเข้าประกวดทำให้รู้สึกเปี่ยมสุขราวกับได้ขึ้นสวรรค์


ฝ่ายดูแลกิจกรรมนำคีย์การ์ดประจำห้องพักส่งให้คู่รักทั้งเก้าคู่ ทว่าคู่สุดท้ายกลับมีปัญหาที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่อได้ยินคำพูดที่ว่า...


“คุณมุกกับคุณเลิฟต้องนอนห้องเดียวกันนะครับ”


“อะไรนะ!” มุกตาภาโวยลั่น ส่วนรติมาได้แต่เลิกคิ้วค้างเมื่อเขาสังหรณ์ใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ตั้งแต่ตกปากรับคำร่วมเดินทางตามกติกา “ทำไมเป็นแบบนี้ละคะ ในเมื่อคู่ของฉันไม่มา คู่ของเขาก็ไม่มาเพราะฉะนั้นพวกเราก็อยู่คนละห้องได้สิคะ” เธอไม่ยอม อยากรั้นหัวชนฝาหากไม่อายฝรั่งและทำให้เสื่อมเสียชื่อประเทศไทยคงลงไปดิ้นพล่านๆ อยู่บนพื้น


“คุณมุกอย่าเพิ่งโมโหนะครับฟังก่อน ตั้งแต่พวกคุณบอกยกเลิกคู่ของคุณ และตกลงเดินทางร่วมกัน ทางบริษัทจำเป็นต้องส่งพนักงานมาเพิ่มอีกสองคนเพื่อไม่ให้เสียประโยชน์น่ะครับ” คนอธิบายมองไปทางชายหนุ่มในคณะทำงานที่จ้องจับผิดรติมาตั้งแต่ขึ้นเครื่องบิน เขาคนนั้นกับเพื่อนอีกคนคือคนที่บริษัทส่งมาเพิ่มเติม เพื่อช่วยตรวจตราความเรียบร้อยและหาคัดสรรหาผู้ชนะเลิศกับกิจกรรมครั้งนี้


“คุณก็รู้ว่าฉันกับเลิฟไม่ได้เป็นคู่กันจริงๆ ทำแบบนี้พวกฉันจะอยู่กันยังไงละคะ ทำไมไม่เห็นใจกันบ้าง ถ้ายกเลิกห้องไม่ได้งั้นคุณก็ให้ฉันนอนกับผู้หญิงคนไหนในทริปนี้ก็ได้ แล้วก็ให้เลิฟนอนกับผู้ชายด้วยกัน”


“ไม่ได้หรอกครับอย่าลืมนะครับว่ากติกาและแผนนี้เรารู้กันแค่สามคน คือ คุณ คุณเลิฟและผม”


“แต่...” ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ ข้อศอกหนักๆ ก็กระทุ้งที่ชายโครงเบาๆ มุกตาภาหันมองคนด้านข้างตาเขียว กระแสความกรุ่นโกรธยังแผ่รังสีอยู่รอบบริเวณ “ห้ามทำไม! ฉันกำลังทวงสิทธิ์ให้เราอยู่นะ”


                “มาเถอะน่า” รติมาคว้าคีย์การ์ดมาถือไว้และลากกระเป๋าเป้ของคนโหวกเหวกให้เดินตาม ในเมื่อโวยวายไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา หนำซ้ำยังเป็นจุดสนใจให้คนอื่นมองจนเริ่มขายหน้าเขาจึงตัดปัญหาทำตามกติกาซึ่งยอมรับมาตั้งแต่แรก เก็บข้าวของเมื่อไรคงได้อธิบายให้หญิงสาวจอมโวยวายเข้าใจ


To be...



มารีน่า เบย์ แซนด์ส

ภาพนี้มาโซถ่ายเองค่ะ 





Create Date : 20 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2557 22:16:32 น.
Counter : 461 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มาโซคิส
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]



เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล

Blood A_Blood Type Series
เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม

ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
เ ว ล า คิ ด ถึ ง ใ ค ร บ า ง ค น ม า ก ๆ อ ย า ก ดึ ง เ ค้ า อ อ ก ม า จ า ก โ ล ก แ ห่ ง ค ว า ม ฝั น แ ล้ ว ก อ ด ซ ะ !! ใ ห้ ห า ย คิ ด ถึ ง





หากวันใด อ่อนแอ ท้อแท้ ผิดหวัง ให้ลองย้อนนึกถึงวันที่เคยตะเกียกตะกาย . .



ถ้าคนๆ หนึ่ง มีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้เรายิ้มออกมาได้โดยไม่ตั้งใจ.. มานก็ไม่แปลกเลยที่เขาสามารถทำให้เราน้ำตาไหลได้โดยไม่รู้ตัว..

Online Now




New Comments