พฤษภาคม 2556

 
 
 
1
2
3
5
6
8
9
10
12
13
15
16
17
19
20
21
23
24
26
27
29
30
31
 
 
All Blog
สัมผัสมนตรา.. Chapter 10 .. มันคือความจริง


Chapter 10

มันคือความจริง

รถจักรยานยนต์แล่นทะยานตามเส้นทางหลวงแม้จะเป็นช่วงเวลาค่ำคืนราวสามทุ่มเศษ การจราจรยังคงหนาแน่น บนถนนเต็มไปด้วยยานพาหนะพลุกพล่านสัญญาณไฟแดงสั่งรถทุกชนิดหยุดวิ่งชั่วคราว หญิงสาวซึ่งนั่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์ไม่ได้ใส่ใจบรรยากาศรอบกายความคิดเท่านั้นกำลังควบคุมสมองให้หาเหตุผลในสิ่งที่ค้างคา หวังเพียงหนทางคลี่คลายให้ปัญหาจบลงภายในค่ำคืนนี้ความอับอายขายหน้าทำให้รู้สึกเสียศักดิ์ศรีเป็นอย่างมาก

วันทั้งวันฟาไม่เป็นอันทำอะไรเนื่องจากแอลทำให้เธอเสียศูนย์เกินควบคุม ไม่เข้าใจถึงสาเหตุในการปฏิเสธที่จะคบหา เธอรู้ดีกับความสิ้นคิดหากเลือกคบแอลเพียงเพราะต้องการปกปิดความหวั่นไหวในใจที่ไม่ทราบสาเหตุและเวลานี้ฟาอยากได้คำตอบและเหตุผลที่ทำให้เขาปัดข้อเสนอของเธอทิ้ง ฟาวานให้เก่งขับรถพามาสนามแข่งเพียงเพราะต้องการเจอบุคคลซึ่งอยากเจรจาเพื่อไขข้อข้องใจแม้ใครจะว่าอย่างไรเธอไม่ใส่ใจทั้งสิ้น

“เจ้รู้ได้ไงว่าแอลมาสนามแข่งรถ”

“เพราะฉันรู้จักแค่ที่นี่”

ฟาก้าวลงจากรถพลางแกะหมวกกันน๊อคส่งให้เก่งถือไว้และเดินหาคู่กรณีด้วยจิตใจร้อนรนดั่งไฟสุ่มเธอไม่คิดอยากเซ้าซี้หรือตามตื้อเขาแต่อย่างใด แค่เหตุผลเพียงสิ่งเดียวที่นำพาเธอมายังสนามแข่งแห่งนี้หากได้รับคำตอบตามต้องการจะรีบไปจากตรงนี้ทันที ฟาเตือนตนเองระหว่างตามหาแอล ริมสนามแข่งมีผู้คนบางตาผิดกับวันเปิดทำการรถในเลนวิ่งตกแต่งได้สวยงามตามแบบฉบับรถซิ่ง ดึงดูดสายตาให้มองเหลียวหลังยวดยานเหล่านั้นเริ่มเคลื่อนตัวไปตามถนนทอดยาวเป็นสายคล้ายอุ่นเครื่องยนต์ ฟาส่ายสายตามองหาบุคคลคุ้นเคยจากกลุ่มคนที่ยืนห่างกันเป็นระยะและไม่นานร่างสูงซึ่งคุ้นตาก็ปรากฏตัว ฟาไม่รอช้าสาวเท้าเข้าหาเขาทันที

“แอล..ฉันมีเรื่องต้องคุยกับนาย”

คนถูกทักทายถึงกับผงะเล็กน้อยเมื่อเห็นฟายืนอยู่ตรงหน้าคิดไม่ถึงกับท่าทางรีบร้อนในจุดประสงค์ที่ต้องการคุยกับเขา เพราะทุกครั้งหากฟามายังสนามแข่งสิ่งแรกที่เธอนึกถึงและจงใจเข้าหาคือความคลั่งแค้นที่มีต่อรันเพื่อนสนิทของเขาเสียมากกว่าอยากพบเจอกันแอลเดินห่างจากอาคารรับรองเพื่อหาบริเวณเงียบเชียบเจรจา

“คุณมากับใคร”

“เก่ง..”ฟาตอบสวนทันทีไม่รีรอ เพราะเวลานี้ร้อนใจเหลือเกิน อยากคลี่คลายความกระจ่างเต็มที

“อืม..คุณมีธุระอะไรคุยกับผมงั้นเหรอ”

“ฉันอยากรู้..ทำไมนายถึงคบกับฉันไม่ได้ เหตุผลเกิดจากเพื่อนของนายใช่ไหมหรือมีอะไรที่มากกว่านั้น”

“เปล่า..ไม่ใช่เพราะรัน”

แอลหลบตาลงต่ำเสียงแผ่วเบาคล้ายมีบางอย่างในใจ ยิ่งสร้างความข้องใจให้แก่ฟาเพิ่มเติมหากเหตุผลไม่ได้มาจากนายรันติมาแล้วมันเพราะอะไรกันแน่ ยิ่งเงียบยิ่งสร้างความกดดันอยากรับรู้ความจริงฟาจ้องแอลนิ่งๆ รอให้เขาสานต่อบทสนทนา ทว่าไม่มีคำพูดจาใดเล็ดลอดออกจากปาก มีเพียงความนิ่งเฉยนัยน์ตาส่อแววรู้สึกผิดจนสัมผัสได้

“อย่าว่าฉันตามตื้อเลยนะนายช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่าเพราะอะไร”

ความสงสัยก่อร่างสร้างตัวเป็นภูเขาสูงจนฟาอยากทำลายมันให้สิ้นซากหลายสิ่งหลายอย่างผิดปกติตั้งแต่วันนั้น วันที่เธอเห็นรันเฝ้าไข้ไหนจะหญิงสาวลูกคุณหนูซึ่งแสดงท่าทางคล้ายรู้จักกันเป็นอย่างดีมิหนำซ้ำยังแอลอีกคนเหมือนมีบางสิ่งบางอย่างปกปิดเอาไว้

“ผม..”

“อธิบายมาเถอะ ฉันแค่อยากรู้ ถ้าได้รับความกระจ่างแล้ว ฉันจะไปให้พ้นหน้านายทันที”

“ที่ผมคบกับคุณไม่ได้..เป็นเพราะ..”

“...”ฟานิ่งเงียบรอคอยคำตอบจากบุคคลตรงหน้าซึ่งพูดจาอึกอักสร้างความหงุดหงิดไม่น้อยแก่เธอทุกครั้งกับการพูดคุยสื่อสาร แอลดูจะมั่นใจกว่านี้จนเห็นความแตกต่างชัดเจน

“เพราะผม..”

“เพราะเธอสองคนเป็นพี่น้องกัน”

น้ำเสียงหวานกระชากหัวใจดวงน้อยให้หลุดลอยซันก้าวเดินออกจากอาคารรับรองและหยุดยืนข้างแอล ประโยคบอกกล่าวของซันสร้างความรู้สึกว่างเปล่าคำว่าพี่น้องของซันหมายถึงใคร ฟาพยายามดึงความรู้สึกกลับมาเพื่อไขข้อข้องใจให้ตัวเอง

“หมายความว่าไงพี่น้องอะไรกัน”

“แอลเป็นพี่ชายของฟาเขาคือครอบครัวของฟา”

ทั้งพี่ชายและครอบครัวดังกึกก้องสะท้อนอยู่ในโสตประสาทซ้ำแล้วซ้ำเล่ามันหมายความว่าอย่างไร แอลคือพี่ชายของเธอ นี่คือความฝันใช่ไหม หรือเธอกำลังหลับไหลไม่ยอมตื่นฟานิ่งอึ้งชั่วครู่ก่อนเลื่อนสายตามองทางแอล ใบหน้าคมสันฉายแววรู้สึกผิดมหันต์ เขาไม่คิดว่าเรื่องราวทั้งหมดจะออกมาเป็นเช่นนี้และไม่คิดว่าฟาจะรับรู้ทุกอย่างรวดเร็ว ทั้งที่เธอไม่สมควรล่วงรู้ด้วยซ้ำไป

“มันเรื่องอะไรล้อฉันเล่นกันใช่ไหม”

“พี่ไม่ได้ล้อเล่นนะฟาแอลกับฟาเป็นพี่น้องกัน มันคือเรื่องจริงที่สุด และเธอทั้งสองคนก็คบกันในฐานะคนรักไม่ได้เข้าใจหรือเปล่า”

ฟาแทบล้มทั้งยืนร่างกายเซถอยจนต้องประคองตัวเองเอาไว้ให้มั่นคงสมองชาและว่างเปล่ารู้สึกคล้ายตัวเองลอยคว้างอยู่ในอากาศแทบจะปลิวออกจากโลกใบนี้พูดไม่ออกสักคำ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันแน่ ฟาถามตัวเองซ้ำๆ ร่างบางค่อยๆหันกายกลับอย่างงุนงง อยากหลบหลีกจากบุคคลตรงนี้โดยเร็วทว่าเดินได้เพียงก้าวเดียวข้อมือกลับถูกคว้าดึงไม่ให้จากไป

“คุณจะไปไหน”ฟาชักแขนกลับรวดเร็วราวตั้งโปรแกรมอัตโนมัติเอาไว้ เธอปรายตามองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างเฉยชา

“อย่ามายุ่งกับฉันตอนนี้”

สีหน้าสลดวูบก่อนหลบสายตามันคงดีกว่าหากทำตามใจเธอต้องการ แอลปล่อยให้ฟาเดินจากไปอย่างคลางแคลงในใจ มือเล็กเอื้อมแตะไหล่กว้างคล้ายส่งสัญญาณปลอบประโลมและเป็นกำลังใจซันไม่อาจรู้ว่าการเปิดเผยความจริงครั้งนี้จะส่งผลดีหรือร้าย แต่มันคงดีกว่าให้ฟาเข้าใจผิดจนคิดอะไรเกินเลย

“ซัน..ผมต้องทำไงกับสถานการณ์แบบนี้ ตอนนี้ผมสับสนไปหมด การเข้าไปทำความรู้จักกับฟาเพียงเพราะผมคิดถึงน้องสาวตัวเองแต่ความรู้สึกเหล่านั้นกลับทำให้ฟาเข้าใจผิดคิดอะไรเกินเลย ผมมันเลวมากใช่ไหม”

“พวกเราคงปิดบังความจริงต่อไปไม่ได้แล้วนะแอลแต่เรายังหาทางป้องกันกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นไม่ให้เลวร้ายไปกว่านี้ได้ไม่ใช่เหรอ”

“ผมไม่รู้จะหยุดมันยังไง..”

สองสายตามองตามร่างบอบบางจากไปและหลังจากนาทีนี้ความสงสัยใคร่รู้คงทำให้ฟาค้นหาความจริง แอลและซันเชื่ออย่างนั้นเพราะนั้นคือตัวตนของเธอที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้


หมวกกันน๊อคถูกยื่นส่งเมื่อเดินถึงรถที่จอดรอได้สักพักใหญ่เก่งเห็นอาการของฟาแปลกไป สีหน้าดูไม่สู้ดีเท่าที่ควร ดวงตาเหม่อลอยคล้ายกำลังคิดหนักเก่งจึงเลือกที่จะเงียบมากกว่าถามไถ่หาความ คงต้องปล่อยให้เธออยู่กับตัวเองสักระยะเครื่องยนต์ถูกสตาร์ทพร้อมรถเคลื่อนที่ออกจากสนามแข่งด้วยความเร็วพอประมาณสำหรับฟาเวลานี้คงต้องหาหลักพึ่งพิง มือบางคว้าโอบรอบเอวคนขับ ซบใบหน้าเข้ากับแผ่นหลังกว้างหลับตาสนิท ทบทวนทุกสิ่งทุกอย่างที่พาสับสนวกวนจนเริ่มปวดศีรษะ จิตใจเจ็บจุกกับคำว่าพี่น้องที่ยังดังกังวานอยู่ในโสตประสาทไม่จางหาย

เก่งรับรู้ได้ในทันทีว่าเพื่อนรุ่นพี่คนนี้กำลังมีเรื่องทุกข์ใจอย่างถึงที่สุดอ้อมแขนที่โอบรัดรอบเอวสำหรับเธอและเขาไม่ได้หมายถึงความพิศวาสฉันท์ชู้สาวเลยสักนิดมันเพียงแค่ช่วงอารมณ์หนึ่งที่อยากได้รับความอบอุ่น ปลอบใจ ให้รู้ว่าเวลานี้ไม่ได้อยู่คนเดียวลำพังและเก่งคงต้องปล่อยให้ฟาได้พักพิงอิงแนบไออุ่นที่พร้อมจะเป็นกำลังใจให้เสมอและตลอดเวลา

“เจ้คงอาการหนักนะวันนี้ถึงกับพยุงตัวเองไม่อยู่เลยหรือไง ไม่เป็นไรนะ สำหรับเจ้ ผมให้กอดไม่ปล่อยยังได้เพื่อเจ้คนเดียวเลยนะ รู้ไว้ด้วย”

เก่งตะโกนพูดจาสู้กับลมที่ปะทะเข้าใบหน้าเพียงเวลานี้การทำให้เธอด้านหลังมีพลังพร้อมต่อสู้กับทุกสิ่งที่กำลังเผชิญ ไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตามเขาหวังเพียงให้มันผ่านพ้นไปโดยเร็ว แม้เก่งเองจะไม่รับรู้ถึงสาเหตุก็ตาม


กลางดึกเงียบสงัดหากแหงนมองฟากฟ้าคืนนี้ คงได้เห็นดาวหลายร้อยดวงวางเกลื่อนกลาดบนนั้นสายตาจับจ้องแสงระยิบระยับมากมาย ทว่าจิตใจกลับคิดถึงหลายสิ่งหลายอย่างจนไม่รู้ว่ากำลังเห็นสิ่งใดกันแน่ระหว่างดวงดาวหรือภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่วิ่งวนซ้ำซากในสมองอันรวดร้าวใบหน้าของชายหนุ่มสองคนลอยอยู่ในความคิด ไม่เว้นแม้แต่หญิงสาวที่เพิ่งเคยเห็นได้เพียงไม่นานวนเวียนไปมาเหตุใดทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเธอจึงแปลกประหลาดไปเสียหมด

ฟาพยายามคิดถึงน้องสาวและครอบครัวที่ยังพอจำได้เลือนรางเพื่อนำมายันกับคำพูดของแอลว่าทุกเรื่องราวเป็นเพียงสิ่งที่สร้างขึ้นเพื่อฝังสมองของเธอให้รับรู้เช่นนั้นมันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน ในเมื่อภาพเหตุการณ์ที่เฟประสบอุบัติเหตุรถคว่ำมันยังติดอยู่ในความทรงจำจนทุกวันนี้แม้จะเป็นเพียงฝันแต่ฟายังปักใจเชื่อว่านั้นคือเรื่องจริง ระหว่างกำลังย้อนทวนความคิดคำพูดของซันเกิดดังก้องในโสตประสาท ‘เธอสองคนเป็นพี่น้องกัน’ ยิ่งสร้างความสับสนมากมายช่วงเวลาที่ยืนอยู่ในสนามแข่ง ณ ตอนนั้น สมองเบลอจนไม่อยากรับฟังอะไรอีกแล้ว และมันส่งผลให้เวลานี้ต้องคิดหนักเกิดอยากได้ความกระจ่างชัดเจน

ฟาหลับตาตั้งใจทำสมาธิอยากหายตัวจากตรงนี้และไปยืนอยู่หน้าหญิงสาวนามว่าซันดั่งใจคิด แต่ไม่เป็นผลใดๆอาจเพราะจิตใจไม่สงบเอาเสียเลย ทำให้เวทย์มนตร์ไม่อาจช่วยให้เธอล่องหนได้อีกครั้ง คิ้วเรียวขมวดยุ่งพยายามตั้งสมาธินานหลายนาทีจนเริ่มหงุดหงิด แต่ไม่อาจสำเร็จตามคาดหวัง เสียงกระดิ่งดังกรุ๋งกริ๋งรอบตัวทำให้ฟาเปิดตาและก้มมองยังพื้นด้านล่างลูกสุนัขขนปุยคลอเคลียพันแข้งพันขา พยายามปีนป่ายเท้าของฟาคล้ายออดอ้อนอยากให้อุ้มมันไว้ในอ้อมกอดหางกระดิกรัวจนอดไม่ได้ต้องนำมันขึ้นแนบอก

“ทำไมไม่ยอมหลับยอมนอนออกมากวนฉันหรือไงเจ้าถ้วยฟู”

ลิ้นแดงเลียใบหน้าอยากให้รับรู้ว่าดีใจและพอใจที่ถูกอุ้มฟานึกสนุกลองร่ายเวทย์เสกให้ถ้วยฟูลอยวนเวียนรอบตัวช้าๆ คล้ายกำลังเต้นรำเสียงหัวเราะขำขันทำให้ลืมเรื่องราวสับสนได้ชั่วคราว ฟาโอบกอดลูกสุนัขไว้แน่นอีกครั้งพร้อมนำวงหน้าหวานแนบข้างแก้มของสัตว์เลี้ยง

“เจ้าถ้วยฟูฉันจะทำยังไงดีแก ช่วยบอกหน่อยได้ไหม ตอนนี้สับสนไปหมดแล้ว ฉันเคยมีครอบครัวกับเขาเหมือนกันใช่ไหมแล้วพี่ชายล่ะ ฉันเคยมีด้วยเหรอ หากแอลเป็นพี่ชายฉันจริง ทำไมถึงไม่อยู่ด้วยกันล่ะเขาทิ้งให้ฉันอยู่ตัวคนเดียวแบบนี้ได้ไง เขาสมควรเป็นพี่ฉันงั้นเหรอแก”

ขอบตาระอุอุ่นคิดอะไรไม่ออกคล้ายสมองว่างเปล่าเหตุใดในความคิดของเธอถึงไม่มีเรื่องราวในอดีตหลงเหลืออยู่เลย ใบหน้าเลื่อนซบลงบนลำตัวของถ้วยฟูน้ำตาค่อยๆ ซึมออกมาทีละน้อย

“แกบอกฉันหน่อยได้ไหมถ้วยฟูฉันสมควรเชื่อใครได้บ้าง แล้วชีวิตของฉันเคยเป็นแบบไหนมาก่อนตอนนี้ฉันสับสนเหลือเกิน แกรู้ไหม”

หลังพูดจบประโยคจิตใจสั่นระรัวรุนแรงราวกับเผชิญเรื่องตื่นเต้น ทำให้ฟาละทิ้งความคิดทั้งหมดพร้อมยกใบหน้าขึ้นจากลำตัวของลูกสุนัขมือยกทาบตรงอกตัวเองสำรวจการเต้นของจิตใจ เหตุใดจึงผิดปกติพลันหางตาเห็นการเคลื่อนไหวยังด้านล่าง ตรงจุดเกิดเหตุที่เคยสงสัยว่า ใครจ้องมองเธอตรงนั้น และเสื้อแจ็คเก็ตแบบมีฮู๊ดก็ปรากฏให้เห็นหลังไวๆทำให้ฟาออกตัววิ่งลงยังหน้าที่พักอาศัยทันที

ฟาพยายามตั้งสมาธิร่ายมนตร์ใส่ร่างสูงที่เดินห่างออกไปให้หยุดยืนกับที่แต่ทุกอย่างไร้ผล ไม่ว่าจะลองทำกี่ครั้งกลับไม่ทำให้บุคคลนั้นหยุดยืนตามคำสั่งจนต้องออกตัววิ่งเพื่อให้ทันใครบางคน

“นี่..หยุดเดี๋ยวนี้!!”

เสียงตะโกนส่งดังทำให้ร่างสูงชะงักฝีเท้ายืนกับที่นิ่งๆฟาชะลอความเร็วและคว้าแขนของบุคคลนั้นให้หันกลับมาเพื่อมองอย่างชัดเจนว่าใครกันทำตัวมีพิรุธน่าสงสัยใบหน้าคมคายภายใต้หมวกฮู๊ดแม้จะดูมืดสลัวแต่พอมองออกว่าเขาคือคนในความคิด

“นายรัน..”

“...”เจ้าของชื่อสะบัดลำแขนออกจนหลุดพ้นการเกาะกุม เขายังคงวางตัวนิ่งเฉยสายตาก้มต่ำมองพื้นไม่อยากเผชิญหน้ากับหญิงสาวตรงหน้าแต่ทุกการกระทำส่งผลให้ฟายืนนิ่งอึ้ง ค้นหาสาเหตุว่าเขามายืนอยู่ตรงนี้เพื่ออะไรจิตใจเต้นระส่ำรุนแรง เริ่มควบคุมความรู้สึกไม่อยู่ ทั้งสับสน ทั้งหวั่นไหวปนเปกันไป

“นายมาทำอะไรที่นี่”

“...”

“มายืนหน้าบ้านฉันทำไมและที่ฉันรู้สึกว่ามีใครด้อมๆ มองๆ หลายครั้ง คือนายใช่ไหม”

“สำคัญตัวเองผิดไปหรือเปล่าถนนก็ที่สาธารณะ ฉันมีธุระแถวนี้ไม่ได้หรือไง”

ประโยคราบเรียบทำให้คนฟังสะอึกไปชั่ววินาทีแต่ความรู้สึกบ่งบอกว่าเขาคนนี้คือใครที่เธอค้นหาและยังปักใจเชื่อว่าเป็นเขาจริงๆแม้ประโยคที่เอ่ยออกมาจะเป็นการปฏิเสธซึ่งหน้า ทว่าสายตาเธอคงมองไม่ผิดอย่างแน่นอน

“แล้วนายจะอธิบายเรื่องเสื้อตัวนี้ยังไงอย่าคิดว่าฉันจำไม่ได้ มันคือตัวเดียวกันกับที่วางทิ้งไว้หน้าบ้านฉันวันก่อนและฉันก็เพิ่งซักคืนให้แอลไปเมื่อวานนี้ หรือนายจะบอกว่ายืมแอลมางั้นสิ”

“ไม่เห็นต้องอธิบายเสื้อแบบนี้ไม่ได้มีตัวเดียวในโลก”

“งั้นนายช่วยรูดซิบกระเป๋าตรงอกด้านในสำรวจให้ทีว่ายังมีสร้อยเงินพร้อมจี้ตัวอักษรเอฟหรือเปล่า”

นัยน์ตาสีนิลชำเลืองมองหญิงสาวด้านหน้านิ่งๆไม่เจรจาสิ่งใดตอบกลับ และกำลังจะก้าวหนีให้ห่างจากเธอ ทว่าเสื้อกลับถูกเหนี่ยวรั้งอย่างแรงฟาถือวิสาสะนำมือรูดซิบและล้วงเข้าในกระเป๋าเสื้อสำรวจหาสิ่งของตามที่เธอกล่าวไว้สร้อยเงินพร้อมจี้รูปตัวเอฟ มันยังอยู่ในนั้นจริงๆเสื้อตัวนี้เป็นตัวเดียวกันกับที่เธอเจอและเก็บไว้เมื่อหลายวันก่อนระหว่างนำมันใส่เครื่องซักผ้า ฟาได้สำรวจทุกซอกทุกมุมจนเห็นสร้อยเส้นนี้เข้าโดยบังเอิญแต่ไม่คิดเอะใจใดๆ จนวันนี้ ความสงสัยกลับมายืนในความคิด และนำพาความสับสนให้คิดหนักจนสมองแทบระเบิด

“ฉันไม่จำเป็นต้องอธิบาย”

สร้อยถูกเจ้าของดึงกำไว้แน่นก่อนผละจากไปโดยไม่ทิ้งคำพูดใดไว้สักคำ เหลือเพียงปริศนาที่ต้องการคำอธิบายทิ้งไว้ให้แก่เธอที่ยืนนิ่งพยายามข่มใจให้สงบกับความคิดที่ว่า ผู้ชายคนนี้คือใครกันแน่เหตุใดถึงมีผลต่อจิตใจรุนแรงเช่นนี้


สวนสาธารณะภายในรั้วมหาลัยสงบร่มรื่นในเวลาเช้าเมื่อแสงแดดค่อยๆทยอยสว่างขึ้นเรื่อยๆ ฟาปล่อยความคิดล่องลอยระหว่างนั่งตรงเก้าอี้ไม้แบบยาวเพียงลำพังหมู่นี้เธอหลับตาไม่ลงสักคืน มีเรื่องวนเวียนในสมองให้คิดซ้ำๆ แทบทุกนาที ใบหน้าดูอิดโรยชัดเจนแต่คงแก้ไขอะไรไม่ได้หากยังมีปัญหาคาใจไม่จบสิ้นเช่นนี้ ฟานอนคิดตลอดทั้งคืนสมควรหาหนทางแก้ไขกับเรื่องราวต่างๆ อย่างไร และคำตอบคงหาได้จากบุคคลเพียงคนเดียวที่พอนึกออก

“เป็นไงรอนานหรือเปล่า”

ซันก้าวเข้าหาฟาตามที่ได้นัดหมายกันไว้แม้จะดูไม่เหมาะสมกับการต่อสายเพื่อนัดเจรจาตั้งแต่เช้ามืดของวันแต่ฟาคงไร้ทางออก นอกจากซันเพียงคนเดียวเท่านั้นที่อาจไขความกระจ่างให้หายสับสนได้ในเวลานี้

“ขอโทษที่นัดออกมาแต่เช้าแบบนี้”

“ไม่ได้นอนทั้งคืนใช่ไหมขอบตาช้ำหมดแล้ว ดูแลตัวเองด้วยสิฟา ผู้หญิงต้องรักษาความสวยไว้นะ รู้หรือเปล่า”

ซันระบายยิ้มแม้พยายามหาคำพูดช่วยให้ผ่อนคลาย ไม่อยากทำให้คู่สนทนาดูเครียดจนเกินเหตุแต่เปล่าประโยชน์ ฟายังคงไว้ซึ่งสีหน้าจริงจังไม่แย้มยิ้มให้เห็นแต่อย่างใด

“ช่วยอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ฉันเข้าใจได้ไหมทั้งเรื่องของแอล และนายรัน”

“อยากรู้อะไรล่ะ”

“ทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นและสิ่งที่ฉันลืมมันไปหมดสิ้น แม้ตอนนี้พยายามรื้อฟื้น แต่จนปัญญาจริงๆ”

“จะคุยกันตรงนี้ใช่ไหม”

“อืม..”

ซันพยักหน้าพลางเดินนั่งลงข้างฟาคงไม่ต้องเสียเวลายืดเยื้อหรือพูดพร่ำทำเพลงอยู่ สายตาใคร่รู้บ่งบอกว่าต้องการรับรู้ความจริงโดยเร็ว

“ฟากับแอลเป็นเด็กกำพร้าที่ครอบครัวเรารับเลี้ยงตั้งแต่ฟาอายุเพียงห้าขวบทั้งสองคนเป็นพี่น้องร่วมสายเลือด พ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่ทั้งสองยังเล็กระหว่างที่พวกเราอยู่ด้วยกัน ทั้งพี่ รัน แอล และฟา ก็รักใคร่เอ็นดูเหมือนเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดว่าแต่.. ฟารู้ใช่ไหมว่าตัวเองมีพลังพิเศษ”

“...” คนถูกถามนิ่งอึ้งไปครึ่งนาทีก่อนพยักหน้าและปรายสายตามองหญิงสาวด้านข้างเรื่องทั้งหมดที่ได้ยินเป็นความจริงอย่างนั้นหรือ ฟาตั้งคำถามในใจและพยายามฟังเรื่องราวต่อไป

“พวกเราทุกคนดำเนินชีวิตตามปกติโดยไม่รู้ว่าฟาได้รับพลังพิเศษนั้นมาจากไหนแต่มันก็เกิดขึ้นแล้วหลายปีที่พวกเราอยู่ร่วมกันทำให้รันและฟาเกิดความรักแบบหญิงชายไม่ใช่แค่พี่น้อง และเธอทั้งสองก็คบหากันในฐานะคนรักเธอสองคนรักกันมาก มากเสียจนพวกพี่คิดว่าไม่มีทางตัดพวกเธอออกจากกันได้เลยหลายปีที่ฟากับรันคบกัน พลังในตัวฟาไม่เคยจางหาย เพียงแค่ฟาไม่รู้ตัวเองเท่านั้นว่าต้องควบคุมมันยังไงจนในที่สุดเรื่องราวแย่ๆ ก็เกิดขึ้น”

“มันเกิดอะไรขึ้น..”

“วันนั้นพวกเราทั้งสี่คนได้มีโอกาสไปเที่ยวป่าพี่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับฟา ดูคล้ายจะควบคุมตัวเองไม่ได้เหมือนเป็นใครอีกคนที่พวกเราไม่รู้จักสายตาว่างเปล่าเดินหายเข้าไปในป่าลึก ทุกคนออกตามหากันให้วุ่น จนในที่สุดแอลติดตามจนเจอฟานั่งอยู่ข้างกระต่ายตัวหนึ่งฟาร้องไห้ฟูมฟายพูดจาไม่รู้เรื่อง เมื่อพวกพี่ตามไปถึงตรงนั้นก็เห็นสภาพของกระต่ายตัวนั้นกระดูกแหลกไปทั้งตัวฟาพูดเพียงคำเดียวว่าเป็นคนทำให้มันตาย ด้วยความรู้สึกผิดทำให้ความรุนแรงของพลังเพิ่มขึ้นอีกครั้งทั้งที่ฟาพยายามต่อต้านแต่ไม่สามารถควบคุมมันได้ แอลรีบเข้าปกป้องด้วยการโอบกอดฟาไว้แน่นแต่ก็ไม่ช่วยให้พลังนั้นลดลงเลย จนในที่สุด แอลก็โดนพลังนั้นเล่นงานจนปางตาย”

“แอลเป็นไงบ้าง!”

“ร่างกายของแอลถูกผลของพลังทำลายหัวใจรอยขีดข่วนตามร่างกายคล้ายถูกแส้ฟาดลงบนผิวหนังรุนแรง จนทั้งแอลและฟาหมดสติ ถูกหน่วยกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลทั้งคู่”

“แล้วยังไงต่อ..ทำไมฉันถึงถูกลบความจำ ใครเป็นคนทำให้ลืมเรื่องราวทุกอย่าง”

“หลังจากแอลและฟาถูกนำส่งโรงพยาบาลพี่ก็มารู้ทีหลังว่าเป็นเพราะรันทำให้ฟามีพลังพิเศษ”

ฟานิ่งอึ้งจิตใจเต้นโครมคราม ไม่คิดว่ารันจะมีผลทำให้เธอได้พลังพิเศษเหล่านั้นจนทุกวันนี้มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามันไม่ใช่ความจริงเนื่องจากฟามีมนตราติดตัว

“นายนั่นมีพลังเหมือนฉัน”

“ไม่เหมือนกันพลังในร่างกายฟารุนแรงกว่ารันหลายเท่ามันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเมื่อเธอสองคนรักกัน”

“มันเกิดเรื่องแบบนี้ได้ไงกัน”

“พี่ไม่รู้หรอกว่าสาเหตุมาจากอะไรแต่มันเกิดขึ้นแล้วฟา มันเหมือนรันส่งผ่านพลังเหล่านั้นคล้ายการดึงดูดระหว่างกันโดยที่รันเองก็ไม่รู้ตัวช่วงนั้นพี่เองก็สับสนไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้ หลังจากฟาฟื้นขึ้นอีกครั้งฟาก็เอาแต่ร้องไห้โทษตัวเองว่าทำให้แอลต้องนอนแน่นิ่งคล้ายคนตายไม่รู้จะฟื้นขึ้นมาอีกหรือเปล่า ฟากลัวมาก กลัวว่าจะสูญเสียแอลไป พูดซ้ำๆว่าไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว ฟาเกลียดพลังนั้น แล้วหลังจากนั้นรันก็ทำให้ฟาลืมเรื่องราวทุกอย่างหมดสิ้น”

“นายนั่นทำได้ไง”ใจเต้นรุนแรงหนักหนากว่าเดิม ต้องการรับรู้เรื่องราวต่อไป

“รันมีพลังจิตสามารถลบล้างความทรงจำของใครต่อใครได้เพียงฝ่ามือสัมผัสเท่านั้น”

“งั้นเรื่องเฟ..”

“ใช่..เฟไม่มีตัวตน เป็นเพียงเรื่องที่รันแต่งขึ้นเพื่อให้ฟาเกลียดเขา และไม่อยากเข้าใกล้เขาอีกแต่ที่พี่ไม่เข้าใจ ทำไมฟาถึงยังเข้าหารัน ทั้งที่น่าจะอยู่ให้ห่างจากเขา”

นั่นสิเหตุใดเธอต้องตามหาเขา เรื่องนี้ฟายังตอบตัวเองไม่ได้ ความสับสนทำให้เธอนิ่งคิดไม่ว่าจะเรื่องครอบครัวหรือน้องสาวเป็นสิ่งลวงตาลวงใจเท่านั้นแต่ความรู้สึกที่มีต่อรันในส่วนลึกยังคงอยู่ เพียงแค่แสดงออกตามที่นึกคิด ณเวลานั้น คล้ายเขาสร้างภาพให้เธอจงเกลียดจงชังเท่านั้นเอง



To be continued..




Create Date : 25 พฤษภาคม 2556
Last Update : 25 พฤษภาคม 2556 15:33:03 น.
Counter : 489 Pageviews.

6 comments
  
แวะมาเยี่ยมยามค่ำ...สวัสดีครับ
โดย: **mp5** วันที่: 25 พฤษภาคม 2556 เวลา:21:47:27 น.
  
กว่าจะมาเจอบล็อคพี่มาโซ นานเลย ^^

ปกตินุ่นไล่อ่านจากบล็อคล่างสุดค่ะ เลยมาช้า อิอิ

รอตอนหน้าน๊า

โดย: lovereason วันที่: 25 พฤษภาคม 2556 เวลา:22:39:27 น.
  
อยู่ใกล้ๆๆกันแระ ช่วยกันควบคุมพลัง
โดย: sakeena IP: 124.120.92.128 วันที่: 25 พฤษภาคม 2556 เวลา:22:51:55 น.
  
ขอบคุณมากๆ นะคะ
โดย: มาโซคิส IP: 115.87.54.181 วันที่: 26 พฤษภาคม 2556 เวลา:3:48:16 น.
  
สวัสดีค่ะ.....มาเยี่ยมยามรุ่งสาง
โดย: ~My Birthday is on April 14~ วันที่: 26 พฤษภาคม 2556 เวลา:5:14:17 น.
  
ขอบคุณนะคะ แก้วกับสร้อย
โดย: มาโซคิส วันที่: 26 พฤษภาคม 2556 เวลา:8:31:45 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มาโซคิส
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]



เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล

Blood A_Blood Type Series
เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม

ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
เ ว ล า คิ ด ถึ ง ใ ค ร บ า ง ค น ม า ก ๆ อ ย า ก ดึ ง เ ค้ า อ อ ก ม า จ า ก โ ล ก แ ห่ ง ค ว า ม ฝั น แ ล้ ว ก อ ด ซ ะ !! ใ ห้ ห า ย คิ ด ถึ ง





หากวันใด อ่อนแอ ท้อแท้ ผิดหวัง ให้ลองย้อนนึกถึงวันที่เคยตะเกียกตะกาย . .



ถ้าคนๆ หนึ่ง มีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้เรายิ้มออกมาได้โดยไม่ตั้งใจ.. มานก็ไม่แปลกเลยที่เขาสามารถทำให้เราน้ำตาไหลได้โดยไม่รู้ตัว..

Online Now




New Comments