Group Blog
All Blog
|
สัมผัสมนตรา.. Chapter 7 .. ความรักยังต้องปิดบัง Chapter 7 ความลับยังต้องปิดบัง
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาลคือจุดหมายแรกที่มุ่งเข้าหาฟาบอกกล่าวเกี่ยวกับความต้องการ อยากพบเจอผู้ป่วยซึ่งพักรักษาตัวอยู่ภายในสถานที่แห่งนี้แม้เธอจะไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามอย่างเป็นทางการ แต่ในเมื่อซันเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดกับนายรันติมามันคงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับการหาข้อมูล ฟาเอ่ยอ้างถึงนามสกุล อัคคีราศิวาโรฒน์ แก่เจ้าพนักงานเพื่อค้นหาห้องพักผู้ป่วย และเพียงไม่นานก็ได้รับคำตอบสมความตั้งใจ แอลเดินตามฟาทุกฝีก้าวเฝ้ามองการกระทำของเธอโดยไม่ขัดใจแต่อย่างใดกระแสความฉุนเฉียวรุนแรงจนเขารับรู้ได้ทันที และคงดีกว่าถ้าอยู่นิ่งเฉย ไม่ก่อกวนอารมณ์ของเธอเวลานี้แอลพยายามไตร่ตรองคำพูดของฟาระหว่างทาง และครุ่นคิดถึงสิ่งที่เธอต้องการอยากถามไถ่จากรันเพื่อนของเขาภายในตู้ลิฟต์เงียบกริบไร้เสียงพูดจา ชายหญิงสองคนยืนนิ่งเฉย ต่างฝ่ายต่างมีความคิดเป็นของตัวเองเมื่อประตูลิฟต์เปิดกว้าง คนใจร้อนสาวเท้าเดินออกไม่รั้งรอ สายตากวาดมองหาลำดับเลขห้องจนหยุดยืนหน้าที่หมายปลายทาง ฟา.. ...เสียงเรียกทำให้มือบอบบางชะงักค้างอยู่ที่ลูกบิดประตู เหลียวมองยังบุคคลด้านหลังโดยไม่ปริปากถามสักคำว่าเขารั้งเธอไว้ทำไม คุณแน่ใจเหรอว่าอยากเข้าไปในห้องนั้นจริงๆ ถ้าไม่แน่ใจฉันคงไม่ยืนอยู่ตรงนี้ น้ำเสียงแน่วแน่เอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำก่อนจะเปิดประตูเข้าในห้องเพื่อเผชิญหน้ากับชายหนุ่มซึ่งอยากเจรจาไขข้อข้องใจ ยุติความคลางแคลงที่ก่อร่างสร้างตัวทุกสายตาหันมองผู้มาเยือนเป็นตาเดียวพร้อมแววประหลาดใจ แอลพาสาวมาเยี่ยมซันเหรอ คนป่วยเอ่ยทักทายตามมารยาทกลบความรู้สึกอึดอัดไว้ภายในใจผิดกับผู้ดูแลซึ่งวางตัวนิ่งเฉยราวกับทุกอย่างรอบตัวไม่มีความผิดปกติเกิดขึ้นทำให้แอลเริ่มวางตัวไม่ถูก ส่งยิ้มทักทายให้ซันก่อนเริ่มสร้างบทสนทนา รัน..ฟาอยากคุยกับนาย นัยน์ตาสีนิลชำเลืองมองทางเพื่อนสนิทชั่วครู่ ก่อนหันเหหาหญิงสาวที่ต้องการเจรจากับเขารันแสดงท่าทางนิ่งเฉยราวกับเจอคนแปลกหน้าไม่รู้จักกัน ทำให้ฟาอยากเจรจาให้จบเรื่องราวโดยเร็วเพื่อจะไปให้พ้นจากสถานที่อึดอัดเสียที ฉันขอเวลาคุยกับนายไม่นานเสร็จธุระเมื่อไหร่ฉันจะไปให้พ้นจากตรงนี้ รันเดินนำออกจากห้องพักผู้ป่วยตามคำขอโดยมีฟาก้าวตามไปติดๆ ปล่อยให้ชายหญิงสองคนในห้องมองตามอยากรู้เกี่ยวกับประเด็นการสนทนา แอลรู้หรือเปล่า.. เธอคนนั้นต้องการคุยอะไรกับรัน เรื่องของเฟ..แอลตอบคำถามทั้งที่มองทางประตูห้องไม่วางตา เธอรู้ความจริงแล้วหรือแอลซันทำเสียงตระหนกรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย ดึงให้แอลหันกลับมาเพื่อตอบคำถาม คงไม่ทั้งหมด..แต่ตอนนี้ฟารู้แล้วว่าซันกับรันเป็นพี่น้องกัน เธอรู้เรื่องนี้ได้ยังไงกัน.. ผมเป็นคนบอกเธอเอง แอลให้ความสนใจยังหญิงสาวบนเตียงผู้ป่วยใบหน้าซีดขาวดูกังวลเล็กน้อย หากแต่แย้มยิ้มเบาบางพยายามปิดบังความไม่สบายใจเอาไว้คงต้องรอคอยเพื่อดูสถานการณ์เกี่ยวกับการเจรจาระหว่างฟาและรันจะจบลงอย่างไร
ประตูดาดฟ้าถูกผลักเปิดพร้อมร่างสูงโปร่งก้าวออกมารับอากาศสดชื่นยามสายของวันแสงแดดอ่อนทอประกาย บรรยากาศเงียบสงบไม่มีผู้ใดขัดจังหวะ เหมาะแก่การสนทนากับหญิงสาวซึ่งเดินตามติดรันเข้ายืนพิงกำแพงดาดฟ้าหันเผชิญหน้ากับฟาซึ่งมองเขาไม่มีกะพริบ สีหน้าและแววตาดูจริงจังคล้ายมีปัญหาหนักอกอยากแก้ไขจากที่คาดเดา เธอมีอะไรก็ว่ามา รันยกมือขึ้นกอดอกสายตามองต่ำไม่ได้ใส่ใจต่อหญิงสาวตรงหน้าสักเท่าไหร่ เขาพร้อมแล้วกับการรับฟังในสิ่งที่เธออยากเจรจาเพื่อจบเรื่องราวทั้งหมดและหญิงสาวคนนี้จะได้ไปให้ไกลจากเขาเสียที ฉันอยากรู้ว่านายคบกับเฟยังไงรู้จักกันระดับไหน แล้วนายทำอะไร น้องสาวฉันถึงต้องคิดสั้นทำให้ตัวเองประสบอุบัติเหตุเมื่อสองปีที่แล้ว เรื่องพวกนั้น..ฉันไม่จำเป็นต้องบอกเธอ แต่ฉันต้องรู้และนายต้องอธิบายมาเดี๋ยวนี้ นายทำอะไรน้องสาวฉัน เฟถึงได้ขาดสติขับรถไปคว่ำแบบนั้น เธอต้องการให้ฉันตอบว่าไงยอมสารภาพว่าผิด บอกว่าตัวเองเลวทราม หรือให้พูดว่าขอโทษ เธอถึงจะพอใจ แล้วเลิกวุ่นวายกับชีวิตฉันงั้นเหรอ ประโยคเหยียดเสียงพลางหัวเราะหึในลำคอสร้างความรู้สึกหน้าชาไม่น้อย ฟาเม้มริมฝีปากแน่น สะกดอารมณ์สับสน ฟาเคยคิดแก้แค้นบุคคลตรงหน้าซึ่งทำให้น้องสาวของเธอเสียใจยิ่งเฟเจ็บช้ำมากมายเท่าไหร่ เขาคนนี้ต้องเจ็บปวดกว่าหลายร้อยเท่าฟาไม่อยากได้ยินคำขอโทษ หรือแม้แต่ยอมรับผิด เพียงเพื่อจบสิ้นเรื่องราวทั้งหมดอย่างง่ายดายความเจ็บปวดรวดร้าวเท่านั้นที่ต้องการตอบแทนให้สาสมทว่าเวลานี้ทุกเรื่องราวกลับตาลปัตร ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ทำให้เฟเสียใจเพราะคบหาดูใจกับหญิงอื่นนั่นเป็นสิ่งที่ฟาเข้าใจผิดไปเอง แล้วเหตุผลแท้จริงคืออะไรกันแน่ ตลอดระยะเวลาเกือบสองปีหลังจากเฟเสียชีวิตฟาพยายามรื้อค้นทุกอย่างในความทรงจำ เพื่อหาสาเหตุการจากไปของน้องสาวตนเองทั้งความจำและความคิดที่ผุดขึ้นมา มีแต่เรื่องราวของเขา..นัยน์ตาสีนิลบนใบหน้าเฉยชา แทรกอยู่ในความคิดเหล่านั้นตลอดเวลา ชื่อ รันติมาอัคคีราศิวาโรฒน์ วนเวียนอยู่ในจิตใจไม่เคยลืมเลือนสักวันภาพรอยยิ้มของหญิงสาวคนหนึ่งขณะใกล้ชิดกับคนรัก ดูมีความสุขสดใสราวกับโลกนี้คือสวรรค์ที่ไม่อาจมีใครมาพรากไปได้ฟาเชื่อมาตลอดว่าความทรงจำเหล่านั้นเป็นของเฟ เพียงเพราะเฟอยากสื่อสารให้เธอรับรู้และเข้าใจความเจ็บปวดซึ่งถูกผู้ชายคนนี้ทรยศหักหลัง ตั้งแต่นั้นมาฟาพยายามออกติดตามบุคคลซึ่งฝังลึกในความทรงจำขาดๆเกินๆ โดยสรุปทุกสิ่งทุกอย่างตามที่คาดเดาเอาเองและนั้นคือจุดเริ่มต้นของการแก้แค้น ฟาเชื่อมั่นมาตลอดว่ามันคือเรื่องจริง ฉันไม่ได้อยากมีเรื่องกับนายตอนนี้ความสับสนพาให้ฉันมายืนตรงนี้ เพื่อให้นายไขความกระจ่างเท่านั้น กลับไปซะ..มันไม่มีประโยชน์อะไรที่เธอมาที่นี่ เพราะฉันไม่มีอะไรจะบอกเธอ นายไม่เห็นแก่ฉันก็ช่วยเห็นแก่เฟที่เคยหลงรักนายจนหัวปักหัวปำนายมีเหตุผลอะไรถึงทิ้งน้องสาวฉันให้อยู่โดดเดี่ยวเพียงลำพัง หรือที่เธอเข้ามาวุ่นวายในชีวิตฉันเพราะเข้าใจว่าฉันเป็นคนทำให้น้องสาวของเธออกหัก จนคิดสั้นแล้วประสบอุบัติเหตุสินะเธอเลยอยากแก้แค้นแทนน้องสาวว่างั้น ถ้าไม่ใช่เพราะนายเฟคงไม่ตาย! ความคลั่งแค้นโกรธเคืองเริ่มก่อตัว แม้เขาจะเข้าใจถูกทั้งหมดเกี่ยวกับการเข้าหาของเธอแต่มันไม่ได้ช่วยให้ความเจ็บช้ำเบาบางลงแม้แต่น้อย ไม่ว่าเหตุผลจะเป็นอย่างไรสิ่งเดียวที่ฟาคิดได้คือเขาคนนี้สร้างความรวดร้าวให้แก่เฟ และอาจรวมถึงเธอด้วยเช่นกัน ฉันไม่รู้เธอต้องการอะไรถึงจะสาแก่ใจ แต่เฟไม่เคยมีตัวตนสำหรับฉัน ในความราบเรียบของประโยคคล้ายไม่มีความหมายอะไรแต่กลับทำให้ฟายืนตัวชา จุกร้าวในอกอย่างสาหัส สำหรับเขาแล้ว ผู้หญิงคนหนึ่งดูไร้ค่าเหลือเกินถึงขนาดไม่เคยมีตัวตนเชียวหรือ ฟาได้แต่ตะโกนถามไถ่ในใจรันเตรียมเดินกลับเข้าตัวอาคาร ไม่อยากใส่ใจฟาซึ่งยืนนิ่งเฉย สีหน้าส่อแววเจ็บปวด ในดวงตากลมโตคล้ายกำลังอยากร้องไห้ทว่าแขนแข็งแรงถูกคว้าเอาไว้ระหว่างก้าวเดิน นายมันทุเรศมากรู้ตัวบ้างไหม!นายกล้าดียังไงมาบอกว่าเฟไม่มีตัวตนสำหรับนาย หัวใจนายทำด้วยอะไรเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่รักนาย ไม่มีความหมายอะไรเลยอย่างงั้นเหรอ! แล้วจะให้ฉันทำไง.. ให้ทำไง..นี่นายกล้าถามฉันว่าต้องทำไง.. อย่างงั้นเหรอ! ...ไม่มีคำพูดใดเล็ดลอดออกจากปากของรัน ทั้งคู่ยืนนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง จนฟาเริ่มหมดความอดทน นายรู้ไหมว่าฉันเกลียดนาย มันก็สมควรดีแล้วไม่ใช่เหรอ.. รันดึงแขนตัวเองจนหลุดพ้นพันธนาการเขาไม่คิดแม้จะหันมองกลับไปที่เธอประตูดาดฟ้าเปิดออกและปิดตัวลงพร้อมร่างสูงโปร่งหายลับเข้าด้านในอาคารปล่อยให้หญิงสาวอีกคนยืนสงบจิตใจซึ่งร้อนรุ่มดั่งไฟสุมเต็มอกไม่คิดเลยว่าผู้ชายคนหนึ่งที่เธอเคยเห็นแววอ่อนโยนอย่างมากมาย จะเลือดเย็นได้เพียงนี้ในเมื่อสิ่งที่เธอถามไถ่ไม่ได้รับคำตอบ และทุกอย่างที่คิดก็ไม่ปฏิเสธว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดหลังจากนี้เป็นต้นไปเธอจะถือว่าทุกเรื่องราวเข้าใจถูกต้อง ฟาพร้อมทำทุกอย่างให้รันได้สำนึกและยอมรับความจริงว่าเขาเองเป็นต้นเหตุให้เฟต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับมา ฟาพาตัวเองเดินอย่างหมดเรี่ยวแรงหาที่พักพิงร่างกายบอบบางนำหลังแนบชิดกำแพงค่อยๆ รูดลงนั่งกอดเข่าขอบตาร้อนผะผ่าวอดกลั้นโทสะเอาไว้ในใจ ทวนคิดแต่ประโยคของรันซ้ำๆ เฟไม่เคยมีตัวตนสำหรับเขา วงหน้าหวานแฝงความหมองเศร้าฟุบลงกับหัวเข่าของตัวเองรู้สึกย่ำแย่อย่างถึงที่สุด ทำไมเฟต้องไปหลงรักผู้ชายอย่างเขาคือสิ่งที่ฟาได้แต่พร่ำบอกซ้ำซากในความคิด นายมันเลวร้ายฉันเกลียดนาย ฉันจะตามจองล้าง จองผลาญ จองเวรนายทั้งชาติ จำเอาไว้ เฮ้..ฟา.. ไม่เป็นไรใช่ไหม.. ฟาหยุดเสียงในลำคอก่อนเงยหน้าขึ้นมองบุคคลคุ้นเคยแอลเดินเข้าใกล้และนั่งลงด้านข้างในท่าเดียวกันกับฟา คล้ายอยากปลอบประโลมให้เธอได้ยิ้มอีกครั้ง นายตามขึ้นมาทำไม ผมเป็นห่วงเห็นคุณไม่ค่อยสบาย มานั่งตากแดดตากลมแบบนี้ เกิดเป็นลมหมดสติขึ้นมาจะทำไง แอล..ฉันเกลียดเพื่อนนาย.. ฉันเกลียดผู้ชายคนนั้น.. รันทำอะไรคุณถึงเกลียดขนาดนั้น ระบายให้ผมฟังได้ไหมฟา ฟาถอนใจก่อนระบายทุกอย่างให้เขาได้รับรู้ เมื่อสองปีก่อน..เฟหลงรักผู้ชายคนหนึ่ง เฟรักเขามากจนฉันคิดว่านั่นเป็นความหลงใหลมากกว่าความรักฉันไม่รู้หรอกนะว่าระหว่างสองคนนั้นมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งแค่ไหน แต่แล้ววันหนึ่งเฟก็เปลี่ยนไปจากเด็กสาวที่เคยร่าเริงสดใส กลายเป็นซึมเศร้าไม่พูดไม่จาคล้ายมีปัญหาบางอย่างจนวันนั้นเฟบอกว่าไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป เฟร้องไห้เสียใจและพูดซ้ำๆ ว่าอยากไปให้ไกลจากเขาแล้วเย็นวันนั้นเฟก็ขับรถออกจากบ้านจนประสบอุบัติเหตุ สุดท้ายเฟก็จากฉันไป ไม่มีวันได้กลับมาอีก น้ำเสียงสั่นพร่าพาคนด้านข้างจิตใจย่ำแย่ตามแอลดึงมือบอบบางมากุมไว้ ไออุ่นที่ได้สัมผัสวิ่งผ่านระหว่างร่างกายทำให้ฟารู้สึกได้ถึงการปลอบประโลมทุกครั้งแค่แอลอยู่ใกล้ชิด แม้ไม่เอ่ยคำพูดจาใดๆ ออกมา เธอกลับรู้สึกว่าถูกปกป้องอบอุ่น จนอธิบายไม่ได้ว่าความรู้สึกเหล่านั้นคืออะไร จากกำแพงที่สร้างเพื่อปิดกั้นไม่อยากให้เขาเข้าใกล้เวลานี้มันพังทลายหมดสิ้น รู้ตัวอีกทีแอลก็เข้ามาอยู่ใกล้หัวใจจนลืมป้องกันตัวเอง เรื่องมันผ่านมานานแล้วนะฟาคุณลืมมันไม่ได้เลยเหรอ หากคุณยังแค้นฝังใจแบบนี้ มันก็ส่งผลทำลายชีวิตคุณเอง แล้วก็ทำร้ายจิตใจให้ย่ำแย่ตามไปด้วย ฉันต้องทำไง..ปล่อยวางโดยที่เพื่อนของนายไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยกับการทำร้ายจิตใจผู้หญิงคนหนึ่ง อย่างงั้นเหรอแอล คุณลองคิดดูนะฟาถ้าคุณแก้แค้นรันได้ ถึงรันต้องเจ็บปวดรวดร้าวสมใจแล้วเฟจะฟื้นขึ้นมาหาคุณหรือเปล่า ...ฟาได้แต่ก้มหน้านิ่ง ปรับความรู้สึกและจิตใจรับฟังแอลต่อไป หรือถ้าคุณแก้แค้นไม่สำเร็จน้องสาวคุณก็ไม่ได้มารับรู้ว่าพวกคุณกำลังทำอะไรกันอยู่ ยิ่งคุณไล่ตามรันมันก็ยิ่งหนีห่างหรือเฉยชาแบบที่คุณเห็น ก็เป็นคุณเองไม่ใช่เหรอที่เจ็บแค้น เพราะไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ ทุกคำพูดของแอลถูกต้องทุกประการไม่มีตรงไหนผิดไปจากที่เขาว่าไว้ แต่ทำไมจิตใจของเธอไม่สงบเอาเสียเลย ความคลั่งแค้นยังเกาะกุมจิตใจดวงน้อยราวกับถูกทำร้ายอยู่ตลอดเวลา ฉันปล่อยวางไม่ได้การจากไปของเฟทำให้ฉันแทบบ้า ฟังผมนะฟา..เรื่องราวทั้งหมดที่คุณเข้าใจ ก็ไม่ได้หมายความว่ามันถูกต้อง สิ่งที่คุณรู้เรื่องที่รันทำให้น้องสาวของคุณเสียใจ มันอาจไม่ใช่ความรัก หรือความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนก็ได้ แต่นายนั่นก็ไม่ได้ปฏิเสธนี่ว่าฉันเข้าใจผิด เอางี้ดีกว่าไหม..เรามาลองค้นหาความจริงกันใหม่ ว่าระหว่างรันกับเฟมีอะไรที่เรายังไม่รู้อีกบ้างระหว่างนี้คุณก็ปล่อยวางเรื่องการแก้แค้นไปก่อน นายจะให้ฉันญาติดีกับนายนั่นงั้นเหรอ คุณไม่เคยได้ยินเหรอรู้เขารู้เราชนะไปกว่าครึ่ง แต่ผมขออย่างเดียว คุณจะรับปากได้ไหมฟา.. นายจะขออะไร.. ผมขอร้องคุณห้ามตกหลุมรักรัน ได้หรือเปล่า.. ฟาชักมือกลับรวดเร็วเมื่อหลุดจากภาวะเคลิบเคลิ้มอยากหัวเราะให้ดังก้องโลก ไม่มีทางและไม่มีวันที่เธอจะหลงรักเขาซึ่งป่าวประกาศไว้ว่าเกลียดชัดเจนแม้เขาคนนั้นจะดูดี มีเสน่ห์มากแค่ไหนก็ตาม ฟาเหยียดยิ้มเหล่สายตามองชายหนุ่มด้านข้างวงหน้านวลเนียนดูอวดดีคล้ายจงใจท้าทายให้คอยดูกันต่อไป ถึงอย่างไรเธอก็ไม่หลงติดกับผู้ชายเฉยชาคนนั้นแน่นอน หากฉันเกิดหลงรักเพื่อนนายขึ้นมาเมื่อไหร่ส่งฉันเข้าโรงพยาบาลบ้าได้เลยนะแอล ผมจะคอยดูคุณจะแน่ได้ซักกี่น้ำ เสียงแผ่วเบาราวกระซิบกระซาบปรายสายตามองฟาซึ่งลุกยืนเต็มตัวพยายามทำเป็นกระปรี้กระเปร่า รู้สึกสบายใจที่ได้ระบายสิ่งอัดอั้นตันใจออกมาให้ใครสักคนได้รับฟังทว่าเพียงไม่นานร่างบอบบางก็ล้มตึงกองกับพื้นโดยมีแอลรับไว้แทบไม่ทัน ฟา!ทำไมตัวคุณร้อนเป็นไฟแบบนี้ แอลช้อนร่างอ้อนแอ้นแนบอกอุ้มพาฟาเดินลงจากดาดฟ้าอย่างเร่งรีบ เพื่อให้คนป่วยได้พบแพทย์รักษาอาการผิดปกติอุณหภูมิในร่างกายสูงเกินกว่าที่ควรเป็น
ยอดเขาสูงเสียดฟ้ามองเห็นกลุ่มก้อนเมฆขาวโพลนเคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้า สายลมพลิ้วไหวกรีดผิวกาย สัมผัสได้ถึงความเย็นเยือกคล้ายจะย้ำเตือนความจริงที่ว่ายิ่งสูงก็ยิ่งหนาว มันช่างหนาวเหน็บ เย็นซ่านทะลุถึงกระดูกดำ ไม่ว่าจะหันมองทิศทางใดกลับเจอแต่หมอกหนาตาย่างก้าวไปแห่งไหนมีแต่พื้นป่าเปียกชื้น จากยอดเขาเสียดฟ้ากลายเป็นอาณาเขตป่ารกทึบต้นไม้ใหญ่ที่เคยมีประปรายเมื่อเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ กลับมีมากขึ้นจนปกคลุมรอบบริเวณบรรยากาศอึมครึม สงบเงียบ เมื่อหันหลังกลับมองหาความสว่าง แม้กระทั่งท้องฟ้า หรือกลุ่มก้อนเมฆล่องลอยไม่มีให้เห็นผ่านสายตาอีกแล้ว เธอต้องหยุดรักมันต้องไม่รักมัน เข้าใจหรือเปล่าฟา เธอต้องเลิกรักมัน เสียงทุ้มกังวานจากที่แสนไกล จะหันเหทางใดไม่มีแม้เงาใครสักคน เสียงของผู้ใดกันดังวนเวียนอยู่รอบๆ คิ้วเรียวขมวด เม็ดเหงื่อซิบบนหน้าผาก คล้ายสับสนและต่อต้านความคิดตนเอง เธอต้องหยุดรักมันให้ได้ ภาพเบื้องหน้าปรากฏเป็นชายร่างสูง นอนคว่ำหน้าแน่นิ่งชัดเจนในพื้นที่ป่ารกทึบนั้นสองเท้าพาร่างกายรีบรุดเข้าหา เพื่อดูว่าเขาคนนั้นยังมีลมหายใจอยู่หรือไม่ มือสั่นเทาเอื้อมแตะร่างกายซึ่งนอนแน่นิ่งให้พลิกกลับมายังมีชีวิตรอดอยู่ใช่ไหม คือประโยคที่ตั้งถามไถ่ตนเอง และเป็นอีกครั้งเมื่อความหวาดกลัวพาหัวใจแทบหยุดนิ่งร่างสูงที่พลิกหงายมีแต่เลือดแดงฉานท่วมตัวหน้าอกด้านซ้ายทะลุกลวงราวกับถูกควักหัวใจ ทว่าสิ่งที่ทำให้ช็อคยิ่งกว่า เมื่อใบหน้าคมเข้มนั้นคือบุคคลซึ่งคุ้นเคย แอล!! หลอดไฟบนเพดานกะพริบติดๆ ดับๆ อยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะกลับมาสว่างเป็นปกติอีกครั้งดวงตาเบิกกว้าง หายใจถี่รัว จิตใจเต้นเร็วแทบจะระเบิด มือยกขึ้นทาบอกพยายามสูดอากาศเข้าเต็มปอดผ่อนคลายความหวาดผวา ฟาถอนใจหนักหน่วง หลับตาตั้งสติให้กลับสู่สภาวะปกติ เธอได้แต่ปลอบตัวเองมันก็แค่ฝันร้ายซึ่งตามหลอกหลอนจิตใจบ่อยครั้งจนนับไม่ถ้วน เมื่อรู้สึกว่าจิตใจเต้นคงที่ดวงตาปรือเปิดรับการมองเห็นอีกครั้ง รอบบริเวณเป็นกำแพงสีขาวสะอาด รู้สึกไม่คุ้นตาเอาเสียเลยฟาเหลียวมองไปรอบห้องสี่เหลี่ยม ไม่รู้ว่าเป็นสถานที่ใด แต่ดูคล้ายโรงพยาบาลดีๆนี่เอง และความคิดทุกอย่างต้องหยุดกึกกลางอากาศ เมื่อสายตาเลื่อนต่ำเห็นใครบางคนฟุบหลับอยู่บนเตียงข้างกาย ผมเส้นเล็กดำสนิทหมอบหลบใบหน้าไปอีกทาง ทำให้ฟาเห็นไม่ถนัดนักว่าเขาเป็นใครที่มาหลับไหลอยู่ข้างเธอมือพยายามเอื้อมให้ถึงไหล่ของเขา แต่จนปัญญา เนื่องจากสายน้ำเกลือเหนี่ยวรั้งทำให้ขยับมากกว่านี้ไม่ได้และความคิดผุดแว้บขึ้นในสมองอันรวดร้าว ฟารวบรวมสมาธิหมุนวนนิ้วชี้ อยากทำอะไรสักอย่างเพื่อปลุกคนหลับไหลให้ตื่นขึ้นมาเวทมนตร์ไม่มีผลใดๆ ทุกอย่างยังคงสงบนิ่ง เวลานี้พละกำลังที่มีไม่อาจเสกร่ายมนตรา ทว่าเกือบลืมไปเสียสนิททั้งที่พูดจาได้คล่องแคล่ว ไม่พิกลพิการเป็นใบ้เสียหน่อย ทำไมเธอจึงลืมที่จะส่งเสียงไปได้ นี่..คุณ.. แม้จะเปล่งจนสุดเสียงแต่ระดับความดังแทบจะไม่ได้ยิน ลำคอแห้งผากราวกับขาดน้ำมาแรมเดือนแต่ฟาคงไม่ละความพยายาม เธอรวบรวมพลังในร่างกายเปล่งเสียงอีกครั้ง นี่คุณ! น้ำเสียงแหบพร่าแผ่วเบาทำได้เพียงสะกิดความรู้สึกให้เขาคนนั้นพลิกใบหน้ากลับมาอีกทาง ทว่ายังคงหลับสนิทไม่รู้อดหลับอดนอนมาจากไหน ฟาค่อนแคะในใจ เมื่อพยายามสำรวจความคุ้นเคยเสี้ยวหน้าคมคาย จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากได้รูป เริ่มชินตาคล้ายเคยเห็นบ่อยครั้งนี่มัน นายรัน ศัตรูคู่แค้น เหตุใดเขาถึงมาหลับไหลกลายเป็นคนเฝ้าไข้เธออย่างนี้และความคิดที่อยากปลุกให้เขารู้สึกตัวเป็นอันต้องยกเลิกไปโดยปริยาย ฟาไล่มองชายหนุ่มเบื้องหน้าตั้งแต่ศีรษะจรดแผ่นหลังผิวขาวสะอาดไม่เห็นความหยาบกระด้าง ดูดียิ่งกว่าผู้หญิงบางคนเสียด้วยซ้ำเสื้อยืดคอกลมสีขาวบางจนมองเห็นเค้าโครงร่างกาย กล้ามเนื้อพอมีเป็นมัดไม่ผอมแห้งจนเห็นซี่กระดูก สร้อยคอสายหนังสีดำตัดกับผิวขาว เสี้ยวหน้าที่หลับใหลแลดูราวกับเด็กไร้เดียงสาไม่มีพิษสงร้ายกาจแต่อย่างใด ช่างแตกต่างกับช่วงเวลาใช้คารมเชือดเฉือนจิตใจได้อย่างไม่ปรานี รัน.. ทุกการกระทำที่เฝ้าสำรวจร่างกายมนุษย์มาดนิ่งมีอันต้องหยุดชะงักกลางอากาศเมื่อเสียงหวานเรียกชื่อซึ่งคุ้นหู ฟารีบหลับตานิ่งสนิท ไม่อยากให้ใครรับรู้ว่าเธอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเตียงนอนด้านข้างขยับเคลื่อนไหวเมื่อน้ำหนักของร่างกายถูกยกขึ้น ว่าไง.. ทำไมไม่ไปพักบ้างรันอยู่ในนี้มาสองวันแล้วนะ ซันหายดีแล้วหรือไงถึงมาเดินอยู่แถวนี้ หายดีแล้วสิแล้วแอลล่ะ ยังไม่มาอีกเหรอ เห็นว่าทำงานเดี๋ยวคงมาค่ำๆ ซันซื้อข้าวกล่องมาให้ไปกินซะหน่อย เดี๋ยวก็ไม่สบายไปอีกคน จิตใจเต้นรัวราวกับกลองตีกระหน่ำจนแทบคุมไม่อยู่ทำไมสองคนนี้ถึงเข้ามาอยู่ในห้องของเธอ โดยมีเขามานอนเฝ้าจนเผลอหลับไป เป็นเพราะสมเพชเวทนาเห็นว่าเธอไม่มีใครดูแลหรือทำตามคำสั่งของแอลเพื่อนสนิท คำว่าสองวันหมายถึงอะไร นี่เธอหลับไหลไปสองวันเต็มเชียวหรือในสมองเกิดคำถามมากมาย ความสับสนครอบงำจิตใจจนปั่นป่วน มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ฟาหรี่ตามองรอบกายเมื่อรู้สึกถึงความเงียบผิดปกติเปลือกตาเปิดกว้างอีกครั้งเมื่อพบว่าเหลือเพียงเธอคนเดียวในห้องนี้ ความสับสนสงสัย เคลือบแคลงใจ รุมเร้าหนักหน่วง โลกหมุนกลับด้านหรืออย่างไร บุคคลที่ไม่คิดจะญาติดีกลับมานั่งเฝ้ายามเธอป่วยไข้เช่นนี้มันคงเป็นเรื่องตลก หรือไม่เธอคงหลงอยู่ในความฝันซึ่งยังไม่ยอมตื่นง่ายๆ ฟาข่มตาหลับอีกครั้งปล่อยความรู้สึกว่างเปล่า จมดิ่งสู่นิทราเพื่อล้างความฝันเมื่อครู่ให้หมดสิ้น ทว่าหลับตาได้เพียงไม่นาน ความรู้สึกคล้ายมีใครเปิดประตูเข้ามาฟารู้สึกตัวตื่นแต่ยังคงแสร้งหลับอยู่อย่างนั้น รอดูสถานการณ์ว่าใครมาเยี่ยมเยือนเธอเวลานี้หวังว่าคงไม่ใช่ศัตรูคู่แค้นที่เจอเมื่อครู่ ฟาภาวนาให้เป็นเช่นนั้น ฟา..เมื่อไหร่คุณจะฟื้น นี่คุณนอนมาสองวันเต็มแล้วนะ เสียงละมุนของบุคคลคุ้นเคยแผ่วเบาพาจิตใจสั่นไหว นี่คงเป็นเรื่องจริงไม่ใช่แค่ฝันไป แอลต่างหากที่คอยอยู่เคียงข้างเธอไม่ใช่ผู้ชายเลือดเย็นคนนั้น สิ่งต่างๆ ที่ได้เห็นก่อนหน้านี้จะถือเสียว่ามันเป็นเพียงความฝันเท่านั้น นี่แอล..ทำไมต้องทำเสียงเศร้าขนาดนั้น ฉันยังไม่ตายซะหน่อย ฟาระบายยิ้มทั้งที่ยังปิดตาและค่อยๆ หรี่มองแอลซึ่งจ้องเธอด้วยอาการตกตะลึงไม่น้อยสีหน้าเศร้าสร้อยแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มระรื่นดีใจโผเข้าใกล้พลางยกมือลูบไล้ศีรษะราวกับผู้ใหญ่เอ็นดูเด็กน้อย นี่คุณฟื้นตั้งแต่เมื่อไหร่ สักพักแล้วล่ะนายไปทำงานมาเหรอ อืม..ไปทำงานแทนคุณ รู้ไหมสองวันที่ผ่านมา ลูกค้าเยอะมากๆ ฉันหลับไปสองวันเลยเหรอแอล ใช่..วันที่คุณล้ม ตัวคุณร้อนเป็นไฟ คุณอาการหนักมากรู้ไหม ได้หลับพักผ่อนยาวแบบนี้รู้สึกดีขึ้นหรือเปล่า อืม..ไม่ปวดหัวแล้วล่ะ ว่าแต่ เจ้าถ้วยฟูอยู่ยังไง ไม่ต้องห่วงหรอกรายนั้นเดินคล่องแล้วนะ ผมดูแลมันตอนอยู่ที่ร้าน ส่วนเก่งเอามันกลับไปดูแลที่บ้าน อืม..ก็ดี แล้วช่วงที่ฉันไม่รู้สึกตัว นายสั่งให้ใครมาเฝ้าฉันบ้างหรือเปล่า เปล่าทำไมเหรอฟา มีใครมาดูแลคุณ ไม่มีหรอกฉันก็ถามไปงั้นล่ะ ที่แท้ก็แค่ฝันไปเท่านั้นฟาผ่อนลมหายใจโล่งอกภาพลวงตาช่างสมจริงราวกับผู้ชายเย็นชาคนนั้นหลุดออกจากความฝันมานอนหลับข้างๆ เธอระหว่างฟาและแอลคุยกันเพลิดเพลินนางพยาบาลเปิดประตูเข้ามาตรวจเช็คอาการผู้ป่วยตามเวลาที่กำหนดไว้ แอลหลบทางให้หน่วยแพทย์ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ไม่ยืนเกะกะขวางทาง วันนี้คนเฝ้ากลับไปพักผ่อนหรือคะ ฟาเลื่อนสายตาจากปรอทวัดไข้มองพยาบาลสาวอย่างงุนงงไม่เข้าใจในความหมายของประโยคสนทนานั้น จนต้องตั้งสติและถามไถ่กลับไป คนเฝ้าอะไรเหรอคะ ก็คุณผู้ชายอีกคนที่มาเฝ้าคุณทั้งวันทั้งคืนไงคะ ฟาเปลี่ยนจุดสนใจหันหาแอลซึ่งนั่งอ่านหนังสือไม่รับรู้เรื่องราวของการสนทนาระหว่างเธอกับนางพยาบาลสาวแต่อย่างใดทำให้ฟาชี้ชวนให้พยาบาลสาวสนใจทางแอลเช่นกัน คนนี้หรือเปล่า ไม่ใช่ค่ะอีกคนที่ผมดำ ตัวสูง ผิวขาว ค่ะ ตกลงภาพที่เธอเห็นเป็นความฝันหรือเรื่องจริงกันแน่ ฟาครุ่นคิดและทบทวนในเรื่องราวที่ได้ยินอย่างไตร่ตรองจากรูปร่างซึ่งนางพยาบาลบอกคงเป็นรัน ศัตรูคู่แค้นของเธอ แล้วเหตุผลอะไรเขาต้องมาหลับเฝ้าเธออยู่แบบนั้นฟาใช้ความคิดจนหน่วยแพทย์ตรวจร่างกายเสร็จสิ้นและเดินพ้นจากห้องพักผู้ป่วย แอลวางหนังสือในมือเก็บคืนที่เดิมเขาก้าวเดินหาฟาอีกครั้งพร้อมรอยยิ้มละมุนละไม พรุ่งนี้คงกลับบ้านได้แล้วสินะ แอล..ฉันอยากรู้ นายรันมานอนเฝ้าไข้ฉันทำไม คุณรู้ได้ไง ฉันเห็นนายนั่นอยู่ในห้องนี้ก่อนที่นายจะเข้ามาแล้วอีกอย่างนางพยาบาลคนเมื่อกี้ก็ถามหานายนั่น งั้นรันคงมาเยี่ยมคุณ จากสภาพที่เห็นเรียกว่าเฝ้าไข้คงเหมาะกว่าการเยี่ยมเยียนระหว่างพวกเขาคงมีอะไรบางอย่างที่ฟาไม่รู้แอบแฝงเอาไว้และคงทำไม่ได้หากจะนิ่งเฉยไม่รับรู้เรื่องราวซึ่งเหมือนมีลับลมคมนัยอย่างนี้ฟาเก็บงำความอยากรู้ไว้ภายในใจ รอหาโอกาสคลี่คลาย และมันคงกระจ่างสักวัน To be continued.. อิอิ ขอบคุณค๊า
โดย: มาโซคิส IP: 115.67.163.87 วันที่: 15 พฤษภาคม 2556 เวลา:8:40:11 น.
แอบจิตนาการเอาเองว่า ฟากับแอลรักกัน เฟหลงรักรันแต่รันรักฟามากแล้วได้พูดกับเฟไปตรงๆๆ ทำให้เฟรับไม่ได้เลยคิดฆ่าตัวตาย ส่วนฟารู้ว่าเฟตายก็เลยรู้สึกผิดเลยลบความทรงจำส่วนนั่นไป ^^
โดย: sakeena IP: 58.11.244.96 วันที่: 15 พฤษภาคม 2556 เวลา:9:13:26 น.
อ่า.. คิดได้หลายมุมเลยยยนะคะ อิอิ
อยากบอกๆ แต่รออ่านดีกว่าเนอะ เดี๋ยวไม่ลุ้น ขอบคุณนะคะ โดย: มาโซคิส IP: 124.121.26.184 วันที่: 15 พฤษภาคม 2556 เวลา:21:59:48 น.
|
มาโซคิส
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?] เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล Blood A_Blood Type Series เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
Link |
แอลกับซัน
ถ้วยฟูด้วยค่า อิอิ