Group Blog
All Blog
|
สัมผัสมนตรา.. Chapter 4.. ผู้ชายของฉัน Chapter 4 ผู้ชายของฉัน
ฟาอยากลืมอยากลืมเรื่องราวทั้งหมด ช่วยทำให้ฟาลืมทุกอย่างได้ไหม ฟา.. ฟาเป็นไงบ้าง ในสภาวะกึ่งหลับกึ่งฝัน เสียงเรียกชื่อแผ่วเบาทำให้เริ่มมีสติขึ้นมา มือกำเกร็งคิ้วเรียวได้รูปขมวดผูกปม รู้สึกเย็นวาบเป็นระยะบนผิวหน้าและลำคอบางจังหวะได้กลิ่นฉุนแปลกๆ ผ่านเข้าจมูก เมื่อสัมผัสรับรู้ตอบสนองมากขึ้น มือเริ่มปัดป่ายทุกสิ่งที่วนเวียนโดยรอบเปลือกตาปรือเปิดพร้อมดึงตัวเองลุกขึ้นนั่ง ฟาหันมองรอบกายเห็นหลายคนรายล้อมพลางส่งยิ้มให้มือท้าวโซฟาเลื่อนขาลงพื้นจัดท่านั่งให้ตนเองด้วยอาการมึนงงเล็กน้อย เธอได้แต่ตั้งคำถามในใจเราเป็นอะไรไป เป็นไงบ้างน้องสาวหายดีหรือยัง บุคคลแปลกหน้าทักทายอย่างผู้มีอัธยาศัยดีแม้ลักษณะจะดูน่ากลัวด้วยรูปร่างใหญ่โต แต่รอยยิ้มกลับทำให้รู้สึกเป็นมิตรอย่างชัดเจนฟาระบายยิ้มตอบกลับพร้อมพยักหน้าเบาๆ สายตาเหลือบเห็นขันใส่น้ำ ผ้าขนหนูเปียกชื้นพร้อมยาดมหลอดเล็ก ทุกอย่างวางเรียงรายเบื้องหน้า เกิดย้อนความคิดกลับไปก่อนการแข่งขันจะเริ่มต้นใบหน้าคมคายฉายแววมุ่งมั่นตั้งใจ เป็นสิ่งสุดท้ายที่เธอเห็นก่อนรถแข่งจะทะยานออกตัวระยะเวลาแข่งขันแม้เพียงไม่นานแต่กลับเลวร้ายสิ้นดีสำหรับผู้หญิงมีปมในใจถึงฟาพยายามควบคุมความหวาดกลัวเอาไว้ แต่จิตใจและร่างกายกับทรยศความตั้งใจ ปล่อยให้ตัวเองหมดสติสร้างความอับอายขายหน้า ดีขึ้นหรือยัง เสียงแอลฉุดฟาออกจากความคิดทั้งหลายสีหน้าแฝงความห่วงใยดึงดูดให้หันมอง คงเพราะแอลที่ช่วยพาเธอกลับมาอยู่ในสถานที่รับรองและดูแลจนฟื้นคืนสติอีกครั้ง อืม..ดีขึ้นแล้ว ขอบคุณทุกคนมากค่ะ ไอ้รันมันขับรถโหดมากเลยหรือไงถึงขนาดเป็นลมเข่าอ่อนแบบนี้ เสียงหัวเราะขำขันทำวงหน้าหวานร้อนผะผ่าวรอยยิ้มเจื่อนปรากฏ รู้สึกเสียหน้าอย่างแรง ฟาไม่คิดโกรธเคืองใครต่อใครที่พากันหัวเราะเยาะเย้ยมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เธอคาดโทษ จะไปไหนฟา คุณหายดีแล้วหรือไง ฉันจะไปหาเพื่อนนาย ข้อมือเล็กถูกคว้าไว้และต้องรีบปล่อยกะทันหันเมื่อเจ้าของแขนตวัดสายตาคุกรุ่นบ่งบอกชัดเจน น้ำกำลังเชี่ยวอย่าริเอาเรือขวางทางแอลรู้สึกเสียววาบตรงหน้าแข้งเพราะยังหลงเหลือร่องรอยความเจ็บปวด ไม่อยากโดนเตะกระแทกอีกเป็นหนที่สอง คุณพิศวาสไอ้รันมันขนาดนั้นเลยเหรอฟานี่คุณเพิ่งจะฟื้นตัวนะ นายจะคิดอะไรมันก็เรื่องของนายแต่ขอบอกไว้ตรงนี้ ฉันเกลียดเพื่อนนายเข้ากระดูกดำ คุณแน่ใจเหรอฟา..ผมจะบอกอะไรให้นะ.. คนที่เขาเกลียดกันคงไม่ดิ้นรนเข้าหากันขนาดนี้หรอก เอาล่ะ..ไม่ว่าคุณมีเหตุผลอะไรผมจะไม่วุ่นวาย แต่วันนี้ถือว่าผมขอร้อง.. คุณกลับไปพักผ่อนก่อนดีกว่าไหมสีหน้ายังดูซีดเซียวอยู่เลย มือกำแน่นริมฝีปากเม้มหนักเป็นเส้นตรง สะกดอารมณ์ขุ่นเคืองเอาไว้ภายใน ฟาชั่งใจคิดระหว่างเตือนตนเองให้ระงับโทสะไม่จำเป็นสักนิดกับการอธิบายเหตุผลให้ใครต่อใครเข้าใจ ถึงอย่างไรก็ไม่หวังความสงสารเห็นใจอยู่แล้วหรือต่อให้มีเสียงห้ามปรามคงไม่อาจดึงรั้งการกระทำของเธอได้ฟาสะบัดหน้ามุ่งเดินออกจากอาคารพักรับรองโดยไม่ใส่ใจว่าใครจะมองหรือก้าวตามออกมาอย่างห่วงใย ดึกดื่นค่อนคืนผู้คนรอบสนามแข่งดูบางตาผิดกับช่วงหัวค่ำลิบลับส่วนใหญ่โดยเฉพาะหญิงสาวจะยืนรวมตัว เป็นกลุ่มในหลายจุดตามขวัญใจหนุ่มหล่อของพวกเธอแรงดึงดูดทำให้ฟาตรงดิ่งยังคนตัวสูงซึ่งโดดเด่นท่ามกลางหญิงแท้และสาวเทียมพวกหล่อนทั้งหลายคงบรรจงแต่งกายด้วยเสื้อผ้าเนื้อดีเน้นเผยเนินอก ชุดรัดติ้วเอวคอดโชว์ขาอ่อนขาวเนียน เบียดเสียดแทบจะแฝงกายหนุ่มหล่อที่ยืนขนาบข้าง ฟากวาดสายตามองหาสาวผมบ๊อบที่มักอยู่ข้างกายรันแทบจะทุกเวลาทว่าตอนนี้กลับไร้เงา ปล่อยให้เหล่าแฟนคลับทั้งหลายครอบครองผู้ชายมาดนิ่ง และเปลี่ยนสีหน้าเป็นเฉยชาทันทีเมื่อเห็นฟาผ่านสายตา ฟาคุณจะทำอะไร.. แอลส่งเสียงขัดจังหวะการก้าวเดินทำให้ฟาชะงักฝีเท้าพลางเหวี่ยงสายตามองยังด้านหลัง จำเป็นด้วยหรือต้องหลุดเสียงพูดจาบอกกล่าวการกระทำให้เขาเข้าใจในเมื่ออีกไม่กี่นาทีข้างหน้าแอลจะได้รับรู้ในสิ่งที่ต้องการคำตอบ ฟาไม่เสียเวลาเสวนาเดินแหวกกองทัพสาวสวยเหล่านั้นเข้าเผชิญหน้านายรันของเธอทันที ฉันมาทวงสิทธิ์ที่ควรจะได้รับตามข้อตกลง ... ไร้เสียงตอบรับจากบุคคลที่เธอต้องการเจรจา มีเพียงคำซุบซิบดังขึ้นจากวงล้อมรอบกายหลากหลายข้อกล่าวหา ทั้งไร้ยางอาย ตามตื้อคนดัง ไม่เจียมตัว ใฝ่สูง สารพัดคำต่อว่าสรรหามากรอกเข้าโสตประสาท สำหรับฟาแล้ว ไม่ว่าจะหญิงแท้หรือสาวเทียมที่รายล้อมเป็นเพียงตัวประกอบและเธอเองก็ไม่เคยใส่ใจผู้หญิงผมบ๊อบซึ่งนั่งหลบมุมอยู่ด้านหลังเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ฟาอยากให้รับรู้เรื่องราวนี้ ตั้งแต่นี้ไปผู้ชายคนนี้เป็นของฉัน รอบบริเวณส่งเสียงฮือฮาจิกสายตาไม่พอใจอย่างหนัก บางคนเต้นเร่าแทบจะกรีดร้องเสียให้ได้แต่ยังสร้างภาพและเก็บอาการเอาไว้ ทุกการกระทำของเหล่ากองทัพสาวสวยกลับส่งผลให้ฟารู้สึกถูกอกถูกใจอย่างมาก และนายต้องส่งฉันกลับบ้านเดี๋ยวนี้ ท่าทางท้าทายสบมองแววตาสีนิลเบื้องหน้าพยายามจับกระแสความรู้สึก แต่ไม่อาจรับรู้เลยว่าเขาคิดอะไรอยู่ ฟาชำเลืองมองทางเป้าหมายพลางเหยียดยิ้มเมื่อเห็นใบหน้าซีดขาวออกอาการตกตะลึงไม่น้อย ความสะใจวิ่งพล่านในความรู้สึกเริ่มต้นแล้วกับการชำระแค้นที่ฝังลึกในใจ ข้อมือถูกยึดและดึงให้ฟาก้าวตามอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าเธอก่อศึก เปิดสงครามทำลายตัวเองเป็นที่เรียบร้อย ฟาขืนแรงต่อต้าน ทั้งที่แสร้งแสยะยิ้มให้กองทัพแฟนคลับทั้งหลายซึ่งยืนมองหน้ากันเลิกลั่กคล้ายปรับตัวไม่ทันกับเหตุการณ์เมื่อครู่ ปล่อยฉันสิ!! แขนสะบัดหนีการจับกุมเมื่อพ้นระยะสายตาของบรรดาแฟนคลับเหล่านั้นทว่าไม่เป็นผลใด เนื่องจากคนตัวสูงที่ดึงข้อมือฟาไว้กลับกระชับแรงขึ้นอีก และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเธอฟาตั้งสมาธิร่ายเวทย์ ทำทุกอย่างที่พอนึกออกเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากฝ่ามือซึ่งกักขังข้อแขนเอาไว้แต่ทุกอย่างยังคงนิ่งสนิท ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นกับผู้ชายป่าเถื่อนคนนี้ฟารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เหตุใดมนตราที่มีไม่อาจทำร้ายนายรันได้เลยแม้แต่สะกิด กุญแจรถถูกกดรีโมทส่งสัญญาณปลดล็อคก่อนเจ้าของจะเดินถึงที่หมาย ประตูฝั่งตรงข้ามคนขับถูกเปิดพร้อมดันร่างบอบบางเข้านั่งประจำที่ส่วนรันเองก็เดินอ้อมหน้ารถขึ้นนั่งประจำตำแหน่งเช่นกัน พอใจหรือยัง.. ประโยคราบเรียบถามส่งโดยไม่หวังคำตอบเมื่อทั้งสองอยู่ในรถเรียบร้อยแล้วฟาบีบนวดข้อแขนคลายความรู้สึกชา เหยียดหางตามองคนด้านข้างซึ่งไม่สนใจเธอสักนิด ยิ่งทำให้หงุดหงิดทวีคูณฟาพยายามตั้งสมาธิร่ายมนตร์อีกครั้งระหว่างรถยนต์ทะยานออกตัวแต่ทุกอย่างยังคงปกติเช่นเคย ไม่เข้าใจเสียเลย เหตุใดมนตราจึงไม่สะเทือนถึงผิวกายของเขาฟาลอบมองรันอย่างหวาดระแวง เกิดเป็นคำถามในใจ นายมันตัวบ้าอะไรมนตราของฉันถึงทำอะไรไม่ได้ จบประโยคความคิด สัมผัสรับรู้ก่อตัวเมื่อรถยนต์ที่นั่งอยู่เพิ่มความเร็วมากขึ้นฟาเกิดฉุกคิดสิ่งที่ตัวเองลืมไปเสียสนิท เพราะฝีมือของเขาคนนี้ทำให้เธอหมดแรงเข่าอ่อนถึงกับเป็นลมล้มพับมาแล้วเมื่อชั่วโมงที่ผ่านมาไม่สมควรอย่างยิ่งหากคิดจะเอาชนะจนลืมตัว เธอคงติดใจฝีมือการขับรถของฉันสินะ ไม่มีเสียงใดตอบกลับนอกจากสายตาหลุกหลิกส่อแววกังวล เจ็บใจนักที่ตกเป็นลูกไก่ในกำมือ เวลานี้คงต้องหยุดความอวดดีไว้ชั่วคราวฟายอมสงบปากสงบคำเพื่อความปลอดภัยของตนเอง หากหลุดปากอวดดีออกไปเกิดความเร็วรถพุ่งพรวดขึ้นมาอีกครั้งเธอคงหัวใจวายสิ้นชีพก่อนจะถึงที่พักอาศัย ตลอดเส้นทางความเร็วรถอยู่ในระดับคงที่ทำให้ฟาลอบระบายลมหายใจคลายความตึงเครียดลงได้บ้าง ถนนโล่งว่างไร้สิ่งกั้นขวาง มีเพียงเลนทางทอดยาวเป็นสายไกลสุดตาผู้ชายคนนี้มีดีอย่างไร น้องสาวของเธอถึงหลงรักหัวปักหัวปรำชั่ววินาทีภาพความอ่อนโยนของรอยยิ้มละมุนและสายตาห่วงใยที่รันหยิบยื่นให้สาวผมบ๊อบปรากฏชัดเจนในความจำทำให้ฟาพอคาดคะเนออก มารยาหลายล้านเล่มเกวียนของผู้ชายคงมีไม่น้อยไปกว่าผู้หญิงเท่าไหร่น้องสาวของเธอจึงหลงติดกับดักที่เขาหว่านเสน่ห์ให้ตกหลุมพราง ด้วยท่าทางเย็นชามาดนิ่งแต่แฝงไว้ด้วยความอบอุ่นอ่อนโยนหากหญิงสาวคนใดถลำตัวเข้าใกล้ คงหลงใหลจนโง่หัวไม่ขึ้น เครื่องมือสื่อสารดังเตือนให้รับสายฟาขยับกายหยิบโทรศัพท์มือถือซึ่งพอจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าคว้าติดมือออกมาจากอาคารพักรับรองหน้าจอสว่างแว้บเป็นระยะ ปรากฏเบอร์โทรปริศนาไม่คุ้นตา เกิดลังเลจะรับสายดีหรือไม่และความสับสนถือเป็นอันสิ้นสุด เมื่อคนด้านข้างปรายสายตามองมา ส่งผลให้การตัดสินใจของเธอง่ายขึ้น ฮัลโหล.. เสียงจากปลายสายทำให้ฟาประหลาดใจอย่างมากหากจำไม่ผิดเขาคือบุคคลที่เธอหลงลืมไปชั่วขณะ และแท้จริงแล้วเขาต่างหากสมควรเป็นฝ่ายนำพาเธอกลับบ้านอย่างสวัสดิภาพ นายรู้เบอร์ฉันได้ไง คำถามส่งกลับทันทีเมื่อฟามั่นใจว่าใครโทรเข้ามาปลายสายหาเหตุผลอธิบายราวกับแก้ต่างให้ตัวเอง ระหว่างเขาอุ้มพาเธอเข้าที่พักรับรองโทรศัพท์มือถือตกจากกระเป๋ากางเกง ด้วยความหวังดีแอลจึงเก็บมันและถือโอกาสบันทึกเลขหมายเอาไว้เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้ติดต่อหากันสะดวกขึ้นเฉกเช่นเวลานี้ เขาสามารถโทรติดตามความคืบหน้าว่าฟาเป็นอย่างไรบ้าง ทำไมฉันต้องเอาโทรศัพท์ให้เพื่อนนายด้วยล่ะแอลแล้วอีกอย่างนายโทรหาเพื่อนนายโดยตรงก็ได้นะ ไม่ต้องโทรเข้าเครื่องฉัน ปลายสายอธิบายเพิ่มเติมอีกพักใหญ่เป็นเพราะฟาแผลงฤทธิ์ทำให้รันเร่งรีบออกจากสถานที่โดยไม่ได้พกโทรศัพท์ติดตัวมาด้วยทำให้เขาเลือกที่จะต่อสายถึงเธอ แอลใช้เวลาไกล่เกลี่ยอยู่นานกว่าฟาจะยอมเข้าใจและลดทิฐิยื่นเครื่องมือสื่อสารของเธอให้ชายหนุ่มด้านข้าง เพื่อนนายจะคุยด้วย รันละสายตาจากถนนเบื้องหน้ามองเธอด้านข้างก่อนปล่อยมือจากพวงมาลัยรับโทรศัพท์ไปแนบไว้ข้างใบหู การสื่อสารระหว่างเพื่อนสนิทเท่าที่ฟาสังเกตเห็นมีเพียงแอลเสียมากกว่าเป็นฝ่ายพูดจา เพราะชายหนุ่มด้านข้างเอ่ยเพียงคำเดียวสั้นๆว่า อืม ก่อนจะส่งโทรศัพท์มือถือคืนเจ้าของ ฟาไม่ใส่ใจว่าเขาทั้งสองจะเจรจากันด้วยเรื่องอะไรและไม่อยากรับรู้หรือยุ่งเกี่ยวด้วยซ้ำไป เครื่องมือสื่อสารถูกเก็บลงกระเป๋าเสื้อฟาขยับกายพิงพนักเบาะ กอดอกสร้างความอบอุ่นเมื่อรู้สึกเย็นเยียบตามผิวกาย ภายในรถเงียบกริบไร้ใครพูดจามีเพียงเสียงเพลงแผ่วเบาลดความอึดอัดกดดัน ฟาหันสายตามองนอกกระจกรถด้านข้าง ในใจกลับนึกถึงมนตราที่เคยมีหรือเวลานี้พลังพิเศษเหล่านั้นเสื่อมลง จึงไม่ส่งผลใดกับผู้ชายคนนี้ ฟาทำการร่ายเวทย์ทดสอบพลังพิเศษของตนเองอีกครั้ง ประกายสว่างจากฟากฟ้าแว้บลงมาเป็นสายและส่งเสียงครืนตามติดเกิดความปั่นป่วนราวกับกำลังจะเกิดพายุโหมกระหน่ำมนตรายังอยู่และรู้สึกถึงพลังที่เพิ่มมากขึ้นอีกเท่าตัว เพียงไม่นานสภาพบนท้องฟ้าก็กลับมาสงบอีกครั้งเมื่อฟาหยุดการร่ายมนตร์ ฟากอดตัวเองแน่นพลางถอนหายใจปัดเป่าความเหนื่อยล้าและย้อนคิดอีกครั้งเหตุใดมนตราของเธอจึงไม่สามารถทำอะไรผู้ชายคนนี้ได้เลยทั้งที่เธอพยายามร่ายมนตร์ถึงสองครั้งสองคราฟาลอบมองใบหน้าคมคายแต่ต้องหันหลบรวดเร็ว แสร้งมองออกนอกกระจกรถตามเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อเห็นรันเคลื่อนไหวคล้ายจะหันมาทางเธอ ใส่ซะ ไออุ่นจากเสื้อคลุมหนากระทบบนตักปิดคลุมลำตัวไว้นิดหน่อย ดึงดูดให้ฟามองที่เสื้อตัวนั้นก่อนหันหาเจ้าของมัน เขาแค่หวังดีหรือแกล้งหว่านล้อมหลอกล่อ เพื่อให้หลงติดกับดักความเป็นสุภาพบุรุษมาดนิ่งคือสิ่งที่ฟาพยายามค้นหาเหตุผลเพื่อป้องกันตัวเอง ราวกับสร้างกำแพงไม่ยอมใจอ่อนง่ายๆ เอาของนายคืนไปเถอะอากาศร้อนจะตาย แน่ใจว่าร้อน...ก็เห็นอยู่ว่านั่งตัวสั่น หวังว่าเธอคงไม่แข็งตายในรถฉันหรอกนะ แค่จะเหยียบขึ้นมายังคิดแล้วคิดอีกอย่าสำคัญตัวเองผิด คิดว่าฉันจะยอมตายกลายเป็นผีเฝ้ารถให้นาย หึ..ก็ดี รันเหยียดหัวเราะในลำคอมองกระจกส่องหลังดูลาดเลาก่อนเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วขึ้นอีกหน่อยฟารีบคว้าเสื้อคลุมขึ้นห่มทับร่างกาย ข่มความรู้สึกหวาดระแวงเอาไว้เผลอลืมตัวแสดงความอวดดีออกไปจนได้ ทำให้คิดถึงแอลขึ้นมาจับใจ หากเธอยอมกลับบ้านพร้อมเขาแต่แรกคงไม่ต้องนั่งหวั่นไหวกับการเดาใจคนขับอยู่แบบนี้ ฟานั่งนิ่งแสร้งหลับตามาตลอดทางจนถึงหน้าที่พักอาศัยไม่ใช่เพราะรู้สึกง่วงหรือเพลียแต่อย่างใด แค่คิดว่ายอมสงบปากสงบคำ ปิดกั้นความรู้สึกรับรู้เอาไว้ยังดีกว่าต้องเผชิญความเร็วที่พุ่งทะยานราวกับเขาเป็นผู้ครองถนนแต่เพียงผู้เดียวหรือคิดอีกแง่เขาคงอยากส่งเธอให้ถึงที่หมายโดยไว เพื่อจะได้กลับไปหาบุคคลสำคัญตามที่ฟาคาดการณ์เอาไว้ เสื้อคลุมถูกดึงออกจากร่างกายจับรวบเรียบร้อยพร้อมวางลงบนเบาะข้างลำตัวฟาขยับจัดแต่งเสื้อผ้าที่ดูยับยู่ยี่ให้กลับมาเรียบร้อย พลางฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ตั้งแต่ขึ้นนั่งในรถคันนี้เขาและเธอพูดจากันแทบนับคำได้ ในทุกประโยคไม่มีสักคำที่เขาจะถามไถ่ถึงสถานที่ตั้งของบ้านหลังนี้ฟาหยุดความคิดกลางอากาศหันหารันที่มองเธออยู่เช่นกัน นายรู้จักที่นี่ได้ไงฟาส่งคำถามและรอคอยคำตอบอยู่ชั่วขณะ แอล.. ชื่อของบุคคลซึ่งไขข้อข้องใจจนหายเป็นปลิดทิ้งการสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อครู่ แอลคงขอสายเพื่อบอกที่อยู่ให้เขารับรู้ ฟาคลายความสงสัยลงจากวงหน้าหวานพลางพยักหน้าและเบี่ยงกายเปิดประตูรถ ขอบคุณที่พาฉันมาส่ง สิ้นสุดประโยคพูดจาฟาก้าวยืนบนพื้นถนน หันมองยังคนขับทำให้สายตาสองคู่สบกัน เพียงชั่ววินาทีจิตใจของเธอเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะมือผลักประตูปิดและหันหลังกลับ เดินดิ่งเข้าบ้านทันทีไม่รอคอยให้รถยนต์ที่มาส่งขับเคลื่อนออกตัวความสับสนแทรกซึมจิตใจ แววตาสีนิลคู่นั้นแฝงไว้ด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว จนเธอรู้สึกว่าทนเห็นไม่ได้ไม่เข้าใจตัวเองเหตุใดจึงต้องรู้สึกเช่นนั้น
เสียงครางหงิงส่งร้องพร้อมกล่องกระดาษถูกขูดข่วนเป็นระยะปลุกให้ฟารู้สึกตัวตื่นตอนรุ่งเช้าระหว่างดวงตะวันค่อยๆเลื่อนขึ้นจากขอบฟ้าทอประกายแสงแดดอ่อน เมื่อคืนหลังจากกลับเข้าบ้าน ฟาสำรวจดูลูกหมาบาดเจ็บอยู่พักใหญ่เห็นว่ามันหลับสนิทไม่ตื่นขึ้นมากวนกลางดึก เธอจึงประคองลังกระดาษที่อยู่อาศัยของมันขึ้นมาไว้ข้างเตียงนอนเฝ้ามองมันจนหลับถึงเช้า ฟาเหยียดแขนขาบิดกายไปมาก่อนขยับลุกขึ้นนั่ง จ้องมองยังลังกระดาษพร้อมแย้มยิ้มส่งให้สิ่งมีชีวิตร่วมโลก ว่าไงเจ้าถ้วยฟูตื่นก่อนฉันอีกนะแก สองเท้าพาร่างกายเดินเข้าหาเจ้าหมาน้อยอุ้มมันขึ้นสำรวจขาแข้งน้อยๆ ที่ถูกพันเอาไว้ ร่องรอยผ้าก๊อซถูกกัดจนเว้าแหว่ง คงถึงเวลาทำแผลให้ใหม่เพื่อความสวยงามฟาดึงผ้าขาดรุ่ยออกจากขาน้อยๆ ของเจ้าถ้วยฟู และนำตัวมันวางบนพื้นห้องรอดูอาการบาดเจ็บจากการเดินเจ้าหมาน้อยพยุงตัวเดินทั้งที่ขายังกะเผลก หางกระดิกและหมุนตัวเดินหาฟา มันเลียนิ้วมือของเธอราวกับขออาหารเช้า หิวหรือไงเจ้าถ้วยฟูให้ฉันอาบน้ำก่อนนะ แล้วจะพาแกไปกินนมกับขนมที่ร้าน อดทนหน่อยได้ไหม ฟาอุ้มหมาน้อยเก็บไว้ในลังกระดาษตามเดิมก่อนเดินทำภารกิจส่วนตัวเพื่อเตรียมออกไปปฏิบัติงานตามปกติประจำวัน ทุกวันกับการเดินทางฟาจะมีรถจักรยานยนต์คู่ใจนำพาไปยังสถานที่ทำงานแต่ก็บ่อยครั้งที่เพื่อนรุ่นน้องยืมรถใช้สอยทำให้เธอต้องเดินทางด้วยสองเท้า และวันนี้แตกต่างไปจากทุกครั้งตรงมีเจ้าถ้วยฟูเป็นเพื่อนร่วมทางประตูบ้านถูกสั่งล็อคด้วยพลังพิเศษเฉกเช่นทุกวัน สาวผมยาวสลวยรวบผมทรงหางม้าตรวจตรารอบที่พักอาศัยก่อนนำลังกระดาษโอบอุ้มขึ้นอกถึงแม้ขาของเจ้าถ้วยฟูจะยังไม่หายเป็นปกติแต่ดูคล้ายอารมณ์ของมันจะเบิกบานกว่าเมื่อวานนี้ฟานำมือลูบไล้ขนปุยนุ่มอย่างเอ็นดู ไง..เดินไม่ดูทางอีกแล้วนะ เพื่อนร่วมงานส่งยิ้มทักทายพร้อมเดินเข้าใกล้และหยิบลังกระดาษไปถือไว้แทนการปรากฏตัวของแอลไม่ได้สร้างความประหลาดใจแก่ฟา ในเมื่อเขารู้จักบ้านของเธอแล้วหากมองในแง่ดีเธอกำลังมีเพื่อนร่วมทางเดินเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งชีวิต และมันคงแย่ลงทันทีถ้าเขาคิดเซ้าซี้เธอแต่เช้า ผมไม่เข้าใจทำไมคุณถึงอยากคบกับรันขนาดนั้น นายไม่จำเป็นต้องรู้ แต่ผมอยากรู้และเราสัญญากันไว้แล้วนะฟา หากผมทำให้คุณคบกับรันได้ คุณจะบอกผมทุกเรื่อง นายกำลังห่วงว่าฉันจะไปพรากความรักจากเพื่อนสาวของนายเหรอแอล มันไม่เกี่ยวกับซัน..แต่เพราะผมไม่อยากให้คุณเข้าใกล้รันอีก ฟาหันมองชายหนุ่มที่เดินขนาบข้างไม่เข้าใจความหมายของประโยคเมื่อครู่เขามีเหตุผลใดถึงไม่อยากให้เธอเข้าใกล้บุคคลที่เอ่ยถึงแต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ฟานึกออก เหตุผลคงมีอย่างเดียว นั่นเพราะแอลเป็นห่วงเป็นใยเพื่อนพ้องของเขาเท่านั้นและเรื่องราวต่างๆ คงไม่ยุติง่ายๆ หากฟายังคิดสร้างความร้าวฉานให้ทั้งสองคู่รักแตกแยก เราอย่าคุยเรื่องนี้ดีกว่าสิ่งที่ฉันตั้งใจคงไม่มีใครหยุดได้ หากนายยังคิดจะอยู่ใกล้ฉันต่อไปหยุดซะถ้าจะห้ามในสิ่งที่ฉันต้องการทำ แต่เปลี่ยนมาช่วยเหลือให้มันบรรลุเป้าหมายไวๆจะดีกว่า ฟารู้ดีคำพูดของเธอเพียงเพื่อผลประโยชน์แก่ตนเองและแอลคงไม่หลงผิดคิดเข้าข้างเธอทำร้ายเพื่อนของตัวเองอย่างแน่นอน ฟาเอ่ยไปพล่อยๆ เพียงต้องการให้เขายุติความคิดที่จะห้ามปรามหรือตั้งคำถามแก่เธอมากกว่าจะดึงเขาเข้ามาร่วมแผนการชำระแค้นชายหญิงสองคนเดินเคียงคู่ตามเส้นทางถนนริมฟุตบาท รอบบริเวณมีผู้คนหลากหลายเดินสวนกันไปมาริมทางเดินมีพระสงฆ์ออกบิณฑบาตรับข้าวสารอาหารสำเร็จรูป ถัดไปอีกระยะมีร้านขายของทั้งแบบตั้งโต๊ะ และท้ายรถกะบะ มีของหลากหลายราวกับตลาดขนาดย่อม ซึ่งสภาพแวดล้อมช่วงเช้าดูจอแจผิดกับเวลากลางคืนสิ้นเชิง ฟา..ให้ผมมารับส่งคุณแบบนี้ทุกวันได้ไหม จนกว่าผมจะเลิกทำงานที่ร้านนั้น นี่คือสิ่งที่ฉันไม่เข้าใจนายต้องการอะไรจากฉันงั้นเหรอแอล นัยน์ตาสีน้ำตาลภายใต้ความคมเข้มเลื่อนมองวงหน้าหวานมีหลายสิ่งอยากเอ่ยบอกให้เธอรับรู้แต่เพียงอย่างเดียวที่เขาสามารถระบายออกมาได้โดยไม่มีลังเล ผมเป็นห่วงคุณ ฟานิ่งชะงักกับประโยคที่ได้ยินน้ำเสียงแผ่วเบาของแอลฟังดูจริงจังเขาต้องการทำให้เธอรู้สึกดีเพียงเพราะอยากให้เธอเลิกล้มความตั้งใจใช่ไหมจิตใจเริ่มไหวเอนแปลกๆ แค่คำพูดไม่กี่คำทำให้หญิงสาวผู้มาดมั่นใจอ่อนยวบราวกับคนกำลังจะป่วยเป็นโรคหัวใจทว่าเธอคงละทิ้งความตั้งใจไม่ได้เด็ดขาด นายอย่าเข้าใกล้ฉันมากไปกว่านี้จะดีกว่านะแอลฉันขอร้อง ฝีเท้าเร่งเดินออกห่างชายหนุ่มด้านข้างพยายามตัดความหวั่นไหวในอกทิ้งให้สิ้นระยะทางอีกเพียงไม่กี่ก้าวก็จะถึงสถานที่ทำงาน แต่ฟาต้องหยุดเดินกะทันหันเมื่อมีใครบางคนยืนขวางทางเอาไว้ดวงตาสีนิลคู่สวยจ้องสบกับหญิงสาวที่ยืนเผชิญหน้า ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ ฟาชำเลืองมองแอลที่เดินมาหยุดยืนด้านข้างรอดูอาการของเขาซึ่งไม่อยากให้เธอเข้าใกล้ผู้ชายเฉยชาคนนี้แต่สิ่งที่ฟาคิดกลับผิดคาด แอลไม่ได้เอ่ยเสียงพูดจาสักคำเดินหนีจากวงสนทนาต่างหากคือสิ่งที่แอลเลือกปฏิบัติ ฟามองตามหลังเพื่อนร่วมงานซึ่งเดินออกห่างเรื่อยๆคล้ายเปิดทางให้เธอกับเขาได้เจรจาตกลงกับเรื่องราวที่น่าจะเป็นปัญหาคาราคาซัง มีอะไรก็ว่ามาฉันจะรีบไปทำงาน เธอคิดจะเล่นเกมกับฉันไปถึงเมื่อไหร่ ประโยคดึงดูดความสนใจให้ฟาเบนสายตาหันมามองเขาอย่างจริงจังวันนี้มันเป็นวันอะไรทุกคนที่เดินเข้าหาเธอต่างทำท่าจริงจังกันมากมาย เมื่อไหร่ที่นายหลงรักฉันเมื่อนั้นเรื่องบ้าบอนี้จะยุติทันที น่าสนุกนะ..แต่ฉันว่าเธอเลิกล้มความตั้งใจดีกว่า เพราะฉันไม่มีวันหลงรักเธอ น้ำเสียงราบเรียบเน้นคำชัดเจนทำให้ฟาเหยียดยิ้มส่งความท้าทายดูเธอจะมั่นใจเสียเหลือเกินว่าอีกไม่นานผู้ชายคนนี้ต้องยอมทุกอย่างและเธอจะทำทุกทางเพื่อให้เขาพ่ายแพ้สมความตั้งใจ อย่าแพ้ฉันแล้วกันนายรันติมา ร่างบางเบี่ยงหลบชายหนุ่มและเดินจากไปปล่อยให้รันพ่นลมหายใจทิ้ง คงต้องปวดหัวและเหนื่อยใจกับความร้ายกาจของหญิงสาวเอาแต่ใจคนหนึ่งที่กำลังเริ่มต้นทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะในสิ่งที่เกิดจากความผิดพลาด To be continued.. อ่านจบก็แวะเวียนมาหาพี่มาโซที่บล็อคอีกแล้ว อิอิ
โดย: lovereason วันที่: 4 พฤษภาคม 2556 เวลา:21:24:51 น.
โดย: มาโซคิส วันที่: 4 พฤษภาคม 2556 เวลา:23:03:35 น.
กลัวจะไปหลงรักเค้าก่อนนะสิ๊ยัยฟา
โดย: sakeena IP: 124.121.209.40 วันที่: 6 พฤษภาคม 2556 เวลา:12:19:21 น.
โดย: เพื่อนปราจีน วันที่: 6 พฤษภาคม 2556 เวลา:14:33:23 น.
|
มาโซคิส
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?] เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล Blood A_Blood Type Series เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
Link |