พฤษภาคม 2556

 
 
 
1
2
3
5
6
8
9
10
12
13
15
16
17
19
20
21
23
24
26
27
29
30
31
 
 
All Blog
สัมผัสมนตรา.. Chapter 4.. ผู้ชายของฉัน



Chapter 4

ผู้ชายของฉัน

‘ฟาอยากลืมอยากลืมเรื่องราวทั้งหมด’

‘ช่วยทำให้ฟาลืมทุกอย่างได้ไหม’

“ฟา.. ฟาเป็นไงบ้าง”

ในสภาวะกึ่งหลับกึ่งฝัน เสียงเรียกชื่อแผ่วเบาทำให้เริ่มมีสติขึ้นมา มือกำเกร็งคิ้วเรียวได้รูปขมวดผูกปม รู้สึกเย็นวาบเป็นระยะบนผิวหน้าและลำคอบางจังหวะได้กลิ่นฉุนแปลกๆ ผ่านเข้าจมูก เมื่อสัมผัสรับรู้ตอบสนองมากขึ้น มือเริ่มปัดป่ายทุกสิ่งที่วนเวียนโดยรอบเปลือกตาปรือเปิดพร้อมดึงตัวเองลุกขึ้นนั่ง ฟาหันมองรอบกายเห็นหลายคนรายล้อมพลางส่งยิ้มให้มือท้าวโซฟาเลื่อนขาลงพื้นจัดท่านั่งให้ตนเองด้วยอาการมึนงงเล็กน้อย เธอได้แต่ตั้งคำถามในใจ‘เราเป็นอะไรไป’

“เป็นไงบ้างน้องสาวหายดีหรือยัง”

บุคคลแปลกหน้าทักทายอย่างผู้มีอัธยาศัยดีแม้ลักษณะจะดูน่ากลัวด้วยรูปร่างใหญ่โต แต่รอยยิ้มกลับทำให้รู้สึกเป็นมิตรอย่างชัดเจนฟาระบายยิ้มตอบกลับพร้อมพยักหน้าเบาๆ สายตาเหลือบเห็นขันใส่น้ำ ผ้าขนหนูเปียกชื้นพร้อมยาดมหลอดเล็ก ทุกอย่างวางเรียงรายเบื้องหน้า เกิดย้อนความคิดกลับไปก่อนการแข่งขันจะเริ่มต้นใบหน้าคมคายฉายแววมุ่งมั่นตั้งใจ เป็นสิ่งสุดท้ายที่เธอเห็นก่อนรถแข่งจะทะยานออกตัวระยะเวลาแข่งขันแม้เพียงไม่นานแต่กลับเลวร้ายสิ้นดีสำหรับผู้หญิงมีปมในใจถึงฟาพยายามควบคุมความหวาดกลัวเอาไว้ แต่จิตใจและร่างกายกับทรยศความตั้งใจ ปล่อยให้ตัวเองหมดสติสร้างความอับอายขายหน้า

“ดีขึ้นหรือยัง”

เสียงแอลฉุดฟาออกจากความคิดทั้งหลายสีหน้าแฝงความห่วงใยดึงดูดให้หันมอง คงเพราะแอลที่ช่วยพาเธอกลับมาอยู่ในสถานที่รับรองและดูแลจนฟื้นคืนสติอีกครั้ง

“อืม..ดีขึ้นแล้ว ขอบคุณทุกคนมากค่ะ”

“ไอ้รันมันขับรถโหดมากเลยหรือไงถึงขนาดเป็นลมเข่าอ่อนแบบนี้”

เสียงหัวเราะขำขันทำวงหน้าหวานร้อนผะผ่าวรอยยิ้มเจื่อนปรากฏ รู้สึกเสียหน้าอย่างแรง ฟาไม่คิดโกรธเคืองใครต่อใครที่พากันหัวเราะเยาะเย้ยมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เธอคาดโทษ

“จะไปไหนฟา คุณหายดีแล้วหรือไง”

“ฉันจะไปหาเพื่อนนาย”

ข้อมือเล็กถูกคว้าไว้และต้องรีบปล่อยกะทันหันเมื่อเจ้าของแขนตวัดสายตาคุกรุ่นบ่งบอกชัดเจน น้ำกำลังเชี่ยวอย่าริเอาเรือขวางทางแอลรู้สึกเสียววาบตรงหน้าแข้งเพราะยังหลงเหลือร่องรอยความเจ็บปวด ไม่อยากโดนเตะกระแทกอีกเป็นหนที่สอง

“คุณพิศวาสไอ้รันมันขนาดนั้นเลยเหรอฟานี่คุณเพิ่งจะฟื้นตัวนะ”

“นายจะคิดอะไรมันก็เรื่องของนายแต่ขอบอกไว้ตรงนี้ ฉันเกลียดเพื่อนนายเข้ากระดูกดำ”

“คุณแน่ใจเหรอฟา..ผมจะบอกอะไรให้นะ.. คนที่เขาเกลียดกันคงไม่ดิ้นรนเข้าหากันขนาดนี้หรอก เอาล่ะ..ไม่ว่าคุณมีเหตุผลอะไรผมจะไม่วุ่นวาย แต่วันนี้ถือว่าผมขอร้อง.. คุณกลับไปพักผ่อนก่อนดีกว่าไหมสีหน้ายังดูซีดเซียวอยู่เลย”

มือกำแน่นริมฝีปากเม้มหนักเป็นเส้นตรง สะกดอารมณ์ขุ่นเคืองเอาไว้ภายใน ฟาชั่งใจคิดระหว่างเตือนตนเองให้ระงับโทสะไม่จำเป็นสักนิดกับการอธิบายเหตุผลให้ใครต่อใครเข้าใจ ถึงอย่างไรก็ไม่หวังความสงสารเห็นใจอยู่แล้วหรือต่อให้มีเสียงห้ามปรามคงไม่อาจดึงรั้งการกระทำของเธอได้ฟาสะบัดหน้ามุ่งเดินออกจากอาคารพักรับรองโดยไม่ใส่ใจว่าใครจะมองหรือก้าวตามออกมาอย่างห่วงใย

ดึกดื่นค่อนคืนผู้คนรอบสนามแข่งดูบางตาผิดกับช่วงหัวค่ำลิบลับส่วนใหญ่โดยเฉพาะหญิงสาวจะยืนรวมตัว เป็นกลุ่มในหลายจุดตามขวัญใจหนุ่มหล่อของพวกเธอแรงดึงดูดทำให้ฟาตรงดิ่งยังคนตัวสูงซึ่งโดดเด่นท่ามกลางหญิงแท้และสาวเทียมพวกหล่อนทั้งหลายคงบรรจงแต่งกายด้วยเสื้อผ้าเนื้อดีเน้นเผยเนินอก ชุดรัดติ้วเอวคอดโชว์ขาอ่อนขาวเนียน เบียดเสียดแทบจะแฝงกายหนุ่มหล่อที่ยืนขนาบข้าง ฟากวาดสายตามองหาสาวผมบ๊อบที่มักอยู่ข้างกายรันแทบจะทุกเวลาทว่าตอนนี้กลับไร้เงา ปล่อยให้เหล่าแฟนคลับทั้งหลายครอบครองผู้ชายมาดนิ่ง และเปลี่ยนสีหน้าเป็นเฉยชาทันทีเมื่อเห็นฟาผ่านสายตา

“ฟาคุณจะทำอะไร..”

แอลส่งเสียงขัดจังหวะการก้าวเดินทำให้ฟาชะงักฝีเท้าพลางเหวี่ยงสายตามองยังด้านหลัง จำเป็นด้วยหรือต้องหลุดเสียงพูดจาบอกกล่าวการกระทำให้เขาเข้าใจในเมื่ออีกไม่กี่นาทีข้างหน้าแอลจะได้รับรู้ในสิ่งที่ต้องการคำตอบ ฟาไม่เสียเวลาเสวนาเดินแหวกกองทัพสาวสวยเหล่านั้นเข้าเผชิญหน้านายรันของเธอทันที

“ฉันมาทวงสิทธิ์ที่ควรจะได้รับตามข้อตกลง”

“...” ไร้เสียงตอบรับจากบุคคลที่เธอต้องการเจรจา มีเพียงคำซุบซิบดังขึ้นจากวงล้อมรอบกายหลากหลายข้อกล่าวหา ทั้งไร้ยางอาย ตามตื้อคนดัง ไม่เจียมตัว ใฝ่สูง สารพัดคำต่อว่าสรรหามากรอกเข้าโสตประสาท สำหรับฟาแล้ว ไม่ว่าจะหญิงแท้หรือสาวเทียมที่รายล้อมเป็นเพียงตัวประกอบและเธอเองก็ไม่เคยใส่ใจผู้หญิงผมบ๊อบซึ่งนั่งหลบมุมอยู่ด้านหลังเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ฟาอยากให้รับรู้เรื่องราวนี้

“ตั้งแต่นี้ไปผู้ชายคนนี้เป็นของฉัน”

รอบบริเวณส่งเสียงฮือฮาจิกสายตาไม่พอใจอย่างหนัก บางคนเต้นเร่าแทบจะกรีดร้องเสียให้ได้แต่ยังสร้างภาพและเก็บอาการเอาไว้ ทุกการกระทำของเหล่ากองทัพสาวสวยกลับส่งผลให้ฟารู้สึกถูกอกถูกใจอย่างมาก

“และนายต้องส่งฉันกลับบ้านเดี๋ยวนี้”

ท่าทางท้าทายสบมองแววตาสีนิลเบื้องหน้าพยายามจับกระแสความรู้สึก แต่ไม่อาจรับรู้เลยว่าเขาคิดอะไรอยู่ ฟาชำเลืองมองทางเป้าหมายพลางเหยียดยิ้มเมื่อเห็นใบหน้าซีดขาวออกอาการตกตะลึงไม่น้อย ความสะใจวิ่งพล่านในความรู้สึกเริ่มต้นแล้วกับการชำระแค้นที่ฝังลึกในใจ

ข้อมือถูกยึดและดึงให้ฟาก้าวตามอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าเธอก่อศึก เปิดสงครามทำลายตัวเองเป็นที่เรียบร้อย ฟาขืนแรงต่อต้าน ทั้งที่แสร้งแสยะยิ้มให้กองทัพแฟนคลับทั้งหลายซึ่งยืนมองหน้ากันเลิกลั่กคล้ายปรับตัวไม่ทันกับเหตุการณ์เมื่อครู่

“ปล่อยฉันสิ!!”

แขนสะบัดหนีการจับกุมเมื่อพ้นระยะสายตาของบรรดาแฟนคลับเหล่านั้นทว่าไม่เป็นผลใด เนื่องจากคนตัวสูงที่ดึงข้อมือฟาไว้กลับกระชับแรงขึ้นอีก และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเธอฟาตั้งสมาธิร่ายเวทย์ ทำทุกอย่างที่พอนึกออกเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากฝ่ามือซึ่งกักขังข้อแขนเอาไว้แต่ทุกอย่างยังคงนิ่งสนิท ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นกับผู้ชายป่าเถื่อนคนนี้ฟารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เหตุใดมนตราที่มีไม่อาจทำร้ายนายรันได้เลยแม้แต่สะกิด

กุญแจรถถูกกดรีโมทส่งสัญญาณปลดล็อคก่อนเจ้าของจะเดินถึงที่หมาย ประตูฝั่งตรงข้ามคนขับถูกเปิดพร้อมดันร่างบอบบางเข้านั่งประจำที่ส่วนรันเองก็เดินอ้อมหน้ารถขึ้นนั่งประจำตำแหน่งเช่นกัน

“พอใจหรือยัง..”

ประโยคราบเรียบถามส่งโดยไม่หวังคำตอบเมื่อทั้งสองอยู่ในรถเรียบร้อยแล้วฟาบีบนวดข้อแขนคลายความรู้สึกชา เหยียดหางตามองคนด้านข้างซึ่งไม่สนใจเธอสักนิด ยิ่งทำให้หงุดหงิดทวีคูณฟาพยายามตั้งสมาธิร่ายมนตร์อีกครั้งระหว่างรถยนต์ทะยานออกตัวแต่ทุกอย่างยังคงปกติเช่นเคย ไม่เข้าใจเสียเลย เหตุใดมนตราจึงไม่สะเทือนถึงผิวกายของเขาฟาลอบมองรันอย่างหวาดระแวง เกิดเป็นคำถามในใจ ‘นายมันตัวบ้าอะไรมนตราของฉันถึงทำอะไรไม่ได้’ จบประโยคความคิด สัมผัสรับรู้ก่อตัวเมื่อรถยนต์ที่นั่งอยู่เพิ่มความเร็วมากขึ้นฟาเกิดฉุกคิดสิ่งที่ตัวเองลืมไปเสียสนิท เพราะฝีมือของเขาคนนี้ทำให้เธอหมดแรงเข่าอ่อนถึงกับเป็นลมล้มพับมาแล้วเมื่อชั่วโมงที่ผ่านมาไม่สมควรอย่างยิ่งหากคิดจะเอาชนะจนลืมตัว

“เธอคงติดใจฝีมือการขับรถของฉันสินะ”

ไม่มีเสียงใดตอบกลับนอกจากสายตาหลุกหลิกส่อแววกังวล เจ็บใจนักที่ตกเป็นลูกไก่ในกำมือ เวลานี้คงต้องหยุดความอวดดีไว้ชั่วคราวฟายอมสงบปากสงบคำเพื่อความปลอดภัยของตนเอง หากหลุดปากอวดดีออกไปเกิดความเร็วรถพุ่งพรวดขึ้นมาอีกครั้งเธอคงหัวใจวายสิ้นชีพก่อนจะถึงที่พักอาศัย

ตลอดเส้นทางความเร็วรถอยู่ในระดับคงที่ทำให้ฟาลอบระบายลมหายใจคลายความตึงเครียดลงได้บ้าง ถนนโล่งว่างไร้สิ่งกั้นขวาง มีเพียงเลนทางทอดยาวเป็นสายไกลสุดตาผู้ชายคนนี้มีดีอย่างไร น้องสาวของเธอถึงหลงรักหัวปักหัวปรำชั่ววินาทีภาพความอ่อนโยนของรอยยิ้มละมุนและสายตาห่วงใยที่รันหยิบยื่นให้สาวผมบ๊อบปรากฏชัดเจนในความจำทำให้ฟาพอคาดคะเนออก มารยาหลายล้านเล่มเกวียนของผู้ชายคงมีไม่น้อยไปกว่าผู้หญิงเท่าไหร่น้องสาวของเธอจึงหลงติดกับดักที่เขาหว่านเสน่ห์ให้ตกหลุมพราง ด้วยท่าทางเย็นชามาดนิ่งแต่แฝงไว้ด้วยความอบอุ่นอ่อนโยนหากหญิงสาวคนใดถลำตัวเข้าใกล้ คงหลงใหลจนโง่หัวไม่ขึ้น

เครื่องมือสื่อสารดังเตือนให้รับสายฟาขยับกายหยิบโทรศัพท์มือถือซึ่งพอจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าคว้าติดมือออกมาจากอาคารพักรับรองหน้าจอสว่างแว้บเป็นระยะ ปรากฏเบอร์โทรปริศนาไม่คุ้นตา เกิดลังเลจะรับสายดีหรือไม่และความสับสนถือเป็นอันสิ้นสุด เมื่อคนด้านข้างปรายสายตามองมา ส่งผลให้การตัดสินใจของเธอง่ายขึ้น

“ฮัลโหล..”

เสียงจากปลายสายทำให้ฟาประหลาดใจอย่างมากหากจำไม่ผิดเขาคือบุคคลที่เธอหลงลืมไปชั่วขณะ และแท้จริงแล้วเขาต่างหากสมควรเป็นฝ่ายนำพาเธอกลับบ้านอย่างสวัสดิภาพ

“นายรู้เบอร์ฉันได้ไง”

คำถามส่งกลับทันทีเมื่อฟามั่นใจว่าใครโทรเข้ามาปลายสายหาเหตุผลอธิบายราวกับแก้ต่างให้ตัวเอง ระหว่างเขาอุ้มพาเธอเข้าที่พักรับรองโทรศัพท์มือถือตกจากกระเป๋ากางเกง ด้วยความหวังดีแอลจึงเก็บมันและถือโอกาสบันทึกเลขหมายเอาไว้เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้ติดต่อหากันสะดวกขึ้นเฉกเช่นเวลานี้ เขาสามารถโทรติดตามความคืบหน้าว่าฟาเป็นอย่างไรบ้าง

“ทำไมฉันต้องเอาโทรศัพท์ให้เพื่อนนายด้วยล่ะแอลแล้วอีกอย่างนายโทรหาเพื่อนนายโดยตรงก็ได้นะ ไม่ต้องโทรเข้าเครื่องฉัน”

ปลายสายอธิบายเพิ่มเติมอีกพักใหญ่เป็นเพราะฟาแผลงฤทธิ์ทำให้รันเร่งรีบออกจากสถานที่โดยไม่ได้พกโทรศัพท์ติดตัวมาด้วยทำให้เขาเลือกที่จะต่อสายถึงเธอ แอลใช้เวลาไกล่เกลี่ยอยู่นานกว่าฟาจะยอมเข้าใจและลดทิฐิยื่นเครื่องมือสื่อสารของเธอให้ชายหนุ่มด้านข้าง

“เพื่อนนายจะคุยด้วย”

รันละสายตาจากถนนเบื้องหน้ามองเธอด้านข้างก่อนปล่อยมือจากพวงมาลัยรับโทรศัพท์ไปแนบไว้ข้างใบหู การสื่อสารระหว่างเพื่อนสนิทเท่าที่ฟาสังเกตเห็นมีเพียงแอลเสียมากกว่าเป็นฝ่ายพูดจา เพราะชายหนุ่มด้านข้างเอ่ยเพียงคำเดียวสั้นๆว่า ‘อืม’ ก่อนจะส่งโทรศัพท์มือถือคืนเจ้าของ ฟาไม่ใส่ใจว่าเขาทั้งสองจะเจรจากันด้วยเรื่องอะไรและไม่อยากรับรู้หรือยุ่งเกี่ยวด้วยซ้ำไป

เครื่องมือสื่อสารถูกเก็บลงกระเป๋าเสื้อฟาขยับกายพิงพนักเบาะ กอดอกสร้างความอบอุ่นเมื่อรู้สึกเย็นเยียบตามผิวกาย ภายในรถเงียบกริบไร้ใครพูดจามีเพียงเสียงเพลงแผ่วเบาลดความอึดอัดกดดัน ฟาหันสายตามองนอกกระจกรถด้านข้าง ในใจกลับนึกถึงมนตราที่เคยมีหรือเวลานี้พลังพิเศษเหล่านั้นเสื่อมลง จึงไม่ส่งผลใดกับผู้ชายคนนี้ ฟาทำการร่ายเวทย์ทดสอบพลังพิเศษของตนเองอีกครั้ง

ประกายสว่างจากฟากฟ้าแว้บลงมาเป็นสายและส่งเสียงครืนตามติดเกิดความปั่นป่วนราวกับกำลังจะเกิดพายุโหมกระหน่ำมนตรายังอยู่และรู้สึกถึงพลังที่เพิ่มมากขึ้นอีกเท่าตัว เพียงไม่นานสภาพบนท้องฟ้าก็กลับมาสงบอีกครั้งเมื่อฟาหยุดการร่ายมนตร์

ฟากอดตัวเองแน่นพลางถอนหายใจปัดเป่าความเหนื่อยล้าและย้อนคิดอีกครั้งเหตุใดมนตราของเธอจึงไม่สามารถทำอะไรผู้ชายคนนี้ได้เลยทั้งที่เธอพยายามร่ายมนตร์ถึงสองครั้งสองคราฟาลอบมองใบหน้าคมคายแต่ต้องหันหลบรวดเร็ว แสร้งมองออกนอกกระจกรถตามเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อเห็นรันเคลื่อนไหวคล้ายจะหันมาทางเธอ

“ใส่ซะ”

ไออุ่นจากเสื้อคลุมหนากระทบบนตักปิดคลุมลำตัวไว้นิดหน่อย ดึงดูดให้ฟามองที่เสื้อตัวนั้นก่อนหันหาเจ้าของมัน เขาแค่หวังดีหรือแกล้งหว่านล้อมหลอกล่อ เพื่อให้หลงติดกับดักความเป็นสุภาพบุรุษมาดนิ่งคือสิ่งที่ฟาพยายามค้นหาเหตุผลเพื่อป้องกันตัวเอง ราวกับสร้างกำแพงไม่ยอมใจอ่อนง่ายๆ

“เอาของนายคืนไปเถอะอากาศร้อนจะตาย”

“แน่ใจว่าร้อน...ก็เห็นอยู่ว่านั่งตัวสั่น หวังว่าเธอคงไม่แข็งตายในรถฉันหรอกนะ”

“แค่จะเหยียบขึ้นมายังคิดแล้วคิดอีกอย่าสำคัญตัวเองผิด คิดว่าฉันจะยอมตายกลายเป็นผีเฝ้ารถให้นาย”

“หึ..ก็ดี”

รันเหยียดหัวเราะในลำคอมองกระจกส่องหลังดูลาดเลาก่อนเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วขึ้นอีกหน่อยฟารีบคว้าเสื้อคลุมขึ้นห่มทับร่างกาย ข่มความรู้สึกหวาดระแวงเอาไว้เผลอลืมตัวแสดงความอวดดีออกไปจนได้ ทำให้คิดถึงแอลขึ้นมาจับใจ หากเธอยอมกลับบ้านพร้อมเขาแต่แรกคงไม่ต้องนั่งหวั่นไหวกับการเดาใจคนขับอยู่แบบนี้

ฟานั่งนิ่งแสร้งหลับตามาตลอดทางจนถึงหน้าที่พักอาศัยไม่ใช่เพราะรู้สึกง่วงหรือเพลียแต่อย่างใด แค่คิดว่ายอมสงบปากสงบคำ ปิดกั้นความรู้สึกรับรู้เอาไว้ยังดีกว่าต้องเผชิญความเร็วที่พุ่งทะยานราวกับเขาเป็นผู้ครองถนนแต่เพียงผู้เดียวหรือคิดอีกแง่เขาคงอยากส่งเธอให้ถึงที่หมายโดยไว เพื่อจะได้กลับไปหาบุคคลสำคัญตามที่ฟาคาดการณ์เอาไว้

เสื้อคลุมถูกดึงออกจากร่างกายจับรวบเรียบร้อยพร้อมวางลงบนเบาะข้างลำตัวฟาขยับจัดแต่งเสื้อผ้าที่ดูยับยู่ยี่ให้กลับมาเรียบร้อย พลางฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ตั้งแต่ขึ้นนั่งในรถคันนี้เขาและเธอพูดจากันแทบนับคำได้ ในทุกประโยคไม่มีสักคำที่เขาจะถามไถ่ถึงสถานที่ตั้งของบ้านหลังนี้ฟาหยุดความคิดกลางอากาศหันหารันที่มองเธออยู่เช่นกัน

“นายรู้จักที่นี่ได้ไง”ฟาส่งคำถามและรอคอยคำตอบอยู่ชั่วขณะ

“แอล..”

ชื่อของบุคคลซึ่งไขข้อข้องใจจนหายเป็นปลิดทิ้งการสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อครู่ แอลคงขอสายเพื่อบอกที่อยู่ให้เขารับรู้ ฟาคลายความสงสัยลงจากวงหน้าหวานพลางพยักหน้าและเบี่ยงกายเปิดประตูรถ

“ขอบคุณที่พาฉันมาส่ง”

สิ้นสุดประโยคพูดจาฟาก้าวยืนบนพื้นถนน หันมองยังคนขับทำให้สายตาสองคู่สบกัน เพียงชั่ววินาทีจิตใจของเธอเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะมือผลักประตูปิดและหันหลังกลับ เดินดิ่งเข้าบ้านทันทีไม่รอคอยให้รถยนต์ที่มาส่งขับเคลื่อนออกตัวความสับสนแทรกซึมจิตใจ แววตาสีนิลคู่นั้นแฝงไว้ด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว จนเธอรู้สึกว่าทนเห็นไม่ได้ไม่เข้าใจตัวเองเหตุใดจึงต้องรู้สึกเช่นนั้น

เสียงครางหงิงส่งร้องพร้อมกล่องกระดาษถูกขูดข่วนเป็นระยะปลุกให้ฟารู้สึกตัวตื่นตอนรุ่งเช้าระหว่างดวงตะวันค่อยๆเลื่อนขึ้นจากขอบฟ้าทอประกายแสงแดดอ่อน เมื่อคืนหลังจากกลับเข้าบ้าน ฟาสำรวจดูลูกหมาบาดเจ็บอยู่พักใหญ่เห็นว่ามันหลับสนิทไม่ตื่นขึ้นมากวนกลางดึก เธอจึงประคองลังกระดาษที่อยู่อาศัยของมันขึ้นมาไว้ข้างเตียงนอนเฝ้ามองมันจนหลับถึงเช้า ฟาเหยียดแขนขาบิดกายไปมาก่อนขยับลุกขึ้นนั่ง จ้องมองยังลังกระดาษพร้อมแย้มยิ้มส่งให้สิ่งมีชีวิตร่วมโลก

“ว่าไงเจ้าถ้วยฟูตื่นก่อนฉันอีกนะแก”

สองเท้าพาร่างกายเดินเข้าหาเจ้าหมาน้อยอุ้มมันขึ้นสำรวจขาแข้งน้อยๆ ที่ถูกพันเอาไว้ ร่องรอยผ้าก๊อซถูกกัดจนเว้าแหว่ง คงถึงเวลาทำแผลให้ใหม่เพื่อความสวยงามฟาดึงผ้าขาดรุ่ยออกจากขาน้อยๆ ของเจ้าถ้วยฟู และนำตัวมันวางบนพื้นห้องรอดูอาการบาดเจ็บจากการเดินเจ้าหมาน้อยพยุงตัวเดินทั้งที่ขายังกะเผลก หางกระดิกและหมุนตัวเดินหาฟา มันเลียนิ้วมือของเธอราวกับขออาหารเช้า

“หิวหรือไงเจ้าถ้วยฟูให้ฉันอาบน้ำก่อนนะ แล้วจะพาแกไปกินนมกับขนมที่ร้าน อดทนหน่อยได้ไหม”

ฟาอุ้มหมาน้อยเก็บไว้ในลังกระดาษตามเดิมก่อนเดินทำภารกิจส่วนตัวเพื่อเตรียมออกไปปฏิบัติงานตามปกติประจำวัน

ทุกวันกับการเดินทางฟาจะมีรถจักรยานยนต์คู่ใจนำพาไปยังสถานที่ทำงานแต่ก็บ่อยครั้งที่เพื่อนรุ่นน้องยืมรถใช้สอยทำให้เธอต้องเดินทางด้วยสองเท้า และวันนี้แตกต่างไปจากทุกครั้งตรงมีเจ้าถ้วยฟูเป็นเพื่อนร่วมทางประตูบ้านถูกสั่งล็อคด้วยพลังพิเศษเฉกเช่นทุกวัน สาวผมยาวสลวยรวบผมทรงหางม้าตรวจตรารอบที่พักอาศัยก่อนนำลังกระดาษโอบอุ้มขึ้นอกถึงแม้ขาของเจ้าถ้วยฟูจะยังไม่หายเป็นปกติแต่ดูคล้ายอารมณ์ของมันจะเบิกบานกว่าเมื่อวานนี้ฟานำมือลูบไล้ขนปุยนุ่มอย่างเอ็นดู

“ไง..เดินไม่ดูทางอีกแล้วนะ”

เพื่อนร่วมงานส่งยิ้มทักทายพร้อมเดินเข้าใกล้และหยิบลังกระดาษไปถือไว้แทนการปรากฏตัวของแอลไม่ได้สร้างความประหลาดใจแก่ฟา ในเมื่อเขารู้จักบ้านของเธอแล้วหากมองในแง่ดีเธอกำลังมีเพื่อนร่วมทางเดินเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งชีวิต และมันคงแย่ลงทันทีถ้าเขาคิดเซ้าซี้เธอแต่เช้า

“ผมไม่เข้าใจทำไมคุณถึงอยากคบกับรันขนาดนั้น”

“นายไม่จำเป็นต้องรู้”

“แต่ผมอยากรู้และเราสัญญากันไว้แล้วนะฟา หากผมทำให้คุณคบกับรันได้ คุณจะบอกผมทุกเรื่อง”

“นายกำลังห่วงว่าฉันจะไปพรากความรักจากเพื่อนสาวของนายเหรอแอล”

“มันไม่เกี่ยวกับซัน..แต่เพราะผมไม่อยากให้คุณเข้าใกล้รันอีก”

ฟาหันมองชายหนุ่มที่เดินขนาบข้างไม่เข้าใจความหมายของประโยคเมื่อครู่เขามีเหตุผลใดถึงไม่อยากให้เธอเข้าใกล้บุคคลที่เอ่ยถึงแต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ฟานึกออก เหตุผลคงมีอย่างเดียว นั่นเพราะแอลเป็นห่วงเป็นใยเพื่อนพ้องของเขาเท่านั้นและเรื่องราวต่างๆ คงไม่ยุติง่ายๆ หากฟายังคิดสร้างความร้าวฉานให้ทั้งสองคู่รักแตกแยก

“เราอย่าคุยเรื่องนี้ดีกว่าสิ่งที่ฉันตั้งใจคงไม่มีใครหยุดได้ หากนายยังคิดจะอยู่ใกล้ฉันต่อไปหยุดซะถ้าจะห้ามในสิ่งที่ฉันต้องการทำ แต่เปลี่ยนมาช่วยเหลือให้มันบรรลุเป้าหมายไวๆจะดีกว่า”

ฟารู้ดีคำพูดของเธอเพียงเพื่อผลประโยชน์แก่ตนเองและแอลคงไม่หลงผิดคิดเข้าข้างเธอทำร้ายเพื่อนของตัวเองอย่างแน่นอน ฟาเอ่ยไปพล่อยๆ เพียงต้องการให้เขายุติความคิดที่จะห้ามปรามหรือตั้งคำถามแก่เธอมากกว่าจะดึงเขาเข้ามาร่วมแผนการชำระแค้นชายหญิงสองคนเดินเคียงคู่ตามเส้นทางถนนริมฟุตบาท รอบบริเวณมีผู้คนหลากหลายเดินสวนกันไปมาริมทางเดินมีพระสงฆ์ออกบิณฑบาตรับข้าวสารอาหารสำเร็จรูป ถัดไปอีกระยะมีร้านขายของทั้งแบบตั้งโต๊ะ และท้ายรถกะบะ มีของหลากหลายราวกับตลาดขนาดย่อม ซึ่งสภาพแวดล้อมช่วงเช้าดูจอแจผิดกับเวลากลางคืนสิ้นเชิง

“ฟา..ให้ผมมารับส่งคุณแบบนี้ทุกวันได้ไหม จนกว่าผมจะเลิกทำงานที่ร้านนั้น”

“นี่คือสิ่งที่ฉันไม่เข้าใจนายต้องการอะไรจากฉันงั้นเหรอแอล”

นัยน์ตาสีน้ำตาลภายใต้ความคมเข้มเลื่อนมองวงหน้าหวานมีหลายสิ่งอยากเอ่ยบอกให้เธอรับรู้แต่เพียงอย่างเดียวที่เขาสามารถระบายออกมาได้โดยไม่มีลังเล

“ผมเป็นห่วงคุณ”

ฟานิ่งชะงักกับประโยคที่ได้ยินน้ำเสียงแผ่วเบาของแอลฟังดูจริงจังเขาต้องการทำให้เธอรู้สึกดีเพียงเพราะอยากให้เธอเลิกล้มความตั้งใจใช่ไหมจิตใจเริ่มไหวเอนแปลกๆ แค่คำพูดไม่กี่คำทำให้หญิงสาวผู้มาดมั่นใจอ่อนยวบราวกับคนกำลังจะป่วยเป็นโรคหัวใจทว่าเธอคงละทิ้งความตั้งใจไม่ได้เด็ดขาด

“นายอย่าเข้าใกล้ฉันมากไปกว่านี้จะดีกว่านะแอลฉันขอร้อง”

ฝีเท้าเร่งเดินออกห่างชายหนุ่มด้านข้างพยายามตัดความหวั่นไหวในอกทิ้งให้สิ้นระยะทางอีกเพียงไม่กี่ก้าวก็จะถึงสถานที่ทำงาน แต่ฟาต้องหยุดเดินกะทันหันเมื่อมีใครบางคนยืนขวางทางเอาไว้ดวงตาสีนิลคู่สวยจ้องสบกับหญิงสาวที่ยืนเผชิญหน้า

“ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ”

ฟาชำเลืองมองแอลที่เดินมาหยุดยืนด้านข้างรอดูอาการของเขาซึ่งไม่อยากให้เธอเข้าใกล้ผู้ชายเฉยชาคนนี้แต่สิ่งที่ฟาคิดกลับผิดคาด แอลไม่ได้เอ่ยเสียงพูดจาสักคำเดินหนีจากวงสนทนาต่างหากคือสิ่งที่แอลเลือกปฏิบัติ ฟามองตามหลังเพื่อนร่วมงานซึ่งเดินออกห่างเรื่อยๆคล้ายเปิดทางให้เธอกับเขาได้เจรจาตกลงกับเรื่องราวที่น่าจะเป็นปัญหาคาราคาซัง

“มีอะไรก็ว่ามาฉันจะรีบไปทำงาน”

“เธอคิดจะเล่นเกมกับฉันไปถึงเมื่อไหร่”

ประโยคดึงดูดความสนใจให้ฟาเบนสายตาหันมามองเขาอย่างจริงจังวันนี้มันเป็นวันอะไรทุกคนที่เดินเข้าหาเธอต่างทำท่าจริงจังกันมากมาย

“เมื่อไหร่ที่นายหลงรักฉันเมื่อนั้นเรื่องบ้าบอนี้จะยุติทันที”

“น่าสนุกนะ..แต่ฉันว่าเธอเลิกล้มความตั้งใจดีกว่า เพราะฉันไม่มีวันหลงรักเธอ”

น้ำเสียงราบเรียบเน้นคำชัดเจนทำให้ฟาเหยียดยิ้มส่งความท้าทายดูเธอจะมั่นใจเสียเหลือเกินว่าอีกไม่นานผู้ชายคนนี้ต้องยอมทุกอย่างและเธอจะทำทุกทางเพื่อให้เขาพ่ายแพ้สมความตั้งใจ

“อย่าแพ้ฉันแล้วกันนายรันติมา”

ร่างบางเบี่ยงหลบชายหนุ่มและเดินจากไปปล่อยให้รันพ่นลมหายใจทิ้ง คงต้องปวดหัวและเหนื่อยใจกับความร้ายกาจของหญิงสาวเอาแต่ใจคนหนึ่งที่กำลังเริ่มต้นทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะในสิ่งที่เกิดจากความผิดพลาด



To be continued..




Create Date : 04 พฤษภาคม 2556
Last Update : 4 พฤษภาคม 2556 20:36:08 น.
Counter : 552 Pageviews.

5 comments
  
อ่านจบก็แวะเวียนมาหาพี่มาโซที่บล็อคอีกแล้ว อิอิ

โดย: lovereason วันที่: 4 พฤษภาคม 2556 เวลา:21:24:51 น.
  
โดย: มาโซคิส วันที่: 4 พฤษภาคม 2556 เวลา:23:03:35 น.
  


มาติดตามต่อนะค่ะ มีความสุขมากๆ ในวันหยุดค่ะ
โดย: Pikake วันที่: 6 พฤษภาคม 2556 เวลา:11:39:31 น.
  
กลัวจะไปหลงรักเค้าก่อนนะสิ๊ยัยฟา
โดย: sakeena IP: 124.121.209.40 วันที่: 6 พฤษภาคม 2556 เวลา:12:19:21 น.
  
สวัสดีวันหยุดชดเชยครับ มีความสุขมากๆ นะครับ














ชุดว่ายน้ำวันพีช
โดย: เพื่อนปราจีน วันที่: 6 พฤษภาคม 2556 เวลา:14:33:23 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มาโซคิส
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]



เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล

Blood A_Blood Type Series
เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม

ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
เ ว ล า คิ ด ถึ ง ใ ค ร บ า ง ค น ม า ก ๆ อ ย า ก ดึ ง เ ค้ า อ อ ก ม า จ า ก โ ล ก แ ห่ ง ค ว า ม ฝั น แ ล้ ว ก อ ด ซ ะ !! ใ ห้ ห า ย คิ ด ถึ ง





หากวันใด อ่อนแอ ท้อแท้ ผิดหวัง ให้ลองย้อนนึกถึงวันที่เคยตะเกียกตะกาย . .



ถ้าคนๆ หนึ่ง มีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้เรายิ้มออกมาได้โดยไม่ตั้งใจ.. มานก็ไม่แปลกเลยที่เขาสามารถทำให้เราน้ำตาไหลได้โดยไม่รู้ตัว..

Online Now




New Comments